หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
..... โรคประหลาด !!!!
กระทู้คำถาม
ชีววิทยา
สุขภาพกาย
โรคประหลาด! ร่างกายผลิต "แอลกอฮอล์" ได้เอง
อาการป่วยเป็นโรคประหลาด "ออโต-บริวเวอรี่ ซินโดรม" โดยที่ร่างกายสามารถผลิตแอลกอฮอล์ขึ้นเองในระบบย่อยอาหารดังกล่าวนี้ ได้รับการเปิดเผยจากนายโจเซฟ มารูแซค ทนายความชาวอเมริกันที่รับเป็นทนายจำเลยให้กับผู้ต้องหาคดีขับรถระหว่างมึนเมารายหนึ่งซึ่งนายมารูแซคขอปกปิดชื่อด้วยเหตุผลทางการแพทย์ ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา จับกุมเมื่อต้นเดือนตุลาคมปี 2014
มารูแซคเปิดเผยว่า ตามบันทึกของเจ้าหน้าที่ ขณะที่จับกุมและตั้งข้อหานั้น ผู้ต้องหาที่เป็นครูวัย 35 ปีรายนี้อยู่ในสภาพตาแดงก่ำ เสียงพูดจาอ้อแอ้ และไม่ผ่านการทดสอบพฤติกรรมเบื้องต้นหลายอย่าง ทำให้ต้องตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในเลือด พบว่าผู้ต้องหารายนี้มีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดสูงกว่าระดับที่กฎหมายอนุญาตให้ขับรถได้ถึง 4 เท่าตัว
อย่างไรก็ตาม เมื่อสอบถามจากเจ้าตัว ผู้ต้องหารายนี้ยืนกรานเด็ดเดี่ยวกับทนายมารูแซคว่าไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 6 ชั่วโมงก่อนหน้าที่จะถูกจับกุมเกิน 3 แก้ว ซึ่งไม่น่าจะทำให้ในร่างกายของตนมีระดับแอลกอฮอล์เกินกว่า 0.08 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ที่กฎหมายกำหนดให้แต่อย่างใด
เป็นเหตุให้มารูแซคตัดสินใจติดต่อขอความช่วยเหลือและความกระจ่างในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากบาร์บารา คอร์เดลล์ นักวิชาการจากแพโนลา คอลเลจ รัฐเท็กซัส สหรัฐ เพราะทราบมาว่า คอร์เดลล์เคยตีพิมพ์ผลงานทางวิชาการเกี่ยวกับโรคประหลาดชนิดหนึ่ง ซึ่งส่งผลให้ร่างกายผลิตแอลกอฮอล์ได้เอง
คอร์เดลล์แนะนำให้มารูแซคนำตัวลูกความของตนไปพบนพ.อนุป แคโนเดีย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคประหลาดชนิดนี้ในเมืองโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ สหรัฐ เพื่อให้วินิจฉัยทางการแพทย์อย่างเป็นทางการ และพบว่า ผู้ต้องหาป่วยเป็นโรคหายากที่เรียกว่า "ออโต-บริวเวอรี่ ซินโดรม" จริง โดยผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้จะมียีสต์อยู่ในระบบลำไส้สูงมากเป็นพิเศษ ยีสต์พวกนี้เองที่ทำหน้าที่หมักอาหารซึ่งมีคาร์โบไฮเดรตอยู่สูงแล้วเปลี่ยนให้เป็นแอลกอฮอล์ภายในร่างกายนั่นเอง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
โรคนี้พบเป็นครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นในทศวรรษ 1970 ตอนนั้นรู้จักกันในชื่อโรค "กัท เฟอร์เมนเทชั่น ซินโดรม"
นพ.อนุปให้แนวทางรักษาด้วยวิธีการจำกัดอาหาร ให้รับประทานเฉพาะอาหารที่มีแป้งน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการหมักที่จะก่อให้เกิดแอลกอฮอล์ในลำไส้ขึ้นมาอีก ทำให้ผู้ต้องหารายนี้กลับมาขับรถได้อีกครั้ง
