ถามตอบปัญหาบั้งไฟพญานาค ที่พบบ่อย

บางอันไม่ใช่ประโยคคำถาม แต่ก็ขอนำมารวมๆกันให้เป็นเหมือนประโยคคำถามเลยนะครับ

ถาม : ไม่เชื่ออย่าลบหลู่สิ
ตอบ : แน่นอนว่าการลบหลู่ไม่ใช่พฤติกรรมที่ดีของปัญญาชน แต่ถ้าการไปถ่ายรูปเรียกว่าลบหลู่  งั้นพวกคุณเอากล้องมือถือห่วยๆเบลอๆมัวๆถ่ายภาพถ่ายคลิปบั้งไฟฯ  ก็คงเป็นการลบหลู่ด้วยเช่นกัน  ผมเอากล้องชัดๆถ่ายนี่ผิดตรงไหน ศรัทธาคุณจะได้ยิ่งชัดตามไง
ส่วนพฤติกรรมลบหลู่ด้วยการกระทำหรือคำพูด ผมยังไม่เคยทำครับ หากพบประโยคไหนของผมลบหลู่ก็นำมาแจ้งด้วย  ทุกวันนี้ผมยังถือคติว่า “ไม่เชื่อต้องพิสูจน์” และหากคุณอยากเห็นประเทศนี้พัฒนาขึ้นก็ขอให้คุณปรับทัศนคติตัวเองด้วย

ถาม : อย่าไปทำลายการท่องเที่ยวสิ
ตอบ : บอกไว้ตรงนี้เลยว่า  ต่อให้ผู้จัดงานจะประกาศยกเลิกการจัดงานในปีหน้า  ผมก็จะยังไปอยู่ครับ  เราไปพิสูจน์บั้งไฟฯไม่ได้ไปเที่ยวเฮฮาปาร์ตี้  หากยังมีข่าวว่าตรงนู้นตรงนี้ตรงนั้นยังมีบั้งไฟฯขึ้นอยู่  ที่สำคัญเพจนี้มีแต่เชิญชวนให้คนไปพิสูจน์ครับ

ถาม : อย่าไปทำลายประเพณีสิ
ตอบ : ประเพณีหมายถึงสิ่งที่มนุษย์ทำขึ้น  ไม่ว่าการตักบาตร การไหลเรือไฟ กระทงสาย หรือการแสดงบนเวที ฯ ที่ผ่านมาผมยังไม่ได้ทำลายสิ่งเหล่านั้น

ถาม : เค้าเห็นมาตั้งแต่เด็กแล้ว จะเอาประสบการณ์ไม่กี่ปีไปเปรียบเทียบได้ยังไง
ตอบ : งั้นคุณดูโทรทัศน์มาตั้งแต่เด็ก คุณรู้มั้ยว่าโทรทัศน์มันทำงานยังไง  บางทีการดู กับการศึกษาวิจัยมันก็ต่างกันนะ  ทุกฝ่ายควรร่วมมือกันเพื่อความสมบูรณ์มากกว่า

ถาม : กระสุนปืนมันมีแสงสว่างด้วยเหรอ
ตอบ : ใครถามอย่างงี้ ต้องขอแสดงความเสียใจกับสิ่งที่คุณเห็นมาตลอดด้วยนะครับ  คุณกำลังนับกระสุนส่องแสงอยู่โดยแยกแยะกับบั้งไฟฯของจริง(ซึ่งก็ยังไม่ทราบว่ามีจริงหรือเปล่า)
แอ็ดมินก็ไม่ใช่คนรู้มากมาจากไหน  ก็เพิ่งรู้จักกระสุนชนิดนี้จาก itv ปี 2545 พร้อมๆกับพวกคุณนั่นแหละ  แต่แอ็ดมินเลือกที่จะไม่ตัดทิ้ง  คุณจะไม่มีวันต่อจิ๊กซอว์เต็มหากคุณโยนจิ๊กซอว์ตัวที่คุณไม่ชอบทิ้งไปนะครับ

