ก่อนหน้านี้ตามข่าวที่บอกว่า ถ้าสนามบินอู่ตะเภาสร้างรันเวย์ที่ 2 แล้ว ก็จะไม่สามารถขุดอุโมงค์ทำสถานีรถไฟใต้สนามบินอู่ตะเภาได้ ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ไม่ได้สนใจ เพราะถึงจะไม่มีสถานีรถไฟอยู่ใต้อุโมงค์ แต่การสร้างสถานีรถไฟอยู่นอกสนามบิน ก็ยังสามารถทำรถไฟไร้คนขับเชื่อมระหว่างสถานีรถไฟอู่ตะเภาที่อยู่นอกสนามบินให้มาส่งผู้โดยสารในสนามบินได้
แต่พอมามองแนวเส้นทางรถไฟที่จะต้องขยายไปยังระยอง จันทบุรี ตราด เออ ควรจะทำอุโมงค์รถไฟอยู่ใต้สนามบิน เพราะจะทำให้ขยายเส้นทางรถไฟไป 3 จังหวัดนี้ได้ง่าย ตำแหน่งที่ตั้งสถานีอู่ตะเภาในตอนนี้ ถือว่าตั้งไม่ดีเท่าไร ขยายต่อไประยองยาก
ตามภาพนี้
https://imgz.io/image/Messenger-creation-47F7D914-CC9A-4CFE-9C48-E37D15C2EE0F.GiuZON
ภาครัฐเองก็ได้เซ็นต์สัญญาสร้างรันเวย์ที่ 2 ไปเมื่อเดือนก่อน ถ้าตอนนี้ไม่สามารถแก้ไขสัญญารันเวย์ได้แล้ว ต้องรีบดำเนินการสร้างรันเวย์ที่ 2 ของสนามบิน ไม่สามารถทำให้สถานีรถไฟอยู่ใต้สนามบินได้ ก็ควรจะหาที่ตั้งสถานีรถไฟอู่ตะเภาใหม่ ไม่ต้องอยู่ใต้สนามบินก็ได้ แต่ต้องให้อยู่ใกล้แหล่งชุมชน ให้คนในย่านชุมชนมาขึ้นได้ง่ายด้วย ให้มีประโยชน์ต่อผู้ประชาชนมากกว่านี้ ตำแหน่งที่ตั้งสถานีรถไฟตอนนี้ รู้สึกไม่ดีเลย หาที่ตั้งสถานีได้แย่
น่าจะตั้งสถานีรถไฟให้ใกล้สนามบินมากขึ้น ใกล้ห้าง ใกล้โรงพยาบาล ที่มีคนอยู่เยอะ อย่างแถวรพ.พระนางเจ้าสิริกิตต์ ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลโลตัสอู่ตะเภา ย่านนี้มีคนอาศัยอยู่กันมาก แล้วให้มีรถไฟฟ้าไร้คนขับจากสถานีอู่ตะเภาเชื่อมเข้าสนามบิน คอยรับส่งผู้โดยสารระหว่างสถานีรถไฟอู่ตะเภากับสนามบินอู่ตะเภา และมีรถ feeder รับผู้โดยสารมี่วิ่งจากสถานีรถไฟอู่ตะเภาไปส่งคนรอบๆ
ชุมชนที่อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ ส่วนสถานีเดิมก็ยุบ แล้วให้เป็นศูนย์ซ่อมบำรุงไป หรือถ้าจะให้เป็นสถานีรถไฟเหมือนเดิม ก็เปลี่ยนชื่อเป็นสถานีหาดกินรี เพราะอยู่ใกล้หาดกินรี
ตำแหน่งสถานีอู่ตะเภาควรตั้งตามลูกศรชี้ในภาพนี้
https://imgz.io/image/Messenger-creation-1C4D615A-CFE0-42B4-9240-F8F5D50B369F.Giv7Uz
