สวัสดี!!!เราชื่อกัลป์ เรามีแฟนชื่อหวาน(ใช่ๆตัวดำนั้นแหละ)ฮ่ะๆๆ เมื่อวานซืนเราพา"หวาน"ไปเที่ยวสงขลามาแหละ เพื่อเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวประเทศไทย(
https://www.youtube.com/watch?v=9vrhzcHBOOg) เราจึงมารีวิวสถานที่เที่ยวในสงขลาน่ะเออ
เราขี่เวสป้าคู่ใจมารับหวานที่บ้านประมาณ 10โมงเช้าแล้วก็นั้งกินข้าวเช้าด้วยกัน(ความจริงควรจะเป็นข้าวสายฮะๆๆๆ)แล้วออกเดินทางไปอย่างไร้จุดหมาย ขับออกมาเรื่อยๆหวานก็บ่นอยากกินไอติมโอ่ง(พึ่งกินข้าวไปหยกๆเนี้ย!!!!)ม่ะ!!ไปกินติมโอ่งของขึ้นชื่อเมืองสงขลากัน ไหนๆก็ไร้จุดหมายล่ะ(ด้านล่างของกระทู้มีแผนที่น่ะ)
เมื่อถึงที่หมายก็ไม่พูดพล่ามทำเพลงสั่งเกี้ยวทอดกะลูกชิ้นทอดเลย(เห้ย!!!ร้านไอติมน่ะเว้ยหวานฮ่ะๆๆ)หลังจากนั้นก็สั่งไอติมโอ่งมา ของเราเป็นรสลิ้นจี่รวมมิตรของหวานเป็นรสดั่งเดิมยกล้อ หลังจากกินกันจนหนำใจก็ออกเดินทางกันต่อ(ลูกชิ้นห้าไม้ เกี้ยวหนึ่งชุด ไอติมสองโอ่ง เบ็ดเสร็จ 100บาทถ้วน)
ไอติมอร่อยมาก อยู่แถวถนนนางงาม
หลังจากอิ่มหมีพีมันกันเสร็จแล้วก็ออกเดินทางไปยังสถานีต่อไป นั้นก็คือ...คุณลุงที่นั้งกินน้ำชาในกำแพงนั้นเองง!!!
แถบนี้เป็นย่านเมืองเก่าของสงขลา คลาสสิคมากขอบอกเดี๋ยววันหลังจะพาไปเยี่ยมชมอย่างเต็มรูปแบบ รับรองว่าน้ำลายหกโฮ๊ะๆๆๆ
Next station:เวสป้าคู่ใจก็พาเรากะป้าที่นั้งซ่อนท้ายมาด้วยไปยังเขาตังกวน เขาตังกวนเป็นเนินเขาสูงบนยอดเขาตังกวนเป็นที่ประดิษฐานเจดีย์พระธาตุคู่เมืองสงขลา ซึ่งทางขึ้นเขานั้นมีสองทางเลือกคือ หนึ่ง!!!ใช้ลิฟท์ขึ้นไป(ตื่นเต้นดีน่ะ) สอง!!!เดินขึ้นไป มีเหรอจะไม่เลือกทางลำบากว่ะฮ่ะๆๆๆว่าแล้วก็เดินขึ้นปายยยยยยย
ทางนี้เป็นเส้นทางชมธรรมชาติ(ตอนเที่ยงตรงเนี้ยน่ะ)เมื่อเดินขึ้นไปเรื่อยจะเจอกับวิหารแดง(เค้าบอกว่าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้สร้างเอาไว้)
เมื่อถึงตัววิหารจะเห็นวิวของเรือประมงที่แล่นออกจากท่าเรือ มีนกบินผ่านพร้อมกับแสงแดดอ่อนๆที่ส่องมากระทบโสตประสาทสัมผัสทั้ง 5 ฟินมาก
หลังจากหวานบ่นว่าร้อนไปหลายรอบก็เดินกันต่อไปยังบันไดที่เชื่อมต่อวิหารแดงกะเจดีย์ดีแล้วเย้
บันไดโบราณฝุดๆ
เมื่อก้าวผ่านขั้นสุดท้ายของบันไดมาก็จะพบกับตัวเจดีย์สูงๆ
