หนังสือพิมพ์บ้านเมือง -- อาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม 2558 00:00:57 น.
พุธทรัพย์ มณีศรี
puthsup@gmail.com
สมัยนี้การเดินทางไปไหนต่อไหน ไม่ว่าภายในหรือต่างประเทศสะดวกสบายเป็นอันมาก
โดยเฉพาะการเดินทางภายในประเทศ เพราะมีพาหนะให้เลือกมากมาย ทั้งเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว รถยนต์สาธารณะ รถไฟหรือทางเครื่องบิน
และจากการที่ในปัจจุบันมีสายการบินต้นทุนต่ำ (Low cost Airline) มากมายหลายสายให้เลือก
ประกอบกับการเดินทางโดยสายการบินต้นทุนต่ำนั้น นอกจากใช้เวลาในการเดินทางไม่นานแล้ว ค่าใช้จ่ายในการเดินทางก็ไม่ได้แพงกว่าการเดินทางโดยรถทัวร์มากนัก
บางครั้งตอนโปรโมชั่นพิเศษ ค่าโดยสารเครื่องบินต้นทุนต่ำมีราคาต่ำกว่าค่าโดยสารรถทัวร์วีไอพี (VIP) เสียอีก
นอกจากนั้น สายการบินปกติก็พยายามแข่งขันกับสายการบินต้นทุนต่ำ โดยคิดค่าโดยสารถูกลง ทำให้ประชาชนใช้บริการในการเดินทางโดยทางเครื่องบินมากยิ่งขึ้น
ครั้งหนึ่งผู้เขียนกับภรรยาเดินทางไปพักผ่อน ณ สถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งแม้จะไม่ไกลจากกรุงเทพมหานครมากนัก แต่เพื่อความสะดวกจึงเดินทางโดยเครื่องบิน ซึ่งเครื่องบินกำหนดออกเดินทางประมาณ 08.30 น.
เนื่องจากเป็นห่วงเรื่องการจราจรในกรุงเทพมหานคร ซึ่งเอาอะไรแน่นอนไม่ได้ จึงออกเดินทางจากบ้านตั้งแต่เช้า ถึงสนามบินเวลาประมาณ 07.00 น.
ถึงสนามบินก็ตกใจ เพราะสายการบินแจ้งว่าได้ยกเลิกเที่ยวบินดังกล่าวนี้แล้ว ทั้งนี้ ไม่ได้แจ้งให้ผู้เขียนทราบล่วงหน้า แต่ประการใด
เจ้าหน้าที่สายการบินนี้ได้ขอโทษขอโพย พร้อมกับเสนอทางเลือกว่าหากยังต้องการบินไปจุดหมายปลายทาง ก็ขอให้เดินทางในเที่ยวบินถัดไป ในเวลา 11.40 น. โดยจะจ่ายค่าเสียเวลาให้
เพราะการที่ไม่ได้แจ้งให้ผู้เขียนทราบเป็นการล่วงหน้า ทำให้เสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก จึงขอพบหัวหน้างานที่ทำหน้าที่ในวันนั้น พร้อมแจ้งว่าคงยอมไม่ได้เพราะจะต้องนั่งคอยที่สนามบินเกือบ 5 ชั่วโมง
เมื่อมีคำถามว่าต้องการให้สายการบินดำเนินการอย่างไร จึงได้ตอบไปว่าขอให้จัดเฮลิคอปเตอร์ไปส่งให้ หากทำไม่ได้จะได้ร้องเรียนต่อทางราชการต่อไป
จากคำตอบของผู้เขียนข้างต้น ทำให้ได้ข้อเสนอที่เป็นทางเลือก อีกทางหนึ่ง
