สวัสดีค่ะ ขอแนะตัวก่อนว่า จขกท มาแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น และปลายเดือนนี้จะเดินทางกลับประเทศไทยอย่างถาวรแล้ว
เพื่อนญี่ปุ่นที่ไม่ได้เจอกันนานนางก็เลยชวนออกมากินข้าวเป็นมื้ออำลา T^T
และเมนูที่ได้ไปกินในครั้งนี้ก็คือ Gyu Katsu หรือเนื้อชุบแป้งทอดของร้าน Motomura เจ้าดังที่กำลังฮิตในญี่ปุ่นในขณะนี้
ร้าน Motomura มีสาขาให้เลือกไปมากมาย
สาขาที่มีในย่านดังๆที่คนไทยชอบไปก็จะมี Shinjuku, Shibuya, Tokyo Station สะดวกสาขาไหนไปสาขานั้นเลยค่ะ
ส่วนร้านที่เราไปในวันนี้ก็คือสาขา Shibuya เป็นสาขาที่มีคนญี่ปุ่นมารีวิวในเว็บ Tabelog (เว็บรีวิวอาหารของญี่ปุ่น) เยอะที่สุดกว่าสาขาอื่นด้วยค่ะ
เดินจากสถานี Shibuya แค่ 5-10 นาทีเท่านั้น
ลายแทงตามนี้เลยค่ะ
http://tabelog.com/tokyo/A1303/A130301/13153853/dtlmap/
ตอนแรกไม่รู้ว่าร้านอยู่ตรงไหน แต่พอไปดูตรงที่คนต่อแถวยาวๆเท่านั้นล่ะ ใช่เลย ร้านนี้แน่นอน

หน้าร้านหน้าตาเป็นอย่างนี้นะคะ ตัวร้านจริงๆจะอยู่ชั้นใต้ดินค่ะ
จริงๆในรูปคือคนที่รอคิวไปถึงบันไดหน้าร้านที่จะได้กินแล้วนะคะ
จากตรงที่เราถ่ายคือยังต่อแถวกันด้วยความอดทน ไม่ได้ถ่ายรูปแถวมาขอโทษด้วยค่ะ
พอยืนรอไปได้สักพัก พนักงานของร้านก็จะออกมาดูคิวลูกค้า
แล้วก็คำนวณให้เราว่ากว่าจะถึงคิวเรานั้นต้องรอประมาณกี่ชั่วโมงกี่นาทีก็ว่าไป
คนญี่ปุ่นบางคนรีบๆ ยอมแพ้ไปกินร้านอื่นก็มีเยอะค่ะ แถวสั้นลงเยอะเลย
แต่ถึงจะอย่างนั้นพนักงานก็บอกว่าของคุณต้องรอประมาณ 2 ชั่วโมงนะคะ
(เห็นคนญี่ปุ่นมารีวิวในเว็บบอกว่านางต้องรอ 3 ชั่วโมงกว่าจะได้กิน

)
ด้วยความที่เรากับเพื่อนตั้งใจมากินร้านนี้โดยเฉพาะ จะยอมแพ้ง่ายๆไม่ได้ ยืนเม้าท์เพลินๆกันไปยาวๆ
เมื่อแถวขยับไปข้างหน้าเรื่อยๆ จนจะได้ไปถึงบันไดทางเข้าร้าน พนักงานคนเดิมก็จะเอาเมนูมาให้เราสั่งค่ะ
มาดูหน้าตาเมนูและราคากัน

ลืมถ่ายรูปเมนูมา T^T ขออนุญาตก๊อบมาจากบล็อคคนญี่ปุ่นแล้วกันนะคะ
(credit :
http://mery.jp/81984)
ร้านนี้เค้าขายแค่เมนูเดียวต่างกันแค่ออปชั่นเสริมนิดๆหน่อยๆค่ะ
เบอร์ 1 คือเซ็ทเนื้อกับข้าวแบบธรรมดา (ในวงเล็บคือแบบเนื้อน้อยหน่อย)
เบอร 2 คือเซ็ทเหมือนข้างบน แต่เพิ่ม Tororo เป็นมันป่าญี่ปุ่นบดๆยืดๆ คนญี่ปุ่นเอามากินใส่ข้าว เนื้อสัมผัสแปลกๆดีค่ะ
เบอร์ 3 คือเมนูขอเพิ่มเนื้อ ไม่สามารถสั่งเดี๋ยวๆได้ค่ะ
ต่อมาเป็นเครื่องดื่ม
เบียร์สด 350 เยน
Kaku Highball (วิสกี้ญี่ปุ่น) 300 เยน
ตรงดอกจันคือ เราสามารถขอเค้าเติมข้าวได้ 1 ถ้วยโดยไม่เสียเงินเพิ่มค่ะ
(เหมาะกับคนที่กินข้าวจุมากเลยค่ะ จริงๆข้าวที่เค้าให้มาก็เยอะอยู่แล้ว แต่ผู้หญิงคนที่นั่งข้างๆขอเติมข้าว ทำเรากับเพื่อนอึ้งไปเลย)
ปล.ใครอยากสั่งข้าวเพิ่มบอกพ่อครัวว่า โกะฮังโนะโอคาวาริโอเนไกชิมัส ได้เลยค่า
หลังจากรอมา 2 ชั่วโมงในที่สุดก็ได้เข้ามานั่งในร้าน ระหว่างที่เราต่อแถวรออยู่พ่อครัวก็จะทำอาหารรอเราไว้แล้ว
พอเราเข้าไปนั่งปุ๊บ อาหารก็จะมาเสิร์ฟเลยค่ะ
หน้าตาก็เป็นเซ็ทกรุบกริบประมาณนี้เลย

แล้วคนเสิร์ฟเค้าก็จะอธิบายวิธีกินให้ฟัง ใครฟังญี่ปุ่นไม่ได้ไม่ต้องกลัวค่ะ เค้ามีใบอธิบายภาษาอังกฤษให้อยู่บนโต๊ะ
เซ็ทที่เราสั่งมาจะเป็นเซ็ทที่มี Tororo ด้วย ในหนึ่งเซ็ทก็จะประกอบด้วยพระเอกของเรา เนื้อชุบแป้งทอด สลัด ข้าว ซุปมิโสะ น้ำจิ้ม แล้วก็โทโรโระ
โดยน้ำจิ้มที่เสิร์ฟจะมีสองแบบ ดูตามรูปจะอยู่มุมขวาบน
แบบแรกซ้ายมือจะเป็นซีอิ๊วโชยุเค็มๆธรรมดา ส่วนด้านขวาจะเป็นน้ำจิ้มวาซาบิได้กินเผ็ดวาซาบินิดๆกำลังอร่อย(เราชอบแบบนี้มากกว่า)
หรือใครฮาร์ดคอร์จะจิ้มกับวาซาบิก้อนๆที่เค้าใส่มาในจานก็ได้ค่ะ
และต่อไปนี้คือความดีงามของเมนูนี้ สิ่งที่เราภูมิใจนำเสนอมากๆ

พี่เห็นเนื้อแดงๆข้างในนั้นมั้ย
เนื้อข้างในจะเป็นแบบแรร์ เนื้อแดงๆ น่ากินสุดๆ (เป็นคนแพ้ของดิบของสด เห็นแล้วต้องพุ่งใส่)

เอาไปอีกรูป ที่คือพยายามจัดอยู่หลายท่าให้มันได้เห็นเนื้อแดงๆแบบชัดๆ
มีปัญหาถ่ายมาได้แค่นี้ขอโทษด้วยจริงๆค่ะ ของจริงน่ากินมากกกกกกกก
หลังจากจัดจานไปหลายท่าจนเกรงใจเพื่อน เราก็มาเริ่มกินกันเลยยยยยยยย
คำแรกที่กินคือฟินมากกกกกกกกกกกกกกกกกก
ข้างนอกเป็นแป้งบ๊างบางทอดอย่างกรอบ ไม่มีอมน้ำมัน ส่วนเนื้อข้างในนุ่มละมุนสุดๆ ไม่เหนียวเลย
จะจิ้มน้ำจิ้มหรือไม่จิ้มก็อร่อยยยยยยยย
ขอบอกก่อนว่าก่อนมาญี่ปุ่นไม่เคยกินเนื้อวัวเลยค่ะ แล้วก็ไม่ใช่คนโปรเรื่องเนื้ออะไร
แต่สำหรับเรามันฟินมากกกกก เป็นเนื้อที่อร่อยนุ่ม ไม่เหนียว กินง่าย ไม่มีกลิ่นสาบของเนื้อเลย ไปเอาเลยสิบดาววววววววว
ปล.ตอนแรกที่ไปกินก็ไม่ได้ตั้งใจว่าจะเอามารีวิวเลยถ่ายรูปน้อยไปหน่อย
แต่พอมาลองเสิร์ชในเน็ตดูปรากฎว่ายังไม่เจอคนไทยรีวิวร้านนี้เลย
ก็เลยคิดว่าอยากให้คนไทยได้มาลิ้มลองเนื้ออร่อยๆ ฟินๆของญี่ปุ่นกันค่ะ
สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่จะเดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่นแถวๆชิบุย่า ชินจุกุ หรือใครผ่านสถานีโตเกียว ลองแวะมาทานดูนะคะ
รับรองไม่ผิดหวัง ฟินกันไปรัวๆ
