สำหรับแฟนคลับ ADVANC ข่าวดีนโยบายเดิม ปันผล 100 %

กระทู้สนทนา
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -22 ธ.ค. 58 17:08 น.

   ADVANC  เผยบรรลุข้อตกลงกับ TOT แล้วในการนำคลื่น 2100 จำนวน15 MHz มาให้บริการ พร้อมกับจะเช่าเสาโครงข่ายบางส่วน แต่ยังอุบเม็ดเงินลงทุน แย้มจะใช้เงินที่เตรียมไว้ประมูลคลื่น 900 จำนวน 7.5 หมื่นลบ. ใช้ขยายโครงข่าย 3G และ 4G -จัดโปรฯ รักษาฐานลูกค้า 2G ก่อนซิมดับหรือย้ายค่ายหนี  ดีเดย์ 25 ธ.ค.นี้นำเครื่อง 2G แลกเครื่องใหม่ 3G/4G  พร้อมเตรียมชงแผนธุรกิจปี59เข้าบอร์ดต้นปีหน้า


   นายสมชัย  เลิศสุทธิวงค์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANCเปิดเผยว่า แม้  AWN  จะตัดสินใจไม่ประมูลคลื่น 900 MHz ต่อ  ด้วยเหตุผลที่ว่า เป็นราคาที่ไม่เหมาะสมทางธุรกิจและไม่ก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มแก่บริษัทและผู้ถือหุ้น  ยืนยันว่า บริษัทฯ ยังคงมีทรัพยากรความถี่ที่เพียงพอในการให้พัฒนาเครือข่ายให้มีคุณภาพ   ประกอบไปด้วย ความถี่ย่าน 2100 MHz จำนวน 15 MHz  ซึ่งปัจจุบันสามารถให้บริการ 3G ได้ทั่วประเทศ มีโครงข่ายครอบคลุมกว่า98% ของประชากรทั้งหมด โดยยังมีอายุการใช้งานไปอีก 12 ปี รวมถึงการได้มาซึ่งคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz จำนวน 15 MHz เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งจะเปิดให้บริการ 4G ภายในเดือนมกราคม 2559 และมีอายุการใช้งาน 18 ปี   
   " อีกทั้ง ล่าสุด บริษัทฯ ยังได้บรรลุข้อตกลงความร่วมมือกับ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ในการนำคลื่น 2100 MHzจำนวน 15 MHz เข้ามาร่วมให้บริการ ซึ่งแน่นอนว่านอกจากจะทำให้ทีโอทีแข็งแกร่งและมีรายได้อย่างต่อเนื่องแล้ว จะส่งผลทำให้คุณภาพเครือข่ายโดยรวมของเอไอเอสมีเสถียรภาพและตอบโจทย์การใช้งาน Mobile Internet ยุค 4G สำหรับผู้บริโภคอย่างแน่นอนเช่นกัน " นายสมชัย  กล่าว  
   นอกจากนี้ การตัดสินใจไม่ประมูลคลื่น 900 MHz  ต่อนั้น จะทำให้บริษัทฯ มีความแข็งแกร่งด้านการเงิน และมีกำลังในการพัฒนาคุณภาพพร้อมกับการดูแลลูกค้าอย่างไร้ขีดจำกัด ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนโครงข่าย 4G การขยายโครงข่าย 3G ต่อเนื่อง การขยายเอไอเอสไฟเบอร์ รวมไปถึงการมอบสิทธิพิเศษต่างๆ การพัฒนางานด้านบริการลูกค้า การสร้างสรรค์บริการด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ    
