สวัสดีครับ ผมยืม login เพื่อนมาโพสนะครับเพราะไม่มีของตัวเอง
มีเรื่องจะปรึกษานิดนึง ปีก่อนผมได้ร่วมงานกับบ.ชื่อดังในวงการที่ผมทำงาน
โดยบ.เปิดแผนกใหม่ ต้องการเอาท์ซอสจำนวนมาก ผมก็เป็น 1 ในนั้น
โดยรับงานแบบเหมาไป 1 เดือน ได้ 30k ซึ่งก็ไม่มากไม่น้อยสำหรับผม
ปกติผมทำงานเองจะได้ไม่เท่ากันแต่ละเดือนอยู่แล้ว แต่เฉลี่ยก็ราวๆนี้ แต่ปริมาณงานนี้ก็พอสมควร
พอเซ็นรับงานนี้ ก็รับงานอื่นไม่ค่อยได้ มีฝืนรับบ้างเพราะคิดว่าไหว แต่เอาเข้าจริงคืออดหลับอดนอนโทรมมาก
อยากได้เงินหลายทางแต่ร่างกายก็พัง แต่ช่วงไหนไม่ไหวก็ไม่รับจ๊อบอื่น แต่ทำอันนี้ก็ได้เหนาะๆ 30k/ เดือน
ไม่นานนี้อยู่ดีๆบ.ก็ออกนโยบายใหม่ว่า จะมีการประเมิณประมาณวัด kpi
ให้คนที่ได้ kpi สูงๆสามคนแรกได้ขึ้นเงินเดือนเป็น 50k/เดือน นอกนั้นที่เหลือจะโดนลดเป็น 12k /เดือน มีผลปีหน้า
โดยให้เหตุผลว่าเพื่อจะได้มี motivate ในการทำงาน แต่ผลปรากฏว่าพนักงานก็ไม่พอใจมาก ก็จะเลิกทำกันหมด
supervisor ที่เป็นคนดีลงานกับผมก็ลาออกไปด้วย แล้วบ.ก็หาคนใหม่มาแทน ชื่อพี่เอ
พี่เอมาไม่รู้ยังไง (เพราะผมไม่ได้ทำงานในออฟฟิศ มีแวะแค่เข้าไปส่งงาน) ปรากฏพนักงานข้างในก็ทะยอยลาออกเรื่อยๆตั้งแต่ยามยันล่าม
ต่อมาเพื่อน outsource ของผมที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายใหม่นี่ เขาก็จะเข้าไปคุยกับนายโดยตรงว่าทำไมออกนโยบายแบบนี้
แต่พี่เอไม่ให้คุย บอกคุยกับเขาพอ นายไม่ว่าง ไปๆมาๆคุยกันถึงขั้นมีปากเสียงเกือบต่อยกันในบริษัท
outsource คนนั้นเลยคืนไฟล์ข้อมูลทั้งหมด ละเลิกทำเดี๋ยวนั้นเลย พี่เอก็ไม่ได้แสดงท่าทีแคร์แต่อย่างใด
จากเหตุการณ์วันนั้นทำให้ outsource คนอื่นๆตัดสินใจจะเลิกทำด้วยเหมือนกัน คือ ทั้งเงินน้อย และซุปฯใหม่ก็ไม่มีวุฒิภาวะ
แต่ละคนก็ทะยอยขอเลิกไปทีละคน รวมoutsource และพนักงานประจำ จาก 50 กว่าคนเหลือคนที่ยังไม่แจ้งออกไม่ถึง 10 คน
โดยผมก็เห็นจากในพวกเวปหางาน ว่าบ.ไปลงประกาศรับสมัครงานไว้หลายอัตรา แต่เรตเงินเดือนอยู่ที่ 12-15k
ทั้งที่แต่เดิมมันคืองานที่ควรจ้างคนเรต 30k + เลยไม่ค่อยมีใครไปสมัคร ส่วนมากเป็นคนที่ไม่ค่อยมีประสบการณ์ไปสมัครมากกว่า
เรื่องที่ผมลำบากใจคือ วันก่อนผมเข้าออฟฟิศเพื่อส่งงาน เจอพี่เอเรียกไปคุยแบบจริงจังครั้งแรก
