[CR] จุดเริ่ม or จุดจบ ความรักของนายหัวเห็ด ณ ดอยอ่างขาง (ดราม่านิดๆ นะครับ)T^T 10 - 12 ธันวาคม 2558 (ภาพเพียบ)

ก่อนอื่นก็ขอกราบสวัสดี พี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ในพันทิพแห่งนี้นะครับ ^^
พอดีมีประสบการณ์ที่ได้ไปเที่ยวแล้วภูมิใจจะมาแบ่งปันครับ (และระบายอะไรนิดหน่อย เรื่องความรัก T^T)

ทริปนี้เกิดขึ้นได้เพราะผมเคยสัญญากับแฟนเก่า(เป็นการจากลาที่ดีครับ ติดต่อกันปกติ)ของผมว่าเราจะไปเที่ยวด้วยกันนานมากแล้ว
เพราะต่างคนต่างก็ทำงาน และ อยู่ไกลกันครับ เธอทำงานอยู่ กทม. ส่วนผมทำงานที่ มหาลัยที่จบมา
จึงหาเวลาที่จะไปเที่ยวด้วยกันนั้นยากมาก พอดีที่ผ่านมามีวันที่น่าจะลาได้ก็เลยนัดเธอเลย
เดินทาง เย็นวันที่ 9 เวลาเลิกงาน และกลับวันที่ 12 ตอนเย็น

ปัจจัยหลักที่ผมอยากไปเที่ยวครั้งนี้เลยนะครับคือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ผมต้องการบอกเธอและขอให้เธอกลับมาคบกันเหมือนเดิมได้มั้ย ต้องการบอกความในใจทั้งหมดที่มี
สาเหตุที่ทำให้ผมคิดแบบนี้เพราะ การพูดจาการปฏิบัติในขณะที่เราเลิกลากันในระยะว่า 1 ปีกว่านั้น
เหมือนเธอก็ยังมีใจและเหมือนต้องการกลับมาเหมือนกัน ผมเลยถือใช้โอกาสนี้แหล่ะ ในการจะบอกเธอทุกอย่างในใจที่ผ่านมาในเวลาหนึ่งปีนี้
ผมคิดว่าเวลา 1 ปีที่เราเลิกกันนั้น เหมือนเป็นการให้เวลากันและกัน และกลับมาดูๆกันลองมองในมุมมองที่ไม่เคยเห็น
และมันก็ทำให้ผมรู้ว่าเราห่างกันนานจนเกินไปแล้ว อยากบอกเธอแบบนี้
และผมต้องการให้ทริปนี้ สนุกสนานทั้งสองฝ่าย

เอิ่มมม ยาวไปละ ฮ่าๆ ๆ ๆ ขอโทษนะครับที่ให้อ่านอะไรยาวๆไปหน่อย ^^
มาเริ่มเลยดีกว่าครับกับการไปเที่ยวครั้งนี้และเป้าหมายหลักของผม แห่ะๆ ณ ดอยอ่างขาง



ก็มาในวันแรกกันเลยละกันนะครับ ^^
อ่อ ลืม เริ่มบอกไปอย่างนะครับ คือพวกเรานัดเพื่อนที่ อ.ฝางด้วยนะครับ
พอดี เพื่อนคนนี้บ้านอยู่ฝาง โฮ๊ะๆ เจ้าของถิ่นๆ สบายใจเบยทีเดียว ฮ่าๆ ๆ (พวกเราสองคนไม่เคยไปเชียงใหม่มาก่อน ^^)

พวกเราสองคนเดินทางมาถึง เชียงใหม่ตอน ประมาณหกโมงเช้ากว่าๆนี้แหล่ะครับ แล้วก็ล้างหน้าแปรงฟัน
และรีบเดินตรงไปหารถแดง เพื่อที่จะเดินทางไป ช้างเผือกครับ