หลังจากได้รับทราบผลวินิจฉัย มารูแซคไม่เพียงนำเสนองานวิจัยหลายชิ้นที่ยืนยันเกี่ยวกับโรคนี้ พร้อมกับว่าจ้างพยาบาล 2 คนกับผู้ช่วยแพทย์อีกคนให้ทำหน้าที่ติดตามตรวจสอบพฤติกรรมของลูกความของตนตลอดระยะเวลา 1 วัน เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ต้องหารายนี้ไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และกำหนดให้ผู้ช่วยแพทย์ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์จากตัวอย่างเลือดในทันทีด้วย ในที่สุดก็พบว่าระดับแอลกอฮอล์ในเลือดของผู้ต้องหารายนี้พุ่งขึ้นถึง 0.36 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ดื่มแม้แต่แก้วเดียว
หลังจากนำเสนอหลักฐานต่างๆ ต่อศาล ศาลเมืองฮัมบูร์กพิพากษายกฟ้องในข้อหาเมาแล้วขับ และปล่อยตัวผู้ต้องหาเป็นอิสระเมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา
โจนาธาน เทอร์เลย์ ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน ระบุว่า คดีนี้ดูเผินๆ ตอนแรกเหมือนกับจะเป็นความพยายามเพื่อไม่ให้ถูกลงโทษฐานเมาแล้วขับ แต่เอาเข้าจริงแล้วเป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก ที่สำคัญก็คือ ศาลพิจารณาแล้วว่าจำเลยไม่รู้ตัวว่าเป็นโรคประหลาดนี้ จึงตัดสินให้พ้นผิด
แต่ถ้ารู้ตัวว่าเป็นโรคนี้แล้วยังขับรถ ก็ถือว่ากระทำผิดฐานเมาแล้วขับอยู่ดี
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1452509201
เด็กสาวชาวอังกฤษวัย15ปีผูกคอดับ แม้อ้างลูกเครียด-ป่วยเป็นโรค"แพ้Wi-Fi".
เว็บไซต์ข่าว'เทเลกราฟ'รายงานว่า เกิดเหตุ'เจนนี่ ไฟร์'วัยรุ่นสาววัย 15 ปีในเมืองแชดลิงตัน ในอังกฤษ ได้คิดสั้นแขวนคอฆ่าตัวตายที่ต้นไม้ข้างบ้าน แม่เผยว่าสาเหตุมาจากลูกสาวเครียดที่เป็นโรคไวต่อการสัมผัสสนามแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic Hypersensitivity: EHS) ทำให้แพ้สัญญาณWi-Fi....
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผู้เป็นแม่กล่าวว่า ลูกสาวของเธอเริ่มแสดงอาการของEHSมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2012 ทุกครั้งที่เข้าใกล้จุดแพร่สัญญาณWi-Fi เจนนี่จะมีอาการเหนื่อยแรงและปวดศีรษะ ดังนั้นเธอจึงถอดเครื่องกระจายสัญญาณWi-Fiออกจากบ้าน
อย่างไรก็ตาม เจนนี่ยังคงต้องประสบอาการป่วยทุกครั้งที่ไปโรงเรียนซึ่งมีการติดตั้งเครื่องกระจายสัญญาณWi-Fi "เจนนี่ต้องถูกกักบริเวณบ่อยครั้งมาก ไม่ใช่เพราะเธอก่อกวนชั้นเรียนหรือมีพฤติกรรมแย่ แต่มักจะเดินออกจากห้องเรียนหาพื้นที่ที่เธอสามารถทำงานได้
ครั้งหนึ่งฉันเคยนำข้อมูลเรื่องอาการป่วยจากสัญญาณWi-Fiไปให้อาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนดู แต่เขากลับยืนยันว่าสัญญาณWi-Fiนั้นไม่ทำอันตรายใดๆ"....
....... อ่านต่อได้ที่ :
http://www.posttoday.com/world/news/402717
โรคแพ้น้ำอสุจิ อาการน่ากลัว สาว ๆ ควรระวัง !
