สวัสดี การเดินทางในครั้งนี้ เป็นครั้งเเรกที่เราได้ไปต่างประเทศครั้งเเรกเลยค่ะ (¯▽¯；)
เราได้ไปเชจูกับทริปค่ะ ในราคาถูกเเสนจะถูก เพียง 9,500 บาทเองคะ ราคานี้รวมทั้ง ค่าที่พัก อาหาร ค่าเข้าในสถานที่ต่างๆเลยค่ะ ☺
เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ ......
เราขึ้นเครื่องในวันที่ 7 ธค. เวลา 02.30 น. โดยสายการบิน Eastar jet เป็นเเบบ economy ชั้นประหยัดเลยค่ะ ถือว่าไม่โลคลาสมาก บริการดีเลยค่ะ
เราได้มาถึงสนามบินของเชจูในเวลา 10.00 น. เวลาของเกาหลีค่ะ ( เวลาไทยกับเกาหลีห่างกัน 2 คะ )
วันเรกของการเดินทาง
พอถึงสนามบินไกด์จะมารอเราที่ทางออกค่ะ เพื่อพาเราไปขึ้นที่รถ พอลงจากเครื่องก้หิวกันเลย ไกด์พาเราไปกินอาหารเกาหลมื้อเเรกเลยค่ะ
ชื่อว่า
จิมตั๊ก เป็นไก้ตุ๋นกับพะโล้ค่ะ น้ำพะโล้จะเหนียวๆ เเละมีเส้นบุกที่ทำจาก มันสำปะหลังคะ กินกับข้าวสวร้อนๆ ถือว่าอร่อยเลยทีเดียวววว
พอกินเสร็จที่เกาหลีเขาจะไม่มีเเม่บ้านมาเก็บจานชามให้เรา เราต้องเก็บเองค่ะ สถานที่ต่อไปคือ
ภูเขาฮัลลาซาน อากาศ 1 องศาเองค่ะ เเต่ว่าอยู่เเค่ข้างล่างเลยมีหิมะนิดเดียวเองคะ เเต่สวยมากค่ะ ภูเขาฮัลลาซานถือว่าเป้นจุดกำเนิดของเกาะเชจูเลยค่ะ
[img]http://f.ptcdn.info/394/038/000/[img]
จขกท เองคะ >< อยู่บนเขาได้เเค่ครึ่งชั่วโมงเองค่ะ หนาวเกินไปปปป ☃ ❆ เราไปสถานที่ที่สองเลยดีกว่าค่ะ เชื่อว่าทุกคนต้องชอบเเน่ๆเลย ย้อนวัยเด็กกันสักหน่อยกับ
Hello kitty island ทุกสิ่งเป็นคิตตี้หมดค่ะ เหมือนเป็นบ้านเลย มีทั้งหมด 3 ชั้น มีร้านกาเเฟชั้น 2 ร้านขายของชั้น 3 ราคาของถือว่าสูงพอสมควรค่ะ ไปดูกันดีกว่าค้าาาาาาา
ออกจากบ้านคิตตี้ก็เดินทางสู่
ไร่ชา O'sulloc ไร่ชาโอซุลโล ถือว่าเป็นไร่ชาที่มีชาเขียวคุณภาพดีเลยค่ะ ใครไปที่นี่ต้องโดนกับไอศครีม เเละ โรลชาเขียวค่ะ เเต่ตอนที่ไปโรลหมดพอดีค่ะ TT ไอศครีมราคาอยุ่ที่ 4500 วอน (ประมาณ 150 บาท) รสชาติถูกคอมาก ไม่หวานเกินไป อร่อย ฟินมากค่ะ
หลังจากที่อิ่มท้องเเล้ว เรามาถ่ายรูปกันที่เเลนด์มาร์กของที่นี่ค่ะ มาเเล้วห้ามพลาดถ่ายรูปเลยค่ะ
ลืมบอกค่ะ เวลาที่ข้ามถนนของที่นี่มีสัญญาณไฟข้ามถนนอัตโนมัตินะค่ะ ระวังกันด้วยนะคะ
จากไร่ชามาต่อ
สวนส้มไร้เม็ด คะ บอกก่อนเลยว่าที่เชจูปลูกส้มเเล้วไม่มีเม็ดเลยคะ เป็นส้มไร้เม็ด หวานอร่อยมากคะ เขาจะให้เราเดินรอบสวนคะ พอออกจากสวนเขาจะให้ส้มเราคนละ 2 ใบค่ะ
