"สมคิด" วอน เอกชน อย่ากลัวลงทุน ลั่นปี 59 เป็นปีแห่งการลงทุนมหาศาล เตรียมทุกอย่างให้ดีขึ้นก่อนเลือกตั้ง เร่งดันเศรษฐกิจ ย้ำจีดีพีไทยสดใสแน่! หากไม่เกิดสถานการณ์รุนแรงกับเศรษฐกิจจีน ฝันปีนี้ขยายตัว เกิน 3% เชื่อประมูล 4G ได้เงินเข้าคลัง 1.3-1.4 แสนล้านบาท เอามาลงทุนโครงสร้างประเทศได้ จะเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจ ให้เป็น S-Curve เล็งตั้ง“กองทุนร่วมทุน”ดึงเอกชนยักษ์เทศ-ไทย เริ่มโรดโชว์ญี่ปุ่นสัปดาห์หน้า.
วันนี้ (18 พ.ย.) มีรายงานว่า เมื่อช่วงเช้า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการเปิดงานสัมมนาไทยแลนด์อีโคโนมิค เอ้าท์ลุ๊ค 2016 อนาคตเศรษฐกิจไทย เติบโตอย่างไรในบริบทใหม่ "
Thailand Economic Outlook 2016"
โดยนายสมคิด กล่าวตอนหนึ่งในการปาฐกถาว่า ในปีหน้ารัฐบาลขอประกาศให้เป็นปีแห่งการลงทุน โดยอยากให้ภาคเอกชนเร่งการลงทุนเพื่อผลักดันเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวมากขึ้น เพราะปัจจุบันเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัว หลังจากรัฐบาลได้จัดทำมาตรการต่างๆ ออกมาแล้ว 3 ครั้ง (มาตรการ 3 ชุด) คาดว่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนได้ตั้งแต่ไตรมาส 4/58 ประกอบกับหากไม่เกิดสถานการณ์รุนแรงกับเศรษฐกิจจีน ก็จะทำให้
ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปีนี้ขยายตัว ได้เกิน 3% แน่นอน
“เมื่อส่งผลให้จีดีพีเริ่มผงกหัว เชื่อว่าถ้าเศรษฐกิจจีนนิ่ง ไม่มีอะไรรุนแรง ดีไม่ดีเศรษฐกิจไทยจะโตได้ถึง 3%”รองนายกฯกล่าวและว่า อีกทั้งในปีหน้า ได้หารือกับรมว.คมนาคม โดยมอบหมายให้เร่งการลงทุนในโครงการเล็กๆ ให้ได้ตั้งแต่ต้นปี และในช่วงครึ่งปีหลังโครงการลงทุนขนาดใหญ่ เช่น การก่อสร้างรถไฟฟ้าทุกสีจะเริ่มดำเนินโครงการได้
“ปีหน้าถือเป็นปีแห่งการลงทุน รัฐบาลจัดทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว ถ้าไม่ลงทุนปีหน้า จะเก็บเงินไว้ทำไม หลังจากที่รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ไว้เพื่อเอื้อต่อการลงทุนแล้ว ดังนั้น จึงถึงเวลาที่เอกชนต้องลงทุนเพื่อช่วยกันผลักดันให้เศรษฐกิจเดินหน้า พร้อมระบุว่าในครึ่งปีแรกของปี 2559 รถไฟฟ้าทุกสายจะต้องพร้อมประกวดราคา จะเป็นปีแห่งการลงทุนมหาศาล เพื่อเตรียมการให้ทุกอย่างดีขึ้นก่อนเลือกตั้ง” นายสมคิด กล่าว
นายสมคิด ยังเชื่อว่า การประมูล 4G จะทำให้ รัฐได้เงินเข้าคลัง อีกประมาณ 1.3-1.4แสนล้านบาท เพื่อรับรองโครงการต่าง ๆที่รัฐลงทุน ได้เดินหน้า สามารถที่จะทำอะไรได้อีกมากเพื่อให้ประเทศดีขึ้น อย่างไรก็ตาม เวลานี้รัฐบาลกำลังเร่งเครื่อง ให้ภาครัฐวิสาหกิจ และภาคราชการ ในหลาย ๆ เรื่อง และมั่นใจว่าปีหน้า “เครดิตเรตติ้ง” จะปรับประเทศไทยขึ้นแน่ แต่ถ้าไม่ปรับไปทางที่ดี ก้อาจจะต้องมีการมีการโยกย้าย ดังนั้นตอนนี้นักลงทุนอย่าตกใจเวลานี้ ที่สโลว์ เฉื่อยแฉะ แต่ข้าราชการ เขาก็ทำงานกันเต็มที่ เมื่อหัวส่ายหางก็ย่อมกระดิกแน่นอน ฉะนั้นเอกชนต้องลงทุนได้แล้ว
“ดูหน้าผม เวลานี้ไม่ได้เป็นห่วงอะไรเพราะ ขอเมียมาทำงานแล้ว หลายคนยอมสละเงินเดือนเป็นล้านมารับ 1แสนบาท ค่าน้ำมันรถก็ไม่มี เพราะต้องการทำให้ประเทศดีขึ้น ดังนั้นอย่ากังวลทุกอย่างดีขึ้นแน่”รองนายกฯกล่าวและว่า ขณะนี้รัฐบาล กำลังจะเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสโดยเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจ ให้เป็น S-Curve (เส้นทางสู่ความสำเร็จของนวัตกรรม)และสัปดาห์หน้า รัฐบาลจะตั้ง
“กองทุนร่วมทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน” เพื่อนำออกไปเขิญชวนให้นักลงทุนต่างประเทศดึงเอกชนยักษ์ใหญ่ทั้งในและนอกประเทศเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น ขณะที่ภาคอุตสาหกรรม ได้กำหนดเป้าหมายใน
“ซุปเปอร์คลัสเตอร์ใหม่” พร้อมกับการเดินสายโรดโชว์ต่างประเทศ
โดยจะเริ่มต้นจากประเทศญี่ปุ่นสัปดาห์หน้า.
