....เลือดรักชาติอันเข้มข้นนี้ท่านได้แต่ใดมา....พุทธอิสระวานตอบ...??

ต่อกรณีที่นายสุวิทย์พาคนไปประท้วงสถานทูตนั้น....โดยส่วนตัวผมไม่ได้มองเป็นเรื่องเสียหายอะไร   เป็นการไปรวมกลุ่มที่มีแนวคิดในทิศทางเดียวกันเพื่อไปแสดงออกทางเจตนารมณ์   ซึ่งทางสถานทูตเขาก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรเลย (เขาผ่านของแข็งมาเยอะกว่านี้)   แม้จะไม่เสียหายอะไร  แต่ก็ขัดนัยน์ตานิดๆ ที่นายสุวิทย์ห่มผ้าเหลืองไปยืนโย้วๆ ด้วยกับเขา  จะใส่เสื้อเชิ้ต  สวมหมวกแก๊ปไปจะไม่ขัดนัยน์ตาเลยสักนิด....ประท้วงเสร็จก็พากลุ่มประท้วงกลับวัด   แล้วมีคนส่งข้อความที่เขาไม่เห็นด้วยกับการกระทำของตัวเอง....พ่อเจ้าประคุณก็ของขึ้น   ถามหาความเป็น “คนไทย” ของคนร่วมชาติเลย...ผมตัดความย่อจากเฟสของนายสุวิทย์มาให้อ่าน



“......หลังกลับมาจากสถานทูตสหรัฐ มีคนนำคอมเม้นของผู้เห็นต่างหรือรับจ้างด่าหลายคนมาให้ฉันดู
อ่านแล้วก็ทำให้สงสัยว่าคนพวกนี้พ่อแม่เขาเป็นคนไทยหรือเปล่าเขายังเหยียบยืนอยู่อาศัยในแผ่นดินไทยหรือไม่
เขาไม่รู้สึกอะไรเลยหรือยังไง กับการที่ทูตสหรัฐมาวุ่นวายแทรกแซงหรือชี้นำทิศทางประเทศไทย
เขาไม่ล่วงรู้เลยหรือยังไงว่าเอกอัครราชทูตอเมริกามีเจตนาไม่สุจริตกับแผ่นดินไทย
เขาไม่รับรู้เลยหรือว่าความวุ่นวายจากเภทภัยสงครามกำลังใกล้เข้ามาเพราะมีคนไทยขายชาติ ใจทาส
หรือเขาอยากเห็นประเทศไทยเป็นเหมือนลิเบีย ตุรกี อิรัก
หากไอ้อีคนใดมันบังอาจทำตัวเป็นหนอนบ่อนไส้ ชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน
ก็ให้รู้ว่าต่อให้ฉันต้องแลกด้วยชีวิต ฉันก็จะไม่ยอมให้ไอ้อีตัวใดมาทำร้ายแผ่นดินไทยได้สำเร็จเป็นอันขาด
มีคนไทยที่ไหนบ้างที่รู้สึกชอบใจ ให้ต่างชาติเข้ามาครอบงำกิจการภายในประเทศของตน....”




เอาสั้นๆ แค่หอมปากหอมคอไว้ตรงนี้   หากใครอยากอ่านข้อความทั้งหมดก็ไปที่เฟสแกได้  เนื้อหาดุดัน และดุเดือดทีเดียว
https://www.facebook.com/buddha.isara/posts/10153717583003446:0




การถามหาความเป็นไทยของคนไทยด้วยกันเอง   มันไม่ได้ทำให้เลือดรักชาติเข้มข้นขึ้นมาเหนือคนอื่นเลยสักน้อยสุวิทย์....รังแต่จะสร้างความแตกแยกร้าวฉานด้านจิตใจต่อกันและกัน   เพราะเธอก็รู้ว่าคนที่เข้ามาแสดงความเห็นไม่ตรงกับเธอนั้นก็เป็นคนไทยรวมถึงตัวฉันที่ตั้งกระทู้นี้ด้วย   เธอจะมาถามหาความเป็นคนไทยของคนอื่น  ด้วยเหตุผลเพียงเพราะว่าเขาไม่เห็นด้วยพฤติกรรมของเธอย่างนั้นหรือ?



บอกอะไรให้นิดนะ....พวกรัฐบาลเมกานั้น  มันได้เข้ามาแทรกแซงประเทศไทยตั้งนานแล้วล่ะสุวิทย์ (และดูเหมือนว่าเราไปขอร้องเขาเข้ามาด้วยแหละ)   และ “เลือดรักชาติ” อย่างบ้าคลั่งที่เธอกำลังเป็นอยู่ตอนนี้   มันเป็นมรดกเป็นผลงานอลังการสร้างของเขาที่เคยทุ่มทุนสร้างมันขึ้นมาในช่วงที่คอมมิวนิสต์กำลังจะกลืนประเทศไทย เป็นpropaganda ด้านจิตวิทยาเพื่อต่อสู้กับคอมมิวนิสต์จีน    แล้วเธอรับมันเอามาเต็มๆ เลยสุวิทย์



"ภิกษุนั้นเมื่อจิตเป็นสมาธิ บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส
อ่อน ควรแก่การงาน ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหว อย่างนี้ ย่อมโน้มน้อมจิตไปเพื่ออาสวักขยญาณ
ย่อมรู้ชัดตามเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา  เหล่านี้
อาสวะ นี้อาสวสมุทัย นี้อาสวนิโรธ นี้อาสวนิโรธคามินีปฏิปทา เมื่อเธอรู้เห็นอย่างนี้ จิตย่อม
หลุดพ้นแม้จากกามาสวะ แม้จากภวาสวะ แม้จากอวิชชาสวะ เมื่อจิตหลุดพ้นแล้ว ก็มีญาณว่า
หลุดพ้นแล้ว. รู้ชัดว่าชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่น
เพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี

            
สามัญญผลสูตร
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๙   หน้าที่  ๔๕ - ๗๙.
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4



ฝนตกคี่หมูไหล.....คนจานไลมาพบกัน


.
ความคิดเห็นที่ 3
คนแบบนี้ จะไปเอาอะไรกับมันครับ

กระทั่งสถานะภาพของตัวเอง ยังแยกแยะ จัดแจงให้มันถูกต้อง เหมาะสม ...  ไม่ได้เลย  

แค่นสะเออะ   จะไปห่วงใย  ดูแล เรื่องส่วนรวม  อย่าง  การรักชาติ

น่าหัวเราะครับ ...

แต่ที่จะทำให้หัวเราะทั้งน้ำตา   ก็ เพราะ ดั๊นนนนน  มีผู้หลักผู้ใหญ่ คนมีอำนาจในบ้านเมืองไปกราบไหว้มันอีกที ...

สนุกสนานจริงๆครับ   ประเทศไทยของเรา ....

สนุก จนน้ำตาจะไหล ....

เฮ้อออออออ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่