อิ่มอีกละค่ะ เดินทางต่ออีกเเบ้ววว คราวนี้เราไปกันที่
วัดซันบังซา ภายในวัดจะประดิษฐานพระพุทธรูป เเละ รูปปั้นเจ้าเเม่กวนอิมค่ะ ที่วัดนี้มีข้าวสาร ให้เราทำบุญนะค่ะ ราคา 5000 วอน นำข้าวสารไปวางใต้พระพุทธรูป พร้อมทั้งตีระฆังรอบองค์พระค่ะ
ได้บุญเสร้จเเล้วเราก็ลงไปขึ้นรถค่ะ มุ่งหน้าไปที่สุดท้ายของวันนี้ก่อนเข้าที่พัก ชื่อว่า
จูซังจอลลี เป็นที่ๆโรเเมนติกมากค่ะ มาดูพระอาทิตย์ตกที่นี่สวยมากค่ะ
ออกมาจากจูซังจอลลี เราจะพบกับร้านค้ามากมายค่ะ เราได้ไปซื้อโอเด้งค่ะ ไม้ละ 1000 วอน (33 บาทไทย) อร่อยดีค่ะ อากาศเย็นๆ กินอะไรร้อนๆก็รู้สึกดีค่ะ
ในเวลาประมาณ 17.30 เราได้เดินทางไปกินอาหารเย็นค่ะ เรียกว่าเป็นมื้ออร่อยอีกมื้อเลยค่ะ มื้อนี้คือ
พุลโกกิ เป็นหมูดำชิ้นบางๆ ผักต่างๆ กินกับเครื่องเคียง เช่น กิมจิ ถั่วงอกดอง ถั่วงอกดองอร่อยมากค่ะ เครื่องปรุงพิเศษคือ ผงกระดูกม้าเพิ่มความหวานค่ะ เเต่ไกด์มาบอกในวันที่สอง TT มื้อนี้ไม่ได้ถ่ายรุปไว้เพราะหิวมากคะ 5555555
กินเสร็จเราได้เข้าพักที่ Ora hotel เป็นโรงเเรมระดับ 3 ดาวถือว่าใช้ได้เลยค่ะ นอนได้ 3 คน เเฮปปี้ค่ะ สำหรับวันเเรกที่เที่ยวเยอะมากค่ะ
วันที่ 2 ของการเดินทาง
เริ่มด้วยมื้อเช้าบุฟเฟ่เลยค้า เเฮปปี้อีกเเล้ววววววว คนเกาหลีไม่ค่อยเน้นข้าวเช้าค่ะ จะหนักอาหารเย็นมากกว่า เมนูที่ปลื้มสุดๆคือ ซุปมิโซะ ค่ะ มื้อนี้ไม่ได้ถ่ายไว้อีกเเล้วคะ เพราะรีบมาก ไกด์นัด 7.30 น.
หลังจากที่เรากินกันเสร้จเเล้ว เรามุ่งหน้าสู่
ยอดเขาซองซานอิลจูบง ที่นี่เป็นปล่องภูเขาไฟที่ระเบิดเเต่ดับสนิทเเล้วค่ะ ถ้าอยากเห็นปล่องที่ดับเเล้ว เราต้องขี้นบันไดค่ะ 1400 กว่าขั้น ไกด์เเนะนำว่า ถ้าไม่อยากขึ้นก็สามารถเลี้ยวลงทะเลได้คะ จะมีอาจุมม่าหรือที่เรียกกันว่า เเฮนียอน อยู่คะ ขายอาหารทะเลสดๆ เเต่ด้วยความอยากเห็นของ จขกท เลยลองปีนขึ้นไปบนเขาก่อน จะมีจุดพักเป็นระยะๆ ปีนขึ้นไปถือว่าคุ้มเลยคะ สวยมากคะ เป็นทุ่งหญ้าคะ
ลงมาต่อด้วยการดูเเฮนียอนคะ หอยเป๋าฮื้อสดๆ ตัวละ 10,000 วอน หอนเม่น 2 ตัว 10,000 วอน (เท่ากับ 330 บาทไทยคะ)
ถึงเวลาที่ไกด์เรียกเเล้วคะ next station
Hanwha aqua planet เป็น อะควาเรียมใหญ่อันดับที่ 3 เลยคะ ในเวลา 11.30 จะมีการเเสดงของเเฮนียอนคะ
เเละเเล้วก็เป็นเวลาที่รอคอยอีกเเล้วคะ อาหารกลางวันมื้อนี้คือ
