น้องชาย"เสี่ยโจ้" ดอดพบ ผบช.น.ร้องขอความเป็นธรรมถูกกล่าวหาค้าน้ำมันเถื่อน เชื่อพี่ยังหลบอยู่ในไทย หรืออาจถูกอุ้มหายตัวไปแล้วแฉโพยโอนเงินโผล่หลังถูกตำรวจข่มขู่
วันนี้ (11 ธ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายวรากร เจียรเสริมสิน หรือ โจ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 5 ตำบลหาดคำ อำเภอหนองคาย จังหวัดหนองคาย ซึ่งเป็นน้องชายนายสหชัย หรือ เสี่ยโจ้ ได้มาขอพบ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมนกุล ผบช.น. เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมให้แก่ พี่ชาย นายสหชัย เจียรเสริมสิน อายุ 46 ปี เจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด สหทวีค้าไม้ เลขที่103/49 ถนนนาเกลือ หมู่8 ตำบลบานา อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี ที่เคยถูกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นกิจการอยู่หลายครั้ง จนถูกควบคุมตัวดำเนินคดีปลอมแปลงเอกสารตราประทับ จนถูกศาลปัตตานีพิพากษาจำคุก 1 ปี 9 เดือน โดยไม่รอลงอาญา และครอบครัวเจียรเสริมสิน พร้อมแนบหลักฐานประกอบด้วยสำเนาใบขอโอนเงินและใบเสร็จรับเงินลงวันที่ 21 พ.ย. 51 และ 23 ก.ย. 52 และใบบันทึกรายการโอนเงินทางเอทีเอ็ม ลงวันที่ 27 ม.ค.55 พร้อมด้วยภาพถ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งในหนังสือระบุด้วยว่ามีนายตำรวจท่านหนึ่งที่ถูกส่งมาช่วยงานตำรวจน้ำในจังหวัดปัตตานี และมีพฤติกรรมเป็นมาเฟีย โดยมอบให้แก่ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น.
นายวรากร กล่าวว่า กรณีที่พบรถเก๋ง ฮอนด้า แอคคอร์ด หมายเลขทะเบียน กง576 หนองคาย จอดทิ้งอยู่ริมถนน ที่อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลานั้น ตนทราบจากอดีตภรรยา ว่ารถดังกล่าวเสียกะทันหัน และขอเงินเพื่อไปซ่อมรถ แต่ตนไม่ได้ติดต่อเพื่อที่จะให้เงิน ส่วนการหายตัวไปของเสี่ยโจ้นั้น ไม่คิดว่าเสี่ยโจ้จะหลบหนีไปต่างประเทศ เพราะเสี่ยโจ้เรียนจบเพียง ม.3 ไม่มีความรู้เรื่องภาษา อีกทั้งยังมีหนี้สินอีก 400 ล้านบาท การที่จะออกนอกประเทศได้นั้นจะต้องมีหนังสือรับรองที่เป็นทางการ
สำหรับบางคนมองว่าเสี่ยโจ้มีพรรคพวกมากแต่จากกรณีที่มีการตั้งค่าหัวบางทีเงินค่าหัวก็อาจจะมีคนพบเบาะแสแล้วบ้าง หรือไม่ก็มีพรรคพวกส่งข่าวความคืบหน้าของเสี่ยโจ้มาบ้างแล้ว เพราะคงมีคนอยากได้เงินกันบ้าง ซึ่งความจริงแล้วคนที่บ้านน่าจะส่วนรู้เห็น หรือถ้ายังอยู่น่าจะส่งข่าวมาให้คนที่บ้านบ้าง ซึ่งทุกวันนี้ทุกคนที่บ้านไม่มีใครรู้ ส่วนชีวิตของคนครอบครัวก็จะต้องใช้ชีวิตหลบๆ ซ่อนๆ กันทุกคน เพราะชีวิตทุกวันนี้ไม่มีความสุข ถึงแม้การออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมจะทำให้ชีวิตไม่สงบสุขตนเองก็พร้อมจะเรียกร้องความเป็นธรรมให้พี่ชาย หากจะต้องการตรวจสอบตนก็พร้อมที่จะให้ตรวจสอบ ซึ่งไม่รู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นมาได้อย่างไร
นายวรกร กล่าวอีกว่า หากการเรียกร้องความเป็นธรรมในวันนี้ไม่ได้รับความคืบหน้า จะทำหนังสือเพื่อทวงถามอีกครั้งและพร้อมที่จะเดินทางไปยังทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทราบถึงกรณีดังกล่าว ตอนนี้กังวลว่าเสี่ยโจ้ ซึ่งไม่สามารถติดต่อได้นั้นอาจจะโดนอุ้มหายไปแล้วก็ได้ เพราะแม้กระทั้งคนในครอบครัวก็ไม่ได้รับการติดต่อ แต่ถึงอย่างไรก็คาดหวังที่จะให้สื่อมวลชนช่วยกันติดตามข่าว
ทั้งนี้เคยมีเจ้าหน้าที่ไปค้นที่บ้านแล้วเจอเอกสารการโอนเงินซึ่งครั้งละไม่ต่ำกว่าหมื่นบาทประมาณ 3-4 ครั้ง ตนไม่รู้ว่าโพยดังกล่าวมีอยู่ในบ้านจริงหรือไม่ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าจะมีไว้ทำไม กรณีน้ำมันเถื่อนที่เจ้าหน้าที่นำมาเชื่อมโยงจับพี่ชายตนนั้น ตนไม่ทราบว่าเรื่องน้ำมันเถื่อนดูกันอย่างไร มีใครสามารถอธิบายได้หรือไม่ ในความคิดตนคือการนำน้ำมันมาในประเทศไทยถือว่าเถื่อน แล้วถ้าน้ำมันดังกล่าวอยู่ในน่านน้ำสากลจะถือว่าเถื่อนหรือไม่ นี่เป็นข้อสงสัยส่วนตัว ไม่ได้จงใจจะเปิดประเด็นหรืออย่างไร หรือหากพบน้ำมันที่ไปขายอยู่น่านน้ำอิโดนีเซีย น่านน้ำมาเลเซีย น่านน้ำเวียดนาม น่านน้ำเขมร อย่างที่เป็นข่าว เค้าจะต้องเสียภาษีกับใคร
นอกจากนี้ ตนยังสงสัยว่าหลังจากมีการข่มขู่และคุกคามของเจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่งแล้ว ได้มีเอกสารชุดนี้(เอกสารการโอนเงิน) เข้าไปในสำนวนคดีได้อย่างไร เพราะว่าตำรวจคนนี้เป็นคนนำทหารเข้ามาจับกุม และเป็นเจ้าหน้าที่ระดับผู้กำกับการให้มาช่วยราชการตำรวจน้ำปัตตานี
อ้างอิง
http://crime.tnews.co.th/content/119924/
วันที่ลงข่าว 2014-12-11 21:13:38
ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2558 นายวรากร เจียรเสริมสิน ได้มีการส่งหนังสือ ขอติดตามความคืบหน้าเรื่อง ขอความเป็นธรรมที่ได้ยื่นไว้ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยมีเอกสารหลุดออกมาในกลุ่มไลน์ โดยในเอกสารได้มีการกล่าวถึงนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ชื่อ พันตำรวจโทสมชาติหรือ ธนชาติ ศุภวุฒิ ข้อความในเอกสารมีการพูดถึงความไม่ชอบมาพากล ของการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย การข่มขู่เพื่อรับสินบน การใช้พรรคพวกกล่าวหาป้ายสีประชาชนเพื่อเรียกร้องสินบน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เรื่อง ขอติดตามความคืบหน้าเรื่องขอความเป็นธรรมที่ได้ยื่นไว้ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล
เรียน พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
