หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] หลงเสน่ห์เมืองพัทลุง: 2 วัน 1 คืน พักผ่อน - ชิม - ช้อป ของดีที่ทะเลน้อย
กระทู้รีวิว
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวไทย
พัทลุงเป็นจังหวัดที่มักเป็นทางผ่านเพื่อมุ่งหน้าสู่อำเภอหาดใหญ่ของนักเดินทางส่วนมาก รวมทั้ง จขกท ด้วย จขกท ยังนึกขำเมื่อคิดถึงสมัยเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งทางภาคใต้ จขกท จำได้ว่า เพื่อนๆ ที่มาจากจังหวัดพัทลุงมักถูกหยิกแกมหยอกอยู่บ่อยๆ เรื่องจังหวัดนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเดียวคือสี่แยกพัทลุง (เป็นการแซวกันขำๆ นะคะ กรุณาอย่าดราม่าเน้อ ไปพัทลุงหนนี้ จขกท คิดถึงเหตุการณ์นี้ขึ้นมาเลยหยิบยกมาเล่าสู่กันฟังค่ะ)
เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา จขกท มีธุระลงไปหาดใหญ่ และมีเหตุให้ต้องแวะพักที่จังหวัดพัทลุงเป็นเวลาหนึ่งคืน จึงเป็นจุดเริ่มต้นของรีวิวสั้นๆ นี้ค่ะ (ถ่ายภาพจากกล้องมือถือ ภาพจึงมีไม่ชัดบ้าง ขออภัยมา ณ ที่นี้ค่ะ)
จขกท เลือกจองที่พักที่อยู่แถวทะเลน้อย อำเภอควนขนุน โดยเสิร์ชหาข้อมูลล่วงหน้าเพียงสองวัน จขกท และคณะตกลงปลงใจจองที่พักกันที่ศรีปากประรีสอร์ทค่ะ ที่พักที่นี่เป็นรีสอร์ทริมทะเลน้อย มีห้องพัก 2 แบบ คือ แบบวิลล่าติดริมน้ำ และแบบห้องดีลักซ์ซึ่งแบ่งเป็น 5 ห้องบนศาลาริมน้ำค่ะ ราคาที่พักแบบวิลล่าช่วงกลางสัปดาห์คือหลังละ 2,000 บาท และห้องดีลักซ์ห้องละ 1,500 บาทค่ะ ราคานี้รวมอาหารเช้าแล้วค่ะ จขกท และคณะซึ่งมีกันทั้งหมด 4 คน เลือกพักแบบวิลล่า 1 หลัง และแบบห้องอีก 1 ห้อง เพราะบ้านพักแบบวิลล่าเหลือว่างอยู่แค่หลังเดียวค่ะ การจองต้องโอนเงินมัดจำล่วงหน้าครึ่งหนึ่งนะคะ
เราถึงที่รีสอร์ทกันตอนเกือบบ่ายโมง ได้เวลาอาหารเที่ยงพอดี ก่อนเช็คอินเข้าที่พักเราเลยถือโอกาสทานมื้อเที่ยงกันที่ร้านอาหารวิวยอ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรีสอร์ทค่ะ มื้อเที่ยงจะไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ค่ะ ไม่เหมือนตอนมื้อค่ำ บริเวณร้านอาหารมีจุดชมวิวจากชั้นสองด้วยค่ะ เมนูแนะนำคือเมนูที่ใช้วัตถุดิบที่ได้จากทะเลน้อย คือ แกงส้มปลาขี้ตัง แกงสายบัว ยำปลาหัวเบร่ และปลาดุกร้าทอดทรงเครื่องค่ะ แอบบอกว่าปลาดุกร้าอร่อยมาก ตัวเดียวนี่ทำเอาเจริญอาหารทานข้าวได้สองจานเลยค่ะ แต่ จขกท ต้องขออภัยที่ไม่มีภาพถ่ายอาหารของเรามาให้ชมเลย เพราะมัวแต่หิวแล้วตักกินเพลินไปหน่อยค่ะ ลืมถ่ายรูปตามธรรมเนียมก่อนรับประทาน มารู้ตัวอีกทีตอนในจานเริ่มไม่มีไรให้ถ่ายแล้วค่ะ แหะๆ (ภาพถ่ายบรรยากาศร้านทั้งหมดถ่ายตอนเที่ยงวัน ตอนค่ำ และตอนเช้าอีกวันนึงค่ะ แต่เอามารวมไว้ด้วยกัน)
เมื่ออิ่มท้องจากมื้อเที่ยงเราก็เช็คอินเข้าที่พักค่ะ ที่พักด้านซ้ายมือที่เป็นศาลาริมน้ำคือห้องโซนดีลักซ์ค่ะ ขวามือคือโซนวิลล่า
สำหรับห้องดีลักซ์ ด้านในเป็นแบบนี้ค่ะ
ส่วนอันนี้เป็นบรรยากาศในบ้านพักแบบวิลล่าค่ะ
วิวจากระเบียงบ้านพักแบบวิลล่าค่ะ
มุมมองบ้านพักเมื่อมองจากสะพานชมวิวที่ยื่นออกไปในน้ำค่ะ
ใกล้ๆ บ้านพักจะมีมุมหย่อนใจเป็นสะพานยื่นออกไปในน้ำค่ะ ชิงช้านั่นเล่นได้จริงนะคะ แต่ต้องใช้สกิลขั้นสูงนิดนึงในการปีนป่ายค่ะ ชาวคณะของ จขกท สนุกสนานกันใหญ่ เล่นไปก็เสียวไปกลัวจะหล่นน้ำค่ะ ถ้าหล่นลงไปนี่ก็คงดูไม่จืดค่ะ น้ำก็ไม่ทราบว่าลึกแค่ไหนด้วย
เราจบค่ำคืนนั้นกันที่ศรีปากประรีสอร์ทอย่างประทับใจค่ะ เสียอย่างเดียวว่าตอนกลางคืนเสียงจากดนตรีสดที่เล่นที่ร้านอาหารวิวยอเสียงดังรบกวนไปนิดนึงค่ะ ถ้าปรับปรุงส่วนนี้ได้จะยอดเยี่ยมมากค่ะ เช้าวันต่อมาเราทานมื้อเช้าจากที่รีสอร์ทจัดไว้ให้เป็นไลน์บุฟเฟ่เล็กๆ ค่ะ มีทั้งข้าวสวย ผัดผัก ไส้กรอก ไข่ดาว ต้มจืด รวมทั้งขนมปังปิ้ง และเครื่องดื่มชา โอวัลติน และกาแฟ แต่ที่ประทับใจที่สุดคือ ข้าวต้มใส่หมึก ซึ่งใช้ข้าวสังข์หยดมาทำค่ะ ข้าวสังข์หยดที่เป็นพืช GI ของเมืองพัทลุง ข้าวหนึบหนับอร่อยมาก และที่นี่ทำให้เราได้รู้จักและลิ้มลองกาแฟข้าวสังข์หยด ซึ่งเป็นกาแฟแบบทรีอินวันที่ผสมข้าวสังข์หยดคั่วลงไปด้วย หอมอร่อยลงตัวทั้งกาแฟและข้าวคั่วค่ะ
สายวันนั้นเราเช็คเอาท์เสร็จแล้วมุ่งหน้าไปทางทะเลน้อยเพื่อไปช้อปปิ้งของฝากกันค่ะ ของฝากขึ้นชื่อของเมืองพัทลุงนอกจากข้าวสังข์หยดแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์โอท็อปที่ทำจากกระจูดด้วยค่ะ ที่ทะเลน้อยเป็นแหล่งกระจูดแหล่งใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศไทย พืชชนิดนี้จะขึ้นในพื้นที่ชุ่มน้ำ ใบของกระจูดสามารถนำมาจักสานทำเป็นผลิตภัณฑ์ได้มากมาย ที่มีชื่อเสียงของที่นี่คือเสื่อกระจูด กระเป๋าและตะกร้ากระจูดค่ะ ราคาย่อมเยาเหลือเชื่อ คุณภาพเกินราคาค่ะ มาดูกันว่าคณะเราได้อะไรติดไม้ติดมือกลับไปบ้าง