(วันที่เขามีเรื่องกันผมไม่อยู่) ผมคุยดี พี่เอก็คุยดี ไปๆมาๆ พี่เอบอกชอบผมนะ คุยรู้เรื่อง
ละเขาก็ถามผมว่า ผมคิดไงกับนโยบายใหม่ ผมบอกไปว่าไม่ไหวอะครับเนื้องานเท่าเดิมแต่เงินลด
ผมเคลียร์งานที่มันเข้ามาเยอะๆช่วงนี้ให้พี่ละผมก็จะไปนะ แต่ผมคุยดีๆกับเขา เขาก็คุยดีกับผม
เขาก็บอกอยากให้ผมทำงานต่อ จะให้ผม 20k ละกัน ถ้าผมจะทำต่อ ผมบอกขอคิดดูก่อนละกัน
ผมกลับมาคิดก็ปรึกษากับคนอื่น บางคนก็คงทำต่อเพราะไม่มีที่ไป มีเมื่อไรก็ไปทันที
บางคนก็ทำต่อเพราะกะว่าตัวเองคงได้ kpi สูงแน่ๆ เพราะทำงานดีมาตลอด และไม่เคยมีปัญหากับพี่เอ
แต่ส่วนมากหลายๆคน ถ้าจะตอบตกลงพี่เอ ก็แค่อยากให้ระวัง เพราะคนอย่างพี่เอ คือเขาพาล
วันนี้บอกชอบใจเพิ่มเงิน แต่ถ้าเกิดคุยไม่ถูกคอก็เขี่ยออกทันที
แต่ถ้าจะรับงานต่อโดยเงินน้อยลงแบบนี้ รุ่นพี่เขาก็บอกผมตรงๆว่า ก็ลดคุณภาพงานไปเลย เอาให้เราสบายละรับงานอื่นได้
เพราะถึงเผางานส่งไป พี่เอก็ดูไม่ออกอยู่แล้ว เขาไม่เคยเช็คงานอยู่แล้ว นายใหญ่ก็เป็นแบคพี่เออีก ไม่ออกมาคุยกับพนักงานนานแล้ว
ตานี้ระหว่างที่ผมขอเวลาเขามาคิด ช่องทางที่ไว้ติดต่อกับลูกค้าผมเห็นโดนคอมเพลนมาเรื่อยๆ
เพราะความผิดพลาดในส่วนของพนักงานใหม่ๆที่เพิ่งเข้ามาละมันทำงานไม่เป็น (แบบจ้างมาต่ำอย่างที่บอก)
แต่พี่เอก็ไม่ได้สนใจ บอกว่าเป็นลูกค้ารายเล็ก ช่างปะไร ซึ่งตรงนีมันก็ไม่ได้กระทบอะไรผม เพราะผมได้เงินจากบ.อยู่ดี
แต่รู้สึกแย่ที่ องค์กรที่เราร่วมงานอยู่มันคุณภาพตก แต่เขาก็มาชวนให้ผมอยู่ต่อ
ผมเองถ้าไม่รับงานนี้ต่อก็ไม่ได้ลำบาก เพราะอย่างที่บอกว่าก็มีจ๊อบประปรายอยู่แล้ว แค่กลับไปเป็นแบบเดิม
แต่พอมองว่า เดือนละ 20k เลยนะ สำหรับฟรีแลนซ์และเศรษฐกิจแบบนี้ มันก็ชวนเสียดายเหมือนกัน
แต่ถ้ารับ ก็คงต้องลำบากใจเพราะบ.ก็ดูไม่มีทิศทาง และต้องร่วมงานกับคนทำงานผิดพลาดตลอดเวลาอย่างพี่เอ
(เขาทำงานพลาดบ่อย พลาดตั้งแต่จัดกระเช้าให้ลูกค้าประจำตกหล่น ยันงานบัญชีก็ทำผิด...แต่ก็นั่นแหละ ยังไม่เกี่ยวอะไรกับผม)
ถ้าให้หลับหูหลับตาทำงานไป เข้าออฟฟิศแค่เดือนละครั้ง เจอพี่เอก็รีบหวัดดีเดินหนี ไม่ต้องสนใจปากเขา
ไม่ต้องสนใจภาพลักษณ์องค์กรเพราะไม่เกี่ยวกับเรา ก็โกยเงินไป บ.เจ๊งก็ค่อยไป คิดแบบนี้มันก็ได้แต่ก็...
