เวิลด์แบงก์ห่วงรัฐบาลผสมอยู่ไม่นาน เสี่ยงฉุดเศรษฐกิจไทย หั่นจีดีพีโต3.5% (ชมคลิป)
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_1572080
นาย
เกียรติพงศ์ อริยปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ประจำประเทศไทย ธนาคารโลก เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเติบโตช้าลงจากความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและผลกระทบสงครามการค้าสหรัฐและจีนที่ยังยืดเยื้อ แรงกดดันจากความตกลงเขตการค้าเสรี(เอฟทีเอ)เวียดนาม–ยุโรป แต่ความเสี่ยงหลักที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตต่ำมาจากภายในประเทศความไม่แน่นอนทางการเมืองเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ ขณะนี้การจัดตั้งคณะรัฐมนตรี(ครม.) ยังล่าช้ากว่าคาดและจะทำให้การจัดทำงบประมาณประจำปี 2563 ล่าช้าออกไป 1-3 เดือนส่งผลต่อแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่โครงการใหม่ๆของรัฐบาลและงบการลงทุนที่จะออกมาได้ และจะมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนและความเชื่อมั่นผู้บริโภคทั้งนี้แม้ว่าจะจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ในที่สุดแต่รัฐบาลใหม่จะอยู่ได้ไมนานเพราะเป็นรัฐบาลผสมที่มาจากพรรคร่วมรัฐบาล19 พรรคหากเกิดกรณีนี้จะส่งผลต่อความต่อเนื่องรัฐบาลและโครงการลงทุนต่างๆได้
นาย
เกียรติพงศ์ กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยธนาคารโลกได้ปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ(จีดีพี) ปี2562 ลงมาอยู่ที่3.5% จากเดิมคาดขยายตัว 3.8% ผลจากการชะลอตัวของการส่งออกและบริการคาดว่าจะขยายตัวเพียง2.2% จากเดิม5.7% อย่างไรก็ตามคาดหวังว่าการลงทุนรัฐที่ยังล่าช้าจะปรับดีขึ้นจากการเบิกจ่ายงบลงทุนโครงการที่ลงนามสัญญาไปแล้ว การเดินหน้าโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) การลงทุนเอกชนและการบริโภคเอกชนยังขยายตัวได้ต่อเนื่องแต่อาจจะขยายตัวช้าลงและอาจได้รับผลกระทบจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ระดับสูงและจากภัยแล้ง
“เศรษฐกิจไทยเผชิญแรงกดดันทางลบทั้งในประเทศและต่างประเทศพร้อมกันซึ่งเราไม่ได้อยู่ในจุดนี้มานานเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงโดยจีดีพีไตรมาสแรกขยายตัวเพียง2.8% เป็นการเติบโตต่ำกว่า3% เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2558 คาดว่าในช่วงครึ่งปีแรก 2562 จีดีพีจะขยายตัวใกล้เคียง 3% และครึ่งปีหลังขยายตัวเกือบ 4% ทำให้จีดีพีปีนี้อยู่ที่3.5%” นาย
เกียรติพงศ์ กล่าว
(คลิปอยู่ในข่าวครับ)
JJNY : เสดตะกิดดี๊ดี..ซี้จุกสูญ เวิลด์แบงก์ห่วงรบ.ผสมอยู่ไม่นานหั่นจีดีพีฯ/ความเชื่อมั่นอสังหาฯดิ่งเหวแย่ยิ่งกว่าปี57ฯ
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_1572080
นายเกียรติพงศ์ อริยปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ประจำประเทศไทย ธนาคารโลก เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเติบโตช้าลงจากความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและผลกระทบสงครามการค้าสหรัฐและจีนที่ยังยืดเยื้อ แรงกดดันจากความตกลงเขตการค้าเสรี(เอฟทีเอ)เวียดนาม–ยุโรป แต่ความเสี่ยงหลักที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตต่ำมาจากภายในประเทศความไม่แน่นอนทางการเมืองเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ ขณะนี้การจัดตั้งคณะรัฐมนตรี(ครม.) ยังล่าช้ากว่าคาดและจะทำให้การจัดทำงบประมาณประจำปี 2563 ล่าช้าออกไป 1-3 เดือนส่งผลต่อแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่โครงการใหม่ๆของรัฐบาลและงบการลงทุนที่จะออกมาได้ และจะมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนและความเชื่อมั่นผู้บริโภคทั้งนี้แม้ว่าจะจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ในที่สุดแต่รัฐบาลใหม่จะอยู่ได้ไมนานเพราะเป็นรัฐบาลผสมที่มาจากพรรคร่วมรัฐบาล19 พรรคหากเกิดกรณีนี้จะส่งผลต่อความต่อเนื่องรัฐบาลและโครงการลงทุนต่างๆได้
นายเกียรติพงศ์ กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยธนาคารโลกได้ปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ(จีดีพี) ปี2562 ลงมาอยู่ที่3.5% จากเดิมคาดขยายตัว 3.8% ผลจากการชะลอตัวของการส่งออกและบริการคาดว่าจะขยายตัวเพียง2.2% จากเดิม5.7% อย่างไรก็ตามคาดหวังว่าการลงทุนรัฐที่ยังล่าช้าจะปรับดีขึ้นจากการเบิกจ่ายงบลงทุนโครงการที่ลงนามสัญญาไปแล้ว การเดินหน้าโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) การลงทุนเอกชนและการบริโภคเอกชนยังขยายตัวได้ต่อเนื่องแต่อาจจะขยายตัวช้าลงและอาจได้รับผลกระทบจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ระดับสูงและจากภัยแล้ง
“เศรษฐกิจไทยเผชิญแรงกดดันทางลบทั้งในประเทศและต่างประเทศพร้อมกันซึ่งเราไม่ได้อยู่ในจุดนี้มานานเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงโดยจีดีพีไตรมาสแรกขยายตัวเพียง2.8% เป็นการเติบโตต่ำกว่า3% เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2558 คาดว่าในช่วงครึ่งปีแรก 2562 จีดีพีจะขยายตัวใกล้เคียง 3% และครึ่งปีหลังขยายตัวเกือบ 4% ทำให้จีดีพีปีนี้อยู่ที่3.5%” นายเกียรติพงศ์ กล่าว
(คลิปอยู่ในข่าวครับ)