สวัสดีค่ะ เราเอง เราเองน่ะ เราไหน ก็เราไงงง
เจ้าของกระทู้ปล่อยเบลอ คิดถึงเรามั้ย คิดถึงหน่อยสิ นิดนึงก็ได้อะ
ก่อนอื่นเลย อาจจะเรียกว่ารีวิวไม่ได้ มันเป็นกึ่งไดอารี่ และเราบ่น ฮ่าๆ
กระทู้นี้ เราจะพาไปภูกระดึงกันค่ะ
คงเคยได้ยินใช่เปล่าคะ ว่าโหด เหนื่อย หนัก บลาๆ
แต่เชื่อเถอะ การขึ้นภูกระดึงครั้งนี้ของเรา มันสุดๆเกินกว่าจะคาดได้จริงๆ
เมื่อเรา และแฟนเก่า ดันบังเอิญ ขึ้นภูกระดึงวันเดียวกัน อ๊ากกกกกกกกกกก
น้ำตาจะไหล ฮือๆ
ความคิดที่จะไปภูกระดึงของเราในครั้งนี้เริ่มจาก
มีคนแชร์รูปทางช้างเผือก ที่ภูกระดึง
โว้ววววว แม่เจ้า สวยงามมากมายอะไรแบบนี้ จะไป ต้องไป จะไปล่าช้าง
บวกกับอารมณ์เจ็บใจ ที่ตอนมีแฟน เคยชวนเค้าไปภูกระดึง
แต่ด้วยเหตุผลร้อยแปดเลยไม่ได้ไป จนเลิกลากัน
เราก็คิดว่าจะมารอคงไม่ได้ไปสักที คนอย่างเรา อยากไปต้องได้ไปสิวะ
คนเดียวก็จะไป คิดได้ก็วางแผนการไปภูกระดึง โทรจองเต็นท์เรียบร้อย
เดินจากคอนโดจะไปหาอะไรทาน เจอน้องชายพอดี เลยบอกเค้าว่า แก เจ๊จะไปภูกระดึงนะ
วันนี้ไม่ก็พรุ่งนี้เลย แต่น้องชายตัวดีบอกว่าอยากไปด้วย รอก่อนนนนน
เราก็เลยต้องรอน้อง จากที่จะไปตั้งแต่วันอังคารที่ 20 ตุลาคม
แผนของเราก็เลื่อนออกไป เป็นเดินทางวันที่ 22 ตุลาคม และขึ้นภูในวันที่ 23 ตุลาคม ทริปนี้ 3 วัน 2 คืน
22.10.15
เรา น้องชาย และรุ่นน้องอีกคน มาเจอกันที่หมอชิต เพื่อขึ้นรถทัวร์
ไปที่จังหวัดเลย เราใช้บริการของ ภูกระดึงทัวร์ค่ะ ค่าตั๋ว 466 บาท รถวีไอพี
แต่เปล่าจ้าาาา ไม่ได้วีอะไรเลยค่ะ ที่นั่งก็มั่ว สลับไปหมด รถก็ออกเลทอีกต่างหาก
รถออกประมาณ 22:00 น. ค่ะ ไปถึงผานกเค้า จังหวัดเลย ประมาณ 06:20 น. ของวันที่ 23.10.15

ผานกเค้า ในวันที่หมอกหนา
รถจะจอดตรงข้ามร้านเจ๊กิมค่ะ รับสัมภาระเรียบร้อย
เราก็เดินข้ามถนนมาที่ร้านเจ๊กิมค่ะ มาเปลี่ยนเสื้อผ้า ล้างหน้าล้างตา
ทานอาหาร และซื้อตั๋วรถขากลับ ตั๋วขากลับ เราได้ของเมืองเลยแอร์ แอร์เมืองเลย ราคาเกือบ 400 ค่ะ
เป็นรถ ป.1 ที่ดี และนั่งสบายกว่าของ ภูกระดึงทