คนที่ผมไม่รู้จักด้วย เอาเรื่องผมไปเม้าไปเสี้ยม เลยโดนเพื่อนคนอื่นๆเลิกคบไปด้วย ผมทำงาน แต่ก็มีคนที่ทำงานซึ่งผมก็ไม่ได้รู้จักอะไรกับเขาส่วนตัว เขาไม่ชอบขี้หน้าผมด้วยสาเหตุอะไรผมก็ไม่รู้หรอก แต่ผมไม่ค่อยคุยกับเขาเท่าไหร่ คนนี้เขาเป็นผู้หญิง แก่กว่าผมปีเดียว แต่บังเอิญผมมารู้ทีหลังว่า เขาเป็นเพื่อนของเพื่อนสมัยเรียนของผมอีกที
เป็นทั้งเพื่อนของเพือนผมสมัย ม.ต้น
เป็นทั้งเพื่อนของเพือนผมสมัย ปวช
เป็นทั้งเพื่อนของเพือนผมสมัย ปวส
เวลาผมมีปัญหาในที่ทำงาน มีช่วงนึงผมเกือบโดนกับหัวหน้าในที่ทำงานเชิญออก เพียงเพราะผมไม่ไปรับเขามาทำงาน(วันนั้นเขาไม่มีรถ) ผมบอกไม่มีรถเลยให้พี่ในแผนกไปรับแกแทน แกกลับมามาว่าผมไม่มีน้ำใจ และบอกผมไม่พอใจก็ลาออกได้น่ะ ผมก็เงียบไม่เถียงเพราะผมบอกไปแล้วว่าไม่มีรถและก็ให้พี่ในแผนกไปรับแกแทน
แล้วหัวหน้าคนนี้ก็เอาผมไปรายงานให้เจ้านายอีกที แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะมันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องงาน
หลังจากนั้นผมเลยดูไม่ค่อยถูกกับหัวหน้า แต่ก็อยู่ทำงานกันได้เพราะผมแยกแยะได้ คนในแผนกอื่นเขาก็รู้เรื่องกันทั้งที่ทำงาน
และคนที่ผมก็ไม่ได้รู้จักด้วย(ซึ่งเป็นเพื่อนของเพื่อนผม) คงเอาเรื่องในที่ทำงานผมไปเม้า ไปเสี้ยม ไปให้เพื่อนคนอื่นๆที่รู้จักผมไม่ชอบในการกระทำของผม จนวันนึงผมเปิดเฟสมา (นานๆทีผมจะเปิดเฟสมาเล่น) เพื่อนเหล่านั้นทยอยลบผมออกทีละคนสองคน
แล้วมารู้ทีหลังว่า คนไม่ชอบขี้หน้าผมเขาเป็นเพื่อนของเพื่อนผมอีกที เขาคงจะทำให้ผมไม่มีใครคบ มันคงสะใจเขา
เพราะผมกับเขาไม่ชอบขี้หน้ากันและไม่คุยกัน
ทั้งที่เรื่องมันยิบหยอย เล็กน้อยในที่ทำงาน ผมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเขา เขาทำงานก็อยู่คนละแผนกคนล่ะชั้นกับแผนกผม ทำงานวันนึงบางทีไม่ได้เจอหน้ากันด้วยซ้ำ แล้วผมก็งงผมไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจ มันมีด้วยหรอครับคนเราอยู่ๆไม่ชอบขี้หน้ากันแบบไร้สาเหตุ โอเคเขาเพื่อนเยอะกว้างขวางเขาจะพูดอะไรให้ผมก็ได้ แล้วมาวันนึงหลังจากเพื่อนในเฟสทยอยลบผมออก คนๆนี้ก็อยู่ดีๆมาพูดแซวผมบอกว่า
"นายๆ เห็นเป็นคนเงียบๆนี่ ไม่มีเพื่อนไม่มีใครคบหรอ"
ผมนี่อึ้งเลย ซึ่งคำๆนี้ทำให้ผมรู้เลยว่าเขาคงไปเสี้ยมเพื่อนคนอื่นๆให้เลิกคบผม
