ทำไมคนมักชอบหัวเราะเรา เวลาเราโดนเรียนแต่ไม่ได้ยิน คือเราเป็นคนหูไม่ค่อยดีค่ะ

กระทู้คำถาม
สวัสดีค่ะชาวพันทิปทุกท่าน เพื่อนเราอยากฝากเรื่องราวมารีวิวค่ะ ขอพื้นที่ให้เพื่อนเราด้วยจร้า ...เราขอเขียนบทความเกี่ยวกับชีวิตตัวเองซึ่งมันเป็นความอึดอัด ความลับ ความเจ็บปวดในใจว่าเราลำบากแค่ใหนสำหรับคำเยาะเย้ยต่างๆ เพราะอะไรล่ะเขาถึงเยาะเย้ยเรา เราอยากหาที่ระบายให้คนอื่นๆที่เรารู้จักและไม่รู้จัก เพราะบางเรื่องหลายๆเรื่องมันพูดไม่ได้จากปาก อาจเป็นได้แค่ตัวหนังสือ ให้คนได้อ่านแล้วคิดตามว่า ทุกคนล้วนมีชีวิตที่ลำบากจะมากจะน้อยก็ว่ากันไป แต่ละคนจะเหมือนกันไม่ได้หรอกเนาะ แต่ถ้าคุณๆมีเรื่องราวอยากแชร์ก็อย่ารอช้านะคะ...
      เราชื่อ โบว์ลิ่ง ชื่อเล่นอย่างเดวแล้วเนาะ พ่อแม่ตั้งให้เลยค่ะแต่โดนเรียกแต่ โบว์ เฉยๆนั้นแหละ ง่ายดีมั้ง มีพี่ชาย 1 คน พี่จะไม่ค่อยได้อยู่กับพ่อแม่นะฝากยายตลอด เพราะเราชอบเป็นโรคบ่อยมาก ตอนเด็กประมาณขวบนึงเราเป็นวัณโรค พ่อแม่ต้องขายควายที่เลี้ยงไว้ซึ่งได้มาจากตอนพ่อขอแม่แต่งงาน TT ( น่าสงสาร ) เพื่อรักษาเราแต่เรากลับเสียชีวิตหรือภาคเหนือเรียกว่า ตายลืม 2 วันเต็มพ่อแม่คือหัวใจแตกสลายแล้วล่ะตอนนั้น กอดคอกันร้องไห้ แทบเป็นบ้า ยากจนมากถึงขนาดกับไม่มีเงินพาศพลูกกลับบ้าน เป็นสมัยที่แร้นแค้นมาก ไม่รู้จักโทรศัพท์จักรยานยนต์ เลยค่ะ แต่เรากลับอุตริฟื้นมา พ่อแม่นี่ต้องบนเจ้าที่ไว้เยอะเลย เหตุการณ์เหมือนจะปกตินะ ช่วงหนึ่งพ่อแม่ต้องเข้าป่า หาเงินโดยการเก็บผักต่างๆเห็ดๆตามฤดูขาย เลยฝากเราไว้กับยาย ตอนอายุประมาณ 3-4 ขวบ ซนเกินแล้วเอาไม้ขีดไฟใส่หูตัวเอง 😑 ยายตกใจมากรีบดึงออก แต่มือไปโดนไม้ขีดจนมันทะลุเข้าหูซะงั้น เลือดออก ก้ออกอย่างงั้นแหละค่ะไม่ได้พาไปหาหมอ จน! เป็นเหตุให้หูไม่ดี ไม่ค่อยได้ยิน พอเข้าเรียนช่วงประถม 1-6 เรียนใกล้บ้าน ได้เงินไปเรียนปอ 1-3 วัน 2 บาท ที่รร.