ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะคะว่า กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเราเลย ถ้าผิดพลาดอะไรยังไงก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ


เรามีโอกาสได้อ่านกระทู้แนวที่ว่า ได้คบกับคนที่แอบชอบมา รึประมาณว่าคนที่เราแอบชอบมาขอเป็นแฟน เราก็เลยอยากจะมาแบ่งปันบ้างค่ะ ของเราก็ไม่ค่อยต่างจากกระทู้ก่อนหน้านี้ …มั้ย ฮ่าๆๆๆ ไม่รู้สิ แต่เราตั้งใจจะตั้งกระทู้นี้เพื่อแบ่งปันความรู้สึก ที่สำคัญคือ ใครที่มีคนที่แอบชอบอยู่นะ เราเป็นกำลังใจให้ อาจจะใช้เวลานานหน่อย คลาดกันหลายครั้ง แต่เดี๋ยวมันต้องมีสักวันที่เป็นของเรา ฮ่าๆๆๆ บทสนทนาอาจไม่ใช่คำพูดจริงๆในตอนนั้น เราจำมาคราวๆเพราะจะไปค้นแชท แคปรูปมาให้ดูก็ …จะเป็นแสนแล้วอะเน้อะ อาจมีใส่คำพูดเพื่อเพิ่มอรรถรสจากเดิมบ้าง แต่ความจริง 95% ค่ะ เราขอใช้แทนตัวเองว่า “
ฟ้า” แล้วเรียกเค้าว่า “
อ้วน” นะคะ ไม่ได้เรียกให้ดูน่ารักแต่ประการใด
เพราะมันอ้วนจริงๆ 5555
เริ่มเลยดีว่า


ในช่วงมัธยมเชื่อว่าหลายๆคนก็คงจะมีคนที่แอบชอบ รึ แอบกรี๊ดกร๊าดกันบ้าง


ตัวเราก็เช่นกัน เรากับเค้า รู้จักกันมาประมาณ 4 5 ปีแล้วค่ะ ตั้งแต่ตอนเรามอสอง แล้วพี่เค้าอยู่มอสาม ตอนนั้นพี่เค้าน่ารักมาก เราเลยปลื้มๆไปตามประสาเด็กน้อย มาวันหนึ่งได้คุยกัน เป็นวันก่อนวันเกิดเราค่ะ พี่เค้าทักแชทมา พี่เค้าเป็นคนเฟรนลี่ด้วยสิ ผ่านไปไม่นานเราสองคนเลยสนิทกัน เรากลายไปเป็นน้องสาวของเค้าได้ไงไม่รู้ (ในใจอยากเป็นมากกว่านั้น 5555 …ตั้งแต่เด็ก) แล้วเราก็คุยกันเรื่อยๆตามประสาพี่น้อง ไถ่ถามสาระทุกสุขดิบกัน เวลาผ่านไป 1 2 3 4 ปี เราก็ยังอยู่ในสถานะเดิม พี่น้องที่รักกัน นานๆคุยกันที พี่เค้าทักมาที เราตอบไปทีแล้วก็หาย TT เพราะในช่วงนั้นพี่เค้ามีแฟนแล้ว แล้วเราก็มีแฟนเหมือนกัน แต่เราเลิกก่อน ส่วนพี่เค้าก็คบกันได้ 2 3 ปี มั้ง
เข้าเรื่องจริงๆละ 5555

เมื่อปลายปีที่แล้ว 57 (ตอนนี้เราอยู่มอหก พี่เค้าอยู่ปี 1 แล้วนะ) เราเป็นเด็กมอหกที่กำลังต้องอ่านหนังสืออย่างเคร่งครัด จริงจังและเครียดมาก เพราะเรายังสอบไม่ติดเลย ช่วงนั้นเราหายไปจากโลกโซเชียล แล้วพอสอบ GAT PAT รอบแรกเสร็จเราก็เริ่มกลับมาเล่นโซเชียลค่ะ สิ่งที่มาเจอคือ พี่เขาค่ะ พี่คนนั้น
เขากำลังอกหัก ดูเศร้ามากด้วย เรานี่ด้วยความเป็นห่วงเลยทักไปบ่อยๆ ความรู้สึกเก่าๆเริ่มกลับมา เราคุยกันบ่อยขึ้น เรื่อยๆ ในใจเราตอนนั้นคิดแค่ว่า ไม่อยากให้พี่เค้าเศร้า อยากอยู่คุยด้วย เราว่า เรารู้สึกเป็นน้องสาวเค้าจริงๆแล้วละ ไม่มีความคิดที่อยากจะชุบมือเปิป จีบเค้า รึอยากจะเป็นแฟนเลย ทั้งๆที่เค้าก็ไม่มีใครแล้ว(ดูนางเอกมาก 555 ) เราคุยกันบ่อยขึ้นจากแต่ก่อนมาก แต่จริงๆตอนนั้นเหมือนคนแก้เหงามากอะ พี่เค้าอยากคุยก็ทักมาที แล้วก็หาย หน้าวอลก็เพ้อถึงแต่แฟนเก่า เรานี่แบบ เห้อ… เวลาผ่านไปคะแนน GAT PAT ออก เรานี่ก็หายเครียดมาบ้างเพราะคะแนนไม่ได้เลวร้ายอะไร น่าจะพอติดมหาลัยที่ไหนสักแห่งในประเทศไทย 5555 เราเลย กลับมาติดโซเชียลเช่นเดิม
หลังปีใหม่ 58 เราก็ยังคุยกันอยู่ คุยกันมากขึ้น มากขึ้นจริงๆเพราะ ตอนนั้นเราติดมหาลัยแล้ว อิอิ ได้เรียนในกรุงเทพฯสมใจ เราก็คุยกับพี่เค้ามาเรื่อยๆค่ะ ก็เริ่มรู้สึกว่าพี่เค้าแปลกๆ จากที่นานๆทีทัก มาหลังๆทักบ่อยขึ้น พอเรามาสอบสัมภาษณ์ ไม่ว่างตอบพี่เค้าก็ท้วงว่าหายไปไหน ทำไมไม่ไม่ตอบ ทั้งๆที่แต่ก่อนก็ไม่เคยเลย อีนี่ก็เริ่มหวั่นไหวละ (มโนเอง) จากที่เมื่อก่อนเป็นน้องก็ดีแล้ว มาตอนนี้ ถ้าเป็นแฟนได้ก็จะดีกว่านะ 5555 มากลางๆเดือนกุมภาพันธ์ค่ะ พี่เค้ามาปรึกษาเราว่า เค้าแอบชอบคนๆหนึ่งอยู่ แต่ไม่รู้ว่าอีกคนคิดยังไง เศร้าเลย กำลังจะมีความหวังแล้วนะ ไอ่เราก็

งงงคุยกับตูมาทุกวันนี่ยังไม่รู้สึกไรอีกหรอ แถมยังจะมาปรึกษาเรื่องคนอื่นอีก แต่เราก็ให้คำปรึกษานะ แล้วก็เคยจิกไปว่า “ไม่สนใจน้อง สนใจแต่อีนั่นแหละ”

พี่ “เคยชอบใครแต่บอกไม่ได้มั้ย”
เรา “เคยนะแต่สุดท้ายก็บอก 55555 มั่นหน้ามาก”
พี่ “กลัวว่าบอกไป จะเสียเค้าไปเลย”
เรา “55555 ทำไมคิดงั้นละ”
พี่ “ก็กลัวว่า เค้าจะไม่คุยด้วยอีกเบย”
เรา “กลัวทำม้ายยยโตๆกันแล้ว”
พี่ “อ่านะ เชื่อมั้ยตั้งแต่มีเค้าเข้ามา ก้อดีขึ้น เยอะเลย ทำให้ลืม…ได้เลยยย”
เรา “แหม่ๆพ่อโลกงาม 55555 คุณอ้วนคะ ถ้าขนาดนี้ แนะนำ จีบเถอะ 5555 นอนไปๆ”
พี่ “ม่ายง่วงเลย คิดหนัก”
เรา “เป็นไร ใจเย็นๆ”
พี่ “อีนั่นแหละ”
เรา “ใจเย็นๆ ถ้าเค้ายังไม่ไปมีใคร ก็ไม่เห็นต้องรีบเลยยยย” แต่ในใจเรานี่เศร้ามากๆ เหมือนอกหักอีกรอบ

พอสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ โรงเรียนของเราจะจัดงานอำลาให้กับนักเรียนชั้นมอหกค่ะ
พี่ “เค้าฝากให้[พี่…(เพื่อนสนิทพี่เค้า)]เอาดอกไม้ให้มันละ><”
เรา “พี่…(เพื่อนสนิทพี่เค้า)มาหรออออออออ ดอกไม้ก็มา 5555 เอิ่ม เด็กม.6สินะ”
พี่ “ ^______^”
เรา “ 5555 โชคดีนะงั้น”
เราไม่คุยอะไรกันมากเพราะเรากำลังเดินทางกลับจากกรุงเทพฯ วันนั้นมันทั้งเศร้าทั้งดีใจ ดีใจเพราะเราเรียนจบมัธยมแล้ว
แต่ก็เศร้าด้วยที่มีโอกาสได้คุยกับพี่เค้าแล้วแท้ๆ แต่ทำไมเราเอาชนะใจพี่เค้าไม่ได้ มันตั้งสองครั้งเลยนะ ทั้งเมื่อตอน 4 ปีที่แล้วและในตอนนี้
แล้ววันแสนสำคัญมาถึง
ปกติแล้วเราก็ค่อนข้างเป็นที่รู้จักในโรงเรียน แต่ไม่ได้ขาวสวย น่ารักรึอะไรเลยนะ เนื่องด้วยเราทำประชาสัมพันธ์โรงเรียน แล้วก็เป็นพิธีกรโรงเรียน ชอบทำค่าย เป็นเด็กกิจกรรม รุ่นน้องเลยเยอะ วันนั้นเราก็ได้ของขวัญตุ๊กตา บอร์ด ดอกไม้ บลาๆ เยอะมากเลย มันเยอะกว่าที่คิดไว้มากๆ ต้องขอบคุณทุกคนมา ณ ที่นี้ด้วยจริงๆ ในตอนที่ยืนอยู่กลางสนาม พี่…(เพื่อนสนิทพี่เค้า)ก็โทรเข้ามาถามว่าเราอยู่ไหน เราก็บอกว่า อยู่กลางสนาม หน้าเสาธง แล้วพี่…(เพื่อนสนิทพี่เค้า)ก็มา อ่อ คือเรากับกลุ่มพวกพี่ๆเค้ารู้จักกัน เราไม่ได้เป็นน้องสาวของพี่เค้าคนเดียว แต่เราคือน้องสาวของพี่ๆทุกคน และเราก็สนิทกับพี่…(เพื่อนสนิทพี่เค้า)ด้วย
