*** มหากาพย์ 4G ไทยแพงที่สุดในโลก ***



4Gคลื่น 900MHz ทุบสถิติราคาแพงที่สุดในโลกไปแล้ว มีโอกาสทะลุ 1 แสนลบ./ใบ ราคาคลื่นต่อMHzต่อจำนวนประชากรย่าน 900KHzของไทย ติดอันดับต้นๆ ของโลก ทางCLSAจ่อปรับลดราคาเป้าหมายหุ้นในกลุ่มสื่อสาร เม่าคัทลอส

          ประมูล 4G คลื่นความถี่ 900MHz แข่งดุเดือดปรอทแตก ผิดความคาดหมาย การประมูลเริ่มตั้งแต่เวลา 09.00น. ของวันที่ 15 ธ.ค. 58 จนถึงเย็นวันศุกร์ที่ 18 ธ.ค. 58 การประมูลยังคงดำเนินต่อไป โดยใช้เวลาถึง 4 วัน แต่ผู้ประกอบการทั้ง 4 ราย ไม่มีใครถอดใจ พับเสื่อกลับบ้าน จนราคาประมูลเหนือกว่าระดับ 7 หมื่นลบ.ต่อใบ รวม 2 ใบ กว่า 1.5 แสนลบ. ทำสถิติแพงที่สุดในโลกไปแล้ว ทำให้ทางกสทช.ออกมาประเมินว่าราคาประมูล4G คลื่น 900MHz มีโอกาสพุ่งทะยานขึ้นไปถึงระดับ 1 แสนลบ.ต่อใบอนุญาต

**กสทช.คาดมีโอกาสเห็นประมูลคลื่น900 MHz ทะลุ 1 แสนลบ.ต่อใบ หลังล่าสุดแตะ 7 หมื่นลบ.
          นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เปิดเผยว่า มองว่าหากการประมูล 4G คลื่น 900 MHz ยังคงแข่งขันกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประเมินว่ามีความเป็นไปได้จะเห็นราคาใบอนุญาตแตะ 1 แสนล้านบาทต่อใบได้ หลังจาก ล่าสุดราคาใบอนุญาตอยู่ที่ประมาณ 70,000 ล้านบาทต่อใบแล้ว
          ทั้งนี้ มองว่าต่อให้ราคาใบอนุญาตพุ่งขึ้นไปที่ 80,000 ล้านบาทต่อใบ ผู้เข้าแข่งขันที่เป็นรายใหญ่น่าจะสบายใจและรับมือได้ แต่ที่น่าเป็นห่วง คือผู้ประกอบการรายเล็ก และเป็นบริษัทใหม่ที่จะก้าวสู่ตลาดมือถือ เนื่องจากจะต้องประเมินว่าต้นทุนสูงเกินไปแล้วหรือไม่ ซึ่งมองว่าผู้เข้าประมูลทุกรายจะมีระดับราคาในใจอยู่แล้วว่าถึงจะจุดไหนที่จะขาดทุนแล้วรับไม่ได้ แต่ขณะนี้ยังเคาะราคาสู้กันต่อเนื่อง แปลว่าทุกรายยังคงรับได้กับระดับราคาดังกล่าว
          นายประวิทย์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้หากราคาการประมูลยังคงทะยานขึ้นต่อเนื่อง มองว่าผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการคือ ทำให้ต้องใช้เงินลงทุนกับการประมูลคลื่นความถี่มาก ซึ่งอาจจะทำให้เหลือเงินในการขยายโครงข่ายน้อยลง รวมถึงผู้ประกอบการอาจจะลดค่าบริการช้าลง เช่น ทีละ 1% เป็นต้น ดังนั้นในฐานะผู้บริโภคเมื่อจะสมัครใช้บริการ 4G ก็ต้องพิจารณาดูว่าค่ายไหนที่มีบริการที่ครอบคลุมและทั่วถึง
          "ถ้าผู้ประกอบการคิดราคาสูงเกินไป เราจะให้เขาแก้ไขไปตามกติกา ถ้าไม่ทำเราก็จะปรับ ผมเชื่อว่าเรื่องนี้เอกชนรู้ดี"นายประวิทย์ กล่าว
          ทั้งนี้ เชื่อว่าจะไม่มีการผูกขาดในธุรกิจ แม้ว่าหากผลประมูลออกมาจะเป็น 2 รายเดิมที่ชนะประมูลคลื่น 1800 MHz เนื่องจากกสทช. มีกฎกติกาในการดูแลอยู่แล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ประกอบการใช้อำนาจเหนือตลาด และนอกจากนี้การเปิดประมูลในครั้งถัดไป กสทช.ก็จะเปิดให้รายใหม่เข้ามามากขึ้น เพื่อให้เกิดการแข่งขัน