มีข้าวฟรีให้นะ ปอ 4-6 ได้วัน 5 บาท แต่เราไม่กินขนมเลยนะแอบเก็บไว้แล้วบอกแม่ว่ากินหมดแล้ว ( ตอนนี้สูงแค่ 158 ค่ะ เหมือนไม่โตเพราะตอนเด็กไม่ชอบกินอะไร เสียดายตัง ) เพราะแม่อยากให้เรากินขนมเหมือนคนอื่นแม้มันจะน้อยก้ได้กินก้ยังดี แต่เราก้ดื้อไม่ฟังและไม่กินได้แต่มองคนอื่นกินแล้วกลืนน้ำลายอย่างเดว เรามักจะโดนล้อเรื่องหู ทุกวัน จนวันนึงครูใช้ให้เราเข็นรถมอไซ แต่เรากลับไม่ได้ยินเลยดันไปกระโดดซ้อนท้ายรถครู คนทั้งรร . เลยหัวเราะกันสนั่น คือเราอายและร้องไห้หนักค่ะ แล้วก้โดนแบบนั้นจนจบประถม ด้วยฉายา " อี่โบว์สึ่ง , อี่หูผี " ต่อไปที่มัธยมต้นที่รร.เดวกัน พี่ชายเราไปต่อรร.ประจำประหยัดค่าใช้จ่ายไปเยอะนะฉายาเราก้คงเดิม มีเพิ่มเติมบ้างล่ะ. เราเป็นคนขาวในระดับหนึ่ง ไม่ได้ใช้ครีมอะไรเลย ( หาข้าวกินให้ได้ก่อนเนาะ ) เราเป็นคนดูดีบ้าง ไม่สวยไม่ขี้เหร่ บุคลิกดูมีกินค่ะ แต่จนในขนาด มีบ่าวแซว ก้อายนะบางทีก้ไม่ได้ยินก้โดนตะคอกว่า อี่นี่มันหยิ่งว่ะ !!! เรามีหรอจะได้เถียงก้มหน้าต่อไป ตอนนั้นก้มีเพื่อนเนาะแบบมีเคืองเพราะมีบ่าวแซว โดยจะล้อเราด้วยการเรียกเรา แบบพูดเบาๆเพื่อให้เราไม่ได้ยินแล้วกะจะตะโกน เช่น อี่ผีหนูนิ อี่โบว์สึ่ง บ่าวๆแถวนั้นรวมถึงคนที่แซวเราคนที่เพื่อนแอบชอบก้หัวเราะกันใหญ่เลยค่ะ ตอนนั้นเราไม่รู้หรอกพฤติกรรมที่น่าเกลียดนี้มันคืออะไร.พึ่งรู้ก้โตล่ะไม่ได้โกรธใครแค่เห็นเขาตอนนี้ก้เข้าใจ เราก้ได้แต่ทำหน้าเหยเกแหละ เราพยายามทำตัวร่าเริงแบบตลกๆกลัวไม่มีใครคบ ตามเพื่อนติดเพื่อนแม้พวกเขามองเราแบบไหนก้ตาม ช่วงนั้นเริ่มมีทีวีค่ะ แต่เรายังไม่มีนะ เพื่อนๆเรามีกันหมด จน! เวลามาเรียนเขาก้จะคุยกันเรื่องละคร ดารา มีแต่เราไม่รู้ห่าอะไรซักอย่างได้แต่ฟังและทำหน้าเอ๋อ พอใกล้จบมอ 1 เริ่ดมากแม่ซื้อทีวีแล้ว มือสอง แต่มี ช่อง 3 กับ 9 ได้ดูไม่เกิน 19:30 น.