พี่…(เพื่อนสนิทพี่เค้า) “ยินดีด้วยนะครับน้องสาว ^^ จบสักทีนะ” แล้วก็ยื่นตุ๊กตามาให้
เรา “ขอบคุณนะคะ พี่…(เพื่อนสนิทพี่เค้า)กลับมาหาฟ้าเป็นคนแรกเลย ดีใจจัง” พอกำลังถ่ายรูป เหลือบไปเห็นช่อดอกกุหลาบสีชมพูสวยเลย (คิดในใจ

นี้ใช่ไหม หืมมม มารหัวใจ แย่งมาได้ไหม ฮึ้ยยยย) ตอนที่ในใจกำลังวางแผนชั่วร้ายอยู่นั้น พี่…(เพื่อนสนิทพี่เค้า) ก็เรียก
พี่…(เพื่อนสนิทพี่เค้า) “ฟ้า อะไอ่อ้วนมันฝากมาให้ มันบอกมันมาไม่ได้ ต้องไปหาแม่”
เราละสายตาจากดอกกุหลาบแล้วไปมองหน้าพี่…(เพื่อนสนิทพี่เค้า)

เรา “ห่ะ พี่ว่าอะไรนะ ใครฝากมานะ”
พี่…(เพื่อนสนิทพี่เค้า) “ไออ้วน”
เราก็เอ๋อรับประทานเลยค่ะ ตอนนั้นก็คิดถึงคำพูดพี่เค้า
“พี่แอบชอบคนๆหนึ่ง”
“เค้าจะคิดเหมือนพี่ไหม”
“พี่จะเอาดอกไม้ไปให้เค้า”
“ก็ใครดอกไม้จากพี่…(เพื่อนสนิทพี่เค้า)ก็คนนั้นแหละ หาเอา 5555”
คนๆนั้นคือตูหรอ ตูเป็นอีนั่นหรอ หูยยยยนี่ตอนนั้นตูจิตัวเองหรอ ตกใจแรงมาก
แล้วพอตอนบ่ายวันนั้นเราก็มีโอกาสได้เปิด facebook สักที
พี่ “โทรเฟสหาเค้าด้วย ถ้าตื่นอยุ่นะ 555 ฝันดี รักนะะ จุ๊บบ” (เราเห็นข้อความนี้หลังจากได้ดอกไม้แล้ว)
เรา “ขอบใจนะอ้วน สวยมากๆ 5555 แต่ถ้ามาให้เองดอกไม้จะสวยกว่านี้อีกกก”
พี่ “หราาา ก็ไม่ว่างงเหลา”
เรา “555ไม่เป็นไรๆ แค่นี้ก็ดีใจสุดล่าาา บางทีก็บอกตรงๆก็ได้ป่ะ”
พี่ “บอกอารายเหลา รู๊”
เรา “ก็ไม่รู้สินะ 55555”
พี่ “อะไร เค้าไม่รุ้เรื่องง”
เรา “ก็ได้ๆ เข้าใจไม่ตรงกัน 55555”
พี่ “รู้ยังหละ อีนั่นใคร 5555”
เรา “ขอบคุณนะ เซอไพร้มากก 5555 ><”
พี่ “ >< นึกว่าจะไม่คุยด้วยซะละ”
เรา “ มโนเอง 5555”
และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของเรา …
หลังจากนั้นเราก็คุยกันมาเรื่อยๆ คุยทุกวัน อ่อ คือเราเรียนมัธยมที่เดียวกัน แต่พอพี่เค้าขึ้นปี 1 พี่เค้าก็ไปเรียนวิศวะอยู่โคราช ส่วนเราก็รอเปิดเทอม เป็นว่าที่ปี 1 ครุศาสตร์ พี่เค้าเป็นคนน่ารักมากๆเลยค่ะ แต่หลังจากที่พี่เค้าบอกชอบเรา เราก็ยังไม่อะไรนะ ก็คุยกันไปเหมือนเดิม จนพอวันที่ 12 มีนาคม 58 ค่ะ พวกเราได้เจอกัน เจอในรอบปีที่ไม่เคยเจอกันเลย พวกเราไปกินข้าวด้วยกัน จำได้เลย เขินมากๆ เพราะปกติคุยกันในแชท โทรก็ไม่ค่อยโทร เพราะบ้านเราพ่อกับแม่ไม่ชอบให้คุยโทรศัพท์ นั่งมองอะไรกันก็ไม่รู้ มองพื้นบ้าง มองแก้วบ้าง มองเพดานบ้าง 5555 ต่อด้วยการไปดูหนังด้วยกัน เรื่องแรกที่ดูกับพี่เค้า เราขอตั้งชื่อเรื่องว่า “อี Cinderella อีนมใหญ่” สาเหตุเพราะเราแบนค่ะ แล้วพี่เค้าก็ชอบล้อ เรียกเราว่า แบนๆๆๆๆ นั่งดูหนังอยู่ ก็สะกิด บอกว่า “ดูๆ นมใหญ่กว่าฟ้าอีก” เรานี่แบบ เอิ่มมมม…เซ็งเจ้าค่ะ! ขนาดหนังจบยังพูด และปัจจุบันก็ยังพูดอยู่