ที่มา :
http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9580000127950
!!! ปี 59 GDP โตเกิน 3% แน่นอน !!!
วันนี้ (18 พ.ย.) มีรายงานว่า เมื่อช่วงเช้า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการเปิดงานสัมมนาไทยแลนด์อีโคโนมิค เอ้าท์ลุ๊ค 2016 อนาคตเศรษฐกิจไทย เติบโตอย่างไรในบริบทใหม่ "Thailand Economic Outlook 2016"
โดยนายสมคิด กล่าวตอนหนึ่งในการปาฐกถาว่า ในปีหน้ารัฐบาลขอประกาศให้เป็นปีแห่งการลงทุน โดยอยากให้ภาคเอกชนเร่งการลงทุนเพื่อผลักดันเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวมากขึ้น เพราะปัจจุบันเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัว หลังจากรัฐบาลได้จัดทำมาตรการต่างๆ ออกมาแล้ว 3 ครั้ง (มาตรการ 3 ชุด) คาดว่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนได้ตั้งแต่ไตรมาส 4/58 ประกอบกับหากไม่เกิดสถานการณ์รุนแรงกับเศรษฐกิจจีน ก็จะทำให้ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปีนี้ขยายตัว ได้เกิน 3% แน่นอน
“เมื่อส่งผลให้จีดีพีเริ่มผงกหัว เชื่อว่าถ้าเศรษฐกิจจีนนิ่ง ไม่มีอะไรรุนแรง ดีไม่ดีเศรษฐกิจไทยจะโตได้ถึง 3%”รองนายกฯกล่าวและว่า อีกทั้งในปีหน้า ได้หารือกับรมว.คมนาคม โดยมอบหมายให้เร่งการลงทุนในโครงการเล็กๆ ให้ได้ตั้งแต่ต้นปี และในช่วงครึ่งปีหลังโครงการลงทุนขนาดใหญ่ เช่น การก่อสร้างรถไฟฟ้าทุกสีจะเริ่มดำเนินโครงการได้
“ปีหน้าถือเป็นปีแห่งการลงทุน รัฐบาลจัดทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว ถ้าไม่ลงทุนปีหน้า จะเก็บเงินไว้ทำไม หลังจากที่รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ไว้เพื่อเอื้อต่อการลงทุนแล้ว ดังนั้น จึงถึงเวลาที่เอกชนต้องลงทุนเพื่อช่วยกันผลักดันให้เศรษฐกิจเดินหน้า พร้อมระบุว่าในครึ่งปีแรกของปี 2559 รถไฟฟ้าทุกสายจะต้องพร้อมประกวดราคา จะเป็นปีแห่งการลงทุนมหาศาล เพื่อเตรียมการให้ทุกอย่างดีขึ้นก่อนเลือกตั้ง” นายสมคิด กล่าว
นายสมคิด ยังเชื่อว่า การประมูล 4G จะทำให้ รัฐได้เงินเข้าคลัง อีกประมาณ 1.3-1.4แสนล้านบาท เพื่อรับรองโครงการต่าง ๆที่รัฐลงทุน ได้เดินหน้า สามารถที่จะทำอะไรได้อีกมากเพื่อให้ประเทศดีขึ้น อย่างไรก็ตาม เวลานี้รัฐบาลกำลังเร่งเครื่อง ให้ภาครัฐวิสาหกิจ และภาคราชการ ในหลาย ๆ เรื่อง และมั่นใจว่าปีหน้า “เครดิตเรตติ้ง” จะปรับประเทศไทยขึ้นแน่ แต่ถ้าไม่ปรับไปทางที่ดี ก้อาจจะต้องมีการมีการโยกย้าย ดังนั้นตอนนี้นักลงทุนอย่าตกใจเวลานี้ ที่สโลว์ เฉื่อยแฉะ แต่ข้าราชการ เขาก็ทำงานกันเต็มที่ เมื่อหัวส่ายหางก็ย่อมกระดิกแน่นอน ฉะนั้นเอกชนต้องลงทุนได้แล้ว
“ดูหน้าผม เวลานี้ไม่ได้เป็นห่วงอะไรเพราะ ขอเมียมาทำงานแล้ว หลายคนยอมสละเงินเดือนเป็นล้านมารับ 1แสนบาท ค่าน้ำมันรถก็ไม่มี เพราะต้องการทำให้ประเทศดีขึ้น ดังนั้นอย่ากังวลทุกอย่างดีขึ้นแน่”รองนายกฯกล่าวและว่า ขณะนี้รัฐบาล กำลังจะเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสโดยเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจ ให้เป็น S-Curve (เส้นทางสู่ความสำเร็จของนวัตกรรม)และสัปดาห์หน้า รัฐบาลจะตั้ง “กองทุนร่วมทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน” เพื่อนำออกไปเขิญชวนให้นักลงทุนต่างประเทศดึงเอกชนยักษ์ใหญ่ทั้งในและนอกประเทศเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น ขณะที่ภาคอุตสาหกรรม ได้กำหนดเป้าหมายใน “ซุปเปอร์คลัสเตอร์ใหม่” พร้อมกับการเดินสายโรดโชว์ต่างประเทศ โดยจะเริ่มต้นจากประเทศญี่ปุ่นสัปดาห์หน้า.
ที่มา : http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9580000127950