บันทึกของทาม
"พ่อ เร็วๆหน่อยสิครับ โรงเรียนจะเข้าแล้ว”
เสียงของเด็กชาย วัยเก้าขวบ ที่ดูเหมือนตอนนี้จะพยายามบอกให้ผู้เป็นพ่อทำเวลาในการอาบน้ำแต่งตัว เพื่อที่จะได้ไปส่งเขาที่โรงเรียนให้ทัน แต่ตอนนี้เป็นเป็นเวลา 7.45น. ใกล้ถึงเวลาเคารพธงชาติเข้ามาทุกทีแล้ว แต่ดูวี่แววพ่อของเขายังไม่มีทีท่าจะเสร็จเลย
“พ่อรู้แล้วน่า เดี๋ยวเดียวก็จะเสร็จแล้ว ไม่สายหรอก”
ฟากพ่อก็ยังยืนยัน ว่าจะสามารถพาลูกชายไปทันเคารพธงชาติได้อย่างแน่นอน และนี่ก็ดูจะเหมือนเป็นเหตุการณ์ปกติแทบจะทุกวันที่เกิดขึ้นกับครอบครัวนี้
บ้านสองชั้นกึ่งไม้กึ่งปูนหลังหนึ่ง ที่สร้างอยู่ท่ามกลางสวนผลไม้นานาชนิด มีทั้งเงาะ มังคุด ทุเรียน ลางสาด ปลูกเรียงรายกันอยู่ ดูภายนอกแล้วช่างเป็นบ้านที่อบอุ่นและน่าอยู่อย่างยิ่ง เพราะบริเวณรอบๆบ้านรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ
มีต้นไม้เล็กใหญ่ ต่างพากันขึ้นสร้างร่มเงาให้บ้านได้เป็นอย่างดี ตัวบ้านถึงแม้จะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก
แต่ก็มีระเบียงสีขาวสะอาดตารอบๆบ้าน เอาไว้ให้ได้นั่งพักผ่อนหย่อนใจได้ ยิ่งเวลาผลไม้หลากหลายชนิดผลิดอก ออกผลพร้อมกันทั้งหมดแล้ว ยิ่งสร้างความสมบูรณ์ให้บ้านหลังนี้ขึ้นไปอีก ทามเด็กชายวัยเก้าขวบ เป็นลูกชายคนเดียวของบ้านหลังนี้
ที่มีพ่อเป็นข้าราชการและมีแม่ ผู้ซึ่งทำหน้าที่เป็นแม่บ้านอย่างเต็มตัวคอยดูแลทั้งทามและพ่อให้อยู่ดีมีสุขและกินอิ่มนอนหลับกันอย่างสบาย
“แปดโมงห้านาทีไหนว่าไม่สายไงครับพ่อ ช้าไปตั้งห้านาที”
เสียงบ่นของลูกชายที่ตอนนี้ นั่งอยู่ภายในรถเก๋งคันเก่าๆสีดำที่มีรอยบุบ รอยถลอกหลายแห่ง แสดงให้เห็นถึงอายุการใช้งานที่ยาวนานพอสมควร และตอนนี้แล่นมาจอดอยู่หน้าโรงเรียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“เอาน่า แค่ห้านาทีเอง เดี๋ยวพรุ่งนี้พ่อจะพามาแต่เช้าเลย โอเค นะ”
เด็กชายทาม ไม่ได้พูดตอบอะไรกลับไป นอกจากยกมือขึ้นมาเอานิ้วโป้งกับนิ้วชี้ชนกันเป็นวงกลม แล้วยกสามนิ้วที่เหลือขึ้น เป็นสัญลักษณ์ว่า โอเค
“พ่อมาส่งช้า พ่อทำเวลาหายไปห้านาที” ทามพึมพำ พลางเก็บสมุดเล่มเล็กใส่ลงในเป้สะพาย หลังลงจากรถเพื่อจะรีบวิ่งไปเข้าแถวเคารพธงชาติหน้าเสาธลง
