เราเป็นคนหนึ่งที่ชอบอ่านกระทู้วิธีลดน้ำหนักจากพันทิป ก่อนหน้านี้น้ำหนักเราพุ่งถึงขีดสุดแบบน่าใจหายคือ 97!!!! เราตกใจมากเพราะครั้งล่าสุดที่ชั่งมันแค่ 90 เราได้แต่บอกตัวเองว่าต้องลดนะ ไม่ไหวแล้ว
หลังจากนั้นเราจึงเริ่มศึกษาวิธีลดน้ำหนักสำหรับคนที่มีเวลาน้อยและแถมความขี้เกียจไปด้วย

ความเดิมตอนที่แล้วขอเล่าหน่อยว่าเราเป็นคนชอบกินมากกกกกก เราลองไปนั่งย้อนดูรูปเก่าๆที่ตัวเองเคยอัพลงIGแล้วก็ถึงบางอ้อทันทีว่าทำไมน้ำหนักฉันถึงพุ่งเป็นปรอทจุ่มน้ำแข็งขั้วโลกขนาดนั้น!!
Example
แบบนี้...
แบบนี้....
แบบนี้.....
และ...แบบนี้!
ค่ะ!..มันมาในรูปแบบของความอยากล้วนๆ หาใช่ความหิว แต่ก่อนได้แต่หลอกตัวเองว่าเฮ้ยแกร! กินคาวไม่กินหวานสันดารไพร่นะเว้ยย แล้วไง?? เกือบร้อยโลสิค่ะ
เราจึงได้ทำการลดมันซะ อะไรที่เคยกินตอนดึก ร้านนม บุฟเฟ่ ร้านเค้ก ของมัน ของทอด บลาๆๆๆๆ และปรับเปลี่ยนเวลาใหม่หมด จากเคยตื่นสายมาก วันไหนมีเรียน9โมงตื่นมันสัก8โมงครึ่ง วันไหนไม่มีเรียนก็เอาเถอะค่ะ See you again on Afternoon ไปเลย เคยกินดึกๆ 4ทุ่ม 5ทุ่มต้องออกตระเวนหาของกินก็หยุดค่ะ เปลี่ยนมาเป็นเวลานอนแทน เราเปลี่ยนLifestyleของเราใหม่ทั้งหมด จากไม่เคยกินข้าวเช้าก็ต้องปรับตัวเองให้ตื่นแต่เช้าเพื่อมากินข้าวเช้า แรกๆก็ตื่นยากค่ะเพราะไม่เคยตื่นเช้ามาเกือบ4ปีแล้ว เวลา 6-7 โมงเป็นเวลาอาหารเช้าค่ะ ลองได้ตื่นเช้าสักพักจนร่างกายปรับจนชินแล้วก็ตื่นไวขึ้นอีก 1 ชั่วโมงค่ะเพื่อเอาเวลาช่วงตี 5 ครึ่งไปออกกำลังกาย ครั้งแรกๆเราลงไปเดินก่อนค่ะ เพราะพ่อบอกน้ำหนักเราเยอะถ้าวิ่งๆไปแล้วจะมีอันตรายกับข้อเข่า ก็ลงไปเดินๆ เดินไวๆค่ะให้เหงื่อมันออก เวลาอาหารเที่ยงคือช่วงเวลา 12.00-13.00น.ค่ะ พออาหารเย็นจากเคยกินเวลาไหนก็ได้ ถ้าไม่ว่างก็นู้นแหละค่ะ 5 ทุ่มก็ยังกินทัน แต่ตอนนี้ต้องเปลี่ยนค่ะ เลทสุดคือ 1 ทุ่ม ถ้าวันไหนมีเวลาช่วงเย็นก็ออกกำลังกายค่ะ ว่ายน้ำเป็นวิธีการออกกำลังกายที่เราคิดว่าเหมาะที่สุดกับคนน้ำหนักเยอะๆ เพราะน้ำจะทำให้เราได้รับบาดเจ็บน้อยที่สุดจากการออกกำลังกายหรือแทบไม่ได้รับเลยเหมือนกีฬาอื่นๆค่ะ แต่ต้องอยู่ในเงื่อนไขที่ว่าต้องWarm upกับCool dawlก่อนและหลังออกกำลังกาย ไม่งั้นจะทำให้เราได้รับบาดเจ็บหรือรู้สึกปวดแขนหรือขามากหลังจากออกกำลังกายเสร็จ เพราะร่างกายไม่เคยออกกำลังกาย และต้องเข้านอนให้ไวค่ะ ภายใน 3 ทุ่มกำลังดีเลย แต่ในบางกรณีหากเราติดธุระหรือมีงานที่ต้องทำก็อย่าให้เกิน 5 ทุ่มค่ะ เพราะหลังจากนั้นจะเป็นเวลาที่ร่างกายต้องการพักผ่อนอย่างมาก แนะนำให้ตื่นแต่เช้ามาทำดีกว่าค่ะ