พอเรากำลังจะกลับบ้าน พี่เค้าก็มาส่งขึ้นสถานีรถไฟ เราจำได้เลย พี่เค้าไม่กล้ามองหน้าเรา แต่เรานี่นั่งแกล้งพี่เค้าเลย จ้องตาบ้างอะไรบ้าง 5555 ก็เดทแรกนิค่ะ พี่เค้าเป็นคนที่ปากไม่หวาน เอาใจไม่เก่ง แต่เค้ามีความน่ารักอยู่ในตัว เราก็เป็นพวกห้าวๆกวนๆมึนๆ ไม่รู้ว่า มาบรรจบกันยังไงดี สรุปวันนั้นผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ
พอเดือนเมษา เดือนนี้มีวันเกิดเรา
เราก็ลุ้นมากค่ะ ตื่นมาตั้งแต่เช้า คือวันเกิดเราถ้าตรงกับวันพระ เราจะไปวัดค่ะ แต่ถ้าไม่ตรงก็จะใส่บาตรอยู่หน้าบ้าน ใส่บาตรเสร็จรอลุ้นว่าวันนี้จะอะไรพิเศษมั้ย พระเจ้า!!!! ปรากฏว่า เซอร์ไพร้มาก เพราะพี่เค้าตื่นสาย เรานี่แบบ จะงอนแล้วนะ จะโกรธแล้วนะ พอเที่ยงๆก็มีรูปส่งมาให้ เป็นรูปอวยพรวันเกิดที่พี่เค้าวาดขึ้นมาเอง แล้วก็คำอวยพรเป็นภาษาอังกฤษ …คือแบบอยากตบมาก เพราะเราโง่อังกฤษ พอได้มานี่ เปิดดิก หาศัพท์นั่งแปลเลยค่ะ พยายามมาก ทำไปสั่นไป จะบอกว่าการบ้านวิชาภาษาอังกฤษยังไม่ตั้งใจขนาดนี้เลย 5555 ใจความก็
“Happy Birthday to … Send Your Hands Are You Ready to Walk With Me or not BABY. You Love Me? Hold it tight, do not leave. I’m need in relationship with you. What about you?” เอาจริงๆตอนนี้เราก็ไม่รู้ว่า ทั้งหมดนี้แปลว่าอะไร รู้แค่พี่เค้าขอเป็นแฟน (เอาไปให้เพื่อนแปลให้ นางบอกแบบนี้) พอเราบอกว่า เราเอาไปให้เพื่อนแปลให้ พี่เค้าก็โกรธค่ะ บอกว่า “ทำไมไม่ให้เค้าแปลให้ฟัง” เหมือนประมาณตั้งใจจะให้เราแปลไม่ออกแล้วให้เราไปถาม จะได้แปลมาให้แบบหวานๆไรงี้ แต่เราทำเสียเรื่องหมด 55555 สรุปคือ ก็เป็นแฟนกันวันนั้นแหละ
บทสนทนาที่กำลังจะหวาน แต่ก็ไม่เคยหวานได้เลย
เรา “อ้วน”
พี่ “จ๋าา”
เรา “เขาอยากรู้ ว่า ระหว่างหมอนข้าง กับ ผ้าห่ม อ้วนขาดอะไรไม่ได้”
พี่ “ขาดฟ้าไม่ได้”
เรา “กรรม 5555 ไม่มีในตัวเลือกนี่"
พี่ “ฮ่าๆ ถามทำไม ฟ้าหละ ขาดไรไม่ได้
เรา “เขาขาดอ้วนไม่ได้เหมือนกัน ยื้ยยยย ><”
พี่ “ไม่มีในตัวเลือกก” *เรานี่แบบ เคจ้า น่าร้ากกกกก =___=
พี่เค้าชอบบอกว่า “ทำไมฟ้าชอบทำให้คิดถึงด้วย แบนก็แบน ดำก็ดำ ฟ้าต้องเล่นของใส่พี่แน่ๆ ถ้ากล้ามีคนอื่นก็บ้าแล้ว” เราก็แบบ …เอิ่ม อัลไล วันนี้กินไรมา 5555 ตอนแรกๆเค้าไม่ใช่แบบนี้เลยนะ จนทุกวันนี้เราเหมือนมีเด็กเล็กๆอยู่กับเราอะ
ตั้งแต่วันนั้น จนถึงตอนนี้ เราคบกันได้จะครบปีแล้วค่ะ ปัจจุบัน เราอยู่ปี 1 เรียนในกรุงเทพฯ พี่เค้าเรียนปี 2 ที่โคราช นานๆน๊านนนนนนานมากกว่าจะได้เจอกัน คู่เราอาจจะไม่ได้หวานอะไรเหมือนกับคู่อื่นนะคะ เพราะบุคลิกของพี่เค้าก็เงียบๆ(แต่อยู่กับเราพูดมากๆๆๆๆ) แต่เราก็รู้สึกโชคดีที่เรามีเค้า เราไม่รู้ว่าอนาคตเราจะยังคบกันอยู่ไหม เรารู้แค่ว่า เราต้องทำหน้าที่ตรงนี้ของเราให้ดีที่สุด พี่เค้าก็ตั้งใจเรียน เราก็ตั้งใจเรียน เราคบกันเหมือนเป็นคนในครอบครัวกันค่ะ มันรู้สึกว่า มันมากกว่าแฟน มันไม่ใช่เหมือนคนรักในตอนเด็กๆ พวกเราคอยให้กำลังใจกัน รับฟังเวลาอีกฝ่ายมีเรื่องทุกข์ใจ มันคุ้มค่ามากจริงๆกับเวลาที่รอ