ขอปิดท้ายด้วยรูปนี้ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
[Review] Gyu Katsu เนื้อชุบแป้งทอดกรอบนอกนุ่มใน ร้าน Motomuri สาขา Shibuya
เพื่อนญี่ปุ่นที่ไม่ได้เจอกันนานนางก็เลยชวนออกมากินข้าวเป็นมื้ออำลา T^T
และเมนูที่ได้ไปกินในครั้งนี้ก็คือ Gyu Katsu หรือเนื้อชุบแป้งทอดของร้าน Motomura เจ้าดังที่กำลังฮิตในญี่ปุ่นในขณะนี้
ร้าน Motomura มีสาขาให้เลือกไปมากมาย
สาขาที่มีในย่านดังๆที่คนไทยชอบไปก็จะมี Shinjuku, Shibuya, Tokyo Station สะดวกสาขาไหนไปสาขานั้นเลยค่ะ
ส่วนร้านที่เราไปในวันนี้ก็คือสาขา Shibuya เป็นสาขาที่มีคนญี่ปุ่นมารีวิวในเว็บ Tabelog (เว็บรีวิวอาหารของญี่ปุ่น) เยอะที่สุดกว่าสาขาอื่นด้วยค่ะ
เดินจากสถานี Shibuya แค่ 5-10 นาทีเท่านั้น
ลายแทงตามนี้เลยค่ะ
http://tabelog.com/tokyo/A1303/A130301/13153853/dtlmap/
ตอนแรกไม่รู้ว่าร้านอยู่ตรงไหน แต่พอไปดูตรงที่คนต่อแถวยาวๆเท่านั้นล่ะ ใช่เลย ร้านนี้แน่นอน
หน้าร้านหน้าตาเป็นอย่างนี้นะคะ ตัวร้านจริงๆจะอยู่ชั้นใต้ดินค่ะ
จริงๆในรูปคือคนที่รอคิวไปถึงบันไดหน้าร้านที่จะได้กินแล้วนะคะ
จากตรงที่เราถ่ายคือยังต่อแถวกันด้วยความอดทน ไม่ได้ถ่ายรูปแถวมาขอโทษด้วยค่ะ
พอยืนรอไปได้สักพัก พนักงานของร้านก็จะออกมาดูคิวลูกค้า
แล้วก็คำนวณให้เราว่ากว่าจะถึงคิวเรานั้นต้องรอประมาณกี่ชั่วโมงกี่นาทีก็ว่าไป
คนญี่ปุ่นบางคนรีบๆ ยอมแพ้ไปกินร้านอื่นก็มีเยอะค่ะ แถวสั้นลงเยอะเลย
แต่ถึงจะอย่างนั้นพนักงานก็บอกว่าของคุณต้องรอประมาณ 2 ชั่วโมงนะคะ
(เห็นคนญี่ปุ่นมารีวิวในเว็บบอกว่านางต้องรอ 3 ชั่วโมงกว่าจะได้กิน
ด้วยความที่เรากับเพื่อนตั้งใจมากินร้านนี้โดยเฉพาะ จะยอมแพ้ง่ายๆไม่ได้ ยืนเม้าท์เพลินๆกันไปยาวๆ
เมื่อแถวขยับไปข้างหน้าเรื่อยๆ จนจะได้ไปถึงบันไดทางเข้าร้าน พนักงานคนเดิมก็จะเอาเมนูมาให้เราสั่งค่ะ
มาดูหน้าตาเมนูและราคากัน
ลืมถ่ายรูปเมนูมา T^T ขออนุญาตก๊อบมาจากบล็อคคนญี่ปุ่นแล้วกันนะคะ
(credit : http://mery.jp/81984)
ร้านนี้เค้าขายแค่เมนูเดียวต่างกันแค่ออปชั่นเสริมนิดๆหน่อยๆค่ะ
เบอร์ 1 คือเซ็ทเนื้อกับข้าวแบบธรรมดา (ในวงเล็บคือแบบเนื้อน้อยหน่อย)
เบอร 2 คือเซ็ทเหมือนข้างบน แต่เพิ่ม Tororo เป็นมันป่าญี่ปุ่นบดๆยืดๆ คนญี่ปุ่นเอามากินใส่ข้าว เนื้อสัมผัสแปลกๆดีค่ะ
เบอร์ 3 คือเมนูขอเพิ่มเนื้อ ไม่สามารถสั่งเดี๋ยวๆได้ค่ะ
ต่อมาเป็นเครื่องดื่ม
เบียร์สด 350 เยน
Kaku Highball (วิสกี้ญี่ปุ่น) 300 เยน
ตรงดอกจันคือ เราสามารถขอเค้าเติมข้าวได้ 1 ถ้วยโดยไม่เสียเงินเพิ่มค่ะ