( จะซื้อมาทำไมเนาะ ช่วงการ์ตูนกำลังมันส์ ) เพราะพ่อเราเริ่มป่วยด้วยโรคมะเห็งนะคะไม่ใช่มะเร็ง มันเป็นผื่นแสบๆแดงๆบริเวณหัวลามไปถึงปากกินไม่ได้นอนไม่หลับ ลุกจากที่นอนไม่ได้ เจ็บเหมือนโดนน้ำร้อนลวก TT. สงสารพ่อมาก แม่เริ่มทำงานคนเดียว ปลูกข้าวโพดหลายสิบไร่ จากที่เช่า ตอนนั้นยังไม่มีใครปลูกข้าวโพดกันเยอะเหมือนสมัยนี้. ก้อเพราะมันจนปัญญาค่ะ ญาติก้สงสารมาช่วยบ้าง โดยแม่จะตื่นตี 2 ทุกวันแล้วเข้าป่าหาผักเห็ดต่างๆมาขายก่อนเช้า เอาเงินมาซื้อข้าวกินซื้อยาให้พ่อ พอสายมาหน่อยก้ไปปลูกเข้าโพด แล้วให้ยายมาเฝ้าพ่อทั้งวัน ทำแบบนี้ตลอด พอเสาร์อาทิตย์เราก็จะไปช่วยบ้างแต่แดดกลางวันนี่แรงมาก แม่ก็จะให้เราพัก แต่เราก้บอกว่าจะพักนะ แต่แอบไปหลบดูแม่ทำงานและเห็นแม่ร้องไห้ บร๊ะเจ้าเลย!!! จุก กลับมาบ้านนอนไม่หลับเป็นอาทิตย์ กลัวพ่อไม่หายแล้วจากไปกลัวแม่คิดสั้น เยอะจนมึนหัว จนกรีดแขนตัวเอง TT ความง่าวมีเยอะค่ะ แม่เห็นเข้าแทบจะเป็นลม เรารู้สึกผิดมาก ไม่อยากไปเรียนเริ่มดื้อ แม่เลยบอกว่า " ดูพ่อสิถ้าเราไม่เรียนอนาคตถ้าพ่อไม่อยู่เราจะทำมาหากินอะไร แม่ก้คงแก่หรืออาจจะไม่อยู่ " ร้องไห้หนัก เลยควักออมสินไม้ใผ่ คือ เอากระบอกไม้ใผ่มาทำค่ะ พ่อทำให้ ควักก้หมายถึงเอาพร้าโต้ผ่าครึ่งเอาเงินมาให้แม่ แต่แม่ไม่ยอมเอาหรอกแต่จำเป็น มันน้อยนะ เก็บมา 6-7 ปีได้ 792 บาท มีเหรียญสลึงด้วย จำแม่น และสุดท้ายก้ไปเรียนแบบอึดอัด หมองๆ เก็บตัว เพื่อนเริ่มตีตัวห่าง เราก้ตามเขานะแต่เหนื่อยเพราะเขามักไปไหนไม่ชวน ทิ้งเราไว้ไม่รอ เราเลยหยุดตามไม่มีเวลาสนใจเพื่อนแล้ว คือหมดความอดทน แถมยังโดนล้อ หัวเราะเยาะเย้ยเหมือนตัวตลก เคยคิดว่าเราทำอะไรเขาถึงสนุกเวลาเหนเราเป็นตัวตลก เรายอมรับว่าหูไม่ดี พยายามฟังให้ดีตั้งใจฟังแต่ก้โดนว่า อยากมีเงินรักษาแต่แค่คิดก็เหนื่อย จนเราเริ่ม ตะคอกกลับ เหวี่ยงใส่พวกเขาแล้วล่ะ ไม่สนแล้ว พอเลิกเรียนจะกลับบ้านเร็วๆเพราะจะได้ช่วยแม่พาพ่อไปหาหมอชาวบ้าน เรียกว่า หมอเป่ามีคาถาน่ะ ประมาณนี้ คาถาเป่ามะเห็ง พาพ่อไปทุกวัน จนพ่อหายดีทำงานได้ เลยเริ่มต้มเหล้านึงข้าว ธุรกิจเล็กแบบครอบครัวเป็นงานหนักมาก