**กสชท. คาดหากราคาประมูล 4G คลื่น 900MHzแตะ 1 แสนลบ./ใบ ดันราคาคลื่นต่อMHzต่อจำนวนประชากรย่าน 900KHzของไทย ขึ้นอันดับ 2 ของโลก
          นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เปิดเผยว่า ขณะนี้ราคาประมูลคลื่นความถี่ต่อ MHz ต่อจำนวนประชากรของย่าน 900 MHz ของไทยอยู่อันดับ 3 ของโลก ซึ่งใช้สูตรการคำนวณจากหน่วยงานกำกับของประเทศอังกฤษ โดยราคาประมูลคลื่นความถี่ของไทยอยู่ที่ 52.70 บาทต่อคน ซึ่งคิด ณ รอบการประมูลที่ 179 ที่ราคารวมคลื่น 900 MHz 141,326 ล้านบาท
          อย่างไรก็ตามมองว่าถ้าราคาประมูลคลื่น 900 MHz ทะยานมาที่ 1 แสนล้านบาทไทยอาจจะเลื่อนมาอยู่ที่อันดับ 2 ของโลก แทนฮังการี ซึ่งปัจจุบันฮังการีอยู่ที่ 73.40 บาทต่อ MHz ต่อคน ส่วนอันดับหนึ่งขณะนี้เป็นฮ่องกง อยู่ที่ 122.60 บาทต่อ MHz ต่อคน ราคาประมูลระดับนี้ทางผู้ประกอบการยังอยู่ได้ แต่จะแค่ขาดทุนกำไร เพราะถ้าขาดทุนจริงคงน่าจะหยุดแข่งประมูลกันไปแล้ว ซึ่งคาดว่าเวลา 21.00 น.ของวันที่ 18 ธ.ค. 58 ราคาต่อใบจะขึ้นมาที่ 77,000 บาท แต่ถ้าประมูลไปจนถึงวันอาทิตย์น่าจะกระโดดมาที่ 1 แสนล้านบาทต่อใบ แต่ก็ไม่อยากให้ไปถึงระดับนั้น


**กสทช.ระบุผู้ประกอบการเพียงขาดทุนกำไร หากไม่คุ้มทุนหยุดเคาะไปแล้ว
          นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เปิดเผยว่า เรื่องการจ่ายเงินค่าใบอนุญาตไม่น่าจะเป็นประเด็นที่จะกังวล เพราะผู้ประกอบการแต่ละรายไม่ได้มาประมูลเล่นๆ แต่มีการคำนวณต้นทุนไว้แล้ว และทราบเงื่อนไขของการจ่ายใบอนุญาต นอกจากนี้ การคำนวณต้นทุนในการเข้าประมูลคลื่นความถี่ ยังเป็นการคำนวณที่แม่นยำและเที่ยงตรงมากกว่าการประเมินมูลค่าที่จะได้จากทีวี ดิจิทัล
          "เขาขาดทุนกำไรครับ ถ้าขาดทุนจริงคงจะหยุดเคาะกันไปแล้ว คาดว่า 3 ทุ่มของวันที่ 18 ธ.ค. 58 น่าจะแตะ 77,000 ล้านบาทต่อใบ แต่จะไปหยุดที่เท่าไร จบลงเมื่อไรประเมินไม่ถูกครับ"นายฐากร กล่าว