อ้างถึง 1.หนังสือขอความเป็นธรรมฉบับลงวันที่ 11 ธันวาคม 2557 เรื่องขอความเป็นธรรมและ ขอชี้แจงข้อเท็จจริงและให้ตรวจสอบหลักฐานการโอนเงิน 2.หนังสือขอติดตามความคืบหน้าฉบับลงวันที่ 10 มีนาคม 2558 ที่มีถึงกองบัญชาการตำรวจนครบาล สิ่งที่ส่งมาด้วย สำเนาหนังสือขอติดตามความคืบหน้าเรื่องขอความเป็นธรรมครั้งที่ 2
สืบเนื่องจาก ตามที่กระผมนาย วรากร เจียรเสริมสิน น้องชายของนายสหชัยหรือโจ้ เจียรเสริมสิน ได้ทำหนังสือฉบับลงวันที่ 11 ธันวาคม 2557 และขอชี้แจงข้อเท็จจริงและให้ตรวจสอบหลักฐานการโอนเงิน การนี้ได้มีพลตำรวจโทศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ขณะนั้นเป็นผู้รับหนังสือและได้ลงประจำวันแล้ว แต่หลังจากนั้นก็ไม่ปรากฎความคืบหน้าหรือได้รับแจ้งอย่างใดๆ ทำให้ผมเกิดความกังวลเป็นอย่างมากโดยเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเสียยิ่งกว่าที่จะไม่ทำหนังสือและมอบเอกสารดังกล่าวให้แก่ส่วนราชการ กระผมจึงได้ทำหนังสืออีกครั้งเพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าถึงการที่กระผมได้ร้องขอความเป็นธรรมตั้งแต่แรก แต่จนถึงบัดนี้ก็ไม่ปรากฎว่าได้รับแจ้งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าได้กระทำการอย่างใด ๆ หรือมีการตรวจสอบประการใดในการที่กระผมได้มอบหลักฐานการโอนเงินระหว่างนายสหชัย เจียรเสริมสิน ให้แก่พันตำรวจโทสมชาติหรือธนชาติ ศุภวุฒิ ซึ่งการตรวจสอบก็น่าที่จะไม่ใช่เรื่องยุ่งยากเพราะเป็นหลักฐานของธนาคารและยิ่งมิใช่เรื่องยากที่จะสอบสวนให้เห็นถึงีความเกี่ยวพันระหว่างบุคคลทั้งสองถึงเหตุที่ได้มีการทำธุรกรรมทางการเงินกัน อันจะนำไปสู่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของกระผมตระกูลเจียรเสริมสินว่า ถูกพันตำรวจโทสมชาติหรือ ธนชาติ ศุภวุฒิ กลั่นแกล้งโดยให้ร้ายด้วยตนเองและอาศัยอำนาจของหน่วยงานฝ่ายทหารและหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อกลั่นแกล้งโดยหวังผลประโยชน์ตอบแทนโดยมิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย อันสื่อให้เห็นว่าเมื่อพันตำรวจโทสมชาติหรือ ธนชาติ ศุภวุฒิ ไม่ได้รับผลประโยชน์เพราะเหตุนาย สหชัย เจียรเสริมสิน ไม่ยอมจ่ายหรือไม่มีที่จะจ่ายให้ อันเป็นมูลเหตุที่แท้จริงที่ครอบครัวของกระผมถูกกระทำเพียงฝ่ายเดียวทั้งจากหน้าหนังสือพิมพ์ สื่อต่าง ๆ รวมทั้งหน่วยงานต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องและไม่เป็นธรรม ทั้งนี้ครอบครัวของกระผมไม่อาจที่จะแก้ไขหรือแก้ต่างต่อสิ่งที่ถูกกระทำได้อย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งเอกสารตามที่อ้างถึงและคือสิ่งที่ส่งมาด้วย อันหมายถึงเป้นเอกสารที่เป็นอย่างเดียวกันนี้ที่ได้ยื่นถึงสำนักนายกรัฐมนตรี คณะรักษาความสงบแห่งชาติและกองบัญชาการตำรวจนครบาล