อยากจะขอบคุณที่พี่เค้าเห็นเราในตอนนั้น อยากจะบอกว่า รักมากๆนะ อยากขอบคุณที่ยอมออกมาจากความฝันของเราแล้วมาปรากฎตัวอยู่ข้างหน้าเรา มาอยู่ข้างๆเรา กลายมาเป็นคนในความเป็นจริง พี่เค้าทำให้เราข้ามผ่านกำแพง ข้ามปมอะไรๆหลายอย่างมาได้ เวลาทะเลาะกัน เค้าไม่เคยปล่อยมือเราเลย เป็นเราด้วยซ้ำที่เอะอะก็จะไป เอะอะก็ไม่ไหว ทำไม่ได้ แต่ตอนนี้เราเข้าใจแล้วว่า อะไรคือความรักจริงๆ จนตอนนี้ก็รู้สึกดีใจที่มีพี่เค้าอยู่ข้างๆ
เมื่อคนในความฝัน กลายมาเป็นคนในความจริง
เรามีโอกาสได้อ่านกระทู้แนวที่ว่า ได้คบกับคนที่แอบชอบมา รึประมาณว่าคนที่เราแอบชอบมาขอเป็นแฟน เราก็เลยอยากจะมาแบ่งปันบ้างค่ะ ของเราก็ไม่ค่อยต่างจากกระทู้ก่อนหน้านี้ …มั้ย ฮ่าๆๆๆ ไม่รู้สิ แต่เราตั้งใจจะตั้งกระทู้นี้เพื่อแบ่งปันความรู้สึก ที่สำคัญคือ ใครที่มีคนที่แอบชอบอยู่นะ เราเป็นกำลังใจให้ อาจจะใช้เวลานานหน่อย คลาดกันหลายครั้ง แต่เดี๋ยวมันต้องมีสักวันที่เป็นของเรา ฮ่าๆๆๆ บทสนทนาอาจไม่ใช่คำพูดจริงๆในตอนนั้น เราจำมาคราวๆเพราะจะไปค้นแชท แคปรูปมาให้ดูก็ …จะเป็นแสนแล้วอะเน้อะ อาจมีใส่คำพูดเพื่อเพิ่มอรรถรสจากเดิมบ้าง แต่ความจริง 95% ค่ะ เราขอใช้แทนตัวเองว่า “ฟ้า” แล้วเรียกเค้าว่า “อ้วน” นะคะ ไม่ได้เรียกให้ดูน่ารักแต่ประการใด เพราะมันอ้วนจริงๆ 5555
เริ่มเลยดีว่า
ในช่วงมัธยมเชื่อว่าหลายๆคนก็คงจะมีคนที่แอบชอบ รึ แอบกรี๊ดกร๊าดกันบ้าง
เข้าเรื่องจริงๆละ 5555
เมื่อปลายปีที่แล้ว 57 (ตอนนี้เราอยู่มอหก พี่เค้าอยู่ปี 1 แล้วนะ) เราเป็นเด็กมอหกที่กำลังต้องอ่านหนังสืออย่างเคร่งครัด จริงจังและเครียดมาก เพราะเรายังสอบไม่ติดเลย ช่วงนั้นเราหายไปจากโลกโซเชียล แล้วพอสอบ GAT PAT รอบแรกเสร็จเราก็เริ่มกลับมาเล่นโซเชียลค่ะ สิ่งที่มาเจอคือ พี่เขาค่ะ พี่คนนั้น เขากำลังอกหัก ดูเศร้ามากด้วย เรานี่ด้วยความเป็นห่วงเลยทักไปบ่อยๆ ความรู้สึกเก่าๆเริ่มกลับมา เราคุยกันบ่อยขึ้น เรื่อยๆ ในใจเราตอนนั้นคิดแค่ว่า ไม่อยากให้พี่เค้าเศร้า อยากอยู่คุยด้วย เราว่า เรารู้สึกเป็นน้องสาวเค้าจริงๆแล้วละ ไม่มีความคิดที่อยากจะชุบมือเปิป จีบเค้า รึอยากจะเป็นแฟนเลย ทั้งๆที่เค้าก็ไม่มีใครแล้ว(ดูนางเอกมาก 555 ) เราคุยกันบ่อยขึ้นจากแต่ก่อนมาก แต่จริงๆตอนนั้นเหมือนคนแก้เหงามากอะ พี่เค้าอยากคุยก็ทักมาที แล้วก็หาย หน้าวอลก็เพ้อถึงแต่แฟนเก่า เรานี่แบบ เห้อ… เวลาผ่านไปคะแนน GAT PAT ออก เรานี่ก็หายเครียดมาบ้างเพราะคะแนนไม่ได้เลวร้ายอะไร น่าจะพอติดมหาลัยที่ไหนสักแห่งในประเทศไทย 5555 เราเลย กลับมาติดโซเชียลเช่นเดิม