ภาพรวมๆ ค่ะ นี่ยังแค่ล็อตแรก กระเป๋านั่นราคาตั้งแต่ 40-130 บาทค่ะ
เสื่อกระจูดแบบพับได้ 3 ตอน ราคาผืนละ 250 บาทค่ะ
ข้าวสังข์หยด ถุงละ 40 บาท สองถุง 70 บาท (ถุงละ 1 กิโล)
ส่วนข้าวกล้องหอมมะลิถุงละ 35 บาทค่ะ 3 ถุง 100 บาท
ข้าวไรซ์เบอร์รี่ถุงละ 50 บาท
ปลาหัวเบร่ถุงละ 50 บาท
กระเป๋าใบใหญ่ 80 บาท ใบเล็ก 40 บาทค่ะ
และที่ขาดไม่ได้ กาแฟสังข์หยดที่เราตามหาค่ะ ถุงละ 120 บาท มีทั้งหมด 25 ซองค่ะ
สุดท้ายนี้ ถ้ามีโอกาสผ่านไปแถวพัทลุง อย่าลืมแวะเที่ยวชิมช้อปสินค้าโอท็อปของจังหวัดนี้ที่ทะเลน้อยนะคะ คุณค่าที่คนไทยคู่ควรจริงๆ ค่ะ
ขอจบรีวิวสั้นๆ เพียงเท่านี้นะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
ชื่อสินค้า:
ศรีปากประ รีสอร์ท
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
เช้านี้ใครไม่หนัก ขอจัดหนักเอง น้ำพริกอ่องฝีมือแม่
แม่มาจากตจว.ทีไรเป็นต้องทำน้ำพริกอ่องให้กินทุกทีเลยค่ะ เพราะลูกสาวกับลูกเขยชอบมาก ทำครั้งนึงก็เยอะมาก แบ่งกินได้3มื้อเลยค่ะ รสชาติจัดจ้าน เผ็ดสุดๆตามใจปากลูกเขย กินคู่กับแตงกว่าเยอะๆ ความเผ็ดก็จะลดลงค
สมาชิกหมายเลข 8994311
คลุกรวมเหล่าข้าวคลุกกะปิ
ไม่กินน้ำพริกกะปิ แต่รักเมนูข้าวคลุกกะปิมากเลยค่ะ เห็นได้จาก ในรอบ 30 วันที่ผ่านมา กินข้าวคลุกกะปิ 7 มื้อ จาก 7 ร้านต่างกันไปแล้วค่ะ ราคาตั้งแต่ 50 - 95 บาท บางร้าน อร่อย เพราะใช้กะปิดี บางร้าน กินไม
delicate pudding
#ว่างก็เที่ยวไม่ว่างก็เที่ยว....เที่ยวทะเลน้อย พัทลุง เลยไปสงขลา
สวัสดีครับ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เริ่มเที่ยว เริ่มเดินทางมาได้สัก 2-3 ปีแล้ว พอได้ไปในหลายๆที่ก็อยากเอารูปที่ต่างๆมาแชร์บ้าง (จริงๆอยากอวด ฮ่าๆๆๆ) ....จริงๆจะเรียกว่ากระทู้รี
Crystalpolytea2ten
อยากสอบถามการบริโภคข้าวกล้องสังข์หยดอินทรีย์พัทลุงหน่อยค่ะ ใครกินอยู่บ้างค่ะ
การดูแลสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ สมัยนี้หลายคนหันมาดูแลสุขภาพ ข้าวเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกคนต้องกินทุกวัน พอดีที่บ้านแม่ชอบซื้อข้าวกล้องสังข์หยดพัทลุงมากินค่ะ แล้วบอกว่ามันดีมากเลย จากที่แกมีอาการเหน็บชา พอกิน