นั่นคือสายการบินขอจัดรถลีมูซีน (Limousine) ให้ไปส่งที่จุดหมายปลายทางฟรี โดยจ่ายค่าเสียเวลา รวมทั้งจ่ายค่าโดยสารเครื่องบินคืนให้ ทั้งนี้ ขอจ่ายเป็นเงินสดให้ในทันที
แม้ไม่คุ้มกับเวลาและความรู้สึกที่เสียไป แต่เมื่อพิจารณาแล้ว เป็นว่าทางเลือกที่ดีที่สุดและสามารถรับได้ ประกอบกับใช้เวลาในการเดินทางจากสนามบินไปจุดหมายปลายทางประมาณ 3 ชั่วโมง
ไปโดยรถลีมูซีนถึงก่อนเที่ยวบินที่ออกจากกรุงเทพมหานคร ในเวลา 11.40 น. เสียอีก จึงยอมรับข้อเสนอ ตกลงการเดินทางในเที่ยวนี้ เป็นการเดินทางฟรีพร้อมได้เงินค่าเสียเวลาติดกระเป๋าด้วย
ในตอนนั้น ไม่ทราบเรื่องเงื่อนไขการบินตามประกาศของกระทรวงคมนาคมหรอกครับ แต่มีข้อคิดอย่างหนึ่งว่า การยอมรับอะไรง่ายๆ โดยไม่มีการต่อรองก็ย่อมเสียประโยชน์
เพราะหากยอมรับตามข้อเสนอแต่แรก แม้ว่าจะได้ค่าเสียเวลาแต่ยังต้องจ่ายค่าเครื่องบินอยู่ดี และไปถึงจุดหมายปลายทางหลังเวลาที่รถลีมูซีนจะเดินทางถึงด้วย
แล้วเพื่อนคนหนึ่งซึ่งเคยทราบเรื่องการยกเลิกเที่ยวบินของผู้เขียน ก็เจอการยกเลิกเที่ยวบินของสายการบินอีกสายหนึ่งบ้าง
เพื่อนคนนี้ไปทำงานราชการต่างจังหวัด โดยไปเช้าเย็นกลับ จองเที่ยวกลับไว้ในเวลา 20.55 น.
เวลา 09.28 น. ได้รับเอสเอ็มเอส (SMS) จากสายการบินว่าเที่ยวบินนั้นขอเลื่อนเป็นเวลา 21.15 น.
เวลา 11.52 น. ได้รับเอสเอ็มเอส (SMS) จากสายการบินนั้นอีกครั้งหนึ่งว่าขอยกเลิกเที่ยวบินนี้ โดยได้เสนอทางเลือกให้ผู้โดยสาร 2 ทาง คือ
ทางที่หนึ่ง ขอให้ผู้โดยสารที่จะเดินทางเที่ยวบินนี้ไปถึงสนามบิน เวลา 17.00 น. ทั้งนี้ เพื่อสายการบินจะจัดรถให้เดินทางไปโดยรถตู้ของสายการบินเพื่อไปขึ้นเครื่องบินที่อยู่อีกจังหวัดหนึ่งซึ่งใกล้เคียงกัน โดยเที่ยวบินนั้น มีกำหนดออกเดินทางกลับ กทม. ในเวลา 21.25 น.
ทางที่สอง สายการบินจะให้พักที่โรงแรมในจังหวัดนั้น และให้ขึ้นเครื่องกลับ กทม. ในวันรุ่งขึ้น
เพื่อนของผู้เขียนขอเดินทางไปยังสนามบินของอีกจังหวัดหนึ่งด้วยตนเองโดยขอค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เพราะงานราชการที่ทำอยู่ยังไม่แล้วเสร็จ แต่สายการบินนั้นไม่ยอมจ่ายให้
จึงจำเป็นต้องเดินทางด้วยตนเอง โดยไม่ได้รับค่าใช้จ่ายหรือค่าชดเชยใดๆ ทั้งสิ้น
เมื่อไปถึงสนามบินใหม่ ปรากฏว่าต้องนั่งคอยต่อไป เพราะเที่ยวบินนั้นเลื่อนเวลาจาก 21.25 น. เป็นเวลา 22.50 น.