กินน้ำกินท่าพักหายเหนื่อยเสร็จก็ไปถ่ายรูปกันต่อ ขอบอกว่าวิวนั้นทำเอาเกือบลืมหายใจเลยแหละซึ่งเราก็มีรูปที่ทำให้รู้ว่าสงขลาบ้านเราสวยงามขนาดไหน
ไม่เสียแรงที่ได้ขึ้นชื่อว่าเมื่อสองทะเลเลยจริงๆ
หลังจากปล่อยอารมณ์ไปกับท้องฟ้าและแสงแดดก็ไปฟินกันต่อกับทางลงที่เล่นเอาเหงื่อตกกับตามๆกัน ครั้นพอถึงพื้นดิน ณ เวลาบ่ายตรงก็ควบเวสป้ากันต่อไปยัง Next station:เกาะยอ เมื่อครั้งที่ยังไม่มีสะพานติณสูลานนท์(หรือสะพานป๋าเปรมนั้นเอง)ที่เชื่อมเกาะยอระหว่างฝั่งสงขลากับระโนด ผู้คนก็ต้องเดินทางด้วยแพขนานยนต์จากตัวเมืองสงขลาไปยังฝั่นระโนด ทำให้ไม่เพียงพอต่อการคมนาคมที่เพิ่มมากขึ้น จึงสร้างสะพานติณสูลานนท์ขึ้นมาเพื่อรองรับการคมานาคมในตอนนี้ ซึ่งในปัจจุบันแพขนานยนต์ก็ยังมีใช้อยู่และพวกเราก็ไม่พลาดที่จะพาเพื่อนข้ามแพไปด้วยกัน เพราะฉะนั้นLet's GO
ผู้โดยสารไม่เสียค่าใช้จ่าย มอเตอร์ไซ 3 บาท รถยนต์ 20 บาทถูกเหมือได้เปล่า แถมยังได้ชยชมวิวสวยๆด้วยน่ะเออ
เมื่อลงจากแพขนานยนต์ก็ขับเวสป้าคู่ใจไปยังจุดหมายในจุดหมายอีกทีซึ่งที่ที่เราจะไปนั้นเป็นวัดที่ตั้งอยู่บนภูเขาที่ตั้งอยู่บนเกาะยอ วัดแห่งนี้ชื่อว่า"วัดเขากุฏิ"ทางขึ้นนี้ชันมาก พูดได้ว่า45องศาก็ไม่น่าเกลียดอะไร(หวานกรี๊ดตลอดทาง)ถึงแม้จะชักมากแต่เวสป้าคู่ใจก็ไม่ทรยศ เมื่อถึงยอดเขาจะพบกับวัดที่ร่มรื่นอะไนเช่นนี้ พบกับเจย์ดีและวิวสวยๆ(รูปแรกของกระทู้นี้นั้นเอง)แถมที่นี้ลมดีและมีศาลาสบายๆให้นอนเอกเขนกกันอย่างสบายใจ
นี้ไงสะพานป๋าเปรม ตรงนี้เราเรียกสะพานสอง อีกฝั่งหนึ่งจะเป็นสะพานหนึ่งสวยมากกกกก
อิ่มหนำกับบรรยากาศแล้วก็ไปหาของกินให้อิ่มหนำพุงกันต่อ หวานแนะนำร้านส้มตำป้าเอียด(หวานบอกว่าอร่อยและถูก)เมื่อหวานพูดถึงกระนั้นแล้วก็ไปๆ ไปกินส้มตำกันเถอะที่รัก ฉันลงแล้วน่ะจับให้ดีๆเพราะมันชันมาก(ไม่มีโอกาสถ่ายรูปให้ดูเพราะกำลังตื่นเต้นไปกับการควบคุมรถยังไงให้ตั้งตรงฮ่ะๆๆ)
Next station:ร้านส้มตำป้าเอียด
นี้เป็นครั้งแรงที่เรามาแล้วได้กินเพราะสองครั้งที่แล้วมาวันอังคารซึ่งเป็นวันที่ร้านปิด(เซ็งหนักมาก)กะมาแล้วทางร้านบอกว่าขายหมดแล้ว(เซ็งหนักมากสอง) แต่ครั้งนี้เราจะไม่พลาด มาก่อนของใกล้จะหมดพอดี(ตอนนั้นไก่ย่างเกลี่ยงสต็อคเรียบร้อย)ด้วยความหิวจึงจัดไปตามลำดับดังนี้ ยำปลาดุกฟู น้ำตกหมูย่าง ส้มตำไข่เค็ม ต้มแซ่บรวมมิตรทะเล แล้วก็ข้าวเหนียวสองจาน สนนราคาที่ 230บาท ถูกและอร่อย