โดยหนังสือฉบับนี้กระผมทราบว่าได้มีการเพิ่มยศให้พันตำรวจโทสมชาติหรือ ธนชาติ ศุภวุฒิ เป็นพันตำรวจเอกและจะส่งกลับไปรับราชการยังพื้นที่ที่เคยมีอิทธิพลครอบงำหน่วยงานต่าง ๆ อยู่เช่นเดิม ซึ่งกระผมเห็นว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีนายตำรวจที่ดี ๆ ปฎิบัติราชการด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอยู่อย่างมากมาย แต่เหตุไฉนที่จะแต่งตั้งบุคคลที่มีความด่างพร้อยในหน้าที่ราชการกลับไปรับราชการในพื้นที่ที่มีปัญหา ย่อมจะสร้างปัญหามากขึ้น ทั้งที่นโยบายของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติต่างมีนโยบายถึงความซื่อสัตย์สุจริตในการปฎิบัติราชการและให้ความเป็นธรรมแก่ประชาชนผู้อยู่ในความปกครองอย่างถ้วนหน้า หากมีกรณีเช่นนี้ย่อมอาจส่งผลต่อการดำเนินนโยบายแก้ไขปัญหาของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติเป็นไปอย่างยากลำบากและอาจถึงขั้นไม่สำเร็จได้
นายสหชัยหรือโจ้ เจียรเสริมสินถูกให้ข่าวว่าอยู่ในขบวนการค้าน้ำมันเถื่อน ก็โดยการปล่อยข่าวจากพันตำรวจโทสมชาติหรือ ธนชาติ ศุภวุฒิ และพรรคพวกทั้งสิ้น ซึ่งก็เป็นเวลาหลายปีแล้วก็ไม่ปรากฎว่ามีข้อกล่าวหาจากส่วนราชการใดว่านายสหชัยหรือ โจ้ เจียรเสริมสินซึ่งเป็นพี่ชายของกระผมถูกตั้งข้อหาหรือแจ้งข้อหาเกี่ยวกับการค้าน้ำมันเถื่อนแต่อย่างใด อันสื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นการกระพือข่าวให้ร้ายพี่ชายของกระผมเพราะพี่ชายของกระผมไม่ยินยอมจ่ายเงินหรือให้ทรัพย์สินให้แก่พันตำรวจโทสมชาติหรือ ธนชาติ ศุภวุฒิ ตามที่บุคคลนี้และผู้ร่วมขบวนการเรียกร้อง
ซึ่งเอกสารของกระผมอันประกอบหลักฐานการโอนเงินและภาพถ่ายอันมีลักษณะเยาะเย้ยในการนำยึดทรัพย์อย่างไม่เป็นธรรมของกระผมและบุคคลภายนอก ทั้ง ๆ ที่พันตำรวจโทสมชาติหรือ ธนชาติ ศุภวุฒิไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีหน้าที่อย่างใด ๆ ในการยึดทรัพย์ แต่สามารถแสดงได้โดยเปิดเผยและยินยอมให้ถ่ายภาพ อันมีลักษณะไม่เกรงกลัวผู้ใดหรือเชื่อว่าไม่มีผู้ใดที่จะให้โทษแก่พันตำรวจโทสมชาติ หรือ ธนชาติ ศุภวุฒิได้ ด้วยเหตุดังกล่าวนี้กระผมจึงขอทำหนังสือฉบับนี้อันเป็นฉบับที่ 3 เพื่อยืนยันในการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบข้อมูลที่กระผมได้มอบให้ตามหนังสือขอความเป็นธรรมฉบับลงวันที่ 11 ธันวาคม 2557 อันประกอบด้วยหลักฐานการโอนเงินและภาพถ่ายให้เป็นที่แน่ชัดเสียก่อน และได้โปรดแจ้งความคืบหน้าให้แก่กระผมทราบตามที่อยู่ด้านบนนี้ด้วย....ลงชื่อ นายวรากร เจียรเสริมสิน
ข้อคิดเห็น : หากเป็นจริงตามข้อความข้างบนจริงๆ ทำ DSI ถึงอยู่เฉยไม่ออกมาทำอะไรนายตำรวจคนนี้ นี่โลกเราเต็มไปด้วยตำรวจแบบนี้จริงๆหรือ ประชาชนจะฝากความหวังอะไรได้ ตำรวจหรือโจร? เพื่อนๆพันทิพย์มีความคิดเห็นกับข่าวนี้ยังไงครับ