ดีแล้วที่ยังรัฐบาลยังไม่ได้เซ็นต์สร้างทางคู่สายตะวันออก เพราะมองดูแล้วมีจุดสำคัญที่ต้องแก้ไขปรับปรุง นั่นก็คือตำแหน่งที่ตั้งสถานีรถไฟอู่ตะเภา ของที่มีอยู่ตอนนี้ใช้ไม่ได้ อยู่ไกลชุมชน อยู่ห่างสนามบินไปหน่อย ควรเขยิบเข้าไปให้ใกล้สนามบิน อยู่ในย่านชุมชนที่คนอาศัยกันมาก ให้เกิดประโยชน์ที่สุด
แต่ตำแหน่งที่ตั้งใหม่ซึ่งสะดวกต่อการขยายเส้นทางรถไฟไประยองนี้ ก็จะทำให้การเดินทางไปท่าเรือจุกเสม็ดยากขึ้น เพราะเลี้ยวซ้ายไประยอง เลี้ยวขวาไปจุดเสม็ด การออกแบบก็จะค่อนข้างยุ่งยาก คงต้องออกแบบว่า จากพลูตาหลวงไปมีรางอยู่ 2 ชุด วิ่งได้ 2 ทาง รางชุดแรกเลี้ยวซ้ายไปทางสนามบินอู่ตะเภา รางชุด 2 วิ่งไปท่าเรือจุกเสม็ด แล้วอาศัยการสับรางเอา
หรือถ้าจะไม่ให้ยุ่งยากในการเดินทางไปจุกเสม็ด ก็ต้องมีรถ feeder รับผู้โดยสารจากสถานีอู่ตะเภาไปที่จุกเสม็ด หรืออาจมีความจำเป็นต้องออกแบบทำรางรถไฟที่ผ่านสถานีพลูตาหลวงไปแล้วเป็น 2 ชุด เพราะมีความจำเป็นต้องขนส่งสินค้าที่ท่าเรือจุกเสม็ดด้วย รางชุดแรกเลี้ยวขวาไปสถานีอู่ตะเภา รางชุด 2 เลี้ยวซ้ายไปทางสถานีจุกเสม็ด
สถานีรถไฟอู่ตะเภาจะต้องอยู่ชั้นใต้ดิน เพื่อเลี่ยงการเวนคืนพื้นที่ตั้งอาคารต่างๆที่อยู่โดยรอบบริเวณนั้น แล้วเส้นทางรถไฟที่ต่อขยายไประยอง ก็ให้เฉียดสนามบินไปตามภาพ จะได้เลี่ยงการให้เส้นทางรถไฟไปอยู่ใต้รันเวย์ที่ 2 พอผ่านจากช่วงสนามบินไปแล้ว ก็ค่อยให้ทางรถไฟส่วนต่อขยายลอดอุโมงค์ใต้ดินขึ้นมาอยู่ระดับดินตามปกติ
ภาพทิศทางที่ดีของรางรถไฟจากอู่ตะเภาไประยอง
แนวรางรถไฟไปตามแนวลูกศรสีฟ้า
https://imgz.io/image/Messenger-creation-CAA3ACB0-536D-4B55-9760-15C902DA2458.GivGi4
การขยายทางคู่จากศรีราชามาถึงอู่ตะเภานั้นต้องวางแผนสร้างให้ดี ดูแล้วว่ารถไฟ 3 สนามบินจะไม่ได้สร้างเร็วๆนี้แน่ ถึงสร้างก็คงใช้เวลาราวๆ 10 ปีจึงจะเสร็จ ประเมินจากการสร้างรถไฟโคราชนะ
แผนก่อสร้างที่เหมาะสมตอนนี้คือ เร่งขยายทางคู่จากศรีราชามาอู่ตะเภา แล้วทำเป็นระบบรถไฟฟ้าสายสีแดง มีขบวนด่วนพิเศษ express line ที่ส่งเฉพาะจุดสำคัญ เฉพาะสถานีใหญ่ และมีขบวน city line ที่ส่งผู้โดยสารทุกสถานีแบบแอร์พอร์ตลิงค์ บางสถานีต้องมี 4 รางแบบสถานี arl หัวหมาก ให้ขบวนรถ city line ที่จอดทุกสถานีได้หยุดรอในช่วงขบวนด่วนพิเศษ express line วิ่งผ่านสถานีในช่วงเวลาที่ city line และ express line วิ่งผ่านสถานีเดียวกัน