เเทจีพุลเเบ็ก หมูดำอีกเเล้วค่ะ ผัดคลุกเคล้ากับน้ำซุปสูตรพิเศษ รสหวานออกผ็ดนิดหน่อย อร่อยอีกเเล้วค่ะ
หลังที่กินกันเสร็จอย่าเร่งรีบเราต้องไปดูการเเสดงม้าก่อน 13.00 คะ ที่
Pony valley เป็นม้าสายพันธุ์มองโกเลียค่ะ จะเป็นการเเสดงกายกรรมบนม้า เเละ การเล่าประวัติการต่อสู้ของมองโกเลีย นักเเสดงก็เป็นชาวมองโกที่มาอยู่ในเชจูคะ ที่นี่เขาห้ามถ่ายวีดีโอค่ะ ดูเพลินเลยไม่ได้ถ่ายรูปมาค่ะ เเต่ดีจริงๆคะ ><
สถานที่ต่อไปคือ
หมู่บ้านวัฒนธรรมซองอึบ เป็นหมู่บ้านเก่าเเก่ที่ยังมีคนอยู่กว่า 500 หลังคาเรือนคะ มีการเล่าประวัติของคนในเชจูสมัยก่อนค่ะ
นี่คือด้านหน้าของหมู่บ้านค่ะ ที่เห็นมีเเดจังกึม เพราะว่า หมู่บ้านนี้ หนังเเดจังกึม เคยมาถ่ายค่ะ
มาอีกเเล้วค่ะ กับสิ่งที่รอคอย บุปเฟ่อาหารทะเล ปูก้ามใหญ่ๆ หอยตัวใหญ่ๆ เเละอาหารอีกมากมายเลย
เเล้วเราก็กลับที่พักกกกกกกกกกก zzZZ
วันที่สามของการเดินทาง
วันสุดท้ายเเล้ว อาหารเช้าเหมือนเดิมค่ะ บุฟเฟ่ เก็บจานเองเหมือนเดิมค่ะ
วันนี้วันที่รอคอยจริงๆคะ เป็นวันช็อป วันเสียตังค์ วันนี้ไม่ได้ถ่ายรูปเลยคะ เนื่องจากช็อปเพลินจริงๆ TT ซอรี่ค่ะ
ที่เเรกเลยคะ
ละลายเงินวอน ขนมดังๆี่ต้องโดน คือ ปลาปังปุง ข้าวพอง ช็อคโกเเลตส้ม สาหร่าย ราคาถือว่ารับได้อยู่ค่ะ เเนะนำว่าซื้อขนมอยากให้จบที่นี่เลยคะ สถานที่ต่อไปมีเเต่เครื่องสำอางค์ ซื้อเกิน 50,000 ที่นี่จะ packing ให้ฟรีเลยค่ะ
ขอขัดนิดนุงนะค่ะ * มาเชจูทุกคนอาจจะสงสัยว่า ถูกไปมั้ย 9500 บาทเอง ในช่วงนี้รัฐบาลเชจูเปิดให้คนไทยเราเข้ามาเเบบบินตรงคะ กท - เชจู เเถมช่วยออกค่าท่องเที่ยวให้เราอีกค่ะ ถือว่าดีเลยทีเดียว เเต่รัฐบาลขอให้เราเข้าศูนย์รัฐบาล 3 ศูนย์คะ คือ ศุนย์โสม ศูนย์น้ำมันสนเข็มเเดง (ใบสนเข็มเเดงนำมาขยี้ๆจะมีกลิ่นหอมมากค่ะ) เเละศูนย์สุดท้าย ฮอตเกนามูคะ บำรุงตับ ถือว่าดีเลยทีเดียวคะ *
มาต่อด้วย
Midam cosmatics ที่นี่รวมครีมเเบรนด์ดังเกาหลีเยอะมากค่ะ เซรั่มพิษงู ครีมน้ำเเตก B2B เเละอื่นๆอีกมากมาย พนักงานเป็นคนไทยที่ส่งมาจากโซลค่ะ เขาจะมีให้เราทดลองด้วยค่ะ
มาที่อาหารกลางวันของวันสุดท้ายค่ะ
บุฟเฟ่ชาบูหมูดำ มื้อสุดท้ายเราก็ยังอยู่กับหมูดำค่ะ ถือว่าเป็นอีกมื้อที่อร่อยค่ะ กินหมดไป 2 โลได้ค่ะ สำหรับ 4 คน
ต่อไปคือ
Duty free เเหล่งรวมของปลอดภาษี เเต่คนจีนเยอะเกินค่ะ เทียบๆเเล้วของไทยเราถูกกว่าค่ะ