หลังปีใหม่ 58 เราก็ยังคุยกันอยู่ คุยกันมากขึ้น มากขึ้นจริงๆเพราะ ตอนนั้นเราติดมหาลัยแล้ว อิอิ ได้เรียนในกรุงเทพฯสมใจ เราก็คุยกับพี่เค้ามาเรื่อยๆค่ะ ก็เริ่มรู้สึกว่าพี่เค้าแปลกๆ จากที่นานๆทีทัก มาหลังๆทักบ่อยขึ้น พอเรามาสอบสัมภาษณ์ ไม่ว่างตอบพี่เค้าก็ท้วงว่าหายไปไหน ทำไมไม่ไม่ตอบ ทั้งๆที่แต่ก่อนก็ไม่เคยเลย อีนี่ก็เริ่มหวั่นไหวละ (มโนเอง) จากที่เมื่อก่อนเป็นน้องก็ดีแล้ว มาตอนนี้ ถ้าเป็นแฟนได้ก็จะดีกว่านะ 5555 มากลางๆเดือนกุมภาพันธ์ค่ะ พี่เค้ามาปรึกษาเราว่า เค้าแอบชอบคนๆหนึ่งอยู่ แต่ไม่รู้ว่าอีกคนคิดยังไง เศร้าเลย กำลังจะมีความหวังแล้วนะ ไอ่เราก็
พี่ “เคยชอบใครแต่บอกไม่ได้มั้ย”
เรา “เคยนะแต่สุดท้ายก็บอก 55555 มั่นหน้ามาก”
พี่ “กลัวว่าบอกไป จะเสียเค้าไปเลย”
เรา “55555 ทำไมคิดงั้นละ”
พี่ “ก็กลัวว่า เค้าจะไม่คุยด้วยอีกเบย”
เรา “กลัวทำม้ายยยโตๆกันแล้ว”
พี่ “อ่านะ เชื่อมั้ยตั้งแต่มีเค้าเข้ามา ก้อดีขึ้น เยอะเลย ทำให้ลืม…ได้เลยยย”
เรา “แหม่ๆพ่อโลกงาม 55555 คุณอ้วนคะ ถ้าขนาดนี้ แนะนำ จีบเถอะ 5555 นอนไปๆ”
พี่ “ม่ายง่วงเลย คิดหนัก”
เรา “เป็นไร ใจเย็นๆ”
พี่ “อีนั่นแหละ”
เรา “ใจเย็นๆ ถ้าเค้ายังไม่ไปมีใคร ก็ไม่เห็นต้องรีบเลยยยย” แต่ในใจเรานี่เศร้ามากๆ เหมือนอกหักอีกรอบ
พอสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ โรงเรียนของเราจะจัดงานอำลาให้กับนักเรียนชั้นมอหกค่ะ
พี่ “เค้าฝากให้[พี่…(เพื่อนสนิทพี่เค้า)]เอาดอกไม้ให้มันละ><”
เรา “พี่…(เพื่อนสนิทพี่เค้า)มาหรออออออออ ดอกไม้ก็มา 5555 เอิ่ม เด็กม.6สินะ”
พี่ “ ^______^”
เรา “ 5555 โชคดีนะงั้น”
เราไม่คุยอะไรกันมากเพราะเรากำลังเดินทางกลับจากกรุงเทพฯ วันนั้นมันทั้งเศร้าทั้งดีใจ ดีใจเพราะเราเรียนจบมัธยมแล้ว
แต่ก็เศร้าด้วยที่มีโอกาสได้คุยกับพี่เค้าแล้วแท้ๆ แต่ทำไมเราเอาชนะใจพี่เค้าไม่ได้ มันตั้งสองครั้งเลยนะ ทั้งเมื่อตอน 4 ปีที่แล้วและในตอนนี้
แล้ววันแสนสำคัญมาถึง
ปกติแล้วเราก็ค่อนข้างเป็นที่รู้จักในโรงเรียน แต่ไม่ได้ขาวสวย น่ารักรึอะไรเลยนะ เนื่องด้วยเราทำประชาสัมพันธ์โรงเรียน แล้วก็เป็นพิธีกรโรงเรียน ชอบทำค่าย เป็นเด็กกิจกรรม รุ่นน้องเลยเยอะ วันนั้นเราก็ได้ของขวัญตุ๊กตา บอร์ด ดอกไม้ บลาๆ เยอะมากเลย มันเยอะกว่าที่คิดไว้มากๆ ต้องขอบคุณทุกคนมา ณ ที่นี้ด้วยจริงๆ ในตอนที่ยืนอยู่กลางสนาม พี่…(เพื่อนสนิทพี่เค้า)ก็โทรเข้ามาถามว่าเราอยู่ไหน เราก็บอกว่า อยู่กลางสนาม หน้าเสาธง แล้วพี่…(เพื่อนสนิทพี่เค้า)ก็มา อ่อ คือเรากับกลุ่มพวกพี่ๆเค้ารู้จักกัน เราไม่ได้เป็นน้องสาวของพี่เค้าคนเดียว แต่เราคือน้องสาวของพี่ๆทุกคน และเราก็สนิทกับพี่…(เพื่อนสนิทพี่เค้า)ด้วย
พี่…(เพื่อนสนิทพี่เค้า) “ยินดีด้วยนะครับน้องสาว ^^ จบสักทีนะ” แล้วก็ยื่นตุ๊กตามาให้
เรา “ขอบคุณนะคะ พี่…(เพื่อนสนิทพี่เค้า)กลับมาหาฟ้าเป็นคนแรกเลย ดีใจจัง” พอกำลังถ่ายรูป เหลือบไปเห็นช่อดอกกุหลาบสีชมพูสวยเลย (คิดในใจ
พี่…(เพื่อนสนิทพี่เค้า) “ฟ้า อะไอ่อ้วนมันฝากมาให้ มันบอกมันมาไม่ได้ ต้องไปหาแม่”
