สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ไอ้นพ นายกฯปูจะโดน ๆ ไป ไม่ว่ากัน
แต่ขอให้หลักฐานมันชัด กฎหมายมันตรง มีความเป็นธรรม ดำเนินการด้วยความเป็นธรรม
ไม่ใช่บิดข้อกฎหมาย หลักฐานมั่ว ๆ คลุมเครือ ดำเนินการอย่างไม่เป็นธรรม
เรื่องจำนำข้าวนี่ หากเป็นต่างประเทศ ศาลไม่รับฟ้องแล้ว เพราะกระบวนการขัดหลักนิติธรรม ไม่มีความเป็นธรรม
แต่นี่คือประเทศไทย
แต่ขอให้หลักฐานมันชัด กฎหมายมันตรง มีความเป็นธรรม ดำเนินการด้วยความเป็นธรรม
ไม่ใช่บิดข้อกฎหมาย หลักฐานมั่ว ๆ คลุมเครือ ดำเนินการอย่างไม่เป็นธรรม
เรื่องจำนำข้าวนี่ หากเป็นต่างประเทศ ศาลไม่รับฟ้องแล้ว เพราะกระบวนการขัดหลักนิติธรรม ไม่มีความเป็นธรรม
แต่นี่คือประเทศไทย
ความคิดเห็นที่ 26
ส่วนเรื่องให้สัมภาษณ์เรื่องจีทูจี ก็แค่คลิปไม่กี่วินาที ที่นักข่าวถามเรื่องขายข้าวให้จีนว่าทำสัญญาหรือยัง
นายกฯยิ่งลักษณ์ก็ตอบว่ามี เห็น MOU แต่นายบุญทรง รมว.พาณิชย์พูดแทรกว่า ไม่ใช่ MOU แต่เป็นสัญญาซื้อขาย
ตลกตายล่ะถ้าจะเอามาเป็นหลักฐานว่ารู้เห็นเป็นใจในการทุจริต
ซึ่งหากเอามา ก็ขัดกันอีก
คิดดูนะครับ ฟ้องอาญาว่าปล่อยปละละเลย ก็แปลว่ามีเจตนา
แต่จะฟ้องละเมิดด้วยข้ออ้างประมาทเลินเล่นอย่างร้ายแรง ซึ่งแปลว่าไม่เจตนา
เอาไงแน่ ?
ส่วนเรื่องจีนว่าไม่มีจีทูจี เป็นคำอ้างของนายวิชา มหาคุณ
ซึ่งหากไม่มีจริง นายกฯยิ่งลักษณ์เกี่ยวอะไร ?
หากระดับปฏิบัติจะทำจีทูจีปลอม เขาจะบอกนายกฯยิ่งลักษณ์เหรอครับ
หากเช่นนั้น จะฟ้องข้อหาปล่อยปละละเลยทำไม ทำไมไม่ฟ้องว่าร่วมทุจริต
มันย้อนแย้ง
ที่สำคัญ ยังไม่รู้ว่าใครโกง โกงยังไง แต่ฟ้องอีกคนว่าปล่อยปละละเลยแล้ว
ดูที่ศาลนัดสิครับ สอบพยานนายกฯยิ่งลักษณ์เสร็จ พ.ย. 59 สอบพยานบุญทรงเสร็จ ธ.ค. 59
แล้วจะบอกว่านายกฯยิ่งลักษณ์ผิดได้ไง ในเมื่อคดีนายบุญทรงจะจบทีหลัง
ตลกหลุดโลกเลย
นายกฯยิ่งลักษณ์ก็ตอบว่ามี เห็น MOU แต่นายบุญทรง รมว.พาณิชย์พูดแทรกว่า ไม่ใช่ MOU แต่เป็นสัญญาซื้อขาย
ตลกตายล่ะถ้าจะเอามาเป็นหลักฐานว่ารู้เห็นเป็นใจในการทุจริต
ซึ่งหากเอามา ก็ขัดกันอีก
คิดดูนะครับ ฟ้องอาญาว่าปล่อยปละละเลย ก็แปลว่ามีเจตนา
แต่จะฟ้องละเมิดด้วยข้ออ้างประมาทเลินเล่นอย่างร้ายแรง ซึ่งแปลว่าไม่เจตนา
เอาไงแน่ ?
ส่วนเรื่องจีนว่าไม่มีจีทูจี เป็นคำอ้างของนายวิชา มหาคุณ
ซึ่งหากไม่มีจริง นายกฯยิ่งลักษณ์เกี่ยวอะไร ?