ปกติแล้วเรามักจะได้ยินแต่โรคแพ้สารเคมีหรือแพ้อากาศปกติกันใช่ไหมล่ะ แต่ต่อไปนี้สาว ๆ ควรระวังไว้ให้ดี เพราะตอนนี้มีสาว ๆ หลายคนเป็นโรคแปลกประหลาดที่คุณคาดไม่ถึง อย่างโรคแพ้น้ำอสุจิ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ผู้หญิงในสหรัฐอเมริกาเป็นกันมากถึง 20,000-40,000 คนเลยทีเดียว ฟังดูแล้วอาจจะชวนให้สงสัยใช่ไหมล่ะว่าเป็นยังไง ถ้าอยากรู้แล้วละก็ไปติดตามเรื่องราวของโรคประหลาดนี้กันเลยดีกว่าค่ะ
โรคแพ้อสุจิทำให้การมีเพศสัมพันธ์อาจกลายเป็นฝันร้ายของผู้หญิงได้ เพราะโรคนี้จะทำให้ผิวหนังเหมือนโดนเผาไหม้และมีอาการบวมแดง ซึ่งเรื่องราวนี้ก็เกิดขึ้นกับคู่รัก คลาร่า และ เจฟฟ์ (นามสมมติ) ที่ทางฝ่ายผู้หญิงเป็นโรคประหลาดแพ้น้ำอสุจิของฝ่ายชาย โดยทั้งคู่ได้ออกมาบอกเล่าเรื่องผ่านรายการ ABC's Good Morning America เพื่อให้ผู้คนรับรู้ถึงความทรมานของคนเป็นโรคนี้
ทั้งนี้คลาร่ากล่าว่า ครั้งแรกที่เธอมีเพศสัมพันธ์กับสามี ก็เริ่มมีอาการแปลก ๆ เกิดขึ้น เธอรู้สึกเหมือนผิวหนังไหม้ บวมพอง และแดงไปหมด แต่ในตอนแรกเธอคิดว่าเธอเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เฉย ๆ โดยอาการบวมพองที่ผิวนั้นเป็นนานถึง 24 ชั่วโมงแล้วค่อย ๆ ยุบตัวลงและผิวหนังก็มีอาการแสบร้อนไปหมด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จนในที่สุดคลาร่า และ เจฟฟ์ ก็ได้เข้าพบกับ โจนาธาน เบิร์นสไตน์ (Jonathan Bernstein) ผู้เชี่ยวชาญด้านอาการแพ้และภูมิคุ้มกันจาก University of Cincinnati ซึ่งผู้เชี่ยวชาญรายนี้ก็บอกว่า การรักษานั้นต้องเก็บน้ำเชื้อของเจฟฟ์มาหาว่าโปรตีนตัวไหนในน้ำอสุจิที่ทำให้เกิดอาการแพ้ และก็
ฉีดภูมิคุ้มกันให้คลาร่า ซึ่งน้ำอสุจิจะถูกทำให้เจือจางและเก็บไว้ในหลอดฉีดยา 2 ชั่วโมงก่อนจะให้ทั้งคู่มีเพศสัมพันธ์กันภายใน 12 ชั่วโมง หลังจากได้รับการรักษาแล้ว คลาร่าบอกว่ามันได้ผล เพราะเธอมีอาการบวมน้อยลงเมื่อเทียบจากครั้งก่อน ๆ ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ทางเว็บไซต์ seminalplasmaallergy.org ก็มีหลายคนที่เคยมีประสบการณ์กับโรคนี้เข้ามาเล่าเรื่องของตัวเอง ว่าหลังจากมีเพศสัมพันธ์ได้ 1 ชั่วโมง ก็รู้สึกเหมือนเป็นลมพิษ เจ็บหน้าอก หายใจติด ๆ ขัด ๆ ท้องเสีย หรือบางรายก็หมดสติไปเลยก็มี ซึ่งส่วนใหญ่แล้วอาการพวกนี้เกิดจากการผิดปกติของผิวหนังและแพ้ลาเท็กซ์ของถุงยางอนามัย รวมไปถึงเคมีในน้ำอสุจิของผู้ชาย รวมทั้งสารหล่อลื่นและผลิตภัณฑ์ที่ใช้ต่าง ๆ ด้วย