อัพเดตข่าวดัง -น้องชาย"เสี่ยโจ้" ดอดพบ ผบช.น.ร้องขอความเป็นธรรมถูกกล่าวหาค้าน้ำมันเถื่อน (เอกสารเพิ่มเติม)
วันนี้ (11 ธ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายวรากร เจียรเสริมสิน หรือ โจ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 5 ตำบลหาดคำ อำเภอหนองคาย จังหวัดหนองคาย ซึ่งเป็นน้องชายนายสหชัย หรือ เสี่ยโจ้ ได้มาขอพบ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมนกุล ผบช.น. เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมให้แก่ พี่ชาย นายสหชัย เจียรเสริมสิน อายุ 46 ปี เจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด สหทวีค้าไม้ เลขที่103/49 ถนนนาเกลือ หมู่8 ตำบลบานา อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี ที่เคยถูกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นกิจการอยู่หลายครั้ง จนถูกควบคุมตัวดำเนินคดีปลอมแปลงเอกสารตราประทับ จนถูกศาลปัตตานีพิพากษาจำคุก 1 ปี 9 เดือน โดยไม่รอลงอาญา และครอบครัวเจียรเสริมสิน พร้อมแนบหลักฐานประกอบด้วยสำเนาใบขอโอนเงินและใบเสร็จรับเงินลงวันที่ 21 พ.ย. 51 และ 23 ก.ย. 52 และใบบันทึกรายการโอนเงินทางเอทีเอ็ม ลงวันที่ 27 ม.ค.55 พร้อมด้วยภาพถ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งในหนังสือระบุด้วยว่ามีนายตำรวจท่านหนึ่งที่ถูกส่งมาช่วยงานตำรวจน้ำในจังหวัดปัตตานี และมีพฤติกรรมเป็นมาเฟีย โดยมอบให้แก่ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น.
นายวรากร กล่าวว่า กรณีที่พบรถเก๋ง ฮอนด้า แอคคอร์ด หมายเลขทะเบียน กง576 หนองคาย จอดทิ้งอยู่ริมถนน ที่อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลานั้น ตนทราบจากอดีตภรรยา ว่ารถดังกล่าวเสียกะทันหัน และขอเงินเพื่อไปซ่อมรถ แต่ตนไม่ได้ติดต่อเพื่อที่จะให้เงิน ส่วนการหายตัวไปของเสี่ยโจ้นั้น ไม่คิดว่าเสี่ยโจ้จะหลบหนีไปต่างประเทศ เพราะเสี่ยโจ้เรียนจบเพียง ม.3 ไม่มีความรู้เรื่องภาษา อีกทั้งยังมีหนี้สินอีก 400 ล้านบาท การที่จะออกนอกประเทศได้นั้นจะต้องมีหนังสือรับรองที่เป็นทางการ
สำหรับบางคนมองว่าเสี่ยโจ้มีพรรคพวกมากแต่จากกรณีที่มีการตั้งค่าหัวบางทีเงินค่าหัวก็อาจจะมีคนพบเบาะแสแล้วบ้าง หรือไม่ก็มีพรรคพวกส่งข่าวความคืบหน้าของเสี่ยโจ้มาบ้างแล้ว เพราะคงมีคนอยากได้เงินกันบ้าง ซึ่งความจริงแล้วคนที่บ้านน่าจะส่วนรู้เห็น หรือถ้ายังอยู่น่าจะส่งข่าวมาให้คนที่บ้านบ้าง ซึ่งทุกวันนี้ทุกคนที่บ้านไม่มีใครรู้ ส่วนชีวิตของคนครอบครัวก็จะต้องใช้ชีวิตหลบๆ ซ่อนๆ กันทุกคน เพราะชีวิตทุกวันนี้ไม่มีความสุข ถึงแม้การออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมจะทำให้ชีวิตไม่สงบสุขตนเองก็พร้อมจะเรียกร้องความเป็นธรรมให้พี่ชาย หากจะต้องการตรวจสอบตนก็พร้อมที่จะให้ตรวจสอบ ซึ่งไม่รู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นมาได้อย่างไร