Next station:จุดชมวิวท้ายเกาะ ระหว่างทางก็เเวะนั้งพักที่โรงเรียนวัดท้ายยอก็ได้นั้งคุยกันถึงเด็กนักเรียนที่มาติวO-netกันวันเสาร์ เราเห็นเด็กแต่ละคนเรียนกันคร่ำเครียด นี้ละหนอเด็กไทย ว่าแล้วก็ขับรถไปยังจุดชมวิว ทันใดนั้น!!!มวลเมฆก็ได้ก่อตัวขึ้นมาบดบังท้องฟ้ายามเย็นเป็นที่เรียบร้อย แพลนที่วางไว้ว่าจะไปชมวิวจึงเป็นอันมลายหายสิ้น แต่ไม่เป็นไรเรายังมีรูปที่ถ่ายไว้นานแล้วมาให้ดูกัน
เราแต่งสีให้มันดูเข้มขึ้นน่ะ แต่ของจริงก็สวยไม่แพ้กัน(นายเเบบหน้าฟินมว๊ากกก)
ถึงเราจะพลาดวิวยามเย็นแต่เราก็ยังมีร้านBistro Cafe ที่บรรยากาศสุดยอดอยู่ สิบปากว่าก็ไม่เท่าตาเห็น ไปชมบรรยากาศกัน
ย้อนยุคกันสุดๆ
ได้เวลาอาหารแล้วครับคุณนายหวาน บราวนี่ ชาเขียว กะโซดาผลไม้ ราคาจำไม่ได้แว่ววว
ปิดท้ายกันด้วยแผนที่เที่ยวสงขลา
ถึงแม้มันจะเป็นการเที่ยวแค่วันเดียวแต่ก็ทำให้เราได้รับรู้ถึงรสชาติของชีวิตได้เลยน่ะ
ปล.ธรรมชาติไม่ได้อยู่ที่ความละเอียดของจอภาพน่ะ shutdownแล้วออกมาเที่ยวกันเถอะ
https://www.youtube.com/watch?v=CBFAPjHM1i4
เมื่อวานซืนเราพา"หวาน"ไปเที่ยวสงขลามาแหละ
สวัสดี!!!เราชื่อกัลป์ เรามีแฟนชื่อหวาน(ใช่ๆตัวดำนั้นแหละ)ฮ่ะๆๆ เมื่อวานซืนเราพา"หวาน"ไปเที่ยวสงขลามาแหละ เพื่อเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวประเทศไทย(https://www.youtube.com/watch?v=9vrhzcHBOOg) เราจึงมารีวิวสถานที่เที่ยวในสงขลาน่ะเออ
เราขี่เวสป้าคู่ใจมารับหวานที่บ้านประมาณ 10โมงเช้าแล้วก็นั้งกินข้าวเช้าด้วยกัน(ความจริงควรจะเป็นข้าวสายฮะๆๆๆ)แล้วออกเดินทางไปอย่างไร้จุดหมาย ขับออกมาเรื่อยๆหวานก็บ่นอยากกินไอติมโอ่ง(พึ่งกินข้าวไปหยกๆเนี้ย!!!!)ม่ะ!!ไปกินติมโอ่งของขึ้นชื่อเมืองสงขลากัน ไหนๆก็ไร้จุดหมายล่ะ(ด้านล่างของกระทู้มีแผนที่น่ะ)
เมื่อถึงที่หมายก็ไม่พูดพล่ามทำเพลงสั่งเกี้ยวทอดกะลูกชิ้นทอดเลย(เห้ย!!!ร้านไอติมน่ะเว้ยหวานฮ่ะๆๆ)หลังจากนั้นก็สั่งไอติมโอ่งมา ของเราเป็นรสลิ้นจี่รวมมิตรของหวานเป็นรสดั่งเดิมยกล้อ หลังจากกินกันจนหนำใจก็ออกเดินทางกันต่อ(ลูกชิ้นห้าไม้ เกี้ยวหนึ่งชุด ไอติมสองโอ่ง เบ็ดเสร็จ 100บาทถ้วน)
ไอติมอร่อยมาก อยู่แถวถนนนางงาม
หลังจากอิ่มหมีพีมันกันเสร็จแล้วก็ออกเดินทางไปยังสถานีต่อไป นั้นก็คือ...คุณลุงที่นั้งกินน้ำชาในกำแพงนั้นเองง!!!