ถาม : มันจะมีแสงสว่างมองเห็นได้เมื่อพ้นน้ำขึ้นไปแล้วเท่านั้น
ตอบ : ก็ต้องขอแสดงความเสียในอีกเช่นกัน คุณไม่เคยเห็นมันขึ้นจากน้ำเลย  แต่กลับไปเที่ยวโพนทะนาว่าขึ้นจากน้ำ  คุณแค่รู้สึกว่ามันขึ้นจากน้ำเท่านั้น  และคุณไม่รู้หรอกว่ามันห่างไปเท่าไหร่  เพราะมันแค่ดวงแสงในความมืดเท่านั้น  คุณจะเอาความสว่างมาตัดสินความใกล้ไกลไม่ได้
เว้นแต่คุณยืนยันว่า  เคยเห็นลูกไฟที่สว่างตั้งแต่ผิวน้ำขึ้นไปเลย ไม่ตาฝาดแน่นอน  อันนี้ค่อยน่าสนใจครับ

ถาม : ใครมันจะลงไปยิงในน้ำลึกหลายเมตรและไหลเชี่ยวอย่างงั้น
ตอบ : ไม่ทราบ เพราะยังไม่เคยเห็นลูกไฟขึ้นจากน้ำ คุณต่างหากต้องตอบให้ได้ว่าเห็นมันขึ้นจากน้ำได้อย่างไร  เป็นปัญหาทางสายตา หรือทางความคิด หรือการศึกษา

ถาม : ใครมันไปขยันทำได้ตั้งหลายจุดในแม่น้ำโขงช่วงหนองคายถึงบึงกาฬ
ตอบ : มันไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้เลยครับ  เรือไฟมีตั้งหลายที่เค้าทำคนเดียวหรือไงครับ  และเชื่อว่าคนที่พูดอย่างงี้  ยังไม่เคยไปดูครบทุกจุดชมตลอดความยาวแม่น้ำโขงหรอกครับ ฟังข่าวมาเหมือนกันทั้งนั้น  ในขณะที่พวกแอ็ดมินเปลี่ยนสถานที่ถ่ายรูปทุกๆปี  อ.โพนพิสัย, อ.รัตนวาปี อ.ปากคาด และ อ.บึงโขงหลง  มันยิงขึ้นจากฝั่งลาวทั้งนั้นครับ  เหลือแต่ อ.สังคม ที่ยังไม่ได้ไป
อีกอย่าง คุณคิดว่าเพราะพญานาคทำ หรือเพราะปรากฏการณ์ธรรมชาติ  คุณจะตอบได้มั้ยว่ามันมีหลายๆที่ได้ยังไง

ถาม : ใครมันไปสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นว่าจะต้องทำอย่างงี้ตลอดไปหลายชั่วคน
ตอบ : ไม่แปลกครับ  ประเพณีสงกรานต์, ลอยกระทง  ก็ยังทำสืบทอดมาหลายชั่วคนได้เลย

ถาม : เขาเห็นมาเป็น 100 ปีแล้ว
ตอบ : ใครยืนยันอย่างงี้ทั้งที่ตัวเองอายุไม่ถึงร้อยปี  คือพุทธแต่ปากที่ขาดกาลามสูตรนั่นเอง “อย่าเชื่อเพียงเพราะฟังตามกันมา หรือเล่าสืบต่อกันมาแต่เก่าก่อน”  คือสามารถนำมาเล่าอ้างประกอบได้  แต่ไม่ควรปักธงเชื่อเสียสนิท  แล้วห้ามใครอื่นกล่าวผิดจากนี้  
เรื่องโบราณกว่าจะมาถึงปัจจุบันมันจะเพี้ยนไปเยอะ  สิ่งที่เห็นกับสิ่งที่นำมาบอกต่อนั้นตรงกันหรือไม่  นักประวัติศาสตร์จึงมักให้ความสำคัญกับข้อความในบันทึกมากกว่า  ข้อความโบราณที่เขียนถึงบั้งไฟผี ทั้งฝ่ายไทย ฝ่ายลาว หรือฝ่ายฝรั่งเศสสมัยมาล่าอาณานิคม  เคยมีกล่าวถึงเอาไว้บ้างหรือไม่  
อีกอย่าง กระสุนส่องแสงมีใช้มาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่หนึ่งแล้ว  นับได้ 100 แล้วหละ