หากระดับปฏิบัติจะทำจีทูจีปลอม เขาจะบอกนายกฯยิ่งลักษณ์เหรอครับ
หากเช่นนั้น จะฟ้องข้อหาปล่อยปละละเลยทำไม ทำไมไม่ฟ้องว่าร่วมทุจริต
มันย้อนแย้ง
ที่สำคัญ ยังไม่รู้ว่าใครโกง โกงยังไง แต่ฟ้องอีกคนว่าปล่อยปละละเลยแล้ว
ดูที่ศาลนัดสิครับ สอบพยานนายกฯยิ่งลักษณ์เสร็จ พ.ย. 59 สอบพยานบุญทรงเสร็จ ธ.ค. 59
แล้วจะบอกว่านายกฯยิ่งลักษณ์ผิดได้ไง ในเมื่อคดีนายบุญทรงจะจบทีหลัง
ตลกหลุดโลกเลย
ความคิดเห็นที่ 2
คุณจกครับ
ม.44 เรื่องจำนำข้าว บอกว่าโดยสุจริตครับ ถึงจะคุ้มครอง
แต่การกระทำของนายวิษณุวันนี้ โดยคุณวุฒิ วัยวุฒิ ประสบการณ์ ตำแหน่งหน้าที่การงาน วุฒิภาวะ
ไม่มีทางเลยที่จะไม่รู้ว่า ใช้ทางละเมิดไม่ได้ แต่ยังใช้ นี่คือไม่สุจริตแล้วครับ
แต่ปัญหาคือ หากเกิดการฟ้องร้องว่าไม่สุจริต ศาลท่านจะเห็นด้วยไหมเท่านั้นแหละ
ม.44 เรื่องจำนำข้าว บอกว่าโดยสุจริตครับ ถึงจะคุ้มครอง
แต่การกระทำของนายวิษณุวันนี้ โดยคุณวุฒิ วัยวุฒิ ประสบการณ์ ตำแหน่งหน้าที่การงาน วุฒิภาวะ
ไม่มีทางเลยที่จะไม่รู้ว่า ใช้ทางละเมิดไม่ได้ แต่ยังใช้ นี่คือไม่สุจริตแล้วครับ
แต่ปัญหาคือ หากเกิดการฟ้องร้องว่าไม่สุจริต ศาลท่านจะเห็นด้วยไหมเท่านั้นแหละ

แสดงความคิดเห็น
ผมไม่อยากเชื่อจริง ๆ ครับ ว่านายวิษณุ เครืองาม จะ "กร้าน" ได้ขนาดนี้ ศาล รธน. ที่ว่าแน่ ๆ ต้องชิดซ้ายก็งานนี้แหละครับ
ได้แต่ส่ายหน้า ฟังการชักแม่น้ำทั้งห้าของนายวิษณุไป สมเพชไป
จนกระทั่งมาถึงการหยิบยกข้อกฎหมายขึ้นมาอ้าง ว่าทำได้ ทำตามกฎหมาย
เพราะนายกฯยิ่งลักษณ์ ถือว่าเป็น "เจ้าหน้าที่"
ได้ยินแล้วก็ยอมรับเลยครับว่า "กร้าน" จริง ๆ
นายวิษณุ อ้างกฎหมาย พ.ร.บ. ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 มาตรา 4 ที่บัญญัติไว้ว่า
"เจ้าหน้าที่"
หมายความว่า ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง หรือผู้ปฏิบัติงานประเภทอื่นไม่ว่าจะเป็นการแต่งตั้งในฐานะกรรมการหรือฐานะอื่นใด
แล้วสรุปว่า ข้าราชการ หมายถึง ข้าราชการการเมือง ข้าราชการประจำ
นายกรัฐมนตรีถือว่าเป็นข้าราชการการเมือง จึงสามารถใช้ พรบ.ทางละเมิดสั่งให้ชดใช้ได้
กร้านจริง ๆ
ประเด็นคือ พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิด 2539 นั้น มีการกำหนดความรับผิดของบุคคล 3 ฝ่าย คือหน่วยงานของรัฐ เจ้าหน้าที่ และผู้เสียหาย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คำว่า ข้าราชการ ตามมาตรา 4 ย่อมหมายถึง ข้าราชการที่สังกัดหน่วยงานนั้น ปฏิบัติหน้าที่เกิดความเสียหาย
ก็ต้องโดนหน่วยงานต้นสังกัดฟ้องร้องให้ชดใช้ค่าเสียหาย
หรือหากเจ้าหน้าที่คนนั้นไม่ได้สังกัดหน่วยงานใด ก็ให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ฟ้องเรียกค่าเสียหาย
แต่นายกฯยิ่งลักษณ์ คือนายกรัฐมนตรีที่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้วกระทำตามนโยบาย