จากทั้งสองเหตุการณ์นี้ทำให้ผู้เขียนต้องศึกษาเงื่อนไขการบินที่ทุกสายการบินได้ทำไว้กับกระทรวงคมนาคม
ค้นพบประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง การคุ้มครองสิทธิของผู้โดยสารที่ใช้บริการสายการบินของไทย ในเส้นทางบินประจำภายในประเทศ พ.ศ.2553 ที่น่าสนใจ
เพราะในข้อ 5 ของประกาศดังกล่าว ได้กำหนดให้สายการบินต้องปฏิบัติต่อผู้โดยสาร ในกรณีการยกเลิกเที่ยวบิน ไว้หลายประการ
เช่น ต้องชำระค่าชดเชยเป็นเงินสดจำนวน 1,200 บาท ให้แก่ผู้โดยสารทันทีก่อนที่ผู้โดยสาร จะออกเดินทางไปยังจุดหมายปลายทาง เว้นแต่สายการบินพิสูจน์ได้ว่า
ได้แจ้งข่าวการยกเลิกเที่ยวบินให้ผู้โดยสารทราบก่อนกำหนดวันเวลาเดินทางไม่น้อยกว่า 3 วัน หรือ
ได้แจ้งข่าวการยกเลิกเที่ยวบินให้ผู้โดยสารทราบก่อนกำหนดวันเวลาเดินทางไม่ถึง 3 วัน แต่เดินทางไปถึงจุดหมายปลายทางช้ากว่ากำหนดวันเวลาเดิมไม่เกิน 3 ชั่วโมง
สายการบินที่ผู้เขียนเดินทางไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า จึงจ่ายเงินชดเชยให้ ส่วนสายการบินที่เพื่อนเดินทางแม้ว่าได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า แต่กำหนดช้ากว่าเดิมไม่เกิน 3 ชั่วโมง จึงไม่จ่ายเงินชดเชยให้
หากสายการบินเสนอเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินไปยังสนามบินอื่นที่ใกล้เคียง สายการบินจะต้องรับภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปยังสนามบินใหม่ให้แก่ผู้โดยสาร
ซึ่งขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้โดยสารด้วย จึงมีปัญหาว่าเพื่อนที่ไม่สะดวกจะออกเดินทางไปพร้อมกับรถตู้ของสายการบินในเวลา 17.00 น. เพราะยังทำงานไม่แล้วเสร็จนี้ถือว่าไม่สะดวกหรือไม่ และสายการบินจะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายในการเดินทางด้วยตนเองของเพื่อนหรือไม่ ซึ่งกรณีนี้สายการบินไม่จ่ายให้
โดยที่ปัจจุบันสายการบินหลายสายมักจะเลื่อนหรือยกเลิกเที่ยวบินบ่อยมาก จนบางครั้งก็น่าสงสัยด้วยซ้ำว่าเที่ยวบินนั้นยกเลิกเพราะมีผู้โดยสารน้อย ไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายหรือเปล่า
จึงควรที่ผู้โดยสารจะได้มีประกาศดังกล่าว ติดตัวไว้เพื่อต่อรองกับสายการบิน โดยดาวน์โหลดได้ที่
https://www.aviation.go.th/upload/download/file_a682a2dc4b6d9de3199def2c82cd64d1.pdf หรือหากไม่พอใจจะได้เก็บข้อมูลไว้ร้องเรียนต่อสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยต่อไป
อนึ่ง โดยที่ประกาศกระทรวงคมนาคมไม่ได้กำหนดให้สายการบินรายงานการยกเลิกเที่ยวบินโดยระบุถึงสาเหตุการยกเลิกเที่ยวบินไว้ และไม่ทราบว่ามีระเบียบหรือประกาศอื่นกำหนดไว้หรือไม่