http://health.kapook.com/view111253.html
ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
ความรู้สามัญที่คนเป็นเก๊าต์บางคนไม่รู้ ... คนเป็นเก๊าต์ห้ามกินอะไรบ้าง
สรุปจาก Ai ผู้ป่วยโรคเกาต์ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีพิวรีนสูง ซึ่งจะเพิ่มระดับกรดยูริกในเลือดและกระตุ้นอาการปวด. อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ เครื่องในสัตว์ (ตับ, ไต, หัวใจ, สมอง), อาหารทะเลบาง
norapob
แชร์รูทีนผิวใสฉบับคนผิวแพ้ง่าย ใช้อะไรบ้าง? และอยากรู้ว่าทุกคนมีไอเทมอะไรที่ “ขาดไม่ได้” บ้างคะ
สวัสดีค่ะสาว ๆ ห้องโต๊ะเครื่องแป้งทุกคน 💕 วันนี้อยากมาแชร์ รูทีนดูแลผิวหน้า ของเราเองค่ะ เผื่อว่าใครที่มีปัญหา ผิวแพ้ง่าย เป็นสิวง่าย มีรอยแดงรอยดำ เหมือนกัน จะได้ลองแลกเปลี่ยนกัน ก่อนหน้านี้เราเป็นค
สมาชิกหมายเลข 7089400
“ยาดมสมุนไพร” ทำเชื้อราขึ้นปอด จริงหรือ?
"อาจารย์เจษฎา ตอบข้อสงสัย “ยาดมสมุนไพร” ทำเชื้อราขึ้นปอด จริงหรือ? พร้อมแนะวิธีใช้ยาดมให้ถูกต้องและปลอดภัย ทำอย่างไร เช็กได้ที่นี่"ช่วงก่อนหน้านี้โลกโซเชียลได้มีการแชร์ข้อความเตื
Magpies
🍤🍣🍘🍿เครียดแล้วก็กิน กินแล้วก็เครียด ทำไมชีวิตมันน่าเศร้าขนาดนี้ 🧃🧋🍹🍺🍶🍰
เม่าบนยอดดอย
สายบุฟเฟต์ต้องรู้! ผลไม้ 1 ชนิด ช่วยย่อยโปรตีน บำรุงไต ไทยมีให้กินตลอดปี
ผลไม้ 1 ชนิด สรรพคุณบำรุงไต เอนไซม์พิเศษช่วยย่อยโปรตีน สายบุฟเฟต์ควรกินหลังมื้อหนัก ไทยมีขายตลอดทั้งปีหากกำลังมองหาผลไม้ที่ช่วยบำรุงไต และปลอดภัยสำหรับผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง หนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดคื
สมาชิกหมายเลข 5462727
พุงป่อง ‘ท้องอืด’ ไม่ใช่อิ่ม กินเยอะ อาจเพราะ ‘ภูมิแพ้แฝง’
พุงป่อง มีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นท้อง ไม่สบายตัว อาจไม่ใช่เพราะอิ่มจากอาหารที่ทาน เกิดขึ้นได้จาก “ภูมิแพ้แฝง”ด้วย อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นท้อง ไม่สบายตัวหลังรับประทานอาหาร
parn 256
ถ้าอายุ 50 ปลายๆ ถึง 60 ไปสมัครสอบ Igcse มันจะดูประหลาดหารือเปล่า
ตอนเด็กๆ ผมป่วยเป็นโรคบางโรคเกี่ยวกับสมองและจิตเวช ทำให้เรียนอะไรยากๆ ไม่เข้าใจ เลยเรียนวิทย์ไม่ได้ต้องเกรียนพาณิชย์ แต่พอโตขึ้นผมอยากลองเรียน ก็เลยจ้างติวเตอร์มาสอนฟิสิกส์ เลขนิดหน่อย กับเคมีนิดหน่อย
สมาชิกหมายเลข 4308269
“กินยาไปเพื่ออะไร?”
