เรื่องvirtual particlesที่นักวิทย์บางกลุ่มไม่เชื่อแต่ดันไปเชื่อbigbang

virtual particles คือ
อนุภาคเสมือน เป็น อนุภาค ชั่วคราวทางทฤษฎีที่แสดงลักษณะบางประการของอนุภาคธรรมดา ในขณะที่การดำรงอยู่ของมันถูกจำกัดด้วย หลักความไม่แน่นอน ซึ่งทำให้อนุภาคเสมือนสามารถเกิดขึ้นเองจากสุญญากาศในช่วงเวลาและพื้นที่ที่สั้น แนวคิดของอนุภาคเสมือนเกิดขึ้นใน ทฤษฎีการรบกวน ของ ทฤษฎีสนามควอนตัม (QFT) ซึ่งปฏิสัมพันธ์ระหว่างอนุภาคธรรมดา ...

higgsfield,higgs boson คือ
สนามฮิกส์คือสนามพลังงานที่แผ่กระจายไปทั่วทั้งเอกภพ ทำให้อนุภาคมีมวลผ่านการมีปฏิสัมพันธ์กับอนุภาคพื้นฐานที่เรียกว่า ฮิกส์โบซอน อนุภาคที่โต้ตอบกับสนามฮิกส์จะช้าลง จึงมีมวล ในขณะที่อนุภาคที่ไม่มีปฏิสัมพันธ์ เช่น โฟตอน จะยังคงเคลื่อนที่ด้วยความเร็วแสง ความแข็งแรงของการมีปฏิสัมพันธ์กับสนามฮิกส์เป็นตัวกำหนดว่าอนุภาคจะมีมวลมากน้อยเพียงใด
สนามพลังงาน: สนามฮิกส์เป็นสนามพลังงานที่ไม่มีค่าเฉลี่ยเป็นศูนย์ (non-zero) ในสุญญากาศ ซึ่งหมายความว่าสนามนี้มีอยู่ทั่วไปในอวกาศและมีค่าคงที่
ฮิกส์โบซอน: สนามฮิกส์มีการรบกวนหรือคลื่น เรียกว่า ฮิกส์โบซอน ซึ่งเป็นอนุภาคที่ถูกสร้างขึ้นจากการมีปฏิสัมพันธ์ของสนามกับอนุภาคอื่น
กลไกการให้มวล: เมื่ออนุภาคมีปฏิสัมพันธ์กับสนามฮิกส์ มันจะ "ได้รับ" มวลผ่านกระบวนการที่เรียกว่า กลไกฮิกส์
มวลที่แตกต่างกัน: อนุภาคแต่ละชนิดจะมีปฏิสัมพันธ์กับสนามฮิกส์ในระดับที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นสาเหตุที่อนุภาคมีมวลไม่เท่ากัน เช่น อิเล็กตรอนและควาร์กจะมีมวล แต่โฟตอนไม่มีมวลเนื่องจากไม่มีปฏิสัมพันธ์กับสนามฮิกส์
การเปลี่ยนแปลงสมมาตร: สนามฮิกส์ช่วยอธิบายการ "ทำลายสมมาตร" ซึ่งเป็นที่มาของมวลในแบบจำลองมาตรฐานของฟิสิกส์อนุภาค

virtual particles, higgs boson, higgsfield เป็น ทฎษฎี ที่มีแนวโน้ม ที่พิสูจน์ได้ ง่ายกว่า
ง่ายกว่าทฤษฎี bigbang ที่นักวิทย์เชิงศาสนาส่วนมาก เชื่อสนิทใจ และพยายาม หาวิธีสนับสนุน พัฒนา  เพื่อโยงไปถึงผู้สร้าง ให้ได้
โดยส่วนตัว พุทธศาสนา จะคัดค้าน bigbang แต่จะสนับสนุน virtual particles, higgs boson, higgsfield มากกว่า

เห็นได้ชัดว่า bigbang เป็น ทฤษฎี ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือสนับสนุนความเชื่อมากกว่า ความเป็นจริง

bigbang สมมติฐาน ที่ขาดปัจจัยตัวแปรหลักมากมาย
ข้อมูลโดยai
ทฤษฎีบิกแบงเป็นสมมติฐานที่อธิบายการกำเนิดจักรวาลจากจุดที่มีความหนาแน่นและอุณหภูมิสูงมาก แล้วเกิดการระเบิดและขยายตัว แม้จะมีหลักฐานสนับสนุน เช่น การขยายตัวของเอกภพ แต่ทฤษฎีนี้ยังคงขาดปัจจัยและตัวแปรที่อธิบายปรากฏการณ์บางอย่างได้สมบูรณ์ เช่น พลังงานมืด (Dark Energy) และ สสารมืด (Dark Matter) ซึ่งเป็นปริศนาที่นักวิทยาศาสตร์กำลังศึกษา 
ปัจจัยที่ทฤษฎีบิกแบงยังอธิบายไม่ได้
พลังงานมืด (Dark Energy): คือพลังงานลึกลับที่เชื่อว่าเป็นสาเหตุของการขยายตัวของเอกภพที่เร่งความเร็วขึ้นในปัจจุบัน ทฤษฎีบิกแบงไม่ได้อธิบายว่าพลังงานนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
สสารมืด (Dark Matter): คือสสารที่มองไม่เห็น แต่มีมวลและอิทธิพลต่อแรงโน้มถ่วงของเอกภพ นักวิทยาศาสตร์พบว่าสสารที่มองเห็นได้นั้นมีสัดส่วนน้อยมากเมื่อเทียบกับสสารมืด ทำให้ทฤษฎีบิกแบงยังขาดคำอธิบายที่สมบูรณ์เกี่ยวกับองค์ประกอบของเอกภพ
จุดกำเนิดของเอกภพ: ทฤษฎีบิกแบงยังไม่สามารถอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนเกิดบิกแบง หรือสิ่งที่ทำให้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่นี้ขึ้นได้อย่างแท้จริง
การพัฒนาของทฤษฎี
ทฤษฎีบิกแบงมีการพัฒนาอยู่เสมอ เพื่อรวมปัจจัยใหม่ๆ เช่น พลังงานมืดและสสารมืด เข้าไปเพื่ออธิบายปรากฏการณ์ต่างๆ ที่สังเกตได้ในปัจจุบัน
นักวิทยาศาสตร์ยังคงทำการศึกษาและวิจัยเพื่อทำความเข้าใจถึงต้นกำเนิดและวิวัฒนาการของเอกภพให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น


แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่