สมาชิกหมายเลข 1773545
ชวนคุยเรื่องแสบท้องกระเพาะอักเสบ
ปกติเป็นคนกินเผ็ดมาก กินแซ่บส้มตำพริก10เม็ดขั้นต่ำ กินยำ ปูดองกุ้งดอง น้ำจิ่มต้องเผ็ดๆ กินแปปซี่ทุกวัน น้ำเปล่าไม่ค่อยกินบางวันลืมกินน้ำเปล่าไปเลย ไม่กินข้าวเช้า กินกาแฟทุกเช้า ล่าสุดเดือนที่แล้วแสบท้
สมาชิกหมายเลข 1253516
มัลดีฟ รีสอร์ท หาดเจ้าสำราญ
🏡มานอนห้องพัก ติดทะเล ตกแต่งสไตล์มัลดีฟ แบบว่าหาดหน้าห้องพักส่วนตัว วิวพระอาทิตย์ขึ้นมองเห็นจากในห้องนอน ห้องสี่เหลี่ยมมีห้องน้ำในตัว สไตล์มินิมอล พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบ มีอ่าง Jacuzzi ในห้อง นอ
สมาชิกหมายเลข 6872732
Amazing พัทลุง พักโฮมสเตย์ ล่องทะเลน้อย เล่นกับควาย เก็บสายบัว
เพิ่งมีโอกาสไปเที่ยวจังหวัดพัทลุง ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่ามาจังหวัดนี้เป็นครั้งแรก หลังจบทริปแล้วอยากเขียนรีวิว ว่าเที่ยวไทยก็เก๋นะเออ พัทลุงอาจเป็นจังหวัดภาคใต้ที่หลายคนมองข้าม แต่ขอบอกว่าที่นี่เค้าเ
EvanescoEffect
TRIP'LE x PHATTHALUNG HOTELS : แนะนำ 4 โรงแรมสวย ราคาดี มีกิจกรรมทำ ในจ.พัทลุง
โพสต์นี้มาชี้เป้า! 4 โรงแรมสวย ราคาดี มีกิจกรรมทำอย่างเพลินต่อไปนี้โรงแรมจะไม่ใช่แค่โรงแรมหรือที่พักเท่านั้น!แต่โรงแรมจะกลายเป็นอีกที่เที่ยวหนึ่งของเราไปในตัว ได้เรียนรู้วิธีสานกร
tripleXanywhere
ไม่เข้าใจตรรกะการตั้งราคาของเขาจริงๆ
จขกท ไม่ได้จะโจมตีหรือมีเจตนาแอบแฝงใดๆ นะครับ (จขกท เป็นสาวกของห้างนี้ด้วยซ้ำ เดินมันทุกวัน ซื้อของติดมือเกือบทุกครั้ง) และภาพข้างล่างเอง จขกท คิดว่า ไม่น่าจะจะมีตรงไหนสื่อถึง “ห้าง“ ที่เ
star_seeker
แวะซื้อข้าวขาหมู มื้อเที่ยงสำหรับวันนี้
วันนี้ จขกท.เเวะซื้อข้าวขาหมู มื้อเที่ยงสำหรับวันนี้ น่าทานไหมค๊าฟฟผม
เท่าที่รู้คือฉันรักเธอ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวไทย
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 16
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] หลงเสน่ห์เมืองพัทลุง: 2 วัน 1 คืน พักผ่อน - ชิม - ช้อป ของดีที่ทะเลน้อย
เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา จขกท มีธุระลงไปหาดใหญ่ และมีเหตุให้ต้องแวะพักที่จังหวัดพัทลุงเป็นเวลาหนึ่งคืน จึงเป็นจุดเริ่มต้นของรีวิวสั้นๆ นี้ค่ะ (ถ่ายภาพจากกล้องมือถือ ภาพจึงมีไม่ชัดบ้าง ขออภัยมา ณ ที่นี้ค่ะ)
จขกท เลือกจองที่พักที่อยู่แถวทะเลน้อย อำเภอควนขนุน โดยเสิร์ชหาข้อมูลล่วงหน้าเพียงสองวัน จขกท และคณะตกลงปลงใจจองที่พักกันที่ศรีปากประรีสอร์ทค่ะ ที่พักที่นี่เป็นรีสอร์ทริมทะเลน้อย มีห้องพัก 2 แบบ คือ แบบวิลล่าติดริมน้ำ และแบบห้องดีลักซ์ซึ่งแบ่งเป็น 5 ห้องบนศาลาริมน้ำค่ะ ราคาที่พักแบบวิลล่าช่วงกลางสัปดาห์คือหลังละ 2,000 บาท และห้องดีลักซ์ห้องละ 1,500 บาทค่ะ ราคานี้รวมอาหารเช้าแล้วค่ะ จขกท และคณะซึ่งมีกันทั้งหมด 4 คน เลือกพักแบบวิลล่า 1 หลัง และแบบห้องอีก 1 ห้อง เพราะบ้านพักแบบวิลล่าเหลือว่างอยู่แค่หลังเดียวค่ะ การจองต้องโอนเงินมัดจำล่วงหน้าครึ่งหนึ่งนะคะ
เราถึงที่รีสอร์ทกันตอนเกือบบ่ายโมง ได้เวลาอาหารเที่ยงพอดี ก่อนเช็คอินเข้าที่พักเราเลยถือโอกาสทานมื้อเที่ยงกันที่ร้านอาหารวิวยอ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรีสอร์ทค่ะ มื้อเที่ยงจะไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ค่ะ ไม่เหมือนตอนมื้อค่ำ บริเวณร้านอาหารมีจุดชมวิวจากชั้นสองด้วยค่ะ เมนูแนะนำคือเมนูที่ใช้วัตถุดิบที่ได้จากทะเลน้อย คือ แกงส้มปลาขี้ตัง แกงสายบัว ยำปลาหัวเบร่ และปลาดุกร้าทอดทรงเครื่องค่ะ แอบบอกว่าปลาดุกร้าอร่อยมาก ตัวเดียวนี่ทำเอาเจริญอาหารทานข้าวได้สองจานเลยค่ะ แต่ จขกท ต้องขออภัยที่ไม่มีภาพถ่ายอาหารของเรามาให้ชมเลย เพราะมัวแต่หิวแล้วตักกินเพลินไปหน่อยค่ะ ลืมถ่ายรูปตามธรรมเนียมก่อนรับประทาน มารู้ตัวอีกทีตอนในจานเริ่มไม่มีไรให้ถ่ายแล้วค่ะ แหะๆ (ภาพถ่ายบรรยากาศร้านทั้งหมดถ่ายตอนเที่ยงวัน ตอนค่ำ และตอนเช้าอีกวันนึงค่ะ แต่เอามารวมไว้ด้วยกัน)
เมื่ออิ่มท้องจากมื้อเที่ยงเราก็เช็คอินเข้าที่พักค่ะ ที่พักด้านซ้ายมือที่เป็นศาลาริมน้ำคือห้องโซนดีลักซ์ค่ะ ขวามือคือโซนวิลล่า
สำหรับห้องดีลักซ์ ด้านในเป็นแบบนี้ค่ะ
ส่วนอันนี้เป็นบรรยากาศในบ้านพักแบบวิลล่าค่ะ
วิวจากระเบียงบ้านพักแบบวิลล่าค่ะ
มุมมองบ้านพักเมื่อมองจากสะพานชมวิวที่ยื่นออกไปในน้ำค่ะ