ยกแบกหาม อยู่กับไฟ กู้เงินมาลงทุน ซื้อรถมือสองราคาถูกมารับส่งนักเรียนด้วย ช่วงปิดเทอมพี่ก้กลับบ้านช่วยกัน ดูเหมือนจะดีแต่พ่อก้ป่วยเป็นกระดูกทับเส้น เดินไม่ได้ต้องนอนนิ่ง เป็นเวลาเกือบ 4-5 เดือน ข้าวโพดก้ต้องหักขายแล้ว แม่ทำงานคนเดวอีก หยุดต้มเหล้านึงข้าวไปก่อนเพราะโดนเจ้าของไล่หนีไม่มีเงินจ่ายค่าที่  คือตอนนั้นแม่ไม่มีเงินซักบาท คิดดูนะว่า "ล้วงกระเป๋าอันใหนก้ว่างเปล่า " ต้องใช้วิธีเดิม ตื่นตี 2 เข้าป่าหาของขายสายมาหักข้าวโพด TT แม่หักข้าวคนเดียวไม่มีเงินจ้างคน ญาติก้มาช่วยบ้าง จนขายข้าวโพดหมด. แต่โดนหัก ค่าที่ วัสดุอุปกรณ์ จ่ายหนี้ เหมือนกับเหลือศูนย์ ไม่มีเงินจะส่งเราเรียนแล้ว เราเลยขอเรียนที่ร.ร.ประจำที่เดียวกับพี่เพราะมันประหยัด ได้กลับบ้านเดือนละครั้งมีข้าวฟรีที่พักฟรี ถ้าไม่กินขนมคือไม่ต้องเอาเงินไปเลยนะ เราเจอเพื่อนๆที่รร.ใหม่นี้เรียกได้ว่า เพื่อนแท้ เขารู้ว่าเราหูไม่ดี เขาก้เรียกดังหน่อย ไม่ตะคอก ถ้าเราไม่ได้ยินจิงๆเขาเดินมาสะกิดๆ ไม่ได้มีฉายาบ้านั้นค่ะ รู้สึกดี เสียเปรียบตรงที่ว่า เวลาสอบเขาจะส่งซิกบอกกันเราไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ เพื่อนก้เรียกดังไปไม่ได้ ตามนั้น 555+ เขาจะค่อยๆพูดให้เราได้ยิน พอเวลาผ่านไปพ่อก้หายดี มีนะปฏิหาริย์ล่ะโชคดีมาก แต่เราเริ่มสลิดมีแฟนทอม ใจแตกใช่มั้ย ไม่สนใจการเรียน จะเอาโทรศัพท์คุยกับแฟน แม่ก้ขอซื้อต่อมือสองจากน้าให้ จนกลับบ้านก้มัวแต่คุยกับแฟนไม่กินข้าวกินน้ำ ทั้งวันทั้งคืน วางไม่ได้แฟนไม่ให้วาง ถ้าวางมันจะพูดว่า " ไม่เป็นไรไม่ต้องคุยกันก็ได้ " งี่เง่ามาก หลงอะไรก็ไม่รู้ไร้สาระ พ่อแม่ก้ทะเลาะกันเรื่องเรา แม่กลับบ้านมาจากต้มนึงข้าวคนเดียว พ่อไปขายเหล้าน่ะ แม่ก็นั่งลงร้องไห้ต่อหน้าเราเลย ( เรายิ้มมาก เกลียดตัวเอง บาปหนัก ) จุกเกิน เอาโทรศัพท์ขว้างเลยแล้วไม่โทรหาคนนั้นอีก มันก้หายไปกับกลีบเมฆ เราก็เริ่มต้นใหม่ ตั้งใจเรียนแอดเข้ามอ.ของภาคเหนือ...
