โอกาส ต้นทุน คนเรามันไม่เท่ากันจริงๆ วันนี้พึ่งได้สัมผัส ตรงนี้อีกครั้ง เห็นผู้หญิงคนนึง พึ่งจบใหม่ แต่เป็นเจ้าของสวนอาหาร รีสอร์ต เห็นนึง ที่สวนผึ้ง ส่วนอีกคน ก็มีภัตตาคาร ริมทะเล ทั้งที่ยังเรียนอยุ่ปี 3 นี่ก็เห็นได้ว่า คนพวกนี้ ไม่ได้สร้างเองแน่ๆ แล้วเพราะเขามีสิ่งเหล่านี้ มันก็เลยทำให้เขา กล้าพูด คุยมากขึ้น นั่นก็เพราะเขาสามารถบอกได้ไงว่า ตัวเอง มีอะไร ขณะที่พวก ลูกคนจน ก็ไม่รุ้จะไปคุยอะไรกับเขา ได้แต่เป็นมนุษย์เงินเดือน อยู่ไปวันๆ อย่างดีก็คุยโม้ เรื่องออกรถ ผ่อนคอนโดหน่อยแค่นั้นเอง แล้วก็วัดว่า คนที่มีสิ่งเหล่านี้ คือ คนสำเร็จ ทั้งที่ยังกรรมสิทธิ์ก็ยังไม่ใช่ของตนเอง กว่าจะผ่อนหมดก็เกือบสิ้นอายุขัยแล้ว ลองถ้าตกอับ ตกงาน หรือ ไม่มีรายได้สิ แทบจะหาแผ่นดินซุกไม่ทันเลย แล้วพวกที่บอกพ่อแม่ไม่มีอะไร แต่สำเร็จอายุน้อย ถ้าดูกันจริงๆ เขามีมากกว่าที่เขาพูดแน่ๆอยู่แล้ว เพราะการจะสำเร็จอะไรสักอย่าง มันต้องอาศัยหลายๆปัจจัยประกอบกันนะ ไหนจะพยายามด้วยตนเอง โอกาส บางคนพอได้ดีหน่อยก็ทำผยองลืมตัว ถมคนอื่นไอกระจอก ทั้งที่ตัวเองก็ยังมีชีวิตขึ้นอยุ่กับนายจ้าง หรือ ลูกค้า
ส่วนพวกที่เป็นฟรีแลนซ์ งานอิสระ หรือ มีคนจ้างไปทำอะไรพิเศษ ก็ไม่ได้แปลว่าจะสุขสบายนะ ตอนเขาจ้างก็ต้องเหนื่อยหน่อย แต่พอไม่จ้าง เวลามีเยอะก็จริง แต่ก็ต้องกังวลกับเงินทองที่ลดลงเรื่อยๆเลยนะ แล้วหากไม่เหลืออะไรก็ไม่สามารถจะไปเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากใครได้ เพราะคนอื่นก็ลำบากอยู่ ส่วนไอพวกที่ไม่มีอะไรกังวล ก็อย่างที่กล่าวไปข้างนอก ได้บารมีพ่อแม่นั่นแหล่ะ เลยทำให้มีกินมีใช้ มีธุรกิจอย่างทุกวันนี้
ไอที่ว่ามานี่ไม่ได้รุ้สึกอิจฉาอะไร แต่รุ้สึกสลดใจ ถึงความไม่เท่าเทียม และ โอกาสของแต่ละคนมากกว่า ถึงหลายคน อาจจะไม่ได้ร่ำรวยเท่าเขา แต่ก็ควรจะรุ้จักพอใจในชีวิต เพราะขณะที่เราเผลอไปรุ้สึกแย่กับพวกที่มีอะไรมากกว่า เพราะบ้านรวยแต่เกิด ก็ยังมีอีกหลายคน ทีย่ำแย่กว่าเราเยอะ เช่น ไม่มีโอกาสเรียนหนังสือ ไม่ได้กินอาหาร ข้าวกับไข่เจียวสักมื้อ อยู่อีกตั้งมากมายนะ อย่าลืมตรงนี้ แล้วทุกคนก็ไม่สามารถจะไขว่คว้าทุกๆอย่างที่ต้องการได้ ควรเข้าใจตรงนี้ไว้ด้วย อยู่กับความจริง ไม่ใช่โลกแห่งความฝัน
โอกาส ต้นทุน คนเรามันไม่เท่ากันจริงๆ วันนี้พึ่งได้สัมผัส เรื่องนี้อีกครั้ง
ส่วนพวกที่เป็นฟรีแลนซ์ งานอิสระ หรือ มีคนจ้างไปทำอะไรพิเศษ ก็ไม่ได้แปลว่าจะสุขสบายนะ ตอนเขาจ้างก็ต้องเหนื่อยหน่อย แต่พอไม่จ้าง เวลามีเยอะก็จริง แต่ก็ต้องกังวลกับเงินทองที่ลดลงเรื่อยๆเลยนะ แล้วหากไม่เหลืออะไรก็ไม่สามารถจะไปเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากใครได้ เพราะคนอื่นก็ลำบากอยู่ ส่วนไอพวกที่ไม่มีอะไรกังวล ก็อย่างที่กล่าวไปข้างนอก ได้บารมีพ่อแม่นั่นแหล่ะ เลยทำให้มีกินมีใช้ มีธุรกิจอย่างทุกวันนี้
ไอที่ว่ามานี่ไม่ได้รุ้สึกอิจฉาอะไร แต่รุ้สึกสลดใจ ถึงความไม่เท่าเทียม และ โอกาสของแต่ละคนมากกว่า ถึงหลายคน อาจจะไม่ได้ร่ำรวยเท่าเขา แต่ก็ควรจะรุ้จักพอใจในชีวิต เพราะขณะที่เราเผลอไปรุ้สึกแย่กับพวกที่มีอะไรมากกว่า เพราะบ้านรวยแต่เกิด ก็ยังมีอีกหลายคน ทีย่ำแย่กว่าเราเยอะ เช่น ไม่มีโอกาสเรียนหนังสือ ไม่ได้กินอาหาร ข้าวกับไข่เจียวสักมื้อ อยู่อีกตั้งมากมายนะ อย่าลืมตรงนี้ แล้วทุกคนก็ไม่สามารถจะไขว่คว้าทุกๆอย่างที่ต้องการได้ ควรเข้าใจตรงนี้ไว้ด้วย อยู่กับความจริง ไม่ใช่โลกแห่งความฝัน