[CR] แม่กำปอง ครองใจฉัน 2 วัน 1 คืน แบกความสดชื่นกลับไปทั้งปี


เป็นคนเชียงใหม่ แต่พึ่งมีโอกาสได้ไปแม่กำปอง ซึ่งเป็นที่ๆตั้งใจไว้นานแล้วว่าต้องมาพักใจที่นี่สักคืน

แม่กำปอง เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในม่อนดอย อยู่ในเขต อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 50 ก.ม. มีอากาศหนาวเย็นตลอดวัน ตลอดปี เป็นหมู่บ้าน Home Stay ที่ยังคงรักษาความเป็นธรรมชาติและวิถีชีวิตของตัวเองไว้ได้อย่างดี ไม่กลืนไปกับความเจริญที่ไม่หยุดยั้งของยุคปัจจุบัน

เส้นทางที่จะไปแม่กำปองนั้น สามารถใช้ทางหลวงหมายเลข 118 เชียงใหม่-เชียงราย ขับไปเรื่อยๆ ให้สังเกตุ เมื่อเจอด่านตรวจแรก และด้านซ้ายมือคือร้านอาหารหัวเลี้ยวหัวต่อ ก็ให้เลี้ยวขวาเข้าหมู่บ้าน จากนั้นขับไปตามทางเรื่อยๆ จะมีป้ายบอกเป็นระยะๆ เมื่อใกล้ถึงบ้านแม่กำปอง ทางจะเริ่มแคบลง ชันขึ้น ขับไปตามไหล่เขา ต้องขับรถให้ระมัดระวังเพราะบางช่วงทางจะแคบและโค้งมากๆ

ก่อนจะเจอแม่กำปอง จะเจอ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก ที่นี่มีร้านอาหาร ที่พัก ผลิตภัณฑ์จากโครงการหลวง เป็นจุดรับซื้อผลิตผลจากเกษตรกร มีศูนย์เพาะพันธุ์กล้วยไม้ป่าหลากหลายสายพันธุ์ และเป็นที่ผลิตกาแฟอาราบิก้า ซึ่งสามารถแวะชมขั้นตอนการผลิตกาแฟตั้งแต่ขั้นตอนแรก ผู้คนที่นี่สามารถแนะนำขั้นตอนได้อย่างคล่องแคล่ว อยากทราบขั้นตอนการผลิตกาแฟ ก็สามารถสอบถามได้ค่ะ




เมื่อไปถึงแม่กำปอง สามารถนำรถไปจอดที่ลานวัดได้ ที่นี่จะมีแผนที่ให้ศึกษาเส้นทาง และที่ลานวัดจะมีศูนย์ผลิตหมอนใบชา ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปที่ขึ้นชื่อของแม่กำปอง จขกท มีโอกาสได้พูดคุยกับกลุ่มแม่บ้านที่ทำหมอน ทำให้ได้ทราบข้อมูลและเรื่องราวต่างๆมากมาย เปิดใจกันระหว่างเจ้าถิ่น กับนักท่องเที่ยว ได้ลองทำหมอนใบชา แถมอุดหนุนหมอนหอมๆ มากอดที่บ้านอีกด้วยค่ะ






ที่วัดจะมีวิหารไม้กลางน้ำ ตั้งอยู่กลางอยู่ในลำห้วย มีพระพุทธรูปปางมารวิชัย ประดิษฐานอยู่ด้านใน รอบๆ วิหารจะแกะสลักเป็นนักษัตร 12 ราศีค่ะ


และที่วิหารกลางน้ำแห่งนี้ จะมีน้องหมาชื่อ "อันอัน" ซึ่งกลุ่มแม่บ้านที่ทำหมอนเล่าให้ฟังว่า อันอันจะชอบเล่นกับนักท่องเที่ยวที่มาไหว้พระที่วิหารกลางน้ำ ถ้านักท่องเที่ยวโยนหินก้อนเล็กๆลงน้ำ อันอันจะคาบกลับมาให้ เล่นเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักเหนื่อย สังเกตุเลยว่าเจ้าอันอันตัวจะเปียกทั้งวัน ใครไปใครมาก็จะชอบเอาขนมมาฝากเจ้าอันอัน หากไม่ไปนั่งคุยกับกลุ่มแม่บ้าน ก็คงไม่รู้ประวัติอันอันเป็นแน่ แต่ที่แน่ๆ ดันเป็นชื่อเดียวกับ ขจกท นี่สิ เรียกทีสะดุ้งเลยค่ะ (ไปถึงลานวัด เรียกหา อันอันได้เลยค่ะ วิ่งมาอย่างเร็ว แต่อย่าลืมขนมนะคะ)


ตั้งใจจะพักที่นี่สักคืน ก็เดินมาที่นี่เลยค่ะ "เฮือนกาแฟ" เป็นบ้านพ่อหลวง แม่หลวง (บ้านผู้ใหญ่บ้าน) เขาจะจัดหาที่พัก Home Stay ให้ไปตามบ้านชาวบ้าน แต่ จขกท ไปช่วงนอกเทศกาล คนไม่เยอะ จึงได้นอนที่บ้านพ่อหลวง ราคา 520 บาท/คน มีอาหารให้ 2 มื้อ เย็น+เช้า ค่ะ