ส่วนเรื่องอาหารเรากินปกติค่ะ เพียงแต่งดของมัน ของหวาน ของทอด ฯลฯ ตามที่บอกด้านบน ลดแป้งค่ะ ใช้คำว่า 'ลด' นะคะ ไม่ใช่งด เพราะร่างกายเราต้องกายคาร์โบไฮเดรตค่ะ ต้องทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพียงจัดสรรปริมาณให้พอเหมาะ และต้องลดปริมาณอาหารที่ทานในแต่ละมื้อค่ะ สมมติเคยกินข้าวมื้อละ 3 ทัพพีก็ค่อยๆลดลงค่ะ ปัจจุบันหากมื้อไหนมีข้าวก็จะกินแค่ 1/3 ของจำนวนค่ะ จะยกตัวอย่างในแต่ละมื้อ เนื่องจากอาหารบางอย่างเราไม่สามรถเลือกกินได้เพราะอยู่หอไม่ได้อยู่บ้านจึงไม่สะดวกที่ต้องจัดเตรียมเอง แต่ก็สามารถเลือกทานได้ค่ะ โดยเลือกจากกรรมวิธีการปรุงอาหาร อีกเคล็ดลบหนึ่งคือการนับจำนวนกิโลแคลอรี่ ก่อนอื่นเราต้องไปคำนวณการเผาผลาญหรือค่าBMRของเราก่อนว่าร่างกายของเราต้องการพลังงานเท่าไร และวันหนึ่งเราควรทานอาหารได้เท่าไรน้ำหนักถึงจะไม่ขึ้น โดยใช้เว็บไซต์
http://kcal.memo8.com/bmr/ หลังจากนั้นเวลาที่เราจะเลือกทานอะไรในแต่ละวันก็ไปศึกษาไว้ก่อนเลยค่ะว่าของที่เราจะทานนั้นมีแคลอรี่เท่าไร เช่น วันนี้เราจะกินซุปไก่ใส่มันฝรั่ง มันฝรั่งนั้น 100 กรัมให้พลังงาน 75-80 กิโลแคลอรี่ สะโพกไก่ (เอาหนังออกนะจ้ะ ไม่งั้นไขมันพรึบ!) 100 กรัมให้พลังงาน 120 กิโลแคลอรี่ รวมกับใส่หัวหอม มะเขือเทศและแครอท ไม่ถึง 400 กิโลแคลอรี่แน่นอน เราใช้วิธีประมาณเอา ใน 1 วันกินไม่เกิน 1000-1200 กิโลแคลอรี่ และวิธีที่เหมาะสมทำให้ลดน้ำหนักได้และให้ร่างกายกระชับคือการออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยค่ะ เรากินมาเท่าไร ก็เอาออกไปเท่านั้นค่ะ กายออกกำลังกายไม่จำเป็นต้องหนักค่ะ ครั้งแรกๆ เอาแค่วนัละครึ่งชั่วโมงพอค่ะ เอาให้เหงื่อออกสักหน่อย พอนานเข้าก็ทำมันไปเลย 1 ชั่วโมง เราใช้การว่ายน้ำ ว่ายน้ำวันละ 1 ชั่วโมง ว่ายน้ำนะคะไม่ใช่แช่น้ำ

ว่ายไป 1 รอบแล้วก็พักแปปนึง ว่ายต่ออีก เราว่ายได้ 1 กิโล/45 นาทีแล้วค่ะ จากตอนแรกเริ่มไม่ถึงเพราะเหนื่อยมาก แต่เราต้องอดทนค่ะเพราะมันดีต่อสุขภาพ ในเมื่อเราทำได้แบบนี้แล้วน้ำหนักลดแน่นอนค่ะ ส่วนระยะเวลาก็ต้องขึ้นอยู่กับแต่ละคนด้วยว่ามีวินัยกับการลดน้ำหนักแค่ไหน เท่านี้ก็ไม่ต้องไปพึ่งยาลดน้ำหนักที่ส่งผลร้ายกับร่างกายแล้วค่ะ
สุดท้ายนี้ใครที่กำลังลดน้ำหนักอยู่ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ เป็นกำลังให้คนอ้วนทุกคน..เรามาลดน้ำหนักกันเถอะ! เพื่อสุขภาพของเราค่ะ ปล.ตอนนี้น้ำหนักเราลดเหลือ 87 แล้ว
มาลดน้ำหนักกันเถอะ !! ^____________^ VV
หลังจากนั้นเราจึงเริ่มศึกษาวิธีลดน้ำหนักสำหรับคนที่มีเวลาน้อยและแถมความขี้เกียจไปด้วย
Example
แบบนี้...
แบบนี้....
แบบนี้.....
และ...แบบนี้!
ค่ะ!..มันมาในรูปแบบของความอยากล้วนๆ หาใช่ความหิว แต่ก่อนได้แต่หลอกตัวเองว่าเฮ้ยแกร! กินคาวไม่กินหวานสันดารไพร่นะเว้ยย แล้วไง?? เกือบร้อยโลสิค่ะ
เราจึงได้ทำการลดมันซะ อะไรที่เคยกินตอนดึก ร้านนม บุฟเฟ่ ร้านเค้ก ของมัน ของทอด บลาๆๆๆๆ และปรับเปลี่ยนเวลาใหม่หมด จากเคยตื่นสายมาก วันไหนมีเรียน9โมงตื่นมันสัก8โมงครึ่ง วันไหนไม่มีเรียนก็เอาเถอะค่ะ See you again on Afternoon ไปเลย เคยกินดึกๆ 4ทุ่ม 5ทุ่มต้องออกตระเวนหาของกินก็หยุดค่ะ เปลี่ยนมาเป็นเวลานอนแทน เราเปลี่ยนLifestyleของเราใหม่ทั้งหมด จากไม่เคยกินข้าวเช้าก็ต้องปรับตัวเองให้ตื่นแต่เช้าเพื่อมากินข้าวเช้า แรกๆก็ตื่นยากค่ะเพราะไม่เคยตื่นเช้ามาเกือบ4ปีแล้ว เวลา 6-7 โมงเป็นเวลาอาหารเช้าค่ะ ลองได้ตื่นเช้าสักพักจนร่างกายปรับจนชินแล้วก็ตื่นไวขึ้นอีก 1 ชั่วโมงค่ะเพื่อเอาเวลาช่วงตี 5 ครึ่งไปออกกำลังกาย ครั้งแรกๆเราลงไปเดินก่อนค่ะ เพราะพ่อบอกน้ำหนักเราเยอะถ้าวิ่งๆไปแล้วจะมีอันตรายกับข้อเข่า ก็ลงไปเดินๆ เดินไวๆค่ะให้เหงื่อมันออก เวลาอาหารเที่ยงคือช่วงเวลา 12.00-13.00น.ค่ะ พออาหารเย็นจากเคยกินเวลาไหนก็ได้ ถ้าไม่ว่างก็นู้นแหละค่ะ 5 ทุ่มก็ยังกินทัน แต่ตอนนี้ต้องเปลี่ยนค่ะ เลทสุดคือ 1 ทุ่ม ถ้าวันไหนมีเวลาช่วงเย็นก็ออกกำลังกายค่ะ ว่ายน้ำเป็นวิธีการออกกำลังกายที่เราคิดว่าเหมาะที่สุดกับคนน้ำหนักเยอะๆ เพราะน้ำจะทำให้เราได้รับบาดเจ็บน้อยที่สุดจากการออกกำลังกายหรือแทบไม่ได้รับเลยเหมือนกีฬาอื่นๆค่ะ แต่ต้องอยู่ในเงื่อนไขที่ว่าต้องWarm upกับCool dawlก่อนและหลังออกกำลังกาย ไม่งั้นจะทำให้เราได้รับบาดเจ็บหรือรู้สึกปวดแขนหรือขามากหลังจากออกกำลังกายเสร็จ เพราะร่างกายไม่เคยออกกำลังกาย และต้องเข้านอนให้ไวค่ะ ภายใน 3 ทุ่มกำลังดีเลย แต่ในบางกรณีหากเราติดธุระหรือมีงานที่ต้องทำก็อย่าให้เกิน 5 ทุ่มค่ะ เพราะหลังจากนั้นจะเป็นเวลาที่ร่างกายต้องการพักผ่อนอย่างมาก แนะนำให้ตื่นแต่เช้ามาทำดีกว่าค่ะ