“ฮัลโหล พ่อครับ ใกล้ถึงรึยังครับ ตอนนี้ทั้งโรงเรียนเหลือผมกับภารโรง แค่สองคน แล้วน่ะครับพ่อ”
ทามตัดพ้อผ่านทางโทรศัพท์ เมื่อเห็นว่า เด็กนักเรียนทั้งโรงเรียนกลับกันหมดแล้ว ยังมีก็แต่เขาที่นั่งรอพ่อมารับกลับบ้านอยู่
“ใกล้แล้วลูก ใกล้แล้ว พอดีพ่อติดประชุมเลยเลิกช้าหน่อยน่ะ นี่ก็ใกล้จะถึงโรงเรียนลูกแล้ว”
หลังวางสายโทรศัพท์ประมาณสิบห้านาที รถของพ่อก็มาจอดบริเวณหน้าโรงเรียน จุดเดิมที่มารับ-ส่งทามเป็นประจำทุกวัน โดยมีทามได้ยืนรออยู่ก่อนแล้ว เมื่อรถมาถึงเขาก็ไม่รอ ที่จะเปิดประตูก้าวขึ้นไปนั่งที่นั่งข้างคนขับทันที พร้อมกับหยิบสมุดบันทึกเล่มเล็กๆหน้าปกสีเทา และดินสอขึ้นมาเหมือนกับว่าเขากำลังจะจดอะไรซักอย่างลงไป
“จดการบ้านเหรอไอ้ตัวแสบ”
พ่อหันมาพูดเมื่อเห็นว่าลูกชายกำลังตั้งหน้าตั้งตาเขียนตัวหนังสือลงในสมุด
ทามได้แย่พยักหน้าหงกๆ..... [พ่อมารับช้า พ่อทำเวลาหายไปสิบห้านาที] .... นี่ต่างหาก
คือสิ่งที่เขาเขียนลงไป ในสมุดบันทึกปกสีเทาเล่มเล็กเล่มนั้น
“เออนี่ทาม พ่อคิดว่าช่วงนี้ที่ทำงานพ่อน่าจะมีประชุมหลังเลิกงานบ่อยขึ้น พ่อเลยคิดว่าจะให้ลูกไปโรงเรียนกับ รถรับ-ส่งนักเรียน ลูกว่าไง”
หลังบรรยากาศในรถเงียบไปซักพัก พ่อก็ได้เริ่มบทสนทนาขึ้นมา ที่จริงฟังดูแล้วน่าจะเป็นประโยคคำถามมากกว่า
“ไม่เป็นไรครับ ผมรอพ่อได้” นี่คือคำตอบของทาม
“อ้าว พ่อลูกกลับมากันแล้ว หิวกันแย่เลยสิ แม่เพิ่งตั้งโต๊ะเสร็จ กับข้าวกำลังร้อนๆเลย ไปล้างไม้ล้างมือแล้วมาทานข้าวกัน”
ทันทีที่ทามกับพ่อกลับมาถึงบ้าน แม่ก็รีบออกมารับกระเป๋าจากพ่อรวม ทั้งของใช้พะรุงพะรังอีกด้วย ในความคิดทาม แม่เป็นทั้งแม่ และแม่บ้านที่เป็นแบบอย่างที่ดี
ตั้งแต่จำความได้ ทามก็เห็นแม่ทำสิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นประจำทุกวัน ไม่เคยมีวันไหนที่เขากลับบ้านมา แล้วจะไม่ได้เห็นอาหารวางอยู่บนโต๊ะรอเขากับพ่อ กลับมาทานข้าวเย็นด้วยกันซักครั้ง
“เดี๋ยวคุณกับทาม ทานกันไปก่อนเลย ผมมีงานต้องเคลียร์อีกเยอะ ผมขอกาแฟซักถ้วยก็พอน่ะ”
พ่อพูดเสร็จก็รีบเดินเข้าห้องทำงานทันที โดยมีแม่รีบเดินตามออกไปในครัว เพื่อชงกาแฟเอาไปให้พ่อ
ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ที่โต๊ะอาหาร คงมีแค่ผมกับแม่ที่นั่งทานข้าวอยู่ด้วยกันเพียงสองคน แต่ก็ไม่ได้แปลกอะไรมากนัก เพราะพักหลังๆตั้งแต่พ่อเริ่มมีประชุมบ่อยขึ้น
งานพ่อเริ่มเยอะขึ้น พ่อก็ไม่ค่อยได้มาร่วมทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากับทามและแม่ซักเท่าไหร่ จนบางครั้งก็กลับกลายเป็นความเคยชินของทามไปซะแล้วที่ไม่เห็นพ่อบนโต๊ะอาหารเย็น
“พักนี้พ่อไม่ค่อยมีเวลาน่ะลูก อย่าคิดมากน่ะ”
ทันทีที่แม่เห็นทามนั่งเขี่ยข้าวเล่น และมีทีท่าไม่อยากทานข้าวซักเท่าไหร่ แม่ก็เข้าใจได้ทันที ว่านั่นคงเป็นเพราะอะไร
“ครับแม่”
และแล้วก็มีเพียงคำพูดสั้นๆ ของทาม ออกมาตามเคย เขาและแม่ใช้เวลาสั้นๆ เพียง 20 นาที ก็ทานอาหารเย็นเสร็จ หลังจากช่วยแม่เก็บจานชามไปล้างเรียบร้อย ทามก็ขออนุญาตแม่เข้าห้อง เพื่อไปทำการบ้าน แต่คงไม่ใช่แค่เรื่องการบ้านเพียงอย่างเดียว เขามีอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องทำ และดูเหมือนพักหลังๆเขาต้องหยิบมันออกมาใช้บ่อยขึ้น บ่อยขึ้นเรื่อยๆ
‘สมุดบันทึกปกสีเทา’
[พ่อไม่ทานข้าวเย็นกับพวกเรา พ่อทำเวลาหายไปยี่สิบนาที]
....... .....

เรื่องสั้น บันทึกของทาม
"พ่อ เร็วๆหน่อยสิครับ โรงเรียนจะเข้าแล้ว”
เสียงของเด็กชาย วัยเก้าขวบ ที่ดูเหมือนตอนนี้จะพยายามบอกให้ผู้เป็นพ่อทำเวลาในการอาบน้ำแต่งตัว เพื่อที่จะได้ไปส่งเขาที่โรงเรียนให้ทัน แต่ตอนนี้เป็นเป็นเวลา 7.45น. ใกล้ถึงเวลาเคารพธงชาติเข้ามาทุกทีแล้ว แต่ดูวี่แววพ่อของเขายังไม่มีทีท่าจะเสร็จเลย
“พ่อรู้แล้วน่า เดี๋ยวเดียวก็จะเสร็จแล้ว ไม่สายหรอก”
ฟากพ่อก็ยังยืนยัน ว่าจะสามารถพาลูกชายไปทันเคารพธงชาติได้อย่างแน่นอน และนี่ก็ดูจะเหมือนเป็นเหตุการณ์ปกติแทบจะทุกวันที่เกิดขึ้นกับครอบครัวนี้
บ้านสองชั้นกึ่งไม้กึ่งปูนหลังหนึ่ง ที่สร้างอยู่ท่ามกลางสวนผลไม้นานาชนิด มีทั้งเงาะ มังคุด ทุเรียน ลางสาด ปลูกเรียงรายกันอยู่ ดูภายนอกแล้วช่างเป็นบ้านที่อบอุ่นและน่าอยู่อย่างยิ่ง เพราะบริเวณรอบๆบ้านรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ
มีต้นไม้เล็กใหญ่ ต่างพากันขึ้นสร้างร่มเงาให้บ้านได้เป็นอย่างดี ตัวบ้านถึงแม้จะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก
แต่ก็มีระเบียงสีขาวสะอาดตารอบๆบ้าน เอาไว้ให้ได้นั่งพักผ่อนหย่อนใจได้ ยิ่งเวลาผลไม้หลากหลายชนิดผลิดอก ออกผลพร้อมกันทั้งหมดแล้ว ยิ่งสร้างความสมบูรณ์ให้บ้านหลังนี้ขึ้นไปอีก ทามเด็กชายวัยเก้าขวบ เป็นลูกชายคนเดียวของบ้านหลังนี้
ที่มีพ่อเป็นข้าราชการและมีแม่ ผู้ซึ่งทำหน้าที่เป็นแม่บ้านอย่างเต็มตัวคอยดูแลทั้งทามและพ่อให้อยู่ดีมีสุขและกินอิ่มนอนหลับกันอย่างสบาย
“แปดโมงห้านาทีไหนว่าไม่สายไงครับพ่อ ช้าไปตั้งห้านาที”
เสียงบ่นของลูกชายที่ตอนนี้ นั่งอยู่ภายในรถเก๋งคันเก่าๆสีดำที่มีรอยบุบ รอยถลอกหลายแห่ง แสดงให้เห็นถึงอายุการใช้งานที่ยาวนานพอสมควร และตอนนี้แล่นมาจอดอยู่หน้าโรงเรียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“เอาน่า แค่ห้านาทีเอง เดี๋ยวพรุ่งนี้พ่อจะพามาแต่เช้าเลย โอเค นะ”
เด็กชายทาม ไม่ได้พูดตอบอะไรกลับไป นอกจากยกมือขึ้นมาเอานิ้วโป้งกับนิ้วชี้ชนกันเป็นวงกลม แล้วยกสามนิ้วที่เหลือขึ้น เป็นสัญลักษณ์ว่า โอเค
“พ่อมาส่งช้า พ่อทำเวลาหายไปห้านาที” ทามพึมพำ พลางเก็บสมุดเล่มเล็กใส่ลงในเป้สะพาย หลังลงจากรถเพื่อจะรีบวิ่งไปเข้าแถวเคารพธงชาติหน้าเสาธลง
“ฮัลโหล พ่อครับ ใกล้ถึงรึยังครับ ตอนนี้ทั้งโรงเรียนเหลือผมกับภารโรง แค่สองคน แล้วน่ะครับพ่อ”
ทามตัดพ้อผ่านทางโทรศัพท์ เมื่อเห็นว่า เด็กนักเรียนทั้งโรงเรียนกลับกันหมดแล้ว ยังมีก็แต่เขาที่นั่งรอพ่อมารับกลับบ้านอยู่
“ใกล้แล้วลูก ใกล้แล้ว พอดีพ่อติดประชุมเลยเลิกช้าหน่อยน่ะ นี่ก็ใกล้จะถึงโรงเรียนลูกแล้ว”
หลังวางสายโทรศัพท์ประมาณสิบห้านาที รถของพ่อก็มาจอดบริเวณหน้าโรงเรียน จุดเดิมที่มารับ-ส่งทามเป็นประจำทุกวัน โดยมีทามได้ยืนรออยู่ก่อนแล้ว เมื่อรถมาถึงเขาก็ไม่รอ ที่จะเปิดประตูก้าวขึ้นไปนั่งที่นั่งข้างคนขับทันที พร้อมกับหยิบสมุดบันทึกเล่มเล็กๆหน้าปกสีเทา และดินสอขึ้นมาเหมือนกับว่าเขากำลังจะจดอะไรซักอย่างลงไป
“จดการบ้านเหรอไอ้ตัวแสบ”
พ่อหันมาพูดเมื่อเห็นว่าลูกชายกำลังตั้งหน้าตั้งตาเขียนตัวหนังสือลงในสมุด
ทามได้แย่พยักหน้าหงกๆ..... [พ่อมารับช้า พ่อทำเวลาหายไปสิบห้านาที] .... นี่ต่างหาก
คือสิ่งที่เขาเขียนลงไป ในสมุดบันทึกปกสีเทาเล่มเล็กเล่มนั้น
“เออนี่ทาม พ่อคิดว่าช่วงนี้ที่ทำงานพ่อน่าจะมีประชุมหลังเลิกงานบ่อยขึ้น พ่อเลยคิดว่าจะให้ลูกไปโรงเรียนกับ รถรับ-ส่งนักเรียน ลูกว่าไง”