ถาม : จะหาว่าคนเฒ่าคนแก่เพิ่นตัวะเหรอ เพิ่นเห็นกระสุนส่องแสงมาตั้งแต่เด็กเหรอ
ตอบ : ทุกๆคนต้องถูกตรวจสอบ ต้องถูกตั้งคำถามเหมือนกันหมดครับ  ไม่มีใครสมควรนำขึ้นหิ้งโดยแตะต้องไม่ได้โดยถือว่าเป็นผู้อาวุโส  เพียงแต่ต้องถูกตรวจสอบอย่างสุภาพ  คนแก่เองต้องตอบให้ได้ว่า บั้งไฟฯที่คุณเห็นมาตั้งแต่เด็ก  มันมาหมดลงที่ยุคสมัยไหน  หากท่านยืนยันว่ามันหมดลงไปแล้วในสมัยหนึ่ง  อันนี้ก็คงกลายเป็นตำนานเล่าขานลึกลับในอดีต ซึ่งไม่สามารถย้อนเวลากลับไปพิสูจน์ได้  แต่หากคนแก่บอกว่ามันยังเกิดขึ้นมาจนถึงปัจจุบัน  หากปัจจุบันที่ว่าหมายถึงปี 54 เป็นต้นมา  ซึ่งซ้อนทับกับยุคที่แอ็ดมินพบแต่กระสุนส่องแสง  แล้วจะให้แอ็ดมินคิดยังไงกับสิ่งที่คนแก่เห็นมาตั้งแต่ตอนเด็กๆครับ?
การถูกหลอกมาทั้งชีวิต มันไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรครับ  เป็นกับมนุษย์ทุกคนตั้งแต่เด็กยันโต ตั้งแต่ยุคดึกดําบรรพ์ถึงปัจจุบัน  แม้ปัจจุบันมนุษย์ก็ยังไม่รู้ทุกอย่าง  สำคัญแต่ว่า รู้อยู่แล้วแต่ไปกล่าวให้ผิดเพี้ยนไปจากที่รู้นั้น  อันนี้เรียก “มุสา” มีความเสียหายในทางจริยธรรมครับ

ถาม : สมัยพุทธกาลยังไม่มีปืน แล้วใครหละยิง
ตอบ : จะบอกว่ามีเด็กรุ่นใหม่บางคนถามอย่างงี้จริงๆนะครับ  ความจริงในพระไตรปิฎกแม้จะมีกล่าวถึงพญานาค  แต่ไม่มีกล่าวถึงบั้งไฟพญานาคนะครับ ไม่มีเหตุการณ์พญานาคพ่นลูกไฟเป็นพุทธบูชา ไม่ว่าวันออกพรรษาหรือวันสำคัญไหนๆ  ใครรู้ตัวว่าแต่งเติมบิดเบือนเผยแพร่ในเว็ปหรือในแผ่นพับ  ก็ขอให้….
ชื่อ บั้งไฟพญานาค จริงๆจึงเริ่มมีในปี 2529 นี่เอง

ถาม : ที่เห็นมามันเป็นดวงๆลูกๆ ไม่ได้เป็นเส้นมีหางยาวๆอย่างงี้
ตอบ : เรื่องนี้เป็นเพียงเทคนิคการถ่ายรูปแบบเปิดหน้ากล้องนานๆ ถ้าถ่ายรถวิ่งกลางคืนจะเห็นไฟรถลากเป็นเส้นๆไปบนถนน สาเหตุที่ต้องถ่ายอย่างงี้กับบั้งไฟฯ เพื่อให้เห็นว่าลูกไฟขึ้นมาจากน้ำจริงๆหรือไม่

ถาม : คนลาวจะยิงทำไมให้เปลือง ประโยชน์มันตกกับฝั่งไทย
ตอบ : ไม่ทราบเพราะไม่ใช่คนยิง  แต่ราคากระสุนถูกมากเมื่อเปรียบเทียบกับรายได้เข้าพื้นที่ แต่ในที่นี้เพียงตั้งข้อสงสัยไม่ได้กล่าวหาคนพื้นที่  เหมือนอย่างที่ท่านนายกเทศมนตรีโพนพิสัย สงสัยพวกเราว่ารู้เห็นกับการยิงนั้นหรือไม่ เช่นกัน