รักละลายใจ 5 เรื่องรักหวานๆ ที่ร้านไอศกรีมค่ะ

กระทู้สนทนา


        ริสาชวนคนเข้าร้านมากกว่าเมื่อวานอย่างเห็นได้ชัด และเครื่องดื่มอุ่นๆ กับไอศกรีมก็ขายดีจนน่าแปลกใจ

    มีอีกหลายอย่างที่เขาต้องเรียนรู้...จงจินคิดระหว่างที่ทอดสายตามองลูกน้อง ริสาขยันกว่าที่เขาคาด พอลูกค้าเริ่มซา เธอก็จะออกไปแจกเชอร์เบท ท่าทางร่าเริงและรอยยิ้มน่ารักทำให้ผู้คนยอมพูดคุยด้วย และพอได้ชิม “รสชาติของฤดูใบไม้ผลิ” ตามที่เธอโฆษณา พวกเขาก็ไม่ลังเลที่จะเข้ามานั่งพักในร้าน

    ริสาเดินไปไกลถึงร้านอาหาร แน่นอนว่าเธอชวนคนที่เพิ่งอิ่มบะหมี่เข้ามากินไอศกรีมเป็นของหวานได้ คู่เดทยินดีที่จะยืดเวลานั่งคุยกันให้นานขึ้น ในขณะที่เด็กเล็กชอบทั้งกระต่ายและไอศกรีมแน่นอนอยู่แล้ว ส่วนผู้ใหญ่ที่มาช้อปปิ้งกับลูกหลานก็อยากจะหาที่นั่งพัก

    ริสาร้องเชิญลูกค้าเข้าร้านอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เขาสังเกตเห็นริมฝีปากอิ่มซีดลงเพราะอากาศเย็น จนอดไม่ได้ต้องไปดึงตัวเธอเข้ามาข้างใน

    ดวงตาเรียวตวัดมองมือใหญ่ที่กุมรอบข้อมือบาง จนเขาต้องปล่อยออกอย่างเก้อเขิน เสพูดไปว่าเธอควรจิบชาอุ่นๆ บ้าง

    แต่ริสามีเวลาพักไม่มากนัก เพราะร้านวุ่นวายตลอดจนถึงเวลาปิด...

    จงจินเดินไปเช็ดโต๊ะ แต่ตามองริสาที่กำลังล้างแก้วอยู่หลังเคาน์เตอร์ ปลายจมูกของเธอมีรอยมันเล็กน้อย และหูกระต่ายก็เริ่มจะพับตกลงมา ไม่แปลกหรอกที่เธอจะเหนื่อย ขนาดเขาคุ้นกับงานหนัก ยังอดล้าไม่ได้

    ชายหนุ่มมองกล่องทิป ในนั้นไม่ถึงกับว่างเปล่า แต่ร้านกึ่งบริการตัวเองอย่างนี้ ลูกค้ามักจะไม่ทิปมากนัก อย่างดีก็ใส่เหรียญที่ได้จากเงินทอนลงไปในกล่องหน้าแคชเชียร์

    พอริสาเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังร้าน จงจินเลยใส่เพิ่มไปอีกห้าพันวอน...

    มากกว่านี้ ก็กลัวเธอจะสงสัย

    จงจินไม่อยากให้เธอรู้ว่า ผ่านมาแค่วันเดียว เขาก็ใจอ่อนกับเธอเสียแล้ว!

    เขาไม่อยากทำแบบนี้ แต่ด้วยงานที่ริสาลงแรงไป เธอควรได้ค่าเหนื่อยเพิ่ม อาจไม่ใช่ในรูปตัวเงิน เพราะได้ตกลงกันไว้แล้วว่าจะรับแต่ทิปตลอดสัปดาห์แรก เขาก็ไม่อาจใจไม้ไส้ระกำกับคนที่ทุ่มเทเพื่อร้านขนาดนี้ได้

    จงจินดูออก...เธอทำงานด้วยใจจริงๆ...