ดูๆแล้ว การสร้างสายสีแดงอ่อนเป็นอะไรที่ต้องวางแผนมากกว่าที่คิดไว้ เพราะเมื่อไม่มีความไม่แน่นอนในการสร้างรถไฟ 3 สนามบิน ภาระก็ต้องมาตกอยู่กับรถไฟสายสีแดงตะวันออก สายสีแดงต้องเป็นสายหลักในการขนส่งผู้โดยสารไปทั้ง 3 สนามบินแทน
ที่ต้องทำต้องสร้างก็คือ บางสถานีจะมี 4 ราง เหมือนแอร์พอร์ตลิงคฺ์หัวหมาก เพื่อบริหารจัดการขบวนรถ express line และ city line ในบางช่วงเวลาได้อย่างลงตัว
อีกจุดหนึ่งที่สำคัญ ถ้าจะสร้างให้สายสีแดงเป็นสายขนส่งผู้โดยสาร 3 สนามบิน จะต้องขยายลิฟท์ขึ้นลงของสถานี arl ลาดกระบังด้วย ทำให้ลิฟท์มีความใหญ่ขึ้น จุคนได้มาก็ขึ้น ด้วยเหตุผลว่า ถ้าจะเดินทางจากสุวรรณภูมิไปอู่ตะเภา ก็ต้องนั่งรถ arl จากสนามบินมาลงที่ลาดกระบัง แล้วลงมาข้างล่าง เพื่อนั่งรถไฟฟ้าสายสีแดงสถานีลาดกระบังไปยังอู่ตะเภา การเปลี่ยนสายจาก arl เป็นสายสีแดง ควรให้ผู้โดยสารเปลี่ยนขบวนได้ง่ายที่สุด คือเปลี่ยนขบวนได้โดยไม่ต้องออกจากระบบ เหมือนกับการเปลี่ยนขบวนระหว่างสายสีเขียวกับสายสีชมพูที่วัดพระศรีมหาธาตุ ผู้โดยสารเปลี่ยนขบวนระหว่าง 2 สายนี้ง่ายมาก
แต่ต้องขยายลิฟท์ขึ้นลงของสถานี arl ลาดกระบังให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพราะต้องรับผู้โดยสารกลุ่มใหญ่ที่เดินทางออกจากสุวรรณภูมิมาเปลี่ยนลงสายสีแดงลาดกระบังเพื่อไปอู่ตะเภา ลิฟท์เดิมที่มีอยู่ของสถานี arl ลาดกระบังไม่น่าจะมีขนาดใหญ่พอรับผู้โดยสารทีละมากๆได้ เกิดมีผู้โดยสารจำนวนมากจากสุวรรณภูมิมาเปลี่ยนขบวนรถเป็นสายสีแดงที่ arl ลาดกระบัง ลิฟท์ของ arl ลาดกระบังคงขึ้นลงหลายรอบ กว่าจะรับผู้โดยสารมาเปลี่ยนขบวนรถเป็นสายสีแดงได้หมด
แล้วที่ยุ่งยากนิดนึงคือ ถ้าต้องการเปลี่ยนขบวนรถ ก็ต้องกดลิฟท์ 2 ครั้งด้วย คืออย่างนี้ว่า เวลารถออกจากสุวรรณภูมิ ก็ต้องมุ่งตรงไปทิศทางของมักกะสัน แต่อู่ตะเภาไปอีกทางนึง รถวิ่งสวนกัน ถ้าจะเปลี่ยนรถจาก arl เป็นสายสีแดง ก็ต้องลงรถสถานี arl ลาดกระบัง กดลิฟท์ลงมาข้างล่างชั้นนึง แล้วเดินไปลิฟท์ฝั่งตรงข้ามที่จะไปอู่ตะเภา แล้วกดลิฟท์ลงมาข้างล่างอีกชั้นนึงเพื่อมาลงชานชาลาสายสีแดงเพื่อไปอู่ตะเภา กลายเป็นว่ากดลิฟท์ 2 รอบ และถ้าใครจะนั่งสายสีแดงจากอู่ตะเภามาสุวรรณภูมิ ก็ต้องเปลี่ยนขบวนแล้วกดลิฟท์ขึ้น 2 ครั้งที่สถานี arl ลาดกระบังเหมือนกัน เพียงแต่เปลี่ยนฝั่งกัน