แถบนี้เป็นย่านเมืองเก่าของสงขลา คลาสสิคมากขอบอกเดี๋ยววันหลังจะพาไปเยี่ยมชมอย่างเต็มรูปแบบ รับรองว่าน้ำลายหกโฮ๊ะๆๆๆ
Next station:เวสป้าคู่ใจก็พาเรากะป้าที่นั้งซ่อนท้ายมาด้วยไปยังเขาตังกวน เขาตังกวนเป็นเนินเขาสูงบนยอดเขาตังกวนเป็นที่ประดิษฐานเจดีย์พระธาตุคู่เมืองสงขลา ซึ่งทางขึ้นเขานั้นมีสองทางเลือกคือ หนึ่ง!!!ใช้ลิฟท์ขึ้นไป(ตื่นเต้นดีน่ะ) สอง!!!เดินขึ้นไป มีเหรอจะไม่เลือกทางลำบากว่ะฮ่ะๆๆๆว่าแล้วก็เดินขึ้นปายยยยยยย
ทางนี้เป็นเส้นทางชมธรรมชาติ(ตอนเที่ยงตรงเนี้ยน่ะ)เมื่อเดินขึ้นไปเรื่อยจะเจอกับวิหารแดง(เค้าบอกว่าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้สร้างเอาไว้)
เมื่อถึงตัววิหารจะเห็นวิวของเรือประมงที่แล่นออกจากท่าเรือ มีนกบินผ่านพร้อมกับแสงแดดอ่อนๆที่ส่องมากระทบโสตประสาทสัมผัสทั้ง 5 ฟินมาก
หลังจากหวานบ่นว่าร้อนไปหลายรอบก็เดินกันต่อไปยังบันไดที่เชื่อมต่อวิหารแดงกะเจดีย์ดีแล้วเย้
บันไดโบราณฝุดๆ
เมื่อก้าวผ่านขั้นสุดท้ายของบันไดมาก็จะพบกับตัวเจดีย์สูงๆ
กินน้ำกินท่าพักหายเหนื่อยเสร็จก็ไปถ่ายรูปกันต่อ ขอบอกว่าวิวนั้นทำเอาเกือบลืมหายใจเลยแหละซึ่งเราก็มีรูปที่ทำให้รู้ว่าสงขลาบ้านเราสวยงามขนาดไหน
ไม่เสียแรงที่ได้ขึ้นชื่อว่าเมื่อสองทะเลเลยจริงๆ
หลังจากปล่อยอารมณ์ไปกับท้องฟ้าและแสงแดดก็ไปฟินกันต่อกับทางลงที่เล่นเอาเหงื่อตกกับตามๆกัน ครั้นพอถึงพื้นดิน ณ เวลาบ่ายตรงก็ควบเวสป้ากันต่อไปยัง Next station:เกาะยอ เมื่อครั้งที่ยังไม่มีสะพานติณสูลานนท์(หรือสะพานป๋าเปรมนั้นเอง)ที่เชื่อมเกาะยอระหว่างฝั่งสงขลากับระโนด ผู้คนก็ต้องเดินทางด้วยแพขนานยนต์จากตัวเมืองสงขลาไปยังฝั่นระโนด ทำให้ไม่เพียงพอต่อการคมนาคมที่เพิ่มมากขึ้น จึงสร้างสะพานติณสูลานนท์ขึ้นมาเพื่อรองรับการคมานาคมในตอนนี้ ซึ่งในปัจจุบันแพขนานยนต์ก็ยังมีใช้อยู่และพวกเราก็ไม่พลาดที่จะพาเพื่อนข้ามแพไปด้วยกัน เพราะฉะนั้นLet's GO
ผู้โดยสารไม่เสียค่าใช้จ่าย มอเตอร์ไซ 3 บาท รถยนต์ 20 บาทถูกเหมือได้เปล่า แถมยังได้ชยชมวิวสวยๆด้วยน่ะเออ