หากไม่มี ผู้เขียนอยากให้กำหนดไว้ด้วย เพราะนำมาประกอบการพิจารณาในการอนุญาตให้บินในโอกาสต่อไป สายการบินไม่พร้อมที่จะให้บริการผู้โดยสารก็ไม่ควรได้รับอนุญาตให้บิน
การกำหนดไว้เช่นนั้น ทำให้สายการบินต้องเตรียมความพร้อมด้านการบินมากขึ้น และอาจจะได้หลุดพ้นจากการได้รับใบเหลืองจากกรมการบินพลเรือนระหว่างประเทศ "ICAO " ได้เร็วขึ้น ที่สำคัญผู้โดยสารทั้งไทยและเทศจะได้ไม่ต้องเสียเวลาและเสียอารมณ์ให้กับเหตุการณ์ทำนองนี้อีก
อ่านต่อได้ที่ :
http://www.ryt9.com/s/bmnd/2324124
คอลัมน์: บ้านใคร...ใครก็รัก: "การยกเลิกเที่ยวบิน : เมื่อเจอกับตนเองควรทำอย่างไร"
พุธทรัพย์ มณีศรี
puthsup@gmail.com
สมัยนี้การเดินทางไปไหนต่อไหน ไม่ว่าภายในหรือต่างประเทศสะดวกสบายเป็นอันมาก
โดยเฉพาะการเดินทางภายในประเทศ เพราะมีพาหนะให้เลือกมากมาย ทั้งเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว รถยนต์สาธารณะ รถไฟหรือทางเครื่องบิน
และจากการที่ในปัจจุบันมีสายการบินต้นทุนต่ำ (Low cost Airline) มากมายหลายสายให้เลือก
ประกอบกับการเดินทางโดยสายการบินต้นทุนต่ำนั้น นอกจากใช้เวลาในการเดินทางไม่นานแล้ว ค่าใช้จ่ายในการเดินทางก็ไม่ได้แพงกว่าการเดินทางโดยรถทัวร์มากนัก
บางครั้งตอนโปรโมชั่นพิเศษ ค่าโดยสารเครื่องบินต้นทุนต่ำมีราคาต่ำกว่าค่าโดยสารรถทัวร์วีไอพี (VIP) เสียอีก
นอกจากนั้น สายการบินปกติก็พยายามแข่งขันกับสายการบินต้นทุนต่ำ โดยคิดค่าโดยสารถูกลง ทำให้ประชาชนใช้บริการในการเดินทางโดยทางเครื่องบินมากยิ่งขึ้น
ครั้งหนึ่งผู้เขียนกับภรรยาเดินทางไปพักผ่อน ณ สถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งแม้จะไม่ไกลจากกรุงเทพมหานครมากนัก แต่เพื่อความสะดวกจึงเดินทางโดยเครื่องบิน ซึ่งเครื่องบินกำหนดออกเดินทางประมาณ 08.30 น.
เนื่องจากเป็นห่วงเรื่องการจราจรในกรุงเทพมหานคร ซึ่งเอาอะไรแน่นอนไม่ได้ จึงออกเดินทางจากบ้านตั้งแต่เช้า ถึงสนามบินเวลาประมาณ 07.00 น.
ถึงสนามบินก็ตกใจ เพราะสายการบินแจ้งว่าได้ยกเลิกเที่ยวบินดังกล่าวนี้แล้ว ทั้งนี้ ไม่ได้แจ้งให้ผู้เขียนทราบล่วงหน้า แต่ประการใด
เจ้าหน้าที่สายการบินนี้ได้ขอโทษขอโพย พร้อมกับเสนอทางเลือกว่าหากยังต้องการบินไปจุดหมายปลายทาง ก็ขอให้เดินทางในเที่ยวบินถัดไป ในเวลา 11.40 น. โดยจะจ่ายค่าเสียเวลาให้
เพราะการที่ไม่ได้แจ้งให้ผู้เขียนทราบเป็นการล่วงหน้า ทำให้เสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก จึงขอพบหัวหน้างานที่ทำหน้าที่ในวันนั้น พร้อมแจ้งว่าคงยอมไม่ได้เพราะจะต้องนั่งคอยที่สนามบินเกือบ 5 ชั่วโมง
เมื่อมีคำถามว่าต้องการให้สายการบินดำเนินการอย่างไร จึงได้ตอบไปว่าขอให้จัดเฮลิคอปเตอร์ไปส่งให้ หากทำไม่ได้จะได้ร้องเรียนต่อทางราชการต่อไป
จากคำตอบของผู้เขียนข้างต้น ทำให้ได้ข้อเสนอที่เป็นทางเลือก อีกทางหนึ่ง
นั่นคือสายการบินขอจัดรถลีมูซีน (Limousine) ให้ไปส่งที่จุดหมายปลายทางฟรี โดยจ่ายค่าเสียเวลา รวมทั้งจ่ายค่าโดยสารเครื่องบินคืนให้ ทั้งนี้ ขอจ่ายเป็นเงินสดให้ในทันที
แม้ไม่คุ้มกับเวลาและความรู้สึกที่เสียไป แต่เมื่อพิจารณาแล้ว เป็นว่าทางเลือกที่ดีที่สุดและสามารถรับได้ ประกอบกับใช้เวลาในการเดินทางจากสนามบินไปจุดหมายปลายทางประมาณ 3 ชั่วโมง
ไปโดยรถลีมูซีนถึงก่อนเที่ยวบินที่ออกจากกรุงเทพมหานคร ในเวลา 11.40 น. เสียอีก จึงยอมรับข้อเสนอ ตกลงการเดินทางในเที่ยวนี้ เป็นการเดินทางฟรีพร้อมได้เงินค่าเสียเวลาติดกระเป๋าด้วย
ในตอนนั้น ไม่ทราบเรื่องเงื่อนไขการบินตามประกาศของกระทรวงคมนาคมหรอกครับ แต่มีข้อคิดอย่างหนึ่งว่า การยอมรับอะไรง่ายๆ โดยไม่มีการต่อรองก็ย่อมเสียประโยชน์
เพราะหากยอมรับตามข้อเสนอแต่แรก แม้ว่าจะได้ค่าเสียเวลาแต่ยังต้องจ่ายค่าเครื่องบินอยู่ดี และไปถึงจุดหมายปลายทางหลังเวลาที่รถลีมูซีนจะเดินทางถึงด้วย
แล้วเพื่อนคนหนึ่งซึ่งเคยทราบเรื่องการยกเลิกเที่ยวบินของผู้เขียน ก็เจอการยกเลิกเที่ยวบินของสายการบินอีกสายหนึ่งบ้าง
เพื่อนคนนี้ไปทำงานราชการต่างจังหวัด โดยไปเช้าเย็นกลับ จองเที่ยวกลับไว้ในเวลา 20.55 น.
เวลา 09.28 น. ได้รับเอสเอ็มเอส (SMS) จากสายการบินว่าเที่ยวบินนั้นขอเลื่อนเป็นเวลา 21.15 น.
เวลา 11.52 น. ได้รับเอสเอ็มเอส (SMS) จากสายการบินนั้นอีกครั้งหนึ่งว่าขอยกเลิกเที่ยวบินนี้ โดยได้เสนอทางเลือกให้ผู้โดยสาร 2 ทาง คือ
ทางที่หนึ่ง ขอให้ผู้โดยสารที่จะเดินทางเที่ยวบินนี้ไปถึงสนามบิน เวลา 17.00 น. ทั้งนี้ เพื่อสายการบินจะจัดรถให้เดินทางไปโดยรถตู้ของสายการบินเพื่อไปขึ้นเครื่องบินที่อยู่อีกจังหวัดหนึ่งซึ่งใกล้เคียงกัน โดยเที่ยวบินนั้น มีกำหนดออกเดินทางกลับ กทม. ในเวลา 21.25 น.
ทางที่สอง สายการบินจะให้พักที่โรงแรมในจังหวัดนั้น และให้ขึ้นเครื่องกลับ กทม. ในวันรุ่งขึ้น
เพื่อนของผู้เขียนขอเดินทางไปยังสนามบินของอีกจังหวัดหนึ่งด้วยตนเองโดยขอค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เพราะงานราชการที่ทำอยู่ยังไม่แล้วเสร็จ แต่สายการบินนั้นไม่ยอมจ่ายให้
จึงจำเป็นต้องเดินทางด้วยตนเอง โดยไม่ได้รับค่าใช้จ่ายหรือค่าชดเชยใดๆ ทั้งสิ้น
เมื่อไปถึงสนามบินใหม่ ปรากฏว่าต้องนั่งคอยต่อไป เพราะเที่ยวบินนั้นเลื่อนเวลาจาก 21.25 น. เป็นเวลา 22.50 น.
