📑 Krisada’s Theoretical Physics Proposal
Abstract
เอกสารนี้นำเสนอทฤษฎีใหม่ 2 ประการในเชิงฟิสิกส์ทฤษฎี ได้แก่ Geometric Space Folding Theory และ Universal Memory Theory ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปและกลศาสตร์ควอนตัม โดยทฤษฎีแรกเสนอว่ากาลอวกาศสามารถ “พับ” ได้ในเชิงทอพอโลยี ทำให้ระยะทางระหว่างจุดสองจุดลดลงอย่างมหาศาล ส่วนทฤษฎีที่สองเสนอว่าอนุภาคทุกตัวในจักรวาลเก็บข้อมูลปฏิสัมพันธ์ของมันไว้เสมือนเป็น “เซลล์ความทรงจำ” ของจักรวาล ทั้งสองทฤษฎีนี้ยังไม่มีการพิสูจน์เชิงปฏิบัติ แต่หากเป็นจริงจะนำไปสู่การปฏิวัติการเดินทางระหว่างดวงดาวและการเข้าถึงข้อมูลในระดับจักรวาล
Keywords: Spacetime Folding, Quantum Information, Topology, Universal Memory, Theoretical Physics
---
1. Geometric Space Folding Theory
Hypothesis
กาลอวกาศไม่เพียงแต่โค้งได้ตามทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป แต่ยังสามารถถูก “พับ” ในเชิงเรขาคณิต โดยมี operator ที่ทำให้ระยะทางเชิงเมตริก ระหว่างจุดสองจุด กลายเป็น หรือแม้กระทั่ง
Methodology
ใช้สนามแม่เหล็ก-ไฟฟ้าความหนาแน่นสูงในสเกลใกล้พลังงานสุญญากาศ (vacuum energy)
ปล่อยอนุภาค (เช่น neutrino) ผ่านบริเวณนั้น
ตรวจสอบว่ามีการปรากฏตัวในตำแหน่งอื่นโดยไม่ผ่านเส้น geodesic ปกติหรือไม่
Expected Results
หากตรวจพบการ teleport ของอนุภาค จะเป็นหลักฐานเบื้องต้นว่าการ “พับกาลอวกาศ” อาจเกิดขึ้นได้จริง
---
2. Universal Memory Theory
Hypothesis
ทุกอนุภาคในจักรวาลมี “state vector imprint” ที่เก็บบันทึกปฏิสัมพันธ์ทั้งหมดที่เคยเกิดขึ้น ทำให้จักรวาลทั้งหมดทำหน้าที่เป็นระบบความทรงจำที่ไม่มีการสูญเสียข้อมูล (unitary system)
Methodology
ใช้เทคโนโลยีคล้าย MRI หรือ NMR แต่ปรับให้ทำงานในสเกลควอนตัม
ยิงสนามแม่เหล็กหรือเลเซอร์เพื่อตรวจจับการกระจายของโฟตอนที่สะท้อนจากอนุภาค
วิเคราะห์ว่ามี pattern ที่สอดคล้องกับข้อมูลเชิงอดีตหรือไม่
Expected Results
หากตรวจพบความสอดคล้อง จะยืนยันได้ว่าจักรวาลเก็บข้อมูลในทุกอนุภาค และอาจเปิดทางไปสู่เทคโนโลยี Quantum Archeology
---
3. Conclusion
ทฤษฎีทั้งสองนี้ยังเป็นเพียงข้อเสนอในเชิงทฤษฎี แต่ถ้าสามารถพิสูจน์ได้ จะนำไปสู่การปฏิวัติวิทยาศาสตร์: การเดินทางแบบวาร์ป และการเข้าถึงข้อมูลเชิงจักรวาลโดยตรง
---
ทฤษฎีใหม่
Abstract
เอกสารนี้นำเสนอทฤษฎีใหม่ 2 ประการในเชิงฟิสิกส์ทฤษฎี ได้แก่ Geometric Space Folding Theory และ Universal Memory Theory ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปและกลศาสตร์ควอนตัม โดยทฤษฎีแรกเสนอว่ากาลอวกาศสามารถ “พับ” ได้ในเชิงทอพอโลยี ทำให้ระยะทางระหว่างจุดสองจุดลดลงอย่างมหาศาล ส่วนทฤษฎีที่สองเสนอว่าอนุภาคทุกตัวในจักรวาลเก็บข้อมูลปฏิสัมพันธ์ของมันไว้เสมือนเป็น “เซลล์ความทรงจำ” ของจักรวาล ทั้งสองทฤษฎีนี้ยังไม่มีการพิสูจน์เชิงปฏิบัติ แต่หากเป็นจริงจะนำไปสู่การปฏิวัติการเดินทางระหว่างดวงดาวและการเข้าถึงข้อมูลในระดับจักรวาล
Keywords: Spacetime Folding, Quantum Information, Topology, Universal Memory, Theoretical Physics
---
1. Geometric Space Folding Theory
Hypothesis
กาลอวกาศไม่เพียงแต่โค้งได้ตามทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป แต่ยังสามารถถูก “พับ” ในเชิงเรขาคณิต โดยมี operator ที่ทำให้ระยะทางเชิงเมตริก ระหว่างจุดสองจุด กลายเป็น หรือแม้กระทั่ง
Methodology
ใช้สนามแม่เหล็ก-ไฟฟ้าความหนาแน่นสูงในสเกลใกล้พลังงานสุญญากาศ (vacuum energy)
ปล่อยอนุภาค (เช่น neutrino) ผ่านบริเวณนั้น
ตรวจสอบว่ามีการปรากฏตัวในตำแหน่งอื่นโดยไม่ผ่านเส้น geodesic ปกติหรือไม่
Expected Results
หากตรวจพบการ teleport ของอนุภาค จะเป็นหลักฐานเบื้องต้นว่าการ “พับกาลอวกาศ” อาจเกิดขึ้นได้จริง
---
2. Universal Memory Theory
Hypothesis
ทุกอนุภาคในจักรวาลมี “state vector imprint” ที่เก็บบันทึกปฏิสัมพันธ์ทั้งหมดที่เคยเกิดขึ้น ทำให้จักรวาลทั้งหมดทำหน้าที่เป็นระบบความทรงจำที่ไม่มีการสูญเสียข้อมูล (unitary system)
Methodology
ใช้เทคโนโลยีคล้าย MRI หรือ NMR แต่ปรับให้ทำงานในสเกลควอนตัม
ยิงสนามแม่เหล็กหรือเลเซอร์เพื่อตรวจจับการกระจายของโฟตอนที่สะท้อนจากอนุภาค
วิเคราะห์ว่ามี pattern ที่สอดคล้องกับข้อมูลเชิงอดีตหรือไม่
Expected Results
หากตรวจพบความสอดคล้อง จะยืนยันได้ว่าจักรวาลเก็บข้อมูลในทุกอนุภาค และอาจเปิดทางไปสู่เทคโนโลยี Quantum Archeology
---
3. Conclusion
ทฤษฎีทั้งสองนี้ยังเป็นเพียงข้อเสนอในเชิงทฤษฎี แต่ถ้าสามารถพิสูจน์ได้ จะนำไปสู่การปฏิวัติวิทยาศาสตร์: การเดินทางแบบวาร์ป และการเข้าถึงข้อมูลเชิงจักรวาลโดยตรง
---