“กินยาไปเพื่ออะไร?”หลายคนเคยถามคำถามนี้กับตัวเองกินยาเพื่อหายป่วยเหรอ?กินเพื่อบรรเทาอาการ?หรือจริง ๆ แล้ว… กินเพื่อยืดเวลาที่เหลืออยู่?ความจริงก็คือยาทำหน้าที่ของมัน… ส่วนเรา
สมาชิกหมายเลข 5438734
มีตุ่มใสๆขึ้นตามร่างกาย (มีรูป)
สวัสดีค่ะคือเรามีตุ่มใสๆขึ้นที่นิ้วประมาณสัปดาห์ที่แล้วค่ะตอนแรกก็คันๆนะคะหลังๆไม่ค่อยคันค่ะกับสัปดาห์นี้อยู่ๆพวกตุ่มใสที่เป็นที่นิ้วอะค่ะมันก็เริ่มมาขึ้นที่นิ้วเท้าฝ่าเท้าต้นแขนล่าสุดก็ที่ต้นขาค่ะ ปล
สมาชิกหมายเลข 8583034
อ่านใจแบบไม่รุกล้ำร่างกาย! นักวิจัยใช้ AI แปลง “คลื่นสมอง” เป็น “ข้อความ”
คณะนักวิจัยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีซิดนีย์ (University of Technology Sydney : UTS) ประเทศออสเตรเลีย ได้สร้างระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) แบบไม่รุกล้ำเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งถอดรหัสคลื่นสมองเป็นข้อความโดยใช้หมวกตรวจค
หนุ่มใหญ่ที่ใครใครว่าแก่
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ชีววิทยา
สุขภาพกาย
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
..... โรคประหลาด !!!!
อาการป่วยเป็นโรคประหลาด "ออโต-บริวเวอรี่ ซินโดรม" โดยที่ร่างกายสามารถผลิตแอลกอฮอล์ขึ้นเองในระบบย่อยอาหารดังกล่าวนี้ ได้รับการเปิดเผยจากนายโจเซฟ มารูแซค ทนายความชาวอเมริกันที่รับเป็นทนายจำเลยให้กับผู้ต้องหาคดีขับรถระหว่างมึนเมารายหนึ่งซึ่งนายมารูแซคขอปกปิดชื่อด้วยเหตุผลทางการแพทย์ ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา จับกุมเมื่อต้นเดือนตุลาคมปี 2014
มารูแซคเปิดเผยว่า ตามบันทึกของเจ้าหน้าที่ ขณะที่จับกุมและตั้งข้อหานั้น ผู้ต้องหาที่เป็นครูวัย 35 ปีรายนี้อยู่ในสภาพตาแดงก่ำ เสียงพูดจาอ้อแอ้ และไม่ผ่านการทดสอบพฤติกรรมเบื้องต้นหลายอย่าง ทำให้ต้องตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในเลือด พบว่าผู้ต้องหารายนี้มีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดสูงกว่าระดับที่กฎหมายอนุญาตให้ขับรถได้ถึง 4 เท่าตัว
อย่างไรก็ตาม เมื่อสอบถามจากเจ้าตัว ผู้ต้องหารายนี้ยืนกรานเด็ดเดี่ยวกับทนายมารูแซคว่าไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 6 ชั่วโมงก่อนหน้าที่จะถูกจับกุมเกิน 3 แก้ว ซึ่งไม่น่าจะทำให้ในร่างกายของตนมีระดับแอลกอฮอล์เกินกว่า 0.08 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ที่กฎหมายกำหนดให้แต่อย่างใด
