ผมไม่อยากเชื่อจริง ๆ ครับ ว่านายวิษณุ เครืองาม จะ "กร้าน" ได้ขนาดนี้ ศาล รธน. ที่ว่าแน่ ๆ ต้องชิดซ้ายก็งานนี้แหละครับ

กระทู้คำถาม
ฟังนายวิษณุ  เครืองาม  แถลงข่าวเรื่องการเอาผิดทางละเมิดโครงการจำนำข้าวแล้ว
ได้แต่ส่ายหน้า   ฟังการชักแม่น้ำทั้งห้าของนายวิษณุไป  สมเพชไป

จนกระทั่งมาถึงการหยิบยกข้อกฎหมายขึ้นมาอ้าง  ว่าทำได้  ทำตามกฎหมาย
เพราะนายกฯยิ่งลักษณ์  ถือว่าเป็น "เจ้าหน้าที่"

ได้ยินแล้วก็ยอมรับเลยครับว่า  "กร้าน"  จริง ๆ


นายวิษณุ  อ้างกฎหมาย พ.ร.บ. ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539  มาตรา 4   ที่บัญญัติไว้ว่า

"เจ้าหน้าที่"  
หมายความว่า ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง หรือผู้ปฏิบัติงานประเภทอื่นไม่ว่าจะเป็นการแต่งตั้งในฐานะกรรมการหรือฐานะอื่นใด


แล้วสรุปว่า   ข้าราชการ   หมายถึง  ข้าราชการการเมือง  ข้าราชการประจำ
นายกรัฐมนตรีถือว่าเป็นข้าราชการการเมือง  จึงสามารถใช้ พรบ.ทางละเมิดสั่งให้ชดใช้ได้

กร้านจริง ๆ



ประเด็นคือ   พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิด 2539  นั้น    มีการกำหนดความรับผิดของบุคคล 3 ฝ่าย คือหน่วยงานของรัฐ  เจ้าหน้าที่  และผู้เสียหาย

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

คำว่า ข้าราชการ ตามมาตรา 4   ย่อมหมายถึง ข้าราชการที่สังกัดหน่วยงานนั้น  ปฏิบัติหน้าที่เกิดความเสียหาย
ก็ต้องโดนหน่วยงานต้นสังกัดฟ้องร้องให้ชดใช้ค่าเสียหาย
หรือหากเจ้าหน้าที่คนนั้นไม่ได้สังกัดหน่วยงานใด  ก็ให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ฟ้องเรียกค่าเสียหาย

แต่นายกฯยิ่งลักษณ์  คือนายกรัฐมนตรีที่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้วกระทำตามนโยบาย
ไม่ใช่กระทำในฐานะข้าราชการ  ไม่ได้ปฏิบัติราชการในหน่วยงานที่สังกัด   แต่คือการดำเนินนโยบาย

จึงไม่ใช่ ข้าราชการ  ตามความหมายของมาตรา 4  แห่ง พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิด 2539  แน่นอน

แต่นายวิษณุ   ใช้ "ราคา" ทางตำแหน่งหน้าที่  ทางวุฒิทางการศึกษา  ทางสังคม   ชี้นำอย่างกร้าน ๆ ว่า
นายกฯยิ่งลักษณ์  คือ ข้าราชการ  ตามมาตรา 4

นี่ผมว่า  ยิ่งกว่าเรื่องการบิดมาตรา 68  ของศาลรัฐธรรมนูญซะอีกนะครับนี่



นอกจากนั้นยังมีสิ่งที่ "กร้าน" สุด ๆ  ก็คือ
นายวิษณุอ้างว่า  มี 2 วิธีที่จะดำเนินการเรียกค่าเสียหาย  

1. คือฟ้องแพ่ง   ทางนี้ไม่เลือก
2. คือใช้คำสั่งทางปกครอง   สั่งให้ชดใช้ตาม พรบ.ความรับผิดทางละเมิด    ซึ่งรัฐบาลเลือกใช้ทางนี้

นี่กร้านหนักหนาสาหัสเลยครับ

เพราะตัวบทกฎหมายที่นายวิษณุอ้างนำมาใช้  คือ พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางการปกครอง 2539
ซึ่งกฎหมายฉบับนี้   บอกไว้ชัดในมาตรา 4  ว่า

พระราชบัญญัตินี้มิให้ใช้บังคับแก่

(1) รัฐสภาและคณะรัฐมนตรี

(2) องค์กรที่ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะ

(3) การพิจารณาของนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีในงานทางนโยบายโดยตรง

(4) ‚‚‚‚‚.......



เรื่องจำนำข้าวนี่   เข้ามาตรา 4 ข้อ 3  ครับ   เป็นเรื่องนโยบายโดยตรง    
มิให้ใช้บังคับแก่   การพิจารณาของนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีในงานทางนโยบายโดยตรง


นายวิษณุไม่เอ่ยถึง   ไม่ยอมเอ่ยถึง   พูดข้ามไป   ละที่จะเอ่ย
หรืออาจจะเอ่ยก็ได้  แต่ผมไม่ได้ฟัง  หันมาตั้งกระทู้ก่อน   แต่ถ้าเอ่ยขึ้นมาจริง  ยิ่งสาหัสกว่าเดิมครับ