    หญิงสาวกลับออกมาจากหลังร้านในชุดเสื้อยืด กางเกงยีนส์ มีเสื้อกันหนาวตัวเดิมคลุมทับ ผมรวบขมวดไว้หลวมๆ ในมือถือเป้สัมภาระ

    “ไม่มีอะไรแล้ว ฉันกลับก่อนนะคะ”

    “เดี๋ยว...” เขาส่งกล่องทิปให้เธอ และได้รางวัลเป็นรอยยิ้มกว้าง

    “ได้ตั้งเยอะแน่ะ!” เสียงใสอุทานอย่างยินดี ก่อนจะโค้งคำนับเขา “ขอบคุณค่ะ”

    “ริสา...” เขาเรียกไว้ก่อนเธอจะเดินออกประตูไป

    “คะ” ร่างเล็กหันกลับมา กวาดตามองรอบร้านเหือนจะสำรวจว่าหลงลืมอะไรบ้าง

    “ไป...กินบะหมี่ด้วยกันก่อนไหม...ผมเลี้ยงต้อนรับที่คุณเข้ามาทำงานวันแรก...” ใบหน้าคมคายก้มลงนิดหนึ่ง บอกตัวเองว่าที่ชวนก็เพราะอยากตอบแทน ไม่มีเหตุผลอื่น!

    “ขอบคุณค่ะ” ริสายิ้มจนตาหยี “กำลังหิวพอดีเลย”

    ร้านที่เขาเลือกเป็นเพียงแผงเล็กในซอกตึกใกล้สถานีรถใต้ดิน อากาศเย็นจัดยามค่ำทำให้พ่อค้าต้องกางเต๊นท์ใสเป็นกระโจม มีเครื่องทำความอุ่นอยู่ข้างใน แปลกตาแต่ก็นั่งสบายพอใช้

    ริสาเป็นผู้หญิงตัวเล็ก...แต่รับประทานจุ จงจินบันทึกข้อมูลใหม่เข้าไว้ในสมองโดยอัตโนมัติ ไม่น่าเชื่อว่าอุด้งชามใหญ่หายวับไปภายในพริบตา

    เธอยกแก้วน้ำขึ้นดื่มอึกใหญ่ ก่อนจะลูบท้องอย่างพอใจแล้วหันมาโค้งให้เขา “ขอบคุณค่ะ”

    “ไม่เป็นไร” จงจินจ่ายเงินแล้วเปิดประตูเต๊นท์ให้เธอก้าวออกไปก่อน “ผมไปส่งที่บ้านดีใหม    

    “ไม่ต้องหรอกค่ะ แค่สถานีก็พอ ขอบคุณอีกครั้ง”

    “ริสา” เขาเรียก

    “ไม่เป็นไรจริงๆ ค่ะ ฉันเคยกลับดึกกว่านี้อีก”

    “เปล่า...ผมไม่ได้จะไปส่งคุณ” แววตาซื่อๆ ของเขาแสดงให้รู้ว่าไม่ได้เล่นมุกหรือกวนประสาท “แค่จะบอกว่าปกติผมปิดร้านวันจันทร์”

    “แปลว่าพรุ่งนี้ฉันไม่ต้องไปทำงานหรือคะ”

    “ไม่ใช่”

    เธอหันกลับมาทั้งตัว เอียงคอมองเขาด้วยสีหน้าเป็นคำถาม

    “มาที่ร้านตอนเช้า เราจะได้ไปซื้ออุปกรณ์ที่ยังขาด คุณว่าจะทำเวเฟอร์กรอบ วาฟเฟิลด้วยไม่ใช่หรือ ผมไม่มีเครื่องมือพวกนั้น แล้วยังท้อปปิ้งอีก”

    “คุณชอบไอเดียของฉันจริงๆ ด้วย!” ริสาร้อง “ดีใจจัง โอเคค่ะ พรุ่งนี้เจอกัน ฉันไปที่ร้านแปดโมงนะคะ”

    จงจินพยักหน้ารับ แล้วคนตัวเล็กก็วิ่งลงบันไดไป โดยไม่เหลียวกลับมาอีก จึงไม่ทันเห็นว่า ร่างสูงยืนมองเธอไปจนลับตา พร้อมด้วยรอยยิ้มจางๆ ระบายอยู่
บนริมฝีปาก...
    
    
talk นามปากกา ไอลี่ ค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ

(ขอสงวนสิทธิ์เนื้อหาและภาพประกอบ ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 โปรดอย่านำออกไปที่อื่นค่ะ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่