คือผมคิดไม่ตกไม่รู้จะเอาไงดี เปิดปีใหม่คงต้องไปให้คำตอบพี่เอแล้ว ขอคำแนะนำหน่อยครับ
ขอคำแนะนำด้วยครับ ที่ทำงานคนลาออกเยอะมาก เอาไงต่อดี
มีเรื่องจะปรึกษานิดนึง ปีก่อนผมได้ร่วมงานกับบ.ชื่อดังในวงการที่ผมทำงาน
โดยบ.เปิดแผนกใหม่ ต้องการเอาท์ซอสจำนวนมาก ผมก็เป็น 1 ในนั้น
โดยรับงานแบบเหมาไป 1 เดือน ได้ 30k ซึ่งก็ไม่มากไม่น้อยสำหรับผม
ปกติผมทำงานเองจะได้ไม่เท่ากันแต่ละเดือนอยู่แล้ว แต่เฉลี่ยก็ราวๆนี้ แต่ปริมาณงานนี้ก็พอสมควร
พอเซ็นรับงานนี้ ก็รับงานอื่นไม่ค่อยได้ มีฝืนรับบ้างเพราะคิดว่าไหว แต่เอาเข้าจริงคืออดหลับอดนอนโทรมมาก
อยากได้เงินหลายทางแต่ร่างกายก็พัง แต่ช่วงไหนไม่ไหวก็ไม่รับจ๊อบอื่น แต่ทำอันนี้ก็ได้เหนาะๆ 30k/ เดือน
ไม่นานนี้อยู่ดีๆบ.ก็ออกนโยบายใหม่ว่า จะมีการประเมิณประมาณวัด kpi
ให้คนที่ได้ kpi สูงๆสามคนแรกได้ขึ้นเงินเดือนเป็น 50k/เดือน นอกนั้นที่เหลือจะโดนลดเป็น 12k /เดือน มีผลปีหน้า
โดยให้เหตุผลว่าเพื่อจะได้มี motivate ในการทำงาน แต่ผลปรากฏว่าพนักงานก็ไม่พอใจมาก ก็จะเลิกทำกันหมด
supervisor ที่เป็นคนดีลงานกับผมก็ลาออกไปด้วย แล้วบ.ก็หาคนใหม่มาแทน ชื่อพี่เอ
พี่เอมาไม่รู้ยังไง (เพราะผมไม่ได้ทำงานในออฟฟิศ มีแวะแค่เข้าไปส่งงาน) ปรากฏพนักงานข้างในก็ทะยอยลาออกเรื่อยๆตั้งแต่ยามยันล่าม
ต่อมาเพื่อน outsource ของผมที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายใหม่นี่ เขาก็จะเข้าไปคุยกับนายโดยตรงว่าทำไมออกนโยบายแบบนี้
แต่พี่เอไม่ให้คุย บอกคุยกับเขาพอ นายไม่ว่าง ไปๆมาๆคุยกันถึงขั้นมีปากเสียงเกือบต่อยกันในบริษัท
outsource คนนั้นเลยคืนไฟล์ข้อมูลทั้งหมด ละเลิกทำเดี๋ยวนั้นเลย พี่เอก็ไม่ได้แสดงท่าทีแคร์แต่อย่างใด
จากเหตุการณ์วันนั้นทำให้ outsource คนอื่นๆตัดสินใจจะเลิกทำด้วยเหมือนกัน คือ ทั้งเงินน้อย และซุปฯใหม่ก็ไม่มีวุฒิภาวะ
แต่ละคนก็ทะยอยขอเลิกไปทีละคน รวมoutsource และพนักงานประจำ จาก 50 กว่าคนเหลือคนที่ยังไม่แจ้งออกไม่ถึง 10 คน
โดยผมก็เห็นจากในพวกเวปหางาน ว่าบ.ไปลงประกาศรับสมัครงานไว้หลายอัตรา แต่เรตเงินเดือนอยู่ที่ 12-15k
ทั้งที่แต่เดิมมันคืองานที่ควรจ้างคนเรต 30k + เลยไม่ค่อยมีใครไปสมัคร ส่วนมากเป็นคนที่ไม่ค่อยมีประสบการณ์ไปสมัครมากกว่า
เรื่องที่ผมลำบากใจคือ วันก่อนผมเข้าออฟฟิศเพื่อส่งงาน เจอพี่เอเรียกไปคุยแบบจริงจังครั้งแรก