สรุป   มีกฎหมายที่เกียวข้อง 2 ฉบับ

1. พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ 2539  
    ที่นายวิษณุ   ใช้ความ "กร้าน"  ตีความเอาดื้อ ๆ ว่า  ข้าราชการ  หมายถึงนายกฯยิ่งลักษณ์ได้  เพราะนายกฯคือข้าราชการการเมือง
    ทั้งที่ตัวบทกฎหมายของ พ.ร.บ.ฉบับนี้  หมายถึง  ข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่แล้วก่อให้เกิดความเสียหายต่อหน่วยงานหรือเอกชน
    ไม่ได้หมายถึงนายกรัฐมนตรีที่แถลงนโยบานแห่งรัฐต่อรัฐสภาและดำเนินนโยบายตามที่ได้แถลง

2. พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางการปกครอง 2539  
    ที่มาตรา 4 ห้ามมิให้ใช้วิธีทางการปกครองในเรื่องการพิจารณาของนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีในงานทางนโยบายโดยตรง


แต่ถึงขนาดมีตัวบทกฎหมายชัด   ชัดว่าทำไม่ได้    ไม่สามารถใช้วิธีทางละเมิด  ไม่สามารถใช้คำสั่งทางปกครองได้
นายวิษณุก็ใช้ความกร้าน  นั่งอธิบายืดยาว  ชักแม่น้ำทั้งห้ามาบอกว่าใช้ได้  ถูกกฎหมายหน้าตาเฉย

เป็นการนั่งแถลงบิดเบือนและฉ้อฉลตัวบทกฎหมายอย่างไร้ยางอายที่สุดที่นักกฎหมายคนหนึ่งคนใดจะทำได้

ไม่ "กร้าน" จริง   ทำไม่ได้นะครับ



งึดคัก
ถีบขาคู่
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ไอ้นพ  นายกฯปูจะโดน ๆ ไป   ไม่ว่ากัน
แต่ขอให้หลักฐานมันชัด  กฎหมายมันตรง   มีความเป็นธรรม  ดำเนินการด้วยความเป็นธรรม

ไม่ใช่บิดข้อกฎหมาย  หลักฐานมั่ว ๆ   คลุมเครือ   ดำเนินการอย่างไม่เป็นธรรม

เรื่องจำนำข้าวนี่  หากเป็นต่างประเทศ  ศาลไม่รับฟ้องแล้ว  เพราะกระบวนการขัดหลักนิติธรรม ไม่มีความเป็นธรรม


แต่นี่คือประเทศไทย
ความคิดเห็นที่ 26
ส่วนเรื่องให้สัมภาษณ์เรื่องจีทูจี  ก็แค่คลิปไม่กี่วินาที   ที่นักข่าวถามเรื่องขายข้าวให้จีนว่าทำสัญญาหรือยัง
นายกฯยิ่งลักษณ์ก็ตอบว่ามี  เห็น MOU   แต่นายบุญทรง  รมว.พาณิชย์พูดแทรกว่า  ไม่ใช่ MOU  แต่เป็นสัญญาซื้อขาย

ตลกตายล่ะถ้าจะเอามาเป็นหลักฐานว่ารู้เห็นเป็นใจในการทุจริต
ซึ่งหากเอามา ก็ขัดกันอีก

คิดดูนะครับ   ฟ้องอาญาว่าปล่อยปละละเลย   ก็แปลว่ามีเจตนา
แต่จะฟ้องละเมิดด้วยข้ออ้างประมาทเลินเล่นอย่างร้ายแรง  ซึ่งแปลว่าไม่เจตนา

เอาไงแน่ ?




ส่วนเรื่องจีนว่าไม่มีจีทูจี  เป็นคำอ้างของนายวิชา  มหาคุณ  
ซึ่งหากไม่มีจริง   นายกฯยิ่งลักษณ์เกี่ยวอะไร ?

หากระดับปฏิบัติจะทำจีทูจีปลอม   เขาจะบอกนายกฯยิ่งลักษณ์เหรอครับ
หากเช่นนั้น   จะฟ้องข้อหาปล่อยปละละเลยทำไม    ทำไมไม่ฟ้องว่าร่วมทุจริต

มันย้อนแย้ง



ที่สำคัญ   ยังไม่รู้ว่าใครโกง  โกงยังไง  แต่ฟ้องอีกคนว่าปล่อยปละละเลยแล้ว
ดูที่ศาลนัดสิครับ  สอบพยานนายกฯยิ่งลักษณ์เสร็จ พ.ย. 59      สอบพยานบุญทรงเสร็จ ธ.ค. 59
แล้วจะบอกว่านายกฯยิ่งลักษณ์ผิดได้ไง  ในเมื่อคดีนายบุญทรงจะจบทีหลัง

ตลกหลุดโลกเลย
ความคิดเห็นที่ 2
คุณจกครับ

ม.44 เรื่องจำนำข้าว บอกว่าโดยสุจริตครับ  ถึงจะคุ้มครอง
แต่การกระทำของนายวิษณุวันนี้   โดยคุณวุฒิ  วัยวุฒิ  ประสบการณ์  ตำแหน่งหน้าที่การงาน  วุฒิภาวะ
ไม่มีทางเลยที่จะไม่รู้ว่า  ใช้ทางละเมิดไม่ได้ แต่ยังใช้   นี่คือไม่สุจริตแล้วครับ

แต่ปัญหาคือ  หากเกิดการฟ้องร้องว่าไม่สุจริต  ศาลท่านจะเห็นด้วยไหมเท่านั้นแหละ
Facepalm
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่