จากนั้นก็ถึงเวลาเดินเล่น แม่กำปองเป็นหมู่บ้านเล็กๆ เหมาะสำหรับการเดิน เดินสัมผัสธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นธรรมชาติจริงๆ ชื่นชมกับวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ชมนก ชมไม้ ไปเรื่อยๆ ไม่ต้องรีบ หากใครชอบสีสัน ก็คงไม่เหมาะกับแม่กำปอง จากการที่ จขกท ได้คุยกับชาวบ้านเขาเคยได้ยิน นักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่มาที่นี่แล้วพูดออกมาว่า "ที่นี่ไม่มีอะไรให้ฉันดูเลย จะให้ฉันมาดูอะไร" ซึ่งแน่นอนค่ะว่าชาวบ้านก็ไม่ได้ต้องการนักท่องเที่ยวแบบนี้ หากจะมาแม่กำปองต้องเคารพสถานที่ ศึกษามาก่อนว่าที่นี่เหมาะกับคุณหรือปล่าว หากจะมาขอให้มาด้วยใจและตั้งใจมา ให้เกียรติวิถีชีวิตของคนแม่กำปองค่ะ



แม่กำปอง เป็นหมู่บ้านที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขา มีความชื้นตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็จะได้ยินเสียงน้ำตกที่ไหลลงมากลายเป็นลำห้วย หล่อเลี้ยงผู้คนในหมู่บ้าน  อาชีพหลักของชาวบ้านคือปลูกกาแฟอราบิก้า และปลูกเมี่ยง จะสังเกตุได้ว่าทุกบ้านจะมีต้นกาแฟ หากต้องการจะดูการเก็บเมี่ยง เก็บกาแฟ และไปดูตาน้ำว่าไหลมาจากไหน ก็สามารถติดต่อแม่หลวง จะมีไกด์ท้องถิ่นพาไปเดินป่า ก็คิดคนละ 200 บาทค่ะ












จากนั้นก็เดินไปตามถนนในหมู่บ้าน ซึ่งถนนสายหลักจะมีเพียงสายเดียว ถนนเส้นนี้สามารถเดินทางไปถึงอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จ.ลำปางได้ค่ะ แต่เส้นทางก็โหดน่าดูทั้งแคบ และชัน ถ้ามาเที่ยวแม่กำปองควรจะมานอกฤดูกาลดีกว่า เพราะถ้ามาช่วงฤดูท่องเที่ยวอาจจะมีปัญหาเรื่องการจราจรในหมู่บ้านแน่ๆ แล้วก็เดินไปเรื่อยๆ แวะจิบกาแฟ และเดินไปจนถึงน้ำตกแม่กำปอง ซึ่งไม่ไกลจากหมู่บ้าน ระยะทางถ้าเริ่มเดินจากวัด ก็ประมาณ 1 ก.ม.


ตกเย็น แม่หลวงก็ทำกับข้าวให้ทานซึ่งเป็นเมนูอาหารพื้นบ้าน และแม่หลวงภูมิใจนำเสนอคือ ไข่ป่ามแม่กำปอง ฝีมือแม่หลวงอร่อยทุกเมนูค่ะ

จากนั้นก็เดินเล่นในหมู่บ้าน ซึ่งเวลานั้นประมาณ 2 ทุ่ม ทุกบ้านก็เงียบแล้ว สงบดีมากๆ อากาศก็เริ่มหนาว เหมาะแก่การพักผ่อนจริงๆ เดินๆไปก็มีร้านหมูจุ่มด้วยนะคะ แต่เสียดายที่ทานข้าวมาอิ่มแล้ว เดินเล่นสักพัก ก็พักผ่อนเก็บแรงไว้ไปชม "กิ่วฝิ่น" พรุ่งนี้เช้าค่ะ


เช้าแล้ว แม่หลวงทำข้าวต้ม ไข่ลวก และกาแฟสดแม่กำปอง ให้ทาน เดินกินลม ชมวิวไปเพลินๆ แล้วก็เตรียมตัวไป จุดชมวิว กิ่วฝิ่น อยู่ห่างจากหมู่บ้าน 5 ก.ม. เป็นจุดที่ท้าทายที่สุดของแม่กำปองเลยก็ว่าได้ เพราะทางไปช่างโหดเหลือเกิน ถ้าเดินทางโดยรถยนต์ต้องขับด้วยความระมัดระวัง เพราะทางแคบ โค้ง และชันตลอดเส้นทาง ขับขึ้นไปจนถึงป้ายนี้ ก็แปลว่าถึงกิ่วฝิ่นแล้วค่ะ สามารถจอดรถที่ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ จ.ซ.7 (ดอยล้าน) ได้เลยค่ะ

จากนั้นต้องเดินเท้าต่ออีก 200 ม. เพื่อไปยังจุดชมวิว

จะมีไกด์นำทางคือเจ้าตัวนี้ แสนรู้มาก พอเราไปถึงเหมือนกับเขารู้หน้าที่ว่าต้องนำทาง เขาจะหอนๆ ส่ายหาง จขกท ลองชวนว่า "ป่ะ พาไปกิ่วฝิ่นหน่อย" เขาก็วิ่งนำหน้าแบบตั้งใจ นั่งรอ นอนรอ ที่กิ่วฝิ่น แถมตอนกลับก็เดินมาส่งอย่างรู้หน้าที่ เสียดายที่ไม่มีขนมไปฝาก หากใครไปกิ่วฝิ่นซื้อขนมไปฝากเจ้าไกด์แสนรู้ตัวนี้ด้วยนะคะ

กิ่วฝิ่น ตั้งอยู่เขตติดต่อ เชียงใหม่-ลำปาง(แจ้ซ้อน) เป็นจุดชมวิวแบบแบบพาโนราม่า และเป็นจุดที่สูงสุดของแม่กำปอง สูง 1715 ม.จากระดับน้ำทะเล ในขณะที่ตัวหมู่บ้านอยู่ที่ 1300 ม.จากระดับน้ำทะเลค่ะ ขึ้นมาถึงแล้วหายเหนื่อย อากาศเย็นสบาย สวยงามมากๆ คุ้มค่ากับการที่ได้มาจริงๆค่ะ
ชื่อสินค้า:   แม่กำปอง อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่