สุดท้ายเเล้วค่ะ กับ ตลาดใต้ดิน สวรรค์อีกเเล้วค่ะ บอกก่อนเลยว่าใครที่หาครีมเเบรนด์ skin food , etude , the face shop , natural public , tony moly ที่เกาหลี เเบรนด์พวกนี้คือ low เเบรนด์นะค่ะ ของถูกค่ะ ที่มาร์ก 10+10 ราคา 10,000 วอน มาร์กกันไปถึงชาติหน้าเลยค่ะ ของเต็มไม้เต็มไม้เต็มมือเลยค่ะ เเละก็ได้เวลาจากลา
เวลาขึ้นเครื่อง 21.00 น. เวลาของเกาหลีค่ะ
ใครที่ซื้อของจากศูนย์ของรัฐบาล ไร่ชาเขียว บ้านคิตตี้ ละลายเงินวอน อย่าลืมขอ tax refund นะค่ะ นำมาขอเงินคืนได้ที่ สนามบินเลยค่ะ
เเละเเล้วก็ได้เวลาจากเกาหลี ..
บอกเลยค่ะ ใครที่คิดจะมาเกาหลี ที่นี่เลยค่ะ ธรรมชาติของจริง อากาศดี ผู้คนเป็นมิตร เเต่ที่นี่พูดอังกฤษไม่ได้เลยนะค่ะ TT
ใครที่กำลังจะมาเที่ยว ขอให้โชคดีในการเดินทางค่ะ
ปล. นี่เป็นกระทู้เเรก ปิดพลาดประการใดขอโทษด้วยนะค่ะ
♡ Jeju trip ♡ ,, ตะลุยเชจูกับทริปในราคาเพียง 9500 บาท เเบบม้วนเดียวจบ
เราได้ไปเชจูกับทริปค่ะ ในราคาถูกเเสนจะถูก เพียง 9,500 บาทเองคะ ราคานี้รวมทั้ง ค่าที่พัก อาหาร ค่าเข้าในสถานที่ต่างๆเลยค่ะ ☺
เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ ......
เราขึ้นเครื่องในวันที่ 7 ธค. เวลา 02.30 น. โดยสายการบิน Eastar jet เป็นเเบบ economy ชั้นประหยัดเลยค่ะ ถือว่าไม่โลคลาสมาก บริการดีเลยค่ะ
เราได้มาถึงสนามบินของเชจูในเวลา 10.00 น. เวลาของเกาหลีค่ะ ( เวลาไทยกับเกาหลีห่างกัน 2 คะ )
วันเรกของการเดินทาง
พอถึงสนามบินไกด์จะมารอเราที่ทางออกค่ะ เพื่อพาเราไปขึ้นที่รถ พอลงจากเครื่องก้หิวกันเลย ไกด์พาเราไปกินอาหารเกาหลมื้อเเรกเลยค่ะ
ชื่อว่า จิมตั๊ก เป็นไก้ตุ๋นกับพะโล้ค่ะ น้ำพะโล้จะเหนียวๆ เเละมีเส้นบุกที่ทำจาก มันสำปะหลังคะ กินกับข้าวสวร้อนๆ ถือว่าอร่อยเลยทีเดียวววว
พอกินเสร็จที่เกาหลีเขาจะไม่มีเเม่บ้านมาเก็บจานชามให้เรา เราต้องเก็บเองค่ะ สถานที่ต่อไปคือ ภูเขาฮัลลาซาน อากาศ 1 องศาเองค่ะ เเต่ว่าอยู่เเค่ข้างล่างเลยมีหิมะนิดเดียวเองคะ เเต่สวยมากค่ะ ภูเขาฮัลลาซานถือว่าเป้นจุดกำเนิดของเกาะเชจูเลยค่ะ
[img]http://f.ptcdn.info/394/038/000/[img]
จขกท เองคะ >< อยู่บนเขาได้เเค่ครึ่งชั่วโมงเองค่ะ หนาวเกินไปปปป ☃ ❆ เราไปสถานที่ที่สองเลยดีกว่าค่ะ เชื่อว่าทุกคนต้องชอบเเน่ๆเลย ย้อนวัยเด็กกันสักหน่อยกับ Hello kitty island ทุกสิ่งเป็นคิตตี้หมดค่ะ เหมือนเป็นบ้านเลย มีทั้งหมด 3 ชั้น มีร้านกาเเฟชั้น 2 ร้านขายของชั้น 3 ราคาของถือว่าสูงพอสมควรค่ะ ไปดูกันดีกว่าค้าาาาาาา