ไม่ใช่กระทำในฐานะข้าราชการ ไม่ได้ปฏิบัติราชการในหน่วยงานที่สังกัด แต่คือการดำเนินนโยบาย
จึงไม่ใช่ ข้าราชการ ตามความหมายของมาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิด 2539 แน่นอน
แต่นายวิษณุ ใช้ "ราคา" ทางตำแหน่งหน้าที่ ทางวุฒิทางการศึกษา ทางสังคม ชี้นำอย่างกร้าน ๆ ว่า
นายกฯยิ่งลักษณ์ คือ ข้าราชการ ตามมาตรา 4
นี่ผมว่า ยิ่งกว่าเรื่องการบิดมาตรา 68 ของศาลรัฐธรรมนูญซะอีกนะครับนี่
นอกจากนั้นยังมีสิ่งที่ "กร้าน" สุด ๆ ก็คือ
นายวิษณุอ้างว่า มี 2 วิธีที่จะดำเนินการเรียกค่าเสียหาย
1. คือฟ้องแพ่ง ทางนี้ไม่เลือก
2. คือใช้คำสั่งทางปกครอง สั่งให้ชดใช้ตาม พรบ.ความรับผิดทางละเมิด ซึ่งรัฐบาลเลือกใช้ทางนี้
นี่กร้านหนักหนาสาหัสเลยครับ
เพราะตัวบทกฎหมายที่นายวิษณุอ้างนำมาใช้ คือ พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางการปกครอง 2539
ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ บอกไว้ชัดในมาตรา 4 ว่า
พระราชบัญญัตินี้มิให้ใช้บังคับแก่
(1) รัฐสภาและคณะรัฐมนตรี
(2) องค์กรที่ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะ
(3) การพิจารณาของนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีในงานทางนโยบายโดยตรง
(4) .......
เรื่องจำนำข้าวนี่ เข้ามาตรา 4 ข้อ 3 ครับ เป็นเรื่องนโยบายโดยตรง
มิให้ใช้บังคับแก่ การพิจารณาของนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีในงานทางนโยบายโดยตรง
นายวิษณุไม่เอ่ยถึง ไม่ยอมเอ่ยถึง พูดข้ามไป ละที่จะเอ่ย
หรืออาจจะเอ่ยก็ได้ แต่ผมไม่ได้ฟัง หันมาตั้งกระทู้ก่อน แต่ถ้าเอ่ยขึ้นมาจริง ยิ่งสาหัสกว่าเดิมครับ
สรุป มีกฎหมายที่เกียวข้อง 2 ฉบับ
1. พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ 2539
ที่นายวิษณุ ใช้ความ "กร้าน" ตีความเอาดื้อ ๆ ว่า ข้าราชการ หมายถึงนายกฯยิ่งลักษณ์ได้ เพราะนายกฯคือข้าราชการการเมือง
ทั้งที่ตัวบทกฎหมายของ พ.ร.บ.ฉบับนี้ หมายถึง ข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่แล้วก่อให้เกิดความเสียหายต่อหน่วยงานหรือเอกชน
ไม่ได้หมายถึงนายกรัฐมนตรีที่แถลงนโยบานแห่งรัฐต่อรัฐสภาและดำเนินนโยบายตามที่ได้แถลง
2. พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางการปกครอง 2539
ที่มาตรา 4 ห้ามมิให้ใช้วิธีทางการปกครองในเรื่องการพิจารณาของนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีในงานทางนโยบายโดยตรง
แต่ถึงขนาดมีตัวบทกฎหมายชัด ชัดว่าทำไม่ได้ ไม่สามารถใช้วิธีทางละเมิด ไม่สามารถใช้คำสั่งทางปกครองได้
นายวิษณุก็ใช้ความกร้าน นั่งอธิบายืดยาว ชักแม่น้ำทั้งห้ามาบอกว่าใช้ได้ ถูกกฎหมายหน้าตาเฉย
เป็นการนั่งแถลงบิดเบือนและฉ้อฉลตัวบทกฎหมายอย่างไร้ยางอายที่สุดที่นักกฎหมายคนหนึ่งคนใดจะทำได้
ไม่ "กร้าน" จริง ทำไม่ได้นะครับ
งึดคัก