    นายสมชัย  กล่าวว่า บริษัทฯ เตรียมนำเงินจำนวน 7.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเป็นเงินที่บริษัทฯ ได้เตรียมไว้ใช้ในการประมูลคลื่น 900 MHz แต่ทั้งนี้ ไม่ได้ใช้จึงตัดสินใจที่จะนำเงินดังกล่าวไปใช้สำหรับไปลงทุนโครงข่าย 4G และ ขยายโครงข่าย 3Gขณะเดียวกันบริษัทฯยังได้นำมาจัดโปรแกรมการตลาด ซึ่งจะให้ลูกค้าที่ยังใช้มือถือในระบบ 2G สามารถนำมาอัพเกรดเป็นระบบ 3Gหรือ 4G ได้ โดยไม่คิดมูลค่า ซึ่งเงินลงทุนในการจัดแลกมือถือดังกล่าวอาจจะใช้เท่ากับที่นักวิเคราะห์หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ที่ 6-7พันล้านบาท หรืออาจจะมากกว่านั้นก็เป็นไปได้ ซึ่งจะให้ลูกค้าเริ่มนำเครื่อง 2G มาเปลี่ยนตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค.นี้เป็นต้นไป โดยถือว่าเป็นการคืนความสุขให้กับลูกค้าเอไอเอส โดยลูกค้าจะต้องเติมเงินตั้งแต่  100 -1,290 บาทตามแต่ละรุ่นที่จะแลก โดยต้องติดสัญญาขั้นต้น 1 ปี  และจะต้องเป็นลูกค้าเอไอเอสเท่านั้น
   โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีฐานลูกค้าอยู่ 38-39 ล้านราย แบ่งเป็นลูกค้าระบบ 2G ประมาณ 1 ล้านราย รวมทั้งลูกค้าระบบ 3Gแต่ยังใช้มือถือในระบบ 2G อีกประมาณ 10 ล้านราย ซึ่งบริษัทฯ จะมีการส่งข้อความไปยังลูกค้าเพื่อแจ้งเตือนก่อนที่ซิมจะดับลง
   " ทางบริษัทฯจะมีการคืนความสุขให้กับลูกค้า ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าในระบบที่อยู่ในระบบ 2G จำนวน 1 ล้านรายและที่ใช้เครื่อง 2G อีก 10 ล้านราย โดยจะมีการแจกมือถือเพื่ออัพเกรดให้เป็นระบบ 3G และ 4G โดยไม่คิดมูลค่าตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค. นี้เป็นต้นไป  โดยจะถือว่าเป็นการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสในการให้ลูกค้าย้ายจาก 2G ได้เร็วมากยิ่งขึ้น"นายสมชัย  กล่าว
   ทั้งนี้ บริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถรักษามาร์เก็ตแชร์อันดับ 1  ในอุตสาหกรรมสื่อสารได้อย่างแน่นอน เนื่องจากการที่มีเงินลงทุนที่เพียงพอและสามารถลงทุนพัฒนาโครงข่าย 4G และขยายโครงข่าย 3G ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯได้มีการขยายเสาสัญญาณจาก 1.3 หมื่นต้นเป็น 2.5 หมื่นต้น อีกทั้งมีการติดตั้งเสาสัญญาณได้ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ แม้ว่าจะไม่มีคลื่น 900 MHz แต่มีคลื่นรวมทั้งหมด 45 MHz ซึ่งถือว่าไม่น้อยกว่าไปกว่าคู่แข่ง โดยมีกลยุทธ์ที่จะพัฒนาคลื่นดังกล่าวต่อไป
   สำหรับนโยบายการจ่ายเงินปันผลในปีนี้ บริษัทฯ ยังยืนยันว่าจะจ่ายเงินปันผล 100% ของกำไรสุทธิ และมั่นใจว่าหุ้นADVANC เป็นหุ้นพื้นฐานดี และมีรายได้รวมทั้งผลกำไรเติบโตต่อเนื่องอย่างเห็นได้ชัด  
   "เรายืนยันว่านโยบายการจ่ายปันผล 100% ของกำไรสุทธิจะยังคงเป็นไปตามที่ได้กล่าวไว้ แต่ในส่วนของปีหน้าจะต้องรอเข้าบอร์ดต้นปีอีกครั้ง แต่ทั้งนี้ แผนเราก็จะยังคงเดิม ซึ่งจะเห็นได้จากผลประกอบการของบริษัทฯ ที่เติบโตต่อเนื่อง และที่ผ่านมาแม้ว่าบริษัทฯ จะกันเงินประมูล 7.5 หมื่นล้านบาทไว้สำหรับการประมูล 4G แต่เรายังมีความสามารถจ่ายเงินปันผลได้ นอกจากนี้สำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ที่จะเข้ามาในอุตสาหกรรม เราไม่มีแผนเข้าไปพูดคุยในการเป็นพันธมิตรร่วมกัน"นายสมชัย กล่าว