คนเราทำไมมันทำกันได้ขนาดนี้ผมก็ไม่เข้าใจ แล้วกับเพื่อนคนอื่นๆที่ผมก็เข้าใจผิดเลิกคบผมโดยที่ผมไม่มีโอกาศจะแก้ต่าง
เพื่อนของเพื่อนผม ผมไม่รู้จักด้วย แต่เอาผมในที่ทำงานไปเม้าไปเสี้ยม เลยโดนเพื่อนคนอื่นๆเลิกคบไปด้วย
เป็นทั้งเพื่อนของเพือนผมสมัย ม.ต้น
เป็นทั้งเพื่อนของเพือนผมสมัย ปวช
เป็นทั้งเพื่อนของเพือนผมสมัย ปวส
เวลาผมมีปัญหาในที่ทำงาน มีช่วงนึงผมเกือบโดนกับหัวหน้าในที่ทำงานเชิญออก เพียงเพราะผมไม่ไปรับเขามาทำงาน(วันนั้นเขาไม่มีรถ) ผมบอกไม่มีรถเลยให้พี่ในแผนกไปรับแกแทน แกกลับมามาว่าผมไม่มีน้ำใจ และบอกผมไม่พอใจก็ลาออกได้น่ะ ผมก็เงียบไม่เถียงเพราะผมบอกไปแล้วว่าไม่มีรถและก็ให้พี่ในแผนกไปรับแกแทน
แล้วหัวหน้าคนนี้ก็เอาผมไปรายงานให้เจ้านายอีกที แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะมันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องงาน
หลังจากนั้นผมเลยดูไม่ค่อยถูกกับหัวหน้า แต่ก็อยู่ทำงานกันได้เพราะผมแยกแยะได้ คนในแผนกอื่นเขาก็รู้เรื่องกันทั้งที่ทำงาน
และคนที่ผมก็ไม่ได้รู้จักด้วย(ซึ่งเป็นเพื่อนของเพื่อนผม) คงเอาเรื่องในที่ทำงานผมไปเม้า ไปเสี้ยม ไปให้เพื่อนคนอื่นๆที่รู้จักผมไม่ชอบในการกระทำของผม จนวันนึงผมเปิดเฟสมา (นานๆทีผมจะเปิดเฟสมาเล่น) เพื่อนเหล่านั้นทยอยลบผมออกทีละคนสองคน
แล้วมารู้ทีหลังว่า คนไม่ชอบขี้หน้าผมเขาเป็นเพื่อนของเพื่อนผมอีกที เขาคงจะทำให้ผมไม่มีใครคบ มันคงสะใจเขา
เพราะผมกับเขาไม่ชอบขี้หน้ากันและไม่คุยกัน
ทั้งที่เรื่องมันยิบหยอย เล็กน้อยในที่ทำงาน ผมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเขา เขาทำงานก็อยู่คนละแผนกคนล่ะชั้นกับแผนกผม ทำงานวันนึงบางทีไม่ได้เจอหน้ากันด้วยซ้ำ แล้วผมก็งงผมไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจ มันมีด้วยหรอครับคนเราอยู่ๆไม่ชอบขี้หน้ากันแบบไร้สาเหตุ โอเคเขาเพื่อนเยอะกว้างขวางเขาจะพูดอะไรให้ผมก็ได้ แล้วมาวันนึงหลังจากเพื่อนในเฟสทยอยลบผมออก คนๆนี้ก็อยู่ดีๆมาพูดแซวผมบอกว่า
"นายๆ เห็นเป็นคนเงียบๆนี่ ไม่มีเพื่อนไม่มีใครคบหรอ"
ผมนี่อึ้งเลย ซึ่งคำๆนี้ทำให้ผมรู้เลยว่าเขาคงไปเสี้ยมเพื่อนคนอื่นๆให้เลิกคบผม
คนเราทำไมมันทำกันได้ขนาดนี้ผมก็ไม่เข้าใจ แล้วกับเพื่อนคนอื่นๆที่ผมก็เข้าใจผิดเลิกคบผมโดยที่ผมไม่มีโอกาศจะแก้ต่าง