ออกจากบ้านคิตตี้ก็เดินทางสู่ ไร่ชา O'sulloc ไร่ชาโอซุลโล ถือว่าเป็นไร่ชาที่มีชาเขียวคุณภาพดีเลยค่ะ ใครไปที่นี่ต้องโดนกับไอศครีม เเละ โรลชาเขียวค่ะ เเต่ตอนที่ไปโรลหมดพอดีค่ะ TT ไอศครีมราคาอยุ่ที่ 4500 วอน (ประมาณ 150 บาท) รสชาติถูกคอมาก ไม่หวานเกินไป อร่อย ฟินมากค่ะ
หลังจากที่อิ่มท้องเเล้ว เรามาถ่ายรูปกันที่เเลนด์มาร์กของที่นี่ค่ะ มาเเล้วห้ามพลาดถ่ายรูปเลยค่ะ
ลืมบอกค่ะ เวลาที่ข้ามถนนของที่นี่มีสัญญาณไฟข้ามถนนอัตโนมัตินะค่ะ ระวังกันด้วยนะคะ
จากไร่ชามาต่อ สวนส้มไร้เม็ด คะ บอกก่อนเลยว่าที่เชจูปลูกส้มเเล้วไม่มีเม็ดเลยคะ เป็นส้มไร้เม็ด หวานอร่อยมากคะ เขาจะให้เราเดินรอบสวนคะ พอออกจากสวนเขาจะให้ส้มเราคนละ 2 ใบค่ะ
อิ่มอีกละค่ะ เดินทางต่ออีกเเบ้ววว คราวนี้เราไปกันที่ วัดซันบังซา ภายในวัดจะประดิษฐานพระพุทธรูป เเละ รูปปั้นเจ้าเเม่กวนอิมค่ะ ที่วัดนี้มีข้าวสาร ให้เราทำบุญนะค่ะ ราคา 5000 วอน นำข้าวสารไปวางใต้พระพุทธรูป พร้อมทั้งตีระฆังรอบองค์พระค่ะ
ได้บุญเสร้จเเล้วเราก็ลงไปขึ้นรถค่ะ มุ่งหน้าไปที่สุดท้ายของวันนี้ก่อนเข้าที่พัก ชื่อว่า จูซังจอลลี เป็นที่ๆโรเเมนติกมากค่ะ มาดูพระอาทิตย์ตกที่นี่สวยมากค่ะ
ออกมาจากจูซังจอลลี เราจะพบกับร้านค้ามากมายค่ะ เราได้ไปซื้อโอเด้งค่ะ ไม้ละ 1000 วอน (33 บาทไทย) อร่อยดีค่ะ อากาศเย็นๆ กินอะไรร้อนๆก็รู้สึกดีค่ะ
ในเวลาประมาณ 17.30 เราได้เดินทางไปกินอาหารเย็นค่ะ เรียกว่าเป็นมื้ออร่อยอีกมื้อเลยค่ะ มื้อนี้คือ พุลโกกิ เป็นหมูดำชิ้นบางๆ ผักต่างๆ กินกับเครื่องเคียง เช่น กิมจิ ถั่วงอกดอง ถั่วงอกดองอร่อยมากค่ะ เครื่องปรุงพิเศษคือ ผงกระดูกม้าเพิ่มความหวานค่ะ เเต่ไกด์มาบอกในวันที่สอง TT มื้อนี้ไม่ได้ถ่ายรุปไว้เพราะหิวมากคะ 5555555
กินเสร็จเราได้เข้าพักที่ Ora hotel เป็นโรงเเรมระดับ 3 ดาวถือว่าใช้ได้เลยค่ะ นอนได้ 3 คน เเฮปปี้ค่ะ สำหรับวันเเรกที่เที่ยวเยอะมากค่ะ
วันที่ 2 ของการเดินทาง
เริ่มด้วยมื้อเช้าบุฟเฟ่เลยค้า เเฮปปี้อีกเเล้ววววววว คนเกาหลีไม่ค่อยเน้นข้าวเช้าค่ะ จะหนักอาหารเย็นมากกว่า เมนูที่ปลื้มสุดๆคือ ซุปมิโซะ ค่ะ มื้อนี้ไม่ได้ถ่ายไว้อีกเเล้วคะ เพราะรีบมาก ไกด์นัด 7.30 น.
