ยอดเยี่ยมกระเทียมไทย

กระทู้สนทนา
"กระเทียม" ยาปฏิชีวนะธรรมชาติ

กระเทียมมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Allium sativum Linn.
วงศ์ Alliaceae กระเทียมมีคุณสมบัติร้อน (จัดเป็นหยาง) รสเผ็ด

สรรพคุณ

รักษาอาการอาหารไม่ย่อย ปวดท้องเพราะม้ามพร่อง (เวลากดจะรู้สึกสบาย-ทรรศนะแพทย์จีน) ท้องเสียเป็นบิด ไอร้อยวัน กลาก เกลื้อน

ตำรับยา

1. ท้องเสียเนื่องจากกินอาหารทะเล : ใช้กระเทียมต้มน้ำกิน
2. เลือดกำเดาออกไม่หยุด : กระเทียม 1 หัว แกะเปลือกออก ตำให้ละเอียด ทำเป็นแผ่นกลมใหญ่และหนา ขนาดเหรียญหนึ่งบาท ถ้าเลือดกำเดาออกทางรูจมูกซ้าย ให้แปะบริเวณกลางฝ่าเท้าซ้าย ถ้าเลือดกำเดาออกทางรูจมูกขวา ให้แปะบริเวณกลางฝ่าเท้าขวา ถ้าออกทั้ง 2 รู ก็ให้แปะทั้งสองข้าง
3. ตะขาบต่อย : ใช้กระเทียมหัวโทน ตำให้แหลกพอกบริเวณที่ถูกกัด
4. กลาก, เกลื้อน : ใช้ไม้ไผ่บางๆ หรือมีดที่สะอาดขูดผิวหนังบริเวณที่เป็น แล้วใช้กระเทียมทา

ผลทางเภสัชวิทยา
1. ฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย : ในบรรดาพืชทั้งหลายที่มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อได้ดีที่สุด คือ กระเทียม สารที่พบคือ อัลลิซิน (Allicin) น้ำจากกระเทียมหรือน้ำจากการแช่กระเทียม มีฤทธิ์ยับยั้ง และทำลายเชื้อ Staphylococcus, Streptococcus, Bacillus dysenteriae, Colibacillus, Typhoid bacill, Paratyphoid bacillus. Bacillus tubercle, Comma bacillus, สำหรับเชื้อที่ดื้อยา เพนิซิลลิน (Peanicillin), สเตรปโตมัยซิน (Streptomycin), โคแรมเฟนิคอล (Chloramphenicol), ออริโอมัยซิน (Aureomycin) แต่ยาที่ได้จากการสกัดจากกระเทียม จะมีฤทธิ์ยับยั้งและทำลายเชื้อเหล่านั้น

2. ฤทธิ์ในการยับยั้งฟันกัส (Fun-gus) : สารออกฤทธิ์ในกระเทียมหรือน้ำจากการแช่กระเทียม หรือกระเทียมที่ตำจนแหลกละเอียด จากการทดลองนอกร่างกายพบว่า มีฤทธิ์ยับยั้งและทำลายฟันกัส (fun-gus) หลายชนิด รวมทั้งแคนตินา อัลบิแคนส์ (Candida albicans)

3. ฤทธิ์ในการยับยั้งโปรโตซัว (Protozoa) : ผลจากการทดลองนอกร่างกาย น้ำที่ได้จากการแช่กระเทียมมีฤทธิ์ทำลาย Amebic protozoon กระเทียมเปลือกสีม่วงจะมีฤทธิ์แรงกว่ากระเทียมเปลือกขาว หรือเมื่อใช้กับผู้ป่วยที่เป็นบิดจากอะมีบาก็ได้ผลดีเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ในการทำลายเชื้อในโรค Trichomonas vaginalis

4. ฤทธิ์ต่อหลอดเลือดหัวใจ : Ailfid ในกระเทียมมีพิษน้อยมาก จะทำให้การเต้นของหัวใจช้าลง และเพิ่มการบีบและคลายตัวของหัวใจ ขยายหลอดเลือดส่วนปลาย ทำให้ปัสสาวะมากขึ้น และในบางคลินิกได้ผลดีมาก สำหรับผู้ป่วยที่มีความดันสูง และหลอดเลือดแข็งตัว

รายงานทางคลินิกของจีน

1. รักษาบิดอะมีบา : จากการทดลองกับผู้ป่วย 100 คน เฉลี่ยอยู่ในโรงพยาบาล 7 วัน ผลการรักษาได้ผล 88% ผลจากการทดลองทางคลินิกพบว่ากระเทียมเปลือกสีม่วงออกฤทธิ์ได้ดีกว่ากระเทียมเปลือกขาว

2. ไอร้อยวัน : ใช้กระเทียมแช่น้ำ 20% (เติมน้ำตาลเล็กน้อย) เด็กอายุ 5 ขวบ ให้กินครั้งละ 15 มล. ต่ำกว่า 5 ขวบลดลงตามส่วน วันละ 8-10 ครั้ง ในการทดลองกับผู้ป่วย 201 ราย ที่หายใน 10 วัน มี 60% หายใน 15 วัน มี 25% โดยทั่วไปหลังกินยา 3-4 วัน อาการดีขึ้น อาการไอและอาเจียนจะค่อยๆ ลดลงแล้วหายไป

3. ปอดอักเสบ : ใช้กระเทียมผสมน้ำเชื่อม 15-20 มล. ให้กินทุก 4 ชั่วโมง (โดยทั่วไปใช้ 10% และใช้ 100% บ้าง) ใช้กับผู้ป่วย 9 ราย 6 รายหาย 3 รายไม่ได้ผล สำหรับผู้ป่วยที่หายเป็นปกติไข้ลดลงใน 1-3 วัน อาการโดยทั่วไปจะค่อยๆ ลดเมื่อไข้ลดลง ผลเอกซเรย์ปอดพบว่าเงามืดค่อยๆ ลดน้อยลงและหายไปใน 3-5 วัน

หมายเหตุ
แม้กระเทียมจะมีประโยชน์มากมาย สำหรับบางคนไม่ควรกินกระเทียมมากเกินไป หรือไม่ควรกิน
ทฤษฎีแพทย์จีนกล่าวไว้ว่า กระเทียมมีคุณสมบัติร้อน รสเผ็ด สำหรับผู้ที่เป็นโรคร้อนเพราะยีนพร่อง คือมีอาการหน้าแดง มีไข้หลังเที่ยง คอแห้ง ท้องผูก ร้อนในกระหายน้ำ ไม่ควรกินหรือกินได้เล็กน้อย

ผู้ที่เป็นแผลในกระเพาะอาหาร หรือกระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรัง มีกรดในกระเพาะอาหารมากเกินไป หรือตาแดง ไม่ควรกินกระเทียม

เนื่องจากกระเทียมมีรสฉุน กระเทียมที่ปรุงสุกแล้วจะไม่มีกลิ่น หรือเมื่อจำเป็นต้องกินกระเทียมดิบ หลังจากกินกระเทียม ให้เคี้ยวใบชาหรือน้ำชาแก่ๆ บ้วนปาก หรือจะเคี้ยวพุทราจีนสัก 2-3 เม็ดก็ได้ กลิ่นกระเทียมก็จะหายไป

             
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่