            พี่เราได้เรียนกทม.ค่าเทอมแพงหูฉี่ค่ะ แต่มีทุนพี่เราเรียนเก่งใช้ได้ วิศวะ และกู้กรอด้วยไม่พอ ขอทางบ้านด้วย เราเข้าใจว่าค่าครองชีพสูง คนที่ประหยัดคือเราใช่มั้ย? เราก็เรียนที่ภาคเหนือ กู้กยศ เป็นหนี้อีกไม่งั้นไม่มีปัญญาเรียนแน่ๆ เข้ามอ.เริ่มเป็นโรคภูมิแพ้ แพ้อากาศทุกอย่าง ฝุ่น แม้แต่น้ำหอม โอ้ยยยย สมควรตายเนาะ ค่าเทอมที่เรียนก่อ 10000 บาท กินเดือนละ 2300 บาท การกินซื้อมาม่าซื้อมา 1 กล่องต่อเดือน ไข่เป็นแผงๆ 500 ต่อเดือนนั้นต้องพอสำหรับของใช้ส่วนตัวสบู่ยาสีฟันผ้าอนามัย พ่อแม่ถามตลอดกินข้าวกับอะไร เราก็โกหกตลอดคิดเมนูเองทุกวัน ค่าหอแม่ออกให้ไม่เกิน 1500 บาทเพราะอยู่กับแฟนทอมอีกแล้วไม่เข็ด แต่มันเป็นผู้หญิงแอ็บทอมผู้ชายแซวเขินจนจะแทรกดินน่ะ เรารู้ว่ามันไม่ใช่ทอมแต่มันเหมือนคบเราแบบฟอร์มอ่ะ ไม่เป็นไรเราจะได้จ่ายค่าหอน้อยหน่อย คิดแค่นี้ อดทน แต่ก็เหมือนเดิม #ชีวิตมหาลัยคนมากหน้าหลายตาร้อยพ่อพันแม่หมื่นเหง้าแสนโคตร ฉายาเปลี่ยน จาก อี่โบว์สึ่งเป็นอี่บลูสึ่ง เราเปลี่ยนชื่อเพราะมีคนชื่อโบว์ในสาขา เหตุผลตลกน่าเกลียดจริงๆ หูไม่ดีค่ะ ไม่ค่อยได้ยิน ก็พยายามทำตัวไม่ให้เขารู้ สุดท้ายก็รู้ แต่ที่มอเนี่ยคนเขาจะไม่ตะคอกตะโกน แต่!จะนินทาลับหลัง เพราะไม่ได้ยินเนาะ โชคดีจะได้ไม่เจ็บใจใช่มั้ย ไม่ใช่นะคะเขาจะนินทาเราแบบการมองเราแล้วคุยกับอีกคนหัวเราะใส่เรา ถ้าเราไม่สนใจก็จะพูดดังขึ้นหัวเราะ โดยกูเงิบบบ คุณเคยมั้ย? แต่เพื่อนที่ดีก็มีค่ะ เรามักจะถามอะไรเขาบ่อยๆ แต่ก็ไม่ได้จะยืมเงินหรือบอกว่าลำบาก ไม่เคยบอก กลัวเขาเป็นห่วงเรา เวลาเรียนเวลาสอบในห้องจะเป็นแอร์ค่ะเราก็เล่นจามมันตั้งเริ่มเรียนจนเลิกคาบเรียนเลยล่ะ แล้วคนก็จะมองๆๆๆๆ มาที่เราเด่นเลยเนาะ ประมาณว่า อีสัส!หยุดเลยนะกูสอบอยู่ไม่งั้นกูหักคอแน่ เป็นประจำจนจบค่ะ ใช่ค่ะอะไรไม่ดีอย่าไปคิดถึงมันเอาตัวเองให้รอดเถอะ 2300 บาทไม่พอใช้ค่ะ เพื่อนที่รู้จักต่างสาขา [ สมาชิกพันทิปนี้ค่ะ ]สงสารเราเอางานเอกสารสำรวจข้อมูลมาให้เราชุดละ 10 บาท เราขอเลย 30 ชุด ได้ 300 ต่อวัน มันไม่ได้ทุกวันนะคะ อาทิตย์หนึ่งก็ 2 ครั้งแค่นั้น อดๆอยากๆ ไม่บอกเพื่อนไม่บอกใคร