จากกรณีคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เตรียมเปิดประมูลคลื่นความถี่จำนวน 4 ย่าน ได้แก่
1. ย่าน 850 MHz จำนวน 2 ชุดความถี่ ใบอนุญาตละ 2x5 เมกะเฮิรตซ์ ราคาเริ่มต้น 7,738.23 ล้านบาท
2. ย่าน 1500 MHz จำนวน 11 ชุดความถี่ ใบอนุญาตละ 5 เมกะเฮิรตซ์ ราคาเริ่มต้น 1,057.49 ล้านบาท
3. ย่าน 2100 MHz จำนวน 3 ชุดความถี่ ใบอนุญาตละ 2x5 เมกะเฮิรตซ์ ราคาเริ่มต้น 4,500 ล้านบาท
4. ย่าน 2300 MHz จำนวน 7 ชุดความถี่ ใบอนุญาตละ 10 เมกะเฮิรตซ์ ราคาเริ่มต้น 2,596.15 ล้านบาท
กสทช.ได้มีการเปิดยื่นคำขอประมูลเมื่อวันที่ 29 พ.ค. ที่ผ่านมา และปรากฏว่ามีเพียง 2 ค่ายยักษ์ใหญ่ คือ บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด หรือ TRUE และบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด หรือ AIS เข้าร่วมเท่านั้น
ไทม์ไลน์ต่อจากนี้ จะเป็นระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติ ในวันที่ 30 พ.ค. - 5 มิ.ย. ก่อนที่กรรมการ (บอร์ด) กสทช. จะพิจารณาและแจ้งผลในช่วงวันที่ 6-13 มิ.ย. และเปิดให้อุทธรณ์ผลการพิจารณาในวันที่ 16-18 มิ.ย.
จากนั้น สำนักงาน กสทช. จะประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติในวันที่ 19 มิ.ย. และซ้อมการประมูล (Mock Auction) เพื่อเตรียมความพร้อมในวันที่ 23 มิ.ย. และเข้าสู่การประมูลจริงในวันที่ 29 มิ.ย.
สภาผู้บริโภคห่วงซ้ำเติมผูกขาด ยื่นศาลเบรกประมูล 
ในการประมูลครั้งนี้ สภาองค์กรของผู้บริโภค มองว่าจะเป็นการซ้ำเติมการผูกขาดตลาด โดยได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางเมื่อวันที่ 27 พ.ค. เพื่อขอให้เพิกถอนประกาศของ กสทช. และสำนักงาน กสทช. ที่กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการประมูลคลื่นความถี่ของคลื่น 2100 และ 2300 MHz ซึ่งอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ทั้งในด้านขั้นตอน วิธีการ เงื่อนไข และการไม่สะท้อนโครงสร้างตลาดโทรคมนาคมที่แท้จริง ไม่มีมาตรการป้องกันการผูกขาด
อิฐบูรณ์ อ้นวงษา รองเลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค เปิดเผยว่า มีเป้าหมายเพื่อขอให้ศาลเพิกถอนประกาศของ กสทช. และให้มีปรับปรุงหลักเกณฑ์การประมูลใหม่ เอื้อต่อการแข่งขันที่เป็นธรรม เปิดทางให้ผู้เล่นรายใหม่เข้าสู่ตลาด และมีกลไกควบคุมคุณภาพบริการหลังประมูลอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับบริการโทรคมนาคมที่มีคุณภาพ ในราคาที่เหมาะสม
ด้าน สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการนโยบาย สภาผู้บริโภค ระบุว่า ขณะนี้ กสทช. ยังไม่มีแนวทางสนับสนุนให้ผู้ประกอบการรายใหม่เข้าสู่ตลาด และกำหนดราคาขั้นต่ำของการประมูลไว้อย่างต่ำผิดปกติ เมื่อเปรียบเทียบกับรายได้จากการเช่าคลื่นความถี่ในอดีต เช่น คลื่น 2100 MHz มีราคาขั้นต่ำเพียง 4,500 ล้านบาทต่อ 15 ปี หากประมูลหมดทั้ง 3 ชุด รัฐจะมีรายได้เพียง 13,500 ล้านบาท ขณะที่ NT เคยปล่อยเช่าในอัตราปีละ 3,900 ล้านบาท หากครบ 15 ปี จะสร้างรายได้ถึง 58,500 ล้านบาท
ส่วนคลื่น 2300 MHz กำหนดราคาขั้นต่ำไว้ที่ 2,596.15 ล้านบาทต่อ 15 ปี หากประมูลหมดทั้ง 6 ชุด จะนำรายได้เข้ารัฐเพียง 15,576 ล้านบาท ขณะที่ NT เคยปล่อยเช่าคลื่นนี้ปีละ 4,510 ล้านบาท หากรวม 15 ปี จะมีรายได้ถึง 67,650 ล้านบาท ซึ่งสภาผู้บริโภค ชี้ว่าการตั้งราคาประมูลต่ำขนาดนี้ไม่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของรัฐ และอาจทำให้ผู้บริโภคไม่ได้รับผลประโยชน์จากต้นทุนที่ลดลง เช่น ค่าบริการที่ควรถูกลงแต่ไม่มีการบังคับหรือกลไกควบคุม
ต่อมา 28 พ.ค. ศาลปกครองกลางมีคำสั่งรับคำฟ้องของสภาผู้บริโภคไว้พิจารณา และจะมีการพิจารณาเกี่ยวกับวิธีการคุ้มครองชั่วคราวต่อไป
ไม่ผิดคาด 2 ค่ายยักษ์ใหญ่ TRUE - AIS ไร้คู่แข่ง ประมูลคลื่นความถี่ 29 มิ.ย.นี้
2. ย่าน 1500 MHz จำนวน 11 ชุดความถี่ ใบอนุญาตละ 5 เมกะเฮิรตซ์ ราคาเริ่มต้น 1,057.49 ล้านบาท
3. ย่าน 2100 MHz จำนวน 3 ชุดความถี่ ใบอนุญาตละ 2x5 เมกะเฮิรตซ์ ราคาเริ่มต้น 4,500 ล้านบาท
4. ย่าน 2300 MHz จำนวน 7 ชุดความถี่ ใบอนุญาตละ 10 เมกะเฮิรตซ์ ราคาเริ่มต้น 2,596.15 ล้านบาท