** CLSA จ่อปรับลดราคาเป้าหมายหลังประมูล 4G คลื่น 900 MHz ดุ
          นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บล.ซี แอล เอส เอ (ประเทศไทย) หรือCLSA เปิดเผยว่า บริษัทฯเตรียมปรับลดราคาเป้าหมายหุ้นกลุ่มสื่อสารลง หลังการประมูล 4G คลื่น 900 MHz รวม 2 ใบอนุญาตทะลุแสนล้าน ซึ่งประเมินว่าแพงที่สุดในโลก โดยนักลงทุนสถาบันต่างชาติอยู่ระหว่างประเมินผลประมูล 4G ของไทย ทำให้ชะลอการลงทุนหุ้นกลุ่มสื่อสารออกไป อย่างไรก็ตามหากการประมูลสิ้นสุดลงสถาบันต่างชาติจะกลับมาลงทุนในหุ้นสื่อสารต่อ เนื่องจากยังมีพื้นฐานดี
          "ขณะนี้ต่างชาติรอดูการประมูล 4G ซึ่งการแข่งขันดุเดือดกว่าได้ประเมินไว้ แต่โดยพื้นฐานแล้วผลประกอบการของหุ้นกลุ่มสื่อสารถือว่าแข็งแกร่ง โดยเฉพาะ ADVANC และINTUCH ในระยะสั้น Outperform และที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับตัวลดลงมามาก ส่วน TRUE ในระยะยาวมีความน่าสนใจเพราะมีใบอนุญาตในมืออยู่แล้ว แต่คนที่น่าห่วงที่สุดคือ DTAC ซึ่งถ้าพลาดการประมูลครั้งนี้จะส่งผลให้ความสามารถในการแข่งขันลดลง ในขณะที่ JAS คาดว่าจะสู้เต็มที่หรืออาจจะหาพาร์ทเนอร์เข้ามา" นายปริญญ์ กล่าว

**โบรกฯคาด หากDTACและJAS ชนะประมูล มีความเสี่ยงสูงจะต้องเพิ่มทุน
          บล.ยูโอบี เคย์เฮียน(ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ผลการประมู4Gอันดุเดือดของคลื่น 900MHz และ1800MHz ได้บั่นทอนมูลค่าของหุ้นผู้ที่ชนะการประมูลในระยะสั้น โดยเฉพาะคลื่น 900MHz ยังคงดำเนินการประมูลอย่างยืดเยื้อ กินเวลามานานกว่าหลายวัน ฝ่ายวิจัยคาดว่าหุ้นที่จะชนะการประมูลคือADVANC และDTAC และคาดว่าหุ้นที่มีความเสี่ยงสูงในการเพิ่มทุนได้แก่DTAC และJAS หากชนะการประมูล ฝ่ายวิจัยยังคงเลือกให้ADVANC แนะนำซื้อด้วยราคาพื้นฐานที่ระดับ 255 บาท

**สมมุติฐานการลงทุน หลังได้ผู้ชนะประมูล 4G
          บล.ธนชาต ได้ทำสมมุติฐานการลงทุนภายหลังการประมูล 4G บนคลื่น 900MHz ไว้ 4 กรณี ด้วยกัน
          1.กรณี JAS ไม่ชนะ แนะนำให้ซื้อ จากโอกาสจ่ายปันผลพิเศษ เพราะการแข่งขันในธุรกิจบรอดแบนด์ จะรุนแรงน้อยกว่าที่ควร และราคาหุ้นลงมามากแล้ว ส่งผลให้ผลตอบแทนเงินปันผลสูงกว่า 5%
          2.กรณี JAS หรือ DTAC ชนะ แต่ TRUE ไม่ชนะ แนะนำซื้อ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล(DIF) เนื่องจากฐานะการเงินของ ผู้ชนะจะอ่อนแอลง ขณะที่ต้องเร่งขยาย จึงมีความต้องการเช่าเสาจาก DIF มากขึ้น
          3.กรณี JAS และ ADVANC ชนะ แนะหลีกเลี่ยงทุกตัว เพราะอาจมีแรงขายเข้ามาจากความกังวลว่าความแข่งขันจะสูง
          4. กรณี JAS และ DTAC ชนะ และ ราคา ADVANC ปรับลงแรง แนะนำ “ซื้อ” ADVANC เพราะอัตราจ่ายปันผลของ ADVANC จะยังคงอยู่ในระดับสูง
เม่าจอแดงเม่าจอแดง2เม่าตกใจเม่าติดดอย

Credited picture by ovenvever & efinancethai

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่