นายวรกร กล่าวอีกว่า หากการเรียกร้องความเป็นธรรมในวันนี้ไม่ได้รับความคืบหน้า จะทำหนังสือเพื่อทวงถามอีกครั้งและพร้อมที่จะเดินทางไปยังทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทราบถึงกรณีดังกล่าว ตอนนี้กังวลว่าเสี่ยโจ้ ซึ่งไม่สามารถติดต่อได้นั้นอาจจะโดนอุ้มหายไปแล้วก็ได้ เพราะแม้กระทั้งคนในครอบครัวก็ไม่ได้รับการติดต่อ แต่ถึงอย่างไรก็คาดหวังที่จะให้สื่อมวลชนช่วยกันติดตามข่าว
ทั้งนี้เคยมีเจ้าหน้าที่ไปค้นที่บ้านแล้วเจอเอกสารการโอนเงินซึ่งครั้งละไม่ต่ำกว่าหมื่นบาทประมาณ 3-4 ครั้ง ตนไม่รู้ว่าโพยดังกล่าวมีอยู่ในบ้านจริงหรือไม่ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าจะมีไว้ทำไม กรณีน้ำมันเถื่อนที่เจ้าหน้าที่นำมาเชื่อมโยงจับพี่ชายตนนั้น ตนไม่ทราบว่าเรื่องน้ำมันเถื่อนดูกันอย่างไร มีใครสามารถอธิบายได้หรือไม่ ในความคิดตนคือการนำน้ำมันมาในประเทศไทยถือว่าเถื่อน แล้วถ้าน้ำมันดังกล่าวอยู่ในน่านน้ำสากลจะถือว่าเถื่อนหรือไม่ นี่เป็นข้อสงสัยส่วนตัว ไม่ได้จงใจจะเปิดประเด็นหรืออย่างไร หรือหากพบน้ำมันที่ไปขายอยู่น่านน้ำอิโดนีเซีย น่านน้ำมาเลเซีย น่านน้ำเวียดนาม น่านน้ำเขมร อย่างที่เป็นข่าว เค้าจะต้องเสียภาษีกับใคร
นอกจากนี้ ตนยังสงสัยว่าหลังจากมีการข่มขู่และคุกคามของเจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่งแล้ว ได้มีเอกสารชุดนี้(เอกสารการโอนเงิน) เข้าไปในสำนวนคดีได้อย่างไร เพราะว่าตำรวจคนนี้เป็นคนนำทหารเข้ามาจับกุม และเป็นเจ้าหน้าที่ระดับผู้กำกับการให้มาช่วยราชการตำรวจน้ำปัตตานี
อ้างอิง http://crime.tnews.co.th/content/119924/
วันที่ลงข่าว 2014-12-11 21:13:38
ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2558 นายวรากร เจียรเสริมสิน ได้มีการส่งหนังสือ ขอติดตามความคืบหน้าเรื่อง ขอความเป็นธรรมที่ได้ยื่นไว้ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยมีเอกสารหลุดออกมาในกลุ่มไลน์ โดยในเอกสารได้มีการกล่าวถึงนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ชื่อ พันตำรวจโทสมชาติหรือ ธนชาติ ศุภวุฒิ ข้อความในเอกสารมีการพูดถึงความไม่ชอบมาพากล ของการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย การข่มขู่เพื่อรับสินบน การใช้พรรคพวกกล่าวหาป้ายสีประชาชนเพื่อเรียกร้องสินบน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ข้อคิดเห็น : หากเป็นจริงตามข้อความข้างบนจริงๆ ทำ DSI ถึงอยู่เฉยไม่ออกมาทำอะไรนายตำรวจคนนี้ นี่โลกเราเต็มไปด้วยตำรวจแบบนี้จริงๆหรือ ประชาชนจะฝากความหวังอะไรได้ ตำรวจหรือโจร? เพื่อนๆพันทิพย์มีความคิดเห็นกับข่าวนี้ยังไงครับ