คนในสาขาจะชอบถามว่าทำไมเราไม่ชอบไปเที่ยวไหน เลยต้องหาโอกาสไปบ้างตอนมีคนเลี้ยงแอ็บไปกับเขา 555 ไม่ทำกิจกรรม ไปไหนคนเดียว หาเงินค่ะ จนจบไม่มีใครรู้เลยว่าเราอะไรบ้าง ส่วนใหญ่คนในสาขาก็เห็นเราแบบ เงียบๆขรึมๆ ไม่ค่อยยิ้ม ไปไหนคนเดียวบ่อยๆ ดูเป็นคนมีกินอีกล่ะ เสื้อผ้าชุดนิสิต ขอมาค่ะจากเพื่อนพี่ชายๆๆๆๆ ผู้หญิงจร้า ไม่มีใครรู้ล่ะสิ เลยพยายามใส่เสื้อกันหนาวทับเพราะมันไม่เหมือนคนอื่น ทุกคนคิดว่าอบผิว กลัวดำ 555+ จนในขนาดนี้เลย ขึ้นปี 2 กว่าเลิกทอมอยู่คนเดียวคิดหนักค่าหอ เลยขอรับจ้างทำความสะอาดหอให้เจ้าของหอ คือหอที่เราพักค่ะ มันเยอะนะ งานก้บ่อยๆ ทำตอนเลิกเรียน เจ้าของหอสงสารก็เลิกจ้างเรา รู้สึกโชคดีขึ้นมา พอปิดเทอมอะไรเนี่ยก็ ช่วยที่บ้านต้มเหล้านึ่งข้าว เลี้ยงหมู งานมหาโหดๆๆ พ่อแม่ขายรถยนต์เก่าซื้อมือสองใหม่ๆหน่อยๆเอาไว้ขายเหล้า ( และพ่อประสบอุบัติเหตุแต่ไม่เป็นไรมาก ต้องเปลี่ยนรถอีก กู้เงินมาอีกเป็นหนี้อีก รายได้ไม่เพิ่มเลยค่ะหาเช้ากินค่ำทุกวัน ใหนส่งหนี้ก็ไม่ทัน คนทวงก็มาทวงทุกวัน ต่อมามีนโยบายรถคันแรกพ่อแม่เลยออกรถให้พี่ชายเพราะจะได้เงินคืน 100000 แบบฟรีๆเลยเอารถ แต่เรื่องเราออกรถพร้อมกันสองคันก็ลือไป เป็นขี้ปากชาวบ้านว่าถูกหวยนู้นนี่ คงไม่แบ่งเขา ลืมเขา นินทากันสนุกๆ จริงๆคือเงินกู้คร้าาาาา แต่มันจำเป็น แต่ดันกลายเป็นพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงเฉยๆเลย โดยไม่ถามไม่สนอะไร ) พอได้เงินมาเราขอแม่เราเลยค่ะจัดฟัน 555+ เรื่องอดอยากปากแร้งยังไม่เจียมตัวนะ จะดัดฟันให้ได้ค่ะ ประท้วงไม่กินข้าวกินน้ำไม่นอน ( ใครด่าตอนนี้ไม่โกรธค่ะ เพราะด่าตัวเองเป็นพันครั้งแล้ว TT. จ่ายแบบผ่อนและหนึ่งครั้งต่อเดือนมีเงินช่วยจากทำความสะอาดหอ งานเอกสาร และขายเสื้อผ้าในเน็ตให้เพื่อนค่ะสมาชิกพันทิปนี้ค่ะ โปรโมททำทุกอย่าง) พ่อแม่ตอนนั้นเลิกหักข้าวโพดแล้วไม่มีที่ เช่าแพงเกิน ส่งเงินไปให้พี่อีกแล้ว ประหยัดๆๆๆๆ ปัญหามาอีกไม่มีรถใช้ ยืมค่ะจากญาติไม่มีปัญญาซื้อ บอกเพื่อนว่าซื้อเอง โกหกอ่ะอายเขาคิดแค่นั้น และผ่านไปซักปีอยากมีโทรศัพท์ดีๆซักอันนึงเพราะใช้โนเกียค่ะ ต่อที่คอมเม้นจ้าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่