     บริษัทฯ จะกำหนดแผนปี 2559 ช่วงต้นปี โดยจะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เพื่อกำหนดถึงแผนธุรกิจและงบลงทุน รวมถึงนโยบายการจ่ายเงินปันผลในปีหน้า โดยบริษัทฯ มีกลยุทธ์บริหารคลื่นความถี่ที่มีอยู่ 3 คลื่น เพื่อพัฒนาโครงข่ายของเอไอเอส  อีกทั้งยังมีการบริการให้กับลูกค้ารวมทั้งยังรักษาการบริการที่ดีต่อลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น
   อนึ่ง  จากคำอธิบายและบทวิเคราะห์ของฝ่ายบริหาร ADVANC ณ  สิ้นงวดไตรมาส 3/2558 บริษัทฯ มีเป้าหมายในการคงนโยบายการจ่ายเงินปันผล 100%  ของกำไรสุทธิจากงบการเงินรวม โดยไม่เกินกำไรสะสมในงบการเงินเฉพาะบริษัท และมีเป้าหมายที่จะจ่ายเงินปันผลปีละสองครั้ง เนื่องจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและระดับหนี้ที่ต่ำ  หากมีโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ หรือมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญในอนาคตที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานและการลงทุน ซึ่งรวมถึงโครงสร้างเงินทุน บริษัทฯ จะแจ้งให้ผู้ลงทุนได้ทราบถึงแนวทางทันที
   สำหรับงวดครึ่งแรกปี 2558 ADVANC ปันผลหุ้นละ 6.50 บาท เหลือปันผลงวดครึ่งหลังปีนี้  ส่วนปี 2557 บริษัทฯ ปันผลทั้งปีรวม 12 บาทต่อหุ้น แบ่งเป็นครึ่งปีแรก 6.04 บาทต่อหุ้น ครึ่งปีหลัง 5.96 บาทต่อหุ้น
    นายสมชัย กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของผู้เล่นรายใหม่ของอุตสาหกรรมมองว่าเป็นเรื่องปกติ  และมองว่าจะเป็นเรื่องที่จะมีประโยชน์ต่อผู้บริโภค และถือว่าเป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อบริษัทฯ  แต่ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงยืนยันว่าจะรักษาอันดับหนึ่งการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ไว้ได้
  พร้อมกันนี้ หาก 3 ปีข้างหน้าหาก กสทช. ได้มีการเปิดประมูลคลื่นความถี่อีกครั้ง ทางบริษัทฯ ก็พร้อมที่จะเข้าร่วมประมูลด้วยหากมีโอกาสทางธุรกิจที่เหมาะสม และเชื่อว่าทางกสทช. จะจัดการประมูลได้อย่างดี และพิจารณาถึงผลประโยชน์ที่ดีต่อผู้บริโภค
    ราคาหุ้น ADVANC ปิดที่ 151.50 ล้านบาท ลดลง 4 บาท หรือ 2.57% มูลค่าการซื้อขาย 1.49 หมื่นล้านบาท





รายงาน   โดย วรินดา พรมขัดดุก
เรียบเรียง โดย ชัชชญา  อังคุลี  
                อีเมล์. chatchaya@efinancethai.com
อนุมัติ    โดย อนุรักษ์ ลีประเสริฐสุนทร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่