ส่วนเรื่องอาหารเรากินปกติค่ะ เพียงแต่งดของมัน ของหวาน ของทอด ฯลฯ ตามที่บอกด้านบน ลดแป้งค่ะ ใช้คำว่า 'ลด' นะคะ ไม่ใช่งด เพราะร่างกายเราต้องกายคาร์โบไฮเดรตค่ะ ต้องทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพียงจัดสรรปริมาณให้พอเหมาะ และต้องลดปริมาณอาหารที่ทานในแต่ละมื้อค่ะ สมมติเคยกินข้าวมื้อละ 3 ทัพพีก็ค่อยๆลดลงค่ะ ปัจจุบันหากมื้อไหนมีข้าวก็จะกินแค่ 1/3 ของจำนวนค่ะ จะยกตัวอย่างในแต่ละมื้อ เนื่องจากอาหารบางอย่างเราไม่สามรถเลือกกินได้เพราะอยู่หอไม่ได้อยู่บ้านจึงไม่สะดวกที่ต้องจัดเตรียมเอง แต่ก็สามารถเลือกทานได้ค่ะ โดยเลือกจากกรรมวิธีการปรุงอาหาร อีกเคล็ดลบหนึ่งคือการนับจำนวนกิโลแคลอรี่ ก่อนอื่นเราต้องไปคำนวณการเผาผลาญหรือค่าBMRของเราก่อนว่าร่างกายของเราต้องการพลังงานเท่าไร และวันหนึ่งเราควรทานอาหารได้เท่าไรน้ำหนักถึงจะไม่ขึ้น โดยใช้เว็บไซต์ http://kcal.memo8.com/bmr/ หลังจากนั้นเวลาที่เราจะเลือกทานอะไรในแต่ละวันก็ไปศึกษาไว้ก่อนเลยค่ะว่าของที่เราจะทานนั้นมีแคลอรี่เท่าไร เช่น วันนี้เราจะกินซุปไก่ใส่มันฝรั่ง มันฝรั่งนั้น 100 กรัมให้พลังงาน 75-80 กิโลแคลอรี่ สะโพกไก่ (เอาหนังออกนะจ้ะ ไม่งั้นไขมันพรึบ!) 100 กรัมให้พลังงาน 120 กิโลแคลอรี่ รวมกับใส่หัวหอม มะเขือเทศและแครอท ไม่ถึง 400 กิโลแคลอรี่แน่นอน เราใช้วิธีประมาณเอา ใน 1 วันกินไม่เกิน 1000-1200 กิโลแคลอรี่ และวิธีที่เหมาะสมทำให้ลดน้ำหนักได้และให้ร่างกายกระชับคือการออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยค่ะ เรากินมาเท่าไร ก็เอาออกไปเท่านั้นค่ะ กายออกกำลังกายไม่จำเป็นต้องหนักค่ะ ครั้งแรกๆ เอาแค่วนัละครึ่งชั่วโมงพอค่ะ เอาให้เหงื่อออกสักหน่อย พอนานเข้าก็ทำมันไปเลย 1 ชั่วโมง เราใช้การว่ายน้ำ ว่ายน้ำวันละ 1 ชั่วโมง ว่ายน้ำนะคะไม่ใช่แช่น้ำ
สุดท้ายนี้ใครที่กำลังลดน้ำหนักอยู่ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ เป็นกำลังให้คนอ้วนทุกคน..เรามาลดน้ำหนักกันเถอะ! เพื่อสุขภาพของเราค่ะ ปล.ตอนนี้น้ำหนักเราลดเหลือ 87 แล้ว