คำแนะนำจากนักเขียนมืออาชีพ - ปองวุฒิ (นักแปลก็คล้ายกัน)

จากเฟซบุกของ ปองวุฒิ รุจิระชาคร (๘ ม.ค. ๕๘ เวลา 12:24 น.)
ที่นักแปล Anurak Kitpaiboonthawee (อนุรักษ์ กิจไพบูลทวี) แชร์มาอีกที
. . . . . . . . . . . . . .

เวลามีคนถามถึงเคล็ดลับการเขียนต้นฉบับให้เสร็จ
ผม (ปองวุฒิ) มักแนะนำหลักการพื้นฐานแบบง่ายไปสองข้อ

1. เลือกเขียนเรื่องที่เรารู้ ชอบ
รู้สึกมีอารมณ์มีแรงบันดาลใจอยากถ่ายทอดออกมาอย่างรุนแรงที่สุด กระหายมันมากสุด
เพราะถ้าขาดความรู้สึกดังกล่าว มันก็ไปไม่ได้นาน
เช่น สมมุติคุณเลือกเขียนแนวเปลี่ยว เศร้า เหงา มูราคามิด้วยเหตุผลว่ามันน่าจะเก๋ดูฮิปดี
ผ่านไปสักพัก คุณก็อาจจะพบว่าอย่างอื่นฮิปกว่า ทันสมัยกว่า
ทำให้เบื่อขึ้นมาจนปล่อยทิ้งมันไป


ยกตัวอย่างเช่นผมเอง
ในงานบางชิ้นเช่นพวกงานประเภทไปประกวดชิงรางวัลได้อย่างเรื่องสั้นในหนังสือวัฏจักรไร้สำนึก
แม้ได้รางวัลเซเว่นบุ๊คส์อะวอร์ดมา หรือถูกส่งไปประกวดชิงซีไรต์เรื่องสั้นปี 2014
แต่ตอนเขียนแต่ละชิ้นผมทำไปด้วยมีแรงบันดาลใจ
เห็นสังคม เห็นชีวิตมีอะไรมาสะกิดใจแล้วอยากถ่ายทอดเรื่องราวออกไป
เราสนุกที่ได้เขียนได้เล่าไม่ต่างจากสเตตัสพูดคุยในเฟสบุ๊คนี่แหละ
หรืออย่าง Cassette ท่วงทำนองในรอยรัก ที่ไปประกวดเวทีนายอินทร์อะวอร์ด
ผมอยากเขียนบันทึกเกี่ยวกับยุคสมัยคาสเซ็ตต์กำลังจะหมดไป
ซึ่งทั้งข้อมูลและองค์ประกอบต่างๆ ที่จะเขียนผมสะสมมาเรื่อยตั้งแต่ปี 2002-2003 ด้วย
ซ้ำเรียกได้ว่ารวมมาเรื่อยๆ เป็นสิบปีกว่าจะเขียนต้นฉบับเต็มในปี 2013 ทีหลัง
เรียกได้ว่าเราต้องมีของ มีความกระหายไว้กับตัวก่อนแต่แรก

2. ความต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญ
ถ้ามีความกระหายจากข้อแรก ตอนลงมือเขียนถ้าโฟกัส หมกมุ่นจนสามารถนั่งเขียนได้นาน
เรียกได้ว่ารวดเดียวจบ มีสมาธิก็ดี
แต่ถ้าไม่มีเวลาขนาดนั้นหรือทำไม่ได้ ก็ใช้อีกวิธี
นั่นคือการเขียนทีละนิด เก็บเล็กผสมน้อย
ไม่ต่างจากออมเงิน วันละหน้าสองหน้า บวกกันไปเรื่อยเดียวก็จบเป็นเล่มเอง
ที่สำคัญคือห้ามหยุด ต้องไหลต่อเนื่องอย่าขาดตอน
เพราะจะส่งผลให้อารมณ์ขาดจนต่อติดยากขึ้น

นี่ก็เป็นข้อแนะนำพื้นฐานสองข้อสำหรับคนอยากเขียนงานให้จบครับ
หรือเอาไปปรับใช้กับอย่างอื่นในชีวิตก็คงได้มั้ง
แน่นอนว่าย่อมเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งเท่านั้น
เอาไว้วันหลังมีเวลาจะมาเล่าอีก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่