(เหมาะกับคนที่กินข้าวจุมากเลยค่ะ จริงๆข้าวที่เค้าให้มาก็เยอะอยู่แล้ว แต่ผู้หญิงคนที่นั่งข้างๆขอเติมข้าว ทำเรากับเพื่อนอึ้งไปเลย)
ปล.ใครอยากสั่งข้าวเพิ่มบอกพ่อครัวว่า โกะฮังโนะโอคาวาริโอเนไกชิมัส ได้เลยค่า
หลังจากรอมา 2 ชั่วโมงในที่สุดก็ได้เข้ามานั่งในร้าน ระหว่างที่เราต่อแถวรออยู่พ่อครัวก็จะทำอาหารรอเราไว้แล้ว
พอเราเข้าไปนั่งปุ๊บ อาหารก็จะมาเสิร์ฟเลยค่ะ
หน้าตาก็เป็นเซ็ทกรุบกริบประมาณนี้เลย
แล้วคนเสิร์ฟเค้าก็จะอธิบายวิธีกินให้ฟัง ใครฟังญี่ปุ่นไม่ได้ไม่ต้องกลัวค่ะ เค้ามีใบอธิบายภาษาอังกฤษให้อยู่บนโต๊ะ
เซ็ทที่เราสั่งมาจะเป็นเซ็ทที่มี Tororo ด้วย ในหนึ่งเซ็ทก็จะประกอบด้วยพระเอกของเรา เนื้อชุบแป้งทอด สลัด ข้าว ซุปมิโสะ น้ำจิ้ม แล้วก็โทโรโระ
โดยน้ำจิ้มที่เสิร์ฟจะมีสองแบบ ดูตามรูปจะอยู่มุมขวาบน
แบบแรกซ้ายมือจะเป็นซีอิ๊วโชยุเค็มๆธรรมดา ส่วนด้านขวาจะเป็นน้ำจิ้มวาซาบิได้กินเผ็ดวาซาบินิดๆกำลังอร่อย(เราชอบแบบนี้มากกว่า)
หรือใครฮาร์ดคอร์จะจิ้มกับวาซาบิก้อนๆที่เค้าใส่มาในจานก็ได้ค่ะ
และต่อไปนี้คือความดีงามของเมนูนี้ สิ่งที่เราภูมิใจนำเสนอมากๆ
พี่เห็นเนื้อแดงๆข้างในนั้นมั้ย
เนื้อข้างในจะเป็นแบบแรร์ เนื้อแดงๆ น่ากินสุดๆ (เป็นคนแพ้ของดิบของสด เห็นแล้วต้องพุ่งใส่)
เอาไปอีกรูป ที่คือพยายามจัดอยู่หลายท่าให้มันได้เห็นเนื้อแดงๆแบบชัดๆ
มีปัญหาถ่ายมาได้แค่นี้ขอโทษด้วยจริงๆค่ะ ของจริงน่ากินมากกกกกกกก
หลังจากจัดจานไปหลายท่าจนเกรงใจเพื่อน เราก็มาเริ่มกินกันเลยยยยยยยย
คำแรกที่กินคือฟินมากกกกกกกกกกกกกกกกกก
ข้างนอกเป็นแป้งบ๊างบางทอดอย่างกรอบ ไม่มีอมน้ำมัน ส่วนเนื้อข้างในนุ่มละมุนสุดๆ ไม่เหนียวเลย
จะจิ้มน้ำจิ้มหรือไม่จิ้มก็อร่อยยยยยยยย
ขอบอกก่อนว่าก่อนมาญี่ปุ่นไม่เคยกินเนื้อวัวเลยค่ะ แล้วก็ไม่ใช่คนโปรเรื่องเนื้ออะไร
แต่สำหรับเรามันฟินมากกกกก เป็นเนื้อที่อร่อยนุ่ม ไม่เหนียว กินง่าย ไม่มีกลิ่นสาบของเนื้อเลย ไปเอาเลยสิบดาววววววววว
ปล.ตอนแรกที่ไปกินก็ไม่ได้ตั้งใจว่าจะเอามารีวิวเลยถ่ายรูปน้อยไปหน่อย
แต่พอมาลองเสิร์ชในเน็ตดูปรากฎว่ายังไม่เจอคนไทยรีวิวร้านนี้เลย
ก็เลยคิดว่าอยากให้คนไทยได้มาลิ้มลองเนื้ออร่อยๆ ฟินๆของญี่ปุ่นกันค่ะ
สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่จะเดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่นแถวๆชิบุย่า ชินจุกุ หรือใครผ่านสถานีโตเกียว ลองแวะมาทานดูนะคะ
รับรองไม่ผิดหวัง ฟินกันไปรัวๆ
ขอปิดท้ายด้วยรูปนี้ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