เป็นเหตุให้มารูแซคตัดสินใจติดต่อขอความช่วยเหลือและความกระจ่างในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากบาร์บารา คอร์เดลล์ นักวิชาการจากแพโนลา คอลเลจ รัฐเท็กซัส สหรัฐ เพราะทราบมาว่า คอร์เดลล์เคยตีพิมพ์ผลงานทางวิชาการเกี่ยวกับโรคประหลาดชนิดหนึ่ง ซึ่งส่งผลให้ร่างกายผลิตแอลกอฮอล์ได้เอง
คอร์เดลล์แนะนำให้มารูแซคนำตัวลูกความของตนไปพบนพ.อนุป แคโนเดีย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคประหลาดชนิดนี้ในเมืองโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ สหรัฐ เพื่อให้วินิจฉัยทางการแพทย์อย่างเป็นทางการ และพบว่า ผู้ต้องหาป่วยเป็นโรคหายากที่เรียกว่า "ออโต-บริวเวอรี่ ซินโดรม" จริง โดยผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้จะมียีสต์อยู่ในระบบลำไส้สูงมากเป็นพิเศษ ยีสต์พวกนี้เองที่ทำหน้าที่หมักอาหารซึ่งมีคาร์โบไฮเดรตอยู่สูงแล้วเปลี่ยนให้เป็นแอลกอฮอล์ภายในร่างกายนั่นเอง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เว็บไซต์ข่าว'เทเลกราฟ'รายงานว่า เกิดเหตุ'เจนนี่ ไฟร์'วัยรุ่นสาววัย 15 ปีในเมืองแชดลิงตัน ในอังกฤษ ได้คิดสั้นแขวนคอฆ่าตัวตายที่ต้นไม้ข้างบ้าน แม่เผยว่าสาเหตุมาจากลูกสาวเครียดที่เป็นโรคไวต่อการสัมผัสสนามแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic Hypersensitivity: EHS) ทำให้แพ้สัญญาณWi-Fi....
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปกติแล้วเรามักจะได้ยินแต่โรคแพ้สารเคมีหรือแพ้อากาศปกติกันใช่ไหมล่ะ แต่ต่อไปนี้สาว ๆ ควรระวังไว้ให้ดี เพราะตอนนี้มีสาว ๆ หลายคนเป็นโรคแปลกประหลาดที่คุณคาดไม่ถึง อย่างโรคแพ้น้ำอสุจิ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ผู้หญิงในสหรัฐอเมริกาเป็นกันมากถึง 20,000-40,000 คนเลยทีเดียว ฟังดูแล้วอาจจะชวนให้สงสัยใช่ไหมล่ะว่าเป็นยังไง ถ้าอยากรู้แล้วละก็ไปติดตามเรื่องราวของโรคประหลาดนี้กันเลยดีกว่าค่ะ
โรคแพ้อสุจิทำให้การมีเพศสัมพันธ์อาจกลายเป็นฝันร้ายของผู้หญิงได้ เพราะโรคนี้จะทำให้ผิวหนังเหมือนโดนเผาไหม้และมีอาการบวมแดง ซึ่งเรื่องราวนี้ก็เกิดขึ้นกับคู่รัก คลาร่า และ เจฟฟ์ (นามสมมติ) ที่ทางฝ่ายผู้หญิงเป็นโรคประหลาดแพ้น้ำอสุจิของฝ่ายชาย โดยทั้งคู่ได้ออกมาบอกเล่าเรื่องผ่านรายการ ABC's Good Morning America เพื่อให้ผู้คนรับรู้ถึงความทรมานของคนเป็นโรคนี้
ทั้งนี้คลาร่ากล่าว่า ครั้งแรกที่เธอมีเพศสัมพันธ์กับสามี ก็เริ่มมีอาการแปลก ๆ เกิดขึ้น เธอรู้สึกเหมือนผิวหนังไหม้ บวมพอง และแดงไปหมด แต่ในตอนแรกเธอคิดว่าเธอเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เฉย ๆ โดยอาการบวมพองที่ผิวนั้นเป็นนานถึง 24 ชั่วโมงแล้วค่อย ๆ ยุบตัวลงและผิวหนังก็มีอาการแสบร้อนไปหมด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้