คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
1. มีโอกาส, ซึ่งตามทฤษฎีสิ่งที่จะมีความเร็วมากกว่าแสงจะต้องมีมวล "ติดลบ" และมีอนุภาคในทฤษฎีดังกล่าวด้วย เช่น กราวิตอน
2. มวลจะต้องเป็น 0 ถึงจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วแสงได้ (เช่นโฟตอน)
3. ข้อนี้ผมก็ไม่แน่ใจนะ แต่จะลองให้จินตนาการตาม
สมมติเราเดินทางไปยังที่ๆ ห่างไกล เช่นไปดาวนาเม็ก ห่างจากโลก 100 ปีแสง แล้วกลับมายังโลก และมีผู้สังเกตการที่โลก เรียกว่านาย A ล่ะกันจะได้พิมพ์ง่ายๆ จะเห็นเราผ่านทางกล้องที่สามารถซูมเห็นเราได้ตลอดเวลา
นาย A จะเห็นเราเป็นอย่างไรเมื่อ
3.1 เราเดินทางเท่าความเร็วแสง
3.2 เราเดินทางมากกว่าความเร็วแสง และ
3.3 เราเดินทางโดยความเร็วมากจนแสงที่สะท้อนก่อนที่เราจะออกเดินทางมาช้ากว่าการ ไป-กลับ ของเรา
3.1 พอเราออกเดินทาง นาย A มองเห็นเรามุ่งไปยังดาวนาเม็กเป็นปกติ แต่เนื่องจากเราเราเดินทางด้วยความเร็วแสง เมื่อเราไปถึงดาวนาเม็กแล้ว นาย A จะเห็นเราแค่ครึ่งทาง เพราะแสงจากระยะ 50ปีแสงต้องเดินทางกลับมายังโลกอีก 50 ปีแสง ดังนั้นจะใช้เวลา 100 ปีกว่านาย A จะเห็นเราที่ระยะครึ่งทาง แล้วขาที่กลับจากดาวนาเม็กมายังโลก เนื่องจากเราใช้เวลาเดินทางเท่าความเร็วแสง พอเรากลับมายังโลก นาย A จะเห็นเราเป็นแบบนี้
นาย A จะเห็นเราถึงดาวนาเม็ก พร้อมๆ กับภาพที่เราเดินทางอีก 100ปีแสง และภาพที่เราถึงโลก "ทั้งหมดในเวลาเดียวกัน" เพราะเราเดินทางมาพร้อมแสงที่เป็นข้อมูลที่นาย A เห็น เขาจึงจะเห็นเหมือนภาพแฟลชในทีเดียวแล้ววู้บเดียวเราก็มาอยู่ตรงหน้าเขา (พูดง่ายๆ คือเห็นภาพการเดินทางในครึ่งหลังทั้งหมดภายในภาพเดียว เหมือนเอาแผ่นฟิล์มมาซ้อนกันแล้วดูทีเดียว)
3.2 ถ้าเราเดินทางมากกว่าความเร็วแสง ซึ่งขาไปนาย A จะเห็นเหมือน 3.1 แต่พอนาย A มองไปสักระยะนึงแล้วเราก็จะมาปรากฏตัวที่โลกอีกครั้ง แต่ทีนี้ภาพที่นาย A จะได้เห็นคือภาพยานของเดินทางมาถึงแบบ"กดวีดีโอย้อนหลัง" เพราะเนื่องจากยานของเราเดินทางไวกว่าแสง ภาพที่จะปรากฏก่อนคือภาพที่เกิดขึ้นทีหลัง (เพราะใกล้นาย A มากกว่า) ภาพที่เกิดขึ้นก่อนก็จะค่อยๆ ตามมาจนเหมือนเป็นการเล่นวีดีโอย้อนหลังนั่นเอง (งงไหม ถ้างงคอมเม้นถามจะแวะมาตอบในนะครับ)
จากปรากฏการณ์นี้จะทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า "image pair creation event" ซึ่งนาย A จะเห็นภาพสองภาพคือ ภาพที่เรากำลังมุ่งหน้าไปดาวนาเม็ก และภาพย้อนหลังของขากลับมายังโลกของยานเรา ในเวลาเดียวกัน
3.3 กรณีนี้จะพิเศษสุดๆ คือเมื่อนาย A กำลังรอเราจะออกเดินทาง ก็มียานที่กลับมาจากดาวนาเม็กกำลังลงจอดอยู่แล้ว หรือก็คือนาย A เหมือนเห็นเราย้อนเวลากลับมานั่นเอง
สรุป จากทั้งหมดที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าจริงๆ แล้วตัวเราเองนั้นไม่ได้ย้อนเวลาได้แต่อย่างใด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทั้งหมดเป็นเพียงแค่ทฤษฏี แนวคิดเฉยๆ เพราะมันเป็น extreme condition ซึ่งต้องมโนขึ้นมาจากหัวสมองของนักวิทยาศาสตร์ทั้งนั้น (เพราะ กราวิตอน หรืออนุภาคที่เคลื่อนที่ไวกว่าแสง ยังหาไม่พบ ก็ต้องเดากันไปก่อน)
ปล.ผิดพลาดประการใดขอผู้รู้ชี้แนะด้วยเด้อ
ปล. อธิบายเพิ่มเติมที่ 2-3 และ 2-5 นะครับ
2. มวลจะต้องเป็น 0 ถึงจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วแสงได้ (เช่นโฟตอน)
3. ข้อนี้ผมก็ไม่แน่ใจนะ แต่จะลองให้จินตนาการตาม
สมมติเราเดินทางไปยังที่ๆ ห่างไกล เช่นไปดาวนาเม็ก ห่างจากโลก 100 ปีแสง แล้วกลับมายังโลก และมีผู้สังเกตการที่โลก เรียกว่านาย A ล่ะกันจะได้พิมพ์ง่ายๆ จะเห็นเราผ่านทางกล้องที่สามารถซูมเห็นเราได้ตลอดเวลา
นาย A จะเห็นเราเป็นอย่างไรเมื่อ
3.1 เราเดินทางเท่าความเร็วแสง
3.2 เราเดินทางมากกว่าความเร็วแสง และ
3.3 เราเดินทางโดยความเร็วมากจนแสงที่สะท้อนก่อนที่เราจะออกเดินทางมาช้ากว่าการ ไป-กลับ ของเรา
3.1 พอเราออกเดินทาง นาย A มองเห็นเรามุ่งไปยังดาวนาเม็กเป็นปกติ แต่เนื่องจากเราเราเดินทางด้วยความเร็วแสง เมื่อเราไปถึงดาวนาเม็กแล้ว นาย A จะเห็นเราแค่ครึ่งทาง เพราะแสงจากระยะ 50ปีแสงต้องเดินทางกลับมายังโลกอีก 50 ปีแสง ดังนั้นจะใช้เวลา 100 ปีกว่านาย A จะเห็นเราที่ระยะครึ่งทาง แล้วขาที่กลับจากดาวนาเม็กมายังโลก เนื่องจากเราใช้เวลาเดินทางเท่าความเร็วแสง พอเรากลับมายังโลก นาย A จะเห็นเราเป็นแบบนี้
นาย A จะเห็นเราถึงดาวนาเม็ก พร้อมๆ กับภาพที่เราเดินทางอีก 100ปีแสง และภาพที่เราถึงโลก "ทั้งหมดในเวลาเดียวกัน" เพราะเราเดินทางมาพร้อมแสงที่เป็นข้อมูลที่นาย A เห็น เขาจึงจะเห็นเหมือนภาพแฟลชในทีเดียวแล้ววู้บเดียวเราก็มาอยู่ตรงหน้าเขา (พูดง่ายๆ คือเห็นภาพการเดินทางในครึ่งหลังทั้งหมดภายในภาพเดียว เหมือนเอาแผ่นฟิล์มมาซ้อนกันแล้วดูทีเดียว)
3.2 ถ้าเราเดินทางมากกว่าความเร็วแสง ซึ่งขาไปนาย A จะเห็นเหมือน 3.1 แต่พอนาย A มองไปสักระยะนึงแล้วเราก็จะมาปรากฏตัวที่โลกอีกครั้ง แต่ทีนี้ภาพที่นาย A จะได้เห็นคือภาพยานของเดินทางมาถึงแบบ"กดวีดีโอย้อนหลัง" เพราะเนื่องจากยานของเราเดินทางไวกว่าแสง ภาพที่จะปรากฏก่อนคือภาพที่เกิดขึ้นทีหลัง (เพราะใกล้นาย A มากกว่า) ภาพที่เกิดขึ้นก่อนก็จะค่อยๆ ตามมาจนเหมือนเป็นการเล่นวีดีโอย้อนหลังนั่นเอง (งงไหม ถ้างงคอมเม้นถามจะแวะมาตอบในนะครับ)
จากปรากฏการณ์นี้จะทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า "image pair creation event" ซึ่งนาย A จะเห็นภาพสองภาพคือ ภาพที่เรากำลังมุ่งหน้าไปดาวนาเม็ก และภาพย้อนหลังของขากลับมายังโลกของยานเรา ในเวลาเดียวกัน
3.3 กรณีนี้จะพิเศษสุดๆ คือเมื่อนาย A กำลังรอเราจะออกเดินทาง ก็มียานที่กลับมาจากดาวนาเม็กกำลังลงจอดอยู่แล้ว หรือก็คือนาย A เหมือนเห็นเราย้อนเวลากลับมานั่นเอง
สรุป จากทั้งหมดที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าจริงๆ แล้วตัวเราเองนั้นไม่ได้ย้อนเวลาได้แต่อย่างใด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทั้งหมดเป็นเพียงแค่ทฤษฏี แนวคิดเฉยๆ เพราะมันเป็น extreme condition ซึ่งต้องมโนขึ้นมาจากหัวสมองของนักวิทยาศาสตร์ทั้งนั้น (เพราะ กราวิตอน หรืออนุภาคที่เคลื่อนที่ไวกว่าแสง ยังหาไม่พบ ก็ต้องเดากันไปก่อน)
ปล.ผิดพลาดประการใดขอผู้รู้ชี้แนะด้วยเด้อ
ปล. อธิบายเพิ่มเติมที่ 2-3 และ 2-5 นะครับ
แสดงความคิดเห็น
ถามเรื่องความเร็วแสง และกาลเวลา
2. ถ้าจะเดินทางให้ได้เท่ากับหรือเร็วกว่าแสง จำเป็นขนาดไหน ที่มวลจะน้องน้อยมากๆหรือไม่มีมวล
3. ถ้าสมมุมติว่า เราค้นพบตัวพาที่จะทำให้เราเดินทางได้ไวกว่าแสง หลายหมื่นล้านเท่า แล้วเราจะย้อนเวลาได้ยังไง
(เช่นเร็วมาก จนเดืนทางหลุดออกไปนอกจักรวาล ก็จะเห็นว่ายังไม่เกิด bigbang แล้วเราจะเป็นยังไงในเมื่อเรายังไมไ่ด้เกิด)