หลังบรรยากาศในรถเงียบไปซักพัก พ่อก็ได้เริ่มบทสนทนาขึ้นมา ที่จริงฟังดูแล้วน่าจะเป็นประโยคคำถามมากกว่า
“ไม่เป็นไรครับ ผมรอพ่อได้” นี่คือคำตอบของทาม
“อ้าว พ่อลูกกลับมากันแล้ว หิวกันแย่เลยสิ แม่เพิ่งตั้งโต๊ะเสร็จ กับข้าวกำลังร้อนๆเลย ไปล้างไม้ล้างมือแล้วมาทานข้าวกัน”
ทันทีที่ทามกับพ่อกลับมาถึงบ้าน แม่ก็รีบออกมารับกระเป๋าจากพ่อรวม ทั้งของใช้พะรุงพะรังอีกด้วย ในความคิดทาม แม่เป็นทั้งแม่ และแม่บ้านที่เป็นแบบอย่างที่ดี
ตั้งแต่จำความได้ ทามก็เห็นแม่ทำสิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นประจำทุกวัน ไม่เคยมีวันไหนที่เขากลับบ้านมา แล้วจะไม่ได้เห็นอาหารวางอยู่บนโต๊ะรอเขากับพ่อ กลับมาทานข้าวเย็นด้วยกันซักครั้ง
“เดี๋ยวคุณกับทาม ทานกันไปก่อนเลย ผมมีงานต้องเคลียร์อีกเยอะ ผมขอกาแฟซักถ้วยก็พอน่ะ”
พ่อพูดเสร็จก็รีบเดินเข้าห้องทำงานทันที โดยมีแม่รีบเดินตามออกไปในครัว เพื่อชงกาแฟเอาไปให้พ่อ
ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ที่โต๊ะอาหาร คงมีแค่ผมกับแม่ที่นั่งทานข้าวอยู่ด้วยกันเพียงสองคน แต่ก็ไม่ได้แปลกอะไรมากนัก เพราะพักหลังๆตั้งแต่พ่อเริ่มมีประชุมบ่อยขึ้น
งานพ่อเริ่มเยอะขึ้น พ่อก็ไม่ค่อยได้มาร่วมทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากับทามและแม่ซักเท่าไหร่ จนบางครั้งก็กลับกลายเป็นความเคยชินของทามไปซะแล้วที่ไม่เห็นพ่อบนโต๊ะอาหารเย็น
“พักนี้พ่อไม่ค่อยมีเวลาน่ะลูก อย่าคิดมากน่ะ”
ทันทีที่แม่เห็นทามนั่งเขี่ยข้าวเล่น และมีทีท่าไม่อยากทานข้าวซักเท่าไหร่ แม่ก็เข้าใจได้ทันที ว่านั่นคงเป็นเพราะอะไร
“ครับแม่”
และแล้วก็มีเพียงคำพูดสั้นๆ ของทาม ออกมาตามเคย เขาและแม่ใช้เวลาสั้นๆ เพียง 20 นาที ก็ทานอาหารเย็นเสร็จ หลังจากช่วยแม่เก็บจานชามไปล้างเรียบร้อย ทามก็ขออนุญาตแม่เข้าห้อง เพื่อไปทำการบ้าน แต่คงไม่ใช่แค่เรื่องการบ้านเพียงอย่างเดียว เขามีอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องทำ และดูเหมือนพักหลังๆเขาต้องหยิบมันออกมาใช้บ่อยขึ้น บ่อยขึ้นเรื่อยๆ
‘สมุดบันทึกปกสีเทา’
[พ่อไม่ทานข้าวเย็นกับพวกเรา พ่อทำเวลาหายไปยี่สิบนาที]
....... .....