หลังจากที่เรากินกันเสร้จเเล้ว เรามุ่งหน้าสู่ ยอดเขาซองซานอิลจูบง ที่นี่เป็นปล่องภูเขาไฟที่ระเบิดเเต่ดับสนิทเเล้วค่ะ ถ้าอยากเห็นปล่องที่ดับเเล้ว เราต้องขี้นบันไดค่ะ 1400 กว่าขั้น ไกด์เเนะนำว่า ถ้าไม่อยากขึ้นก็สามารถเลี้ยวลงทะเลได้คะ จะมีอาจุมม่าหรือที่เรียกกันว่า เเฮนียอน อยู่คะ ขายอาหารทะเลสดๆ เเต่ด้วยความอยากเห็นของ จขกท เลยลองปีนขึ้นไปบนเขาก่อน จะมีจุดพักเป็นระยะๆ ปีนขึ้นไปถือว่าคุ้มเลยคะ สวยมากคะ เป็นทุ่งหญ้าคะ
ลงมาต่อด้วยการดูเเฮนียอนคะ หอยเป๋าฮื้อสดๆ ตัวละ 10,000 วอน หอนเม่น 2 ตัว 10,000 วอน (เท่ากับ 330 บาทไทยคะ)
ถึงเวลาที่ไกด์เรียกเเล้วคะ next station Hanwha aqua planet เป็น อะควาเรียมใหญ่อันดับที่ 3 เลยคะ ในเวลา 11.30 จะมีการเเสดงของเเฮนียอนคะ
เเละเเล้วก็เป็นเวลาที่รอคอยอีกเเล้วคะ อาหารกลางวันมื้อนี้คือ เเทจีพุลเเบ็ก หมูดำอีกเเล้วค่ะ ผัดคลุกเคล้ากับน้ำซุปสูตรพิเศษ รสหวานออกผ็ดนิดหน่อย อร่อยอีกเเล้วค่ะ
หลังที่กินกันเสร็จอย่าเร่งรีบเราต้องไปดูการเเสดงม้าก่อน 13.00 คะ ที่ Pony valley เป็นม้าสายพันธุ์มองโกเลียค่ะ จะเป็นการเเสดงกายกรรมบนม้า เเละ การเล่าประวัติการต่อสู้ของมองโกเลีย นักเเสดงก็เป็นชาวมองโกที่มาอยู่ในเชจูคะ ที่นี่เขาห้ามถ่ายวีดีโอค่ะ ดูเพลินเลยไม่ได้ถ่ายรูปมาค่ะ เเต่ดีจริงๆคะ ><
สถานที่ต่อไปคือ หมู่บ้านวัฒนธรรมซองอึบ เป็นหมู่บ้านเก่าเเก่ที่ยังมีคนอยู่กว่า 500 หลังคาเรือนคะ มีการเล่าประวัติของคนในเชจูสมัยก่อนค่ะ
นี่คือด้านหน้าของหมู่บ้านค่ะ ที่เห็นมีเเดจังกึม เพราะว่า หมู่บ้านนี้ หนังเเดจังกึม เคยมาถ่ายค่ะ
มาอีกเเล้วค่ะ กับสิ่งที่รอคอย บุปเฟ่อาหารทะเล ปูก้ามใหญ่ๆ หอยตัวใหญ่ๆ เเละอาหารอีกมากมายเลย
เเล้วเราก็กลับที่พักกกกกกกกกกก zzZZ
วันที่สามของการเดินทาง
วันสุดท้ายเเล้ว อาหารเช้าเหมือนเดิมค่ะ บุฟเฟ่ เก็บจานเองเหมือนเดิมค่ะ
วันนี้วันที่รอคอยจริงๆคะ เป็นวันช็อป วันเสียตังค์ วันนี้ไม่ได้ถ่ายรูปเลยคะ เนื่องจากช็อปเพลินจริงๆ TT ซอรี่ค่ะ