อั๊ยย๊ะ เพิ่งเคยเห็นเป็นบุญตา T^T ตายตาหลับละรถแดงที่เขาพูดต่อๆกันมา ^^
พอดีทางไปถึงช้างเผือก พวกเราก็ไปต่อรถหวานเย็น คือผมเห็นในรีวิวที่นี้หลายๆรีวิวอะนะครับที่บอกว่า "รถหวานเย็นๆ"
ผมก็อยากเห็นจริงๆ ^^ ว่าจะหวาน และ เย็นจริงมั้ย


อั๊ยย๊ะ โดนใจเบย ^^ เย็นจริงอะไรจริง ลมนี้โกลกตลอดเวลาเบย สบายใจ


ชำระค่าเสียหายไป ^^

พอเดินทางมาถึงบ้านเพื่อนก็เก็บ กระปงกระเป๋าและไปหากินข้าว และตบท้ายด้วยไป อาบน้ำบ่อน้ำร้อนกันนนน
อร๊าย ย ย ย ย   คือผมอยากลงบ่อน้ำร้อน ออนเซนมานานแว๊ววววว!!

ที่นี้เบย ^^



เพื่อนบอกว่ามาถึงที่นี้ต้อง ต้มไข่กินด้วย อั๊ยย๊ะ ต้องลองๆ ไปซื้อไข่กัน





มีซาลาเปาขายด้วย เลยลองจัดมา สามไส้เบย มันจะมีอยู่สามแบบให้เลือกนะครับ (ถั่วแดง , เผือก , หมั่นโถว)

ง่อววว จัดเรียงมาสวยงามอร่ามแท้แลตะลึง
ไข่หล่ะไข่อยู่ไหน >< อยากลงบ่อน้ำร้อนแล้วววว T^T

จะมี ไข่ไก่กับ ไข่นกกะทา ให้เลือกนะครับ เลยจัดมาสองอย่างเลย ^^

ไปๆเอาไปต้มกัน ว่าแต่ต้องเอาไปต้นที่ไหน เขามีหม้อให้ต้มหรอ หรือเขามีบริการรับต้มไข่

ห๊ะ ต้มตรงนี้เลย ง่อววว น้ำร้อนถึง 86 องศา ขุนพระ อะไรจะขนาดนั้น

จะรออะไรหล่ะครับต้มไข่ละก็รีบไป แช่น้ำร้อนสิครัชพี่น้องออนเซน ลุยยยย!!

ระหว่างทางเดินก็เห็น ต้นไม้ทรงแปลกๆดีครับ ^^

เดี๊ยวๆ พวกเธอหยุดกันก่อน "นั้นมันคืออะไร" โคตรเท่ห์เลย

ไอน้ำสูงมากกกกก ขอไปถ่ายรูปก่อนน โฮ๊ะๆ - -!! จะได้ลงบ่อน้ำร้อนมั้ยครัช






ทางเดินก่อนจะมาถึง บ่อน้ำร้อนนะครับ

อันนี้ที่แช่เท้า ฟรีครับ ^^

คือบ่อน้ำร้อยที่นี้จะมีให้เลือกคือ บ่อรวม(กลางแจ้ง) บ่อแยก(บ้านหลังๆเล็กๆ)
ราคาถ้าจำไม่ผิด บ่อรวมคนละ 20  บ่อแยกหลังละ 150


พวกเราเลือกบ่อแยกครับ ^^ ตกคนละ 50 บาท
ไม่ได้ถ่ายภายในบ่อมานะครับ พอดีลงไปแช่ปับ โอ่ววว ฟินซี้ริดสีดวงแตกกันเลยทีเดียว ^^ สบายฝุดๆ
หลังจากแช่เสร็จพวกเราก็ เดินไปเอาไข่ที่ต้มไว้มากินครับ แห่ะๆ

และเดินทางกลับบ้านเพื่อนจ้าาา ^^ คืนแรกพักบ้านเพื่อนจ้าาา

ที่บ้านเพื่อนเลี้ยงหมูทะด้วยยย ^^ อั๊ยย๊ะ ฟินเว่อร์

>>>>>>>>>>>>>>>>จบไปในวันแรกครับบบบบบบบ ^^<<<<<<<<<<<<<<<<