จากทั้งสองเหตุการณ์นี้ทำให้ผู้เขียนต้องศึกษาเงื่อนไขการบินที่ทุกสายการบินได้ทำไว้กับกระทรวงคมนาคม
เพราะในข้อ 5 ของประกาศดังกล่าว ได้กำหนดให้สายการบินต้องปฏิบัติต่อผู้โดยสาร ในกรณีการยกเลิกเที่ยวบิน ไว้หลายประการ
เช่น ต้องชำระค่าชดเชยเป็นเงินสดจำนวน 1,200 บาท ให้แก่ผู้โดยสารทันทีก่อนที่ผู้โดยสาร จะออกเดินทางไปยังจุดหมายปลายทาง เว้นแต่สายการบินพิสูจน์ได้ว่า
ได้แจ้งข่าวการยกเลิกเที่ยวบินให้ผู้โดยสารทราบก่อนกำหนดวันเวลาเดินทางไม่น้อยกว่า 3 วัน หรือ
ได้แจ้งข่าวการยกเลิกเที่ยวบินให้ผู้โดยสารทราบก่อนกำหนดวันเวลาเดินทางไม่ถึง 3 วัน แต่เดินทางไปถึงจุดหมายปลายทางช้ากว่ากำหนดวันเวลาเดิมไม่เกิน 3 ชั่วโมง
สายการบินที่ผู้เขียนเดินทางไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า จึงจ่ายเงินชดเชยให้ ส่วนสายการบินที่เพื่อนเดินทางแม้ว่าได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า แต่กำหนดช้ากว่าเดิมไม่เกิน 3 ชั่วโมง จึงไม่จ่ายเงินชดเชยให้
หากสายการบินเสนอเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินไปยังสนามบินอื่นที่ใกล้เคียง สายการบินจะต้องรับภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปยังสนามบินใหม่ให้แก่ผู้โดยสาร
ซึ่งขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้โดยสารด้วย จึงมีปัญหาว่าเพื่อนที่ไม่สะดวกจะออกเดินทางไปพร้อมกับรถตู้ของสายการบินในเวลา 17.00 น. เพราะยังทำงานไม่แล้วเสร็จนี้ถือว่าไม่สะดวกหรือไม่ และสายการบินจะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายในการเดินทางด้วยตนเองของเพื่อนหรือไม่ ซึ่งกรณีนี้สายการบินไม่จ่ายให้
โดยที่ปัจจุบันสายการบินหลายสายมักจะเลื่อนหรือยกเลิกเที่ยวบินบ่อยมาก จนบางครั้งก็น่าสงสัยด้วยซ้ำว่าเที่ยวบินนั้นยกเลิกเพราะมีผู้โดยสารน้อย ไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายหรือเปล่า
จึงควรที่ผู้โดยสารจะได้มีประกาศดังกล่าว ติดตัวไว้เพื่อต่อรองกับสายการบิน โดยดาวน์โหลดได้ที่ https://www.aviation.go.th/upload/download/file_a682a2dc4b6d9de3199def2c82cd64d1.pdf หรือหากไม่พอใจจะได้เก็บข้อมูลไว้ร้องเรียนต่อสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยต่อไป
อนึ่ง โดยที่ประกาศกระทรวงคมนาคมไม่ได้กำหนดให้สายการบินรายงานการยกเลิกเที่ยวบินโดยระบุถึงสาเหตุการยกเลิกเที่ยวบินไว้ และไม่ทราบว่ามีระเบียบหรือประกาศอื่นกำหนดไว้หรือไม่
หากไม่มี ผู้เขียนอยากให้กำหนดไว้ด้วย เพราะนำมาประกอบการพิจารณาในการอนุญาตให้บินในโอกาสต่อไป สายการบินไม่พร้อมที่จะให้บริการผู้โดยสารก็ไม่ควรได้รับอนุญาตให้บิน
การกำหนดไว้เช่นนั้น ทำให้สายการบินต้องเตรียมความพร้อมด้านการบินมากขึ้น และอาจจะได้หลุดพ้นจากการได้รับใบเหลืองจากกรมการบินพลเรือนระหว่างประเทศ "ICAO " ได้เร็วขึ้น ที่สำคัญผู้โดยสารทั้งไทยและเทศจะได้ไม่ต้องเสียเวลาและเสียอารมณ์ให้กับเหตุการณ์ทำนองนี้อีก
อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/bmnd/2324124