(วันที่เขามีเรื่องกันผมไม่อยู่) ผมคุยดี พี่เอก็คุยดี ไปๆมาๆ พี่เอบอกชอบผมนะ คุยรู้เรื่อง
ละเขาก็ถามผมว่า ผมคิดไงกับนโยบายใหม่ ผมบอกไปว่าไม่ไหวอะครับเนื้องานเท่าเดิมแต่เงินลด
ผมเคลียร์งานที่มันเข้ามาเยอะๆช่วงนี้ให้พี่ละผมก็จะไปนะ แต่ผมคุยดีๆกับเขา เขาก็คุยดีกับผม
เขาก็บอกอยากให้ผมทำงานต่อ จะให้ผม 20k ละกัน ถ้าผมจะทำต่อ ผมบอกขอคิดดูก่อนละกัน
ผมกลับมาคิดก็ปรึกษากับคนอื่น บางคนก็คงทำต่อเพราะไม่มีที่ไป มีเมื่อไรก็ไปทันที
บางคนก็ทำต่อเพราะกะว่าตัวเองคงได้ kpi สูงแน่ๆ เพราะทำงานดีมาตลอด และไม่เคยมีปัญหากับพี่เอ
แต่ส่วนมากหลายๆคน ถ้าจะตอบตกลงพี่เอ ก็แค่อยากให้ระวัง เพราะคนอย่างพี่เอ คือเขาพาล
วันนี้บอกชอบใจเพิ่มเงิน แต่ถ้าเกิดคุยไม่ถูกคอก็เขี่ยออกทันที
แต่ถ้าจะรับงานต่อโดยเงินน้อยลงแบบนี้ รุ่นพี่เขาก็บอกผมตรงๆว่า ก็ลดคุณภาพงานไปเลย เอาให้เราสบายละรับงานอื่นได้
เพราะถึงเผางานส่งไป พี่เอก็ดูไม่ออกอยู่แล้ว เขาไม่เคยเช็คงานอยู่แล้ว นายใหญ่ก็เป็นแบคพี่เออีก ไม่ออกมาคุยกับพนักงานนานแล้ว
ตานี้ระหว่างที่ผมขอเวลาเขามาคิด ช่องทางที่ไว้ติดต่อกับลูกค้าผมเห็นโดนคอมเพลนมาเรื่อยๆ
เพราะความผิดพลาดในส่วนของพนักงานใหม่ๆที่เพิ่งเข้ามาละมันทำงานไม่เป็น (แบบจ้างมาต่ำอย่างที่บอก)
แต่พี่เอก็ไม่ได้สนใจ บอกว่าเป็นลูกค้ารายเล็ก ช่างปะไร ซึ่งตรงนีมันก็ไม่ได้กระทบอะไรผม เพราะผมได้เงินจากบ.อยู่ดี
แต่รู้สึกแย่ที่ องค์กรที่เราร่วมงานอยู่มันคุณภาพตก แต่เขาก็มาชวนให้ผมอยู่ต่อ
ผมเองถ้าไม่รับงานนี้ต่อก็ไม่ได้ลำบาก เพราะอย่างที่บอกว่าก็มีจ๊อบประปรายอยู่แล้ว แค่กลับไปเป็นแบบเดิม
แต่พอมองว่า เดือนละ 20k เลยนะ สำหรับฟรีแลนซ์และเศรษฐกิจแบบนี้ มันก็ชวนเสียดายเหมือนกัน
แต่ถ้ารับ ก็คงต้องลำบากใจเพราะบ.ก็ดูไม่มีทิศทาง และต้องร่วมงานกับคนทำงานผิดพลาดตลอดเวลาอย่างพี่เอ
(เขาทำงานพลาดบ่อย พลาดตั้งแต่จัดกระเช้าให้ลูกค้าประจำตกหล่น ยันงานบัญชีก็ทำผิด...แต่ก็นั่นแหละ ยังไม่เกี่ยวอะไรกับผม)
ถ้าให้หลับหูหลับตาทำงานไป เข้าออฟฟิศแค่เดือนละครั้ง เจอพี่เอก็รีบหวัดดีเดินหนี ไม่ต้องสนใจปากเขา
ไม่ต้องสนใจภาพลักษณ์องค์กรเพราะไม่เกี่ยวกับเรา ก็โกยเงินไป บ.เจ๊งก็ค่อยไป คิดแบบนี้มันก็ได้แต่ก็...
คือผมคิดไม่ตกไม่รู้จะเอาไงดี เปิดปีใหม่คงต้องไปให้คำตอบพี่เอแล้ว ขอคำแนะนำหน่อยครับ