ใกล้ๆ บ้านพักจะมีมุมหย่อนใจเป็นสะพานยื่นออกไปในน้ำค่ะ ชิงช้านั่นเล่นได้จริงนะคะ แต่ต้องใช้สกิลขั้นสูงนิดนึงในการปีนป่ายค่ะ ชาวคณะของ จขกท สนุกสนานกันใหญ่ เล่นไปก็เสียวไปกลัวจะหล่นน้ำค่ะ ถ้าหล่นลงไปนี่ก็คงดูไม่จืดค่ะ น้ำก็ไม่ทราบว่าลึกแค่ไหนด้วย
เราจบค่ำคืนนั้นกันที่ศรีปากประรีสอร์ทอย่างประทับใจค่ะ เสียอย่างเดียวว่าตอนกลางคืนเสียงจากดนตรีสดที่เล่นที่ร้านอาหารวิวยอเสียงดังรบกวนไปนิดนึงค่ะ ถ้าปรับปรุงส่วนนี้ได้จะยอดเยี่ยมมากค่ะ เช้าวันต่อมาเราทานมื้อเช้าจากที่รีสอร์ทจัดไว้ให้เป็นไลน์บุฟเฟ่เล็กๆ ค่ะ มีทั้งข้าวสวย ผัดผัก ไส้กรอก ไข่ดาว ต้มจืด รวมทั้งขนมปังปิ้ง และเครื่องดื่มชา โอวัลติน และกาแฟ แต่ที่ประทับใจที่สุดคือ ข้าวต้มใส่หมึก ซึ่งใช้ข้าวสังข์หยดมาทำค่ะ ข้าวสังข์หยดที่เป็นพืช GI ของเมืองพัทลุง ข้าวหนึบหนับอร่อยมาก และที่นี่ทำให้เราได้รู้จักและลิ้มลองกาแฟข้าวสังข์หยด ซึ่งเป็นกาแฟแบบทรีอินวันที่ผสมข้าวสังข์หยดคั่วลงไปด้วย หอมอร่อยลงตัวทั้งกาแฟและข้าวคั่วค่ะ
สายวันนั้นเราเช็คเอาท์เสร็จแล้วมุ่งหน้าไปทางทะเลน้อยเพื่อไปช้อปปิ้งของฝากกันค่ะ ของฝากขึ้นชื่อของเมืองพัทลุงนอกจากข้าวสังข์หยดแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์โอท็อปที่ทำจากกระจูดด้วยค่ะ ที่ทะเลน้อยเป็นแหล่งกระจูดแหล่งใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศไทย พืชชนิดนี้จะขึ้นในพื้นที่ชุ่มน้ำ ใบของกระจูดสามารถนำมาจักสานทำเป็นผลิตภัณฑ์ได้มากมาย ที่มีชื่อเสียงของที่นี่คือเสื่อกระจูด กระเป๋าและตะกร้ากระจูดค่ะ ราคาย่อมเยาเหลือเชื่อ คุณภาพเกินราคาค่ะ มาดูกันว่าคณะเราได้อะไรติดไม้ติดมือกลับไปบ้าง
ภาพรวมๆ ค่ะ นี่ยังแค่ล็อตแรก กระเป๋านั่นราคาตั้งแต่ 40-130 บาทค่ะ
เสื่อกระจูดแบบพับได้ 3 ตอน ราคาผืนละ 250 บาทค่ะ
ข้าวสังข์หยด ถุงละ 40 บาท สองถุง 70 บาท (ถุงละ 1 กิโล)
ส่วนข้าวกล้องหอมมะลิถุงละ 35 บาทค่ะ 3 ถุง 100 บาท
ข้าวไรซ์เบอร์รี่ถุงละ 50 บาท
ปลาหัวเบร่ถุงละ 50 บาท
กระเป๋าใบใหญ่ 80 บาท ใบเล็ก 40 บาทค่ะ
และที่ขาดไม่ได้ กาแฟสังข์หยดที่เราตามหาค่ะ ถุงละ 120 บาท มีทั้งหมด 25 ซองค่ะ
สุดท้ายนี้ ถ้ามีโอกาสผ่านไปแถวพัทลุง อย่าลืมแวะเที่ยวชิมช้อปสินค้าโอท็อปของจังหวัดนี้ที่ทะเลน้อยนะคะ คุณค่าที่คนไทยคู่ควรจริงๆ ค่ะ
ขอจบรีวิวสั้นๆ เพียงเท่านี้นะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