เราละสายตาจากดอกกุหลาบแล้วไปมองหน้าพี่…(เพื่อนสนิทพี่เค้า)
เรา “ห่ะ พี่ว่าอะไรนะ ใครฝากมานะ”
พี่…(เพื่อนสนิทพี่เค้า) “ไออ้วน”
เราก็เอ๋อรับประทานเลยค่ะ ตอนนั้นก็คิดถึงคำพูดพี่เค้า
“พี่แอบชอบคนๆหนึ่ง”
“เค้าจะคิดเหมือนพี่ไหม”
“พี่จะเอาดอกไม้ไปให้เค้า”
“ก็ใครดอกไม้จากพี่…(เพื่อนสนิทพี่เค้า)ก็คนนั้นแหละ หาเอา 5555”
คนๆนั้นคือตูหรอ ตูเป็นอีนั่นหรอ หูยยยยนี่ตอนนั้นตูจิตัวเองหรอ ตกใจแรงมาก
แล้วพอตอนบ่ายวันนั้นเราก็มีโอกาสได้เปิด facebook สักที
พี่ “โทรเฟสหาเค้าด้วย ถ้าตื่นอยุ่นะ 555 ฝันดี รักนะะ จุ๊บบ” (เราเห็นข้อความนี้หลังจากได้ดอกไม้แล้ว)
เรา “ขอบใจนะอ้วน สวยมากๆ 5555 แต่ถ้ามาให้เองดอกไม้จะสวยกว่านี้อีกกก”
พี่ “หราาา ก็ไม่ว่างงเหลา”
เรา “555ไม่เป็นไรๆ แค่นี้ก็ดีใจสุดล่าาา บางทีก็บอกตรงๆก็ได้ป่ะ”
พี่ “บอกอารายเหลา รู๊”
เรา “ก็ไม่รู้สินะ 55555”
พี่ “อะไร เค้าไม่รุ้เรื่องง”
เรา “ก็ได้ๆ เข้าใจไม่ตรงกัน 55555”
พี่ “รู้ยังหละ อีนั่นใคร 5555”
เรา “ขอบคุณนะ เซอไพร้มากก 5555 ><”
พี่ “ >< นึกว่าจะไม่คุยด้วยซะละ”
เรา “ มโนเอง 5555”
และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของเรา …
หลังจากนั้นเราก็คุยกันมาเรื่อยๆ คุยทุกวัน อ่อ คือเราเรียนมัธยมที่เดียวกัน แต่พอพี่เค้าขึ้นปี 1 พี่เค้าก็ไปเรียนวิศวะอยู่โคราช ส่วนเราก็รอเปิดเทอม เป็นว่าที่ปี 1 ครุศาสตร์ พี่เค้าเป็นคนน่ารักมากๆเลยค่ะ แต่หลังจากที่พี่เค้าบอกชอบเรา เราก็ยังไม่อะไรนะ ก็คุยกันไปเหมือนเดิม จนพอวันที่ 12 มีนาคม 58 ค่ะ พวกเราได้เจอกัน เจอในรอบปีที่ไม่เคยเจอกันเลย พวกเราไปกินข้าวด้วยกัน จำได้เลย เขินมากๆ เพราะปกติคุยกันในแชท โทรก็ไม่ค่อยโทร เพราะบ้านเราพ่อกับแม่ไม่ชอบให้คุยโทรศัพท์ นั่งมองอะไรกันก็ไม่รู้ มองพื้นบ้าง มองแก้วบ้าง มองเพดานบ้าง 5555 ต่อด้วยการไปดูหนังด้วยกัน เรื่องแรกที่ดูกับพี่เค้า เราขอตั้งชื่อเรื่องว่า “อี Cinderella อีนมใหญ่” สาเหตุเพราะเราแบนค่ะ แล้วพี่เค้าก็ชอบล้อ เรียกเราว่า แบนๆๆๆๆ นั่งดูหนังอยู่ ก็สะกิด บอกว่า “ดูๆ นมใหญ่กว่าฟ้าอีก” เรานี่แบบ เอิ่มมมม…เซ็งเจ้าค่ะ! ขนาดหนังจบยังพูด และปัจจุบันก็ยังพูดอยู่
พอเรากำลังจะกลับบ้าน พี่เค้าก็มาส่งขึ้นสถานีรถไฟ เราจำได้เลย พี่เค้าไม่กล้ามองหน้าเรา แต่เรานี่นั่งแกล้งพี่เค้าเลย จ้องตาบ้างอะไรบ้าง 5555 ก็เดทแรกนิค่ะ พี่เค้าเป็นคนที่ปากไม่หวาน เอาใจไม่เก่ง แต่เค้ามีความน่ารักอยู่ในตัว เราก็เป็นพวกห้าวๆกวนๆมึนๆ ไม่รู้ว่า มาบรรจบกันยังไงดี สรุปวันนั้นผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ
พอเดือนเมษา เดือนนี้มีวันเกิดเรา
เราก็ลุ้นมากค่ะ ตื่นมาตั้งแต่เช้า คือวันเกิดเราถ้าตรงกับวันพระ เราจะไปวัดค่ะ แต่ถ้าไม่ตรงก็จะใส่บาตรอยู่หน้าบ้าน ใส่บาตรเสร็จรอลุ้นว่าวันนี้จะอะไรพิเศษมั้ย พระเจ้า!!!! ปรากฏว่า เซอร์ไพร้มาก เพราะพี่เค้าตื่นสาย เรานี่แบบ จะงอนแล้วนะ จะโกรธแล้วนะ พอเที่ยงๆก็มีรูปส่งมาให้ เป็นรูปอวยพรวันเกิดที่พี่เค้าวาดขึ้นมาเอง แล้วก็คำอวยพรเป็นภาษาอังกฤษ …คือแบบอยากตบมาก เพราะเราโง่อังกฤษ พอได้มานี่ เปิดดิก หาศัพท์นั่งแปลเลยค่ะ พยายามมาก ทำไปสั่นไป จะบอกว่าการบ้านวิชาภาษาอังกฤษยังไม่ตั้งใจขนาดนี้เลย 5555 ใจความก็
“Happy Birthday to … Send Your Hands Are You Ready to Walk With Me or not BABY. You Love Me? Hold it tight, do not leave. I’m need in relationship with you. What about you?” เอาจริงๆตอนนี้เราก็ไม่รู้ว่า ทั้งหมดนี้แปลว่าอะไร รู้แค่พี่เค้าขอเป็นแฟน (เอาไปให้เพื่อนแปลให้ นางบอกแบบนี้) พอเราบอกว่า เราเอาไปให้เพื่อนแปลให้ พี่เค้าก็โกรธค่ะ บอกว่า “ทำไมไม่ให้เค้าแปลให้ฟัง” เหมือนประมาณตั้งใจจะให้เราแปลไม่ออกแล้วให้เราไปถาม จะได้แปลมาให้แบบหวานๆไรงี้ แต่เราทำเสียเรื่องหมด 55555 สรุปคือ ก็เป็นแฟนกันวันนั้นแหละ
บทสนทนาที่กำลังจะหวาน แต่ก็ไม่เคยหวานได้เลย
เรา “อ้วน”
พี่ “จ๋าา”
เรา “เขาอยากรู้ ว่า ระหว่างหมอนข้าง กับ ผ้าห่ม อ้วนขาดอะไรไม่ได้”
พี่ “ขาดฟ้าไม่ได้”
เรา “กรรม 5555 ไม่มีในตัวเลือกนี่"
พี่ “ฮ่าๆ ถามทำไม ฟ้าหละ ขาดไรไม่ได้
เรา “เขาขาดอ้วนไม่ได้เหมือนกัน ยื้ยยยย ><”
พี่ “ไม่มีในตัวเลือกก” *เรานี่แบบ เคจ้า น่าร้ากกกกก =___=
พี่เค้าชอบบอกว่า “ทำไมฟ้าชอบทำให้คิดถึงด้วย แบนก็แบน ดำก็ดำ ฟ้าต้องเล่นของใส่พี่แน่ๆ ถ้ากล้ามีคนอื่นก็บ้าแล้ว” เราก็แบบ …เอิ่ม อัลไล วันนี้กินไรมา 5555 ตอนแรกๆเค้าไม่ใช่แบบนี้เลยนะ จนทุกวันนี้เราเหมือนมีเด็กเล็กๆอยู่กับเราอะ
ตั้งแต่วันนั้น จนถึงตอนนี้ เราคบกันได้จะครบปีแล้วค่ะ ปัจจุบัน เราอยู่ปี 1 เรียนในกรุงเทพฯ พี่เค้าเรียนปี 2 ที่โคราช นานๆน๊านนนนนนานมากกว่าจะได้เจอกัน คู่เราอาจจะไม่ได้หวานอะไรเหมือนกับคู่อื่นนะคะ เพราะบุคลิกของพี่เค้าก็เงียบๆ(แต่อยู่กับเราพูดมากๆๆๆๆ) แต่เราก็รู้สึกโชคดีที่เรามีเค้า เราไม่รู้ว่าอนาคตเราจะยังคบกันอยู่ไหม เรารู้แค่ว่า เราต้องทำหน้าที่ตรงนี้ของเราให้ดีที่สุด พี่เค้าก็ตั้งใจเรียน เราก็ตั้งใจเรียน เราคบกันเหมือนเป็นคนในครอบครัวกันค่ะ มันรู้สึกว่า มันมากกว่าแฟน มันไม่ใช่เหมือนคนรักในตอนเด็กๆ พวกเราคอยให้กำลังใจกัน รับฟังเวลาอีกฝ่ายมีเรื่องทุกข์ใจ มันคุ้มค่ามากจริงๆกับเวลาที่รอ
อยากจะขอบคุณที่พี่เค้าเห็นเราในตอนนั้น อยากจะบอกว่า รักมากๆนะ อยากขอบคุณที่ยอมออกมาจากความฝันของเราแล้วมาปรากฎตัวอยู่ข้างหน้าเรา มาอยู่ข้างๆเรา กลายมาเป็นคนในความเป็นจริง พี่เค้าทำให้เราข้ามผ่านกำแพง ข้ามปมอะไรๆหลายอย่างมาได้ เวลาทะเลาะกัน เค้าไม่เคยปล่อยมือเราเลย เป็นเราด้วยซ้ำที่เอะอะก็จะไป เอะอะก็ไม่ไหว ทำไม่ได้ แต่ตอนนี้เราเข้าใจแล้วว่า อะไรคือความรักจริงๆ จนตอนนี้ก็รู้สึกดีใจที่มีพี่เค้าอยู่ข้างๆ