เมื่อลงจากแพขนานยนต์ก็ขับเวสป้าคู่ใจไปยังจุดหมายในจุดหมายอีกทีซึ่งที่ที่เราจะไปนั้นเป็นวัดที่ตั้งอยู่บนภูเขาที่ตั้งอยู่บนเกาะยอ วัดแห่งนี้ชื่อว่า"วัดเขากุฏิ"ทางขึ้นนี้ชันมาก พูดได้ว่า45องศาก็ไม่น่าเกลียดอะไร(หวานกรี๊ดตลอดทาง)ถึงแม้จะชักมากแต่เวสป้าคู่ใจก็ไม่ทรยศ เมื่อถึงยอดเขาจะพบกับวัดที่ร่มรื่นอะไนเช่นนี้ พบกับเจย์ดีและวิวสวยๆ(รูปแรกของกระทู้นี้นั้นเอง)แถมที่นี้ลมดีและมีศาลาสบายๆให้นอนเอกเขนกกันอย่างสบายใจ
นี้ไงสะพานป๋าเปรม ตรงนี้เราเรียกสะพานสอง อีกฝั่งหนึ่งจะเป็นสะพานหนึ่งสวยมากกกกก
อิ่มหนำกับบรรยากาศแล้วก็ไปหาของกินให้อิ่มหนำพุงกันต่อ หวานแนะนำร้านส้มตำป้าเอียด(หวานบอกว่าอร่อยและถูก)เมื่อหวานพูดถึงกระนั้นแล้วก็ไปๆ ไปกินส้มตำกันเถอะที่รัก ฉันลงแล้วน่ะจับให้ดีๆเพราะมันชันมาก(ไม่มีโอกาสถ่ายรูปให้ดูเพราะกำลังตื่นเต้นไปกับการควบคุมรถยังไงให้ตั้งตรงฮ่ะๆๆ)
Next station:ร้านส้มตำป้าเอียด
นี้เป็นครั้งแรงที่เรามาแล้วได้กินเพราะสองครั้งที่แล้วมาวันอังคารซึ่งเป็นวันที่ร้านปิด(เซ็งหนักมาก)กะมาแล้วทางร้านบอกว่าขายหมดแล้ว(เซ็งหนักมากสอง) แต่ครั้งนี้เราจะไม่พลาด มาก่อนของใกล้จะหมดพอดี(ตอนนั้นไก่ย่างเกลี่ยงสต็อคเรียบร้อย)ด้วยความหิวจึงจัดไปตามลำดับดังนี้ ยำปลาดุกฟู น้ำตกหมูย่าง ส้มตำไข่เค็ม ต้มแซ่บรวมมิตรทะเล แล้วก็ข้าวเหนียวสองจาน สนนราคาที่ 230บาท ถูกและอร่อย
Next station:จุดชมวิวท้ายเกาะ ระหว่างทางก็เเวะนั้งพักที่โรงเรียนวัดท้ายยอก็ได้นั้งคุยกันถึงเด็กนักเรียนที่มาติวO-netกันวันเสาร์ เราเห็นเด็กแต่ละคนเรียนกันคร่ำเครียด นี้ละหนอเด็กไทย ว่าแล้วก็ขับรถไปยังจุดชมวิว ทันใดนั้น!!!มวลเมฆก็ได้ก่อตัวขึ้นมาบดบังท้องฟ้ายามเย็นเป็นที่เรียบร้อย แพลนที่วางไว้ว่าจะไปชมวิวจึงเป็นอันมลายหายสิ้น แต่ไม่เป็นไรเรายังมีรูปที่ถ่ายไว้นานแล้วมาให้ดูกัน
เราแต่งสีให้มันดูเข้มขึ้นน่ะ แต่ของจริงก็สวยไม่แพ้กัน(นายเเบบหน้าฟินมว๊ากกก)
ถึงเราจะพลาดวิวยามเย็นแต่เราก็ยังมีร้านBistro Cafe ที่บรรยากาศสุดยอดอยู่ สิบปากว่าก็ไม่เท่าตาเห็น ไปชมบรรยากาศกัน
ย้อนยุคกันสุดๆ
ได้เวลาอาหารแล้วครับคุณนายหวาน บราวนี่ ชาเขียว กะโซดาผลไม้ ราคาจำไม่ได้แว่ววว
ปิดท้ายกันด้วยแผนที่เที่ยวสงขลา
ถึงแม้มันจะเป็นการเที่ยวแค่วันเดียวแต่ก็ทำให้เราได้รับรู้ถึงรสชาติของชีวิตได้เลยน่ะ
ปล.ธรรมชาติไม่ได้อยู่ที่ความละเอียดของจอภาพน่ะ shutdownแล้วออกมาเที่ยวกันเถอะ
https://www.youtube.com/watch?v=CBFAPjHM1i4