ทางที่ดีกว่า สะดวกกว่า คือสร้างรถไฟฟ้าไร้คนขับจากสุวรรณภูมิไปอยู่ใต้สถานีสายสีแดงลาดกระบัง ใครเปลี่ยนขบวนก็ขึ้นลิฟท์จากชั้นใต้ดินมานั่งสายสีแดงไปอู่ตะเภา ใครที่นั่งจากอู่ตะเภามาสุวรรณภูมิ ก็ลงที่ลาดกระบัง แล้วลงชั้นล่างไปนั่งรถไฟฟ้าไร้คนขับเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ
คนที่นั่งรถไฟฟ้าไร้คนขับเพื่อนเปลี่ยนขบวนได้ คือผู้ถือตั๋วเครื่องบินเท่านั้น อย่างนี้จะสะดวกที่สุด แต่ก็ลงทุนสูงกว่าการขยายลิฟท์ของสถานี arl ลาดกระบังแน่
ระยะทางที่จะทำให้รถไฟฟ้าไร้คนขับจากสนามบินสุวรรณภูมิมาสถานีสายสีแดงลาดกระบังก็ประมาณ 3 กิโลเมตรกว่า ถ้าจะทำให้เกิดความคุ้มค่าก็ให้มีจุดจอดรถไฟไร้คนขับตามอาคารสำคัญๆในสนามบินในช่วงระหว่างสถานีสายสีแดงลาดกระบังกับสนามบินด้วย เช่น คลังสินค้าการบินไทย ซึ่งอยู่ระหว่างสนามบินกับสถานีรถไฟลาดกระบัง
ใครจะมาประมูลทำทางคู่สายตะวันออกจากศรีราชาถึงอู่ตะเภา หรือประมูลทำรถไฟฟ้าสายสีแดงจากลาดกระบังถึงอู่ตะเภา ก็ต้องวางแผนมาอย่างดี วางมาอย่างละเอียดที่สุด ใครพร้อมสร้างด้วยเงื่อนไขที่เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด ก็เป็นผู้ชนะประมูล เราเองก็อยากได้ในเงื่อนไขที่ว่า พร้อมทำระบบรถไฟฟ้าไร้คนขับจากสนามบินสุวรรณภูมิมาเชื่อมต่อกับสถานีสายสีแดงลาดกระบัง และเปลี่ยนที่ตั้งสถานีอู่ตะเภาใหม่ตามที่บอกไว้ มีระบบรถไฟฟ้าไร้คนขับจากสถานีอู่ตะเภามาส่งผู้โดยสารยังสนามบินอู่ตะเภาด้วย
อู่ตะเภาได้สร้างรันเวย์ที่ 2 แล้วยัง เช็คพิกัดสถานีรถไฟอู่ตะเภา ดูที่ตั้งแย่ ทำให้ขยายทางรถไฟไประยอง-ตราด ยากหน่อย
แต่พอมามองแนวเส้นทางรถไฟที่จะต้องขยายไปยังระยอง จันทบุรี ตราด เออ ควรจะทำอุโมงค์รถไฟอยู่ใต้สนามบิน เพราะจะทำให้ขยายเส้นทางรถไฟไป 3 จังหวัดนี้ได้ง่าย ตำแหน่งที่ตั้งสถานีอู่ตะเภาในตอนนี้ ถือว่าตั้งไม่ดีเท่าไร ขยายต่อไประยองยาก
ตามภาพนี้
https://imgz.io/image/Messenger-creation-47F7D914-CC9A-4CFE-9C48-E37D15C2EE0F.GiuZON
ภาครัฐเองก็ได้เซ็นต์สัญญาสร้างรันเวย์ที่ 2 ไปเมื่อเดือนก่อน ถ้าตอนนี้ไม่สามารถแก้ไขสัญญารันเวย์ได้แล้ว ต้องรีบดำเนินการสร้างรันเวย์ที่ 2 ของสนามบิน ไม่สามารถทำให้สถานีรถไฟอยู่ใต้สนามบินได้ ก็ควรจะหาที่ตั้งสถานีรถไฟอู่ตะเภาใหม่ ไม่ต้องอยู่ใต้สนามบินก็ได้ แต่ต้องให้อยู่ใกล้แหล่งชุมชน ให้คนในย่านชุมชนมาขึ้นได้ง่ายด้วย ให้มีประโยชน์ต่อผู้ประชาชนมากกว่านี้ ตำแหน่งที่ตั้งสถานีรถไฟตอนนี้ รู้สึกไม่ดีเลย หาที่ตั้งสถานีได้แย่