ที่เเรกเลยคะ ละลายเงินวอน ขนมดังๆี่ต้องโดน คือ ปลาปังปุง ข้าวพอง ช็อคโกเเลตส้ม สาหร่าย ราคาถือว่ารับได้อยู่ค่ะ เเนะนำว่าซื้อขนมอยากให้จบที่นี่เลยคะ สถานที่ต่อไปมีเเต่เครื่องสำอางค์ ซื้อเกิน 50,000 ที่นี่จะ packing ให้ฟรีเลยค่ะ
ขอขัดนิดนุงนะค่ะ * มาเชจูทุกคนอาจจะสงสัยว่า ถูกไปมั้ย 9500 บาทเอง ในช่วงนี้รัฐบาลเชจูเปิดให้คนไทยเราเข้ามาเเบบบินตรงคะ กท - เชจู เเถมช่วยออกค่าท่องเที่ยวให้เราอีกค่ะ ถือว่าดีเลยทีเดียว เเต่รัฐบาลขอให้เราเข้าศูนย์รัฐบาล 3 ศูนย์คะ คือ ศุนย์โสม ศูนย์น้ำมันสนเข็มเเดง (ใบสนเข็มเเดงนำมาขยี้ๆจะมีกลิ่นหอมมากค่ะ) เเละศูนย์สุดท้าย ฮอตเกนามูคะ บำรุงตับ ถือว่าดีเลยทีเดียวคะ *
มาต่อด้วย Midam cosmatics ที่นี่รวมครีมเเบรนด์ดังเกาหลีเยอะมากค่ะ เซรั่มพิษงู ครีมน้ำเเตก B2B เเละอื่นๆอีกมากมาย พนักงานเป็นคนไทยที่ส่งมาจากโซลค่ะ เขาจะมีให้เราทดลองด้วยค่ะ
มาที่อาหารกลางวันของวันสุดท้ายค่ะ บุฟเฟ่ชาบูหมูดำ มื้อสุดท้ายเราก็ยังอยู่กับหมูดำค่ะ ถือว่าเป็นอีกมื้อที่อร่อยค่ะ กินหมดไป 2 โลได้ค่ะ สำหรับ 4 คน
ต่อไปคือ Duty free เเหล่งรวมของปลอดภาษี เเต่คนจีนเยอะเกินค่ะ เทียบๆเเล้วของไทยเราถูกกว่าค่ะ
สุดท้ายเเล้วค่ะ กับ ตลาดใต้ดิน สวรรค์อีกเเล้วค่ะ บอกก่อนเลยว่าใครที่หาครีมเเบรนด์ skin food , etude , the face shop , natural public , tony moly ที่เกาหลี เเบรนด์พวกนี้คือ low เเบรนด์นะค่ะ ของถูกค่ะ ที่มาร์ก 10+10 ราคา 10,000 วอน มาร์กกันไปถึงชาติหน้าเลยค่ะ ของเต็มไม้เต็มไม้เต็มมือเลยค่ะ เเละก็ได้เวลาจากลา
เวลาขึ้นเครื่อง 21.00 น. เวลาของเกาหลีค่ะ
ใครที่ซื้อของจากศูนย์ของรัฐบาล ไร่ชาเขียว บ้านคิตตี้ ละลายเงินวอน อย่าลืมขอ tax refund นะค่ะ นำมาขอเงินคืนได้ที่ สนามบินเลยค่ะ
เเละเเล้วก็ได้เวลาจากเกาหลี ..
บอกเลยค่ะ ใครที่คิดจะมาเกาหลี ที่นี่เลยค่ะ ธรรมชาติของจริง อากาศดี ผู้คนเป็นมิตร เเต่ที่นี่พูดอังกฤษไม่ได้เลยนะค่ะ TT
ใครที่กำลังจะมาเที่ยว ขอให้โชคดีในการเดินทางค่ะ
ปล. นี่เป็นกระทู้เเรก ปิดพลาดประการใดขอโทษด้วยนะค่ะ