การอ่านก็ดี การคิดก็ดี การจำก็ดี ไม่สามารถ ทำให้นิวรณ์5 ระงับไปได้ ไม่มีโอกาสบรรลุธรรมได้เลย เพราะนิวรณ์5เป็นตัวขวางทางเจริญไม่ให้จิตหลุดพ้น
โดยเฉพาะความลังเลสงสัย เป็นหนึ่งในนิวรณ์5 ที่ขวางไม่ให้ใจตั้งมั่นเป็นสมาธิ เมื่อใจไม่ตั้งมั่นเป็นสมาธิ ก็ไม่มีโอกาสบรรลุธรรมได้เลย
ธรรมมารมณ์ ความรู้สึกที่กระทบใจ เป็นสิ่งละเอียดอ่อนมาก ถ้าใจไม่ตั้งมั่นเป็นสมาธิ นิวรณ์5จะมาบดบัง
เมื่อนิวรณ์5มาบดบัง อัตตราตัวตนก็จะบังเกิด ไปขวางสภาวะธรรมที่กำลังเกิด-ดับภายในใจ
อัตตาตัวตนก็จะไปแบก ไปหาม ความรู้สึกนั้นใว้ ว่าเป็นของตน ใจก็เป็นทุกข์
แต่เมื่อนักปฏิบัติ มีสติแก่กล้า มีใจเป็นสมาธิตั้งมั่น เพราะอาศัยการเจริญภาวนา นิวรณ์5จะบังเกิดขึ้นไม่ได้
ใจก็จะตื่นรู้ สติก็จะเห็นใจที่ตื่นรู้นั้นชัดเจน คราวนี้ถ้าถามว่า ใจที่ตื่นรู้นี้คืออะไร ใจตื่นรู้ก็คือ พุทธะ
พุทธะ คือ รู้ ตื่น เบิกบาน ได้บังเกิดขึ้นแล้ว แก่ใจของนักปฏิบัติ เมื่อใจตื่นรู้แล้ว จะเห็นสภาวะธรรม
สิ่งใดสิ่งหนึ่ง มีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นมีความดับไปเป็นธรรมดา ตรงนี้ใจจะมีปัญญาเห็นความจริง
เมื่อใจตื่นรู้ ได้เห็นความจริงเช่นนี้อยู่บ่อยๆ ใจย่อมเบื่อหน่าย เมื่อเบื่อหน่าย ย่อมคลายกำหนัดความยินดี ยินร้าย
เมื่อคลายกำหนัดความยินดียินร้าย ใจก็สักแต่รู้ในสิ่งๆหนึ่งที่เกิด-ดับ ไม่ยึดมั่นถือว่าว่าตนเป็นผู้รู้ ว่าตนเป็นผู้แบก
ตรงนี้เป็นการทำลายอวิชชา เมื่อละได้ ย่อมรู้ว่าละได้ เมื่อหลุดพ้น ย่อมรู้ว่าหลุดพ้น ตรงนี้เป็นสิ่งละเอียดอ่อน
ธรรมมะขั้นสูง สุกขวิปัสสโก อาศัยกำลังปฐมฌาณ
โดยเฉพาะความลังเลสงสัย เป็นหนึ่งในนิวรณ์5 ที่ขวางไม่ให้ใจตั้งมั่นเป็นสมาธิ เมื่อใจไม่ตั้งมั่นเป็นสมาธิ ก็ไม่มีโอกาสบรรลุธรรมได้เลย
ธรรมมารมณ์ ความรู้สึกที่กระทบใจ เป็นสิ่งละเอียดอ่อนมาก ถ้าใจไม่ตั้งมั่นเป็นสมาธิ นิวรณ์5จะมาบดบัง
เมื่อนิวรณ์5มาบดบัง อัตตราตัวตนก็จะบังเกิด ไปขวางสภาวะธรรมที่กำลังเกิด-ดับภายในใจ
อัตตาตัวตนก็จะไปแบก ไปหาม ความรู้สึกนั้นใว้ ว่าเป็นของตน ใจก็เป็นทุกข์
แต่เมื่อนักปฏิบัติ มีสติแก่กล้า มีใจเป็นสมาธิตั้งมั่น เพราะอาศัยการเจริญภาวนา นิวรณ์5จะบังเกิดขึ้นไม่ได้
ใจก็จะตื่นรู้ สติก็จะเห็นใจที่ตื่นรู้นั้นชัดเจน คราวนี้ถ้าถามว่า ใจที่ตื่นรู้นี้คืออะไร ใจตื่นรู้ก็คือ พุทธะ
พุทธะ คือ รู้ ตื่น เบิกบาน ได้บังเกิดขึ้นแล้ว แก่ใจของนักปฏิบัติ เมื่อใจตื่นรู้แล้ว จะเห็นสภาวะธรรม
สิ่งใดสิ่งหนึ่ง มีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นมีความดับไปเป็นธรรมดา ตรงนี้ใจจะมีปัญญาเห็นความจริง
เมื่อใจตื่นรู้ ได้เห็นความจริงเช่นนี้อยู่บ่อยๆ ใจย่อมเบื่อหน่าย เมื่อเบื่อหน่าย ย่อมคลายกำหนัดความยินดี ยินร้าย
เมื่อคลายกำหนัดความยินดียินร้าย ใจก็สักแต่รู้ในสิ่งๆหนึ่งที่เกิด-ดับ ไม่ยึดมั่นถือว่าว่าตนเป็นผู้รู้ ว่าตนเป็นผู้แบก
ตรงนี้เป็นการทำลายอวิชชา เมื่อละได้ ย่อมรู้ว่าละได้ เมื่อหลุดพ้น ย่อมรู้ว่าหลุดพ้น ตรงนี้เป็นสิ่งละเอียดอ่อน