น่าจะตั้งสถานีรถไฟให้ใกล้สนามบินมากขึ้น ใกล้ห้าง ใกล้โรงพยาบาล ที่มีคนอยู่เยอะ อย่างแถวรพ.พระนางเจ้าสิริกิตต์ ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลโลตัสอู่ตะเภา ย่านนี้มีคนอาศัยอยู่กันมาก แล้วให้มีรถไฟฟ้าไร้คนขับจากสถานีอู่ตะเภาเชื่อมเข้าสนามบิน คอยรับส่งผู้โดยสารระหว่างสถานีรถไฟอู่ตะเภากับสนามบินอู่ตะเภา และมีรถ feeder รับผู้โดยสารมี่วิ่งจากสถานีรถไฟอู่ตะเภาไปส่งคนรอบๆชุมชนที่อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ ส่วนสถานีเดิมก็ยุบ แล้วให้เป็นศูนย์ซ่อมบำรุงไป หรือถ้าจะให้เป็นสถานีรถไฟเหมือนเดิม ก็เปลี่ยนชื่อเป็นสถานีหาดกินรี เพราะอยู่ใกล้หาดกินรี
ตำแหน่งสถานีอู่ตะเภาควรตั้งตามลูกศรชี้ในภาพนี้
https://imgz.io/image/Messenger-creation-1C4D615A-CFE0-42B4-9240-F8F5D50B369F.Giv7Uz
ดีแล้วที่ยังรัฐบาลยังไม่ได้เซ็นต์สร้างทางคู่สายตะวันออก เพราะมองดูแล้วมีจุดสำคัญที่ต้องแก้ไขปรับปรุง นั่นก็คือตำแหน่งที่ตั้งสถานีรถไฟอู่ตะเภา ของที่มีอยู่ตอนนี้ใช้ไม่ได้ อยู่ไกลชุมชน อยู่ห่างสนามบินไปหน่อย ควรเขยิบเข้าไปให้ใกล้สนามบิน อยู่ในย่านชุมชนที่คนอาศัยกันมาก ให้เกิดประโยชน์ที่สุด
แต่ตำแหน่งที่ตั้งใหม่ซึ่งสะดวกต่อการขยายเส้นทางรถไฟไประยองนี้ ก็จะทำให้การเดินทางไปท่าเรือจุกเสม็ดยากขึ้น เพราะเลี้ยวซ้ายไประยอง เลี้ยวขวาไปจุดเสม็ด การออกแบบก็จะค่อนข้างยุ่งยาก คงต้องออกแบบว่า จากพลูตาหลวงไปมีรางอยู่ 2 ชุด วิ่งได้ 2 ทาง รางชุดแรกเลี้ยวซ้ายไปทางสนามบินอู่ตะเภา รางชุด 2 วิ่งไปท่าเรือจุกเสม็ด แล้วอาศัยการสับรางเอา
หรือถ้าจะไม่ให้ยุ่งยากในการเดินทางไปจุกเสม็ด ก็ต้องมีรถ feeder รับผู้โดยสารจากสถานีอู่ตะเภาไปที่จุกเสม็ด หรืออาจมีความจำเป็นต้องออกแบบทำรางรถไฟที่ผ่านสถานีพลูตาหลวงไปแล้วเป็น 2 ชุด เพราะมีความจำเป็นต้องขนส่งสินค้าที่ท่าเรือจุกเสม็ดด้วย รางชุดแรกเลี้ยวขวาไปสถานีอู่ตะเภา รางชุด 2 เลี้ยวซ้ายไปทางสถานีจุกเสม็ด
สถานีรถไฟอู่ตะเภาจะต้องอยู่ชั้นใต้ดิน เพื่อเลี่ยงการเวนคืนพื้นที่ตั้งอาคารต่างๆที่อยู่โดยรอบบริเวณนั้น แล้วเส้นทางรถไฟที่ต่อขยายไประยอง ก็ให้เฉียดสนามบินไปตามภาพ จะได้เลี่ยงการให้เส้นทางรถไฟไปอยู่ใต้รันเวย์ที่ 2 พอผ่านจากช่วงสนามบินไปแล้ว ก็ค่อยให้ทางรถไฟส่วนต่อขยายลอดอุโมงค์ใต้ดินขึ้นมาอยู่ระดับดินตามปกติ
ภาพทิศทางที่ดีของรางรถไฟจากอู่ตะเภาไประยอง แนวรางรถไฟไปตามแนวลูกศรสีฟ้า
https://imgz.io/image/Messenger-creation-CAA3ACB0-536D-4B55-9760-15C902DA2458.GivGi4
การขยายทางคู่จากศรีราชามาถึงอู่ตะเภานั้นต้องวางแผนสร้างให้ดี ดูแล้วว่ารถไฟ 3 สนามบินจะไม่ได้สร้างเร็วๆนี้แน่ ถึงสร้างก็คงใช้เวลาราวๆ 10 ปีจึงจะเสร็จ ประเมินจากการสร้างรถไฟโคราชนะ
แผนก่อสร้างที่เหมาะสมตอนนี้คือ เร่งขยายทางคู่จากศรีราชามาอู่ตะเภา แล้วทำเป็นระบบรถไฟฟ้าสายสีแดง มีขบวนด่วนพิเศษ express line ที่ส่งเฉพาะจุดสำคัญ เฉพาะสถานีใหญ่ และมีขบวน city line ที่ส่งผู้โดยสารทุกสถานีแบบแอร์พอร์ตลิงค์ บางสถานีต้องมี 4 รางแบบสถานี arl หัวหมาก ให้ขบวนรถ city line ที่จอดทุกสถานีได้หยุดรอในช่วงขบวนด่วนพิเศษ express line วิ่งผ่านสถานีในช่วงเวลาที่ city line และ express line วิ่งผ่านสถานีเดียวกัน
ดูๆแล้ว การสร้างสายสีแดงอ่อนเป็นอะไรที่ต้องวางแผนมากกว่าที่คิดไว้ เพราะเมื่อไม่มีความไม่แน่นอนในการสร้างรถไฟ 3 สนามบิน ภาระก็ต้องมาตกอยู่กับรถไฟสายสีแดงตะวันออก สายสีแดงต้องเป็นสายหลักในการขนส่งผู้โดยสารไปทั้ง 3 สนามบินแทน
ที่ต้องทำต้องสร้างก็คือ บางสถานีจะมี 4 ราง เหมือนแอร์พอร์ตลิงคฺ์หัวหมาก เพื่อบริหารจัดการขบวนรถ express line และ city line ในบางช่วงเวลาได้อย่างลงตัว
อีกจุดหนึ่งที่สำคัญ ถ้าจะสร้างให้สายสีแดงเป็นสายขนส่งผู้โดยสาร 3 สนามบิน จะต้องขยายลิฟท์ขึ้นลงของสถานี arl ลาดกระบังด้วย ทำให้ลิฟท์มีความใหญ่ขึ้น จุคนได้มาก็ขึ้น ด้วยเหตุผลว่า ถ้าจะเดินทางจากสุวรรณภูมิไปอู่ตะเภา ก็ต้องนั่งรถ arl จากสนามบินมาลงที่ลาดกระบัง แล้วลงมาข้างล่าง เพื่อนั่งรถไฟฟ้าสายสีแดงสถานีลาดกระบังไปยังอู่ตะเภา การเปลี่ยนสายจาก arl เป็นสายสีแดง ควรให้ผู้โดยสารเปลี่ยนขบวนได้ง่ายที่สุด คือเปลี่ยนขบวนได้โดยไม่ต้องออกจากระบบ เหมือนกับการเปลี่ยนขบวนระหว่างสายสีเขียวกับสายสีชมพูที่วัดพระศรีมหาธาตุ ผู้โดยสารเปลี่ยนขบวนระหว่าง 2 สายนี้ง่ายมาก
แต่ต้องขยายลิฟท์ขึ้นลงของสถานี arl ลาดกระบังให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพราะต้องรับผู้โดยสารกลุ่มใหญ่ที่เดินทางออกจากสุวรรณภูมิมาเปลี่ยนลงสายสีแดงลาดกระบังเพื่อไปอู่ตะเภา ลิฟท์เดิมที่มีอยู่ของสถานี arl ลาดกระบังไม่น่าจะมีขนาดใหญ่พอรับผู้โดยสารทีละมากๆได้ เกิดมีผู้โดยสารจำนวนมากจากสุวรรณภูมิมาเปลี่ยนขบวนรถเป็นสายสีแดงที่ arl ลาดกระบัง ลิฟท์ของ arl ลาดกระบังคงขึ้นลงหลายรอบ กว่าจะรับผู้โดยสารมาเปลี่ยนขบวนรถเป็นสายสีแดงได้หมด
แล้วที่ยุ่งยากนิดนึงคือ ถ้าต้องการเปลี่ยนขบวนรถ ก็ต้องกดลิฟท์ 2 ครั้งด้วย คืออย่างนี้ว่า เวลารถออกจากสุวรรณภูมิ ก็ต้องมุ่งตรงไปทิศทางของมักกะสัน แต่อู่ตะเภาไปอีกทางนึง รถวิ่งสวนกัน ถ้าจะเปลี่ยนรถจาก arl เป็นสายสีแดง ก็ต้องลงรถสถานี arl ลาดกระบัง กดลิฟท์ลงมาข้างล่างชั้นนึง แล้วเดินไปลิฟท์ฝั่งตรงข้ามที่จะไปอู่ตะเภา แล้วกดลิฟท์ลงมาข้างล่างอีกชั้นนึงเพื่อมาลงชานชาลาสายสีแดงเพื่อไปอู่ตะเภา กลายเป็นว่ากดลิฟท์ 2 รอบ และถ้าใครจะนั่งสายสีแดงจากอู่ตะเภามาสุวรรณภูมิ ก็ต้องเปลี่ยนขบวนแล้วกดลิฟท์ขึ้น 2 ครั้งที่สถานี arl ลาดกระบังเหมือนกัน เพียงแต่เปลี่ยนฝั่งกัน
ทางที่ดีกว่า สะดวกกว่า คือสร้างรถไฟฟ้าไร้คนขับจากสุวรรณภูมิไปอยู่ใต้สถานีสายสีแดงลาดกระบัง ใครเปลี่ยนขบวนก็ขึ้นลิฟท์จากชั้นใต้ดินมานั่งสายสีแดงไปอู่ตะเภา ใครที่นั่งจากอู่ตะเภามาสุวรรณภูมิ ก็ลงที่ลาดกระบัง แล้วลงชั้นล่างไปนั่งรถไฟฟ้าไร้คนขับเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ
คนที่นั่งรถไฟฟ้าไร้คนขับเพื่อนเปลี่ยนขบวนได้ คือผู้ถือตั๋วเครื่องบินเท่านั้น อย่างนี้จะสะดวกที่สุด แต่ก็ลงทุนสูงกว่าการขยายลิฟท์ของสถานี arl ลาดกระบังแน่
ระยะทางที่จะทำให้รถไฟฟ้าไร้คนขับจากสนามบินสุวรรณภูมิมาสถานีสายสีแดงลาดกระบังก็ประมาณ 3 กิโลเมตรกว่า ถ้าจะทำให้เกิดความคุ้มค่าก็ให้มีจุดจอดรถไฟไร้คนขับตามอาคารสำคัญๆในสนามบินในช่วงระหว่างสถานีสายสีแดงลาดกระบังกับสนามบินด้วย เช่น คลังสินค้าการบินไทย ซึ่งอยู่ระหว่างสนามบินกับสถานีรถไฟลาดกระบัง
ใครจะมาประมูลทำทางคู่สายตะวันออกจากศรีราชาถึงอู่ตะเภา หรือประมูลทำรถไฟฟ้าสายสีแดงจากลาดกระบังถึงอู่ตะเภา ก็ต้องวางแผนมาอย่างดี วางมาอย่างละเอียดที่สุด ใครพร้อมสร้างด้วยเงื่อนไขที่เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด ก็เป็นผู้ชนะประมูล เราเองก็อยากได้ในเงื่อนไขที่ว่า พร้อมทำระบบรถไฟฟ้าไร้คนขับจากสนามบินสุวรรณภูมิมาเชื่อมต่อกับสถานีสายสีแดงลาดกระบัง และเปลี่ยนที่ตั้งสถานีอู่ตะเภาใหม่ตามที่บอกไว้ มีระบบรถไฟฟ้าไร้คนขับจากสถานีอู่ตะเภามาส่งผู้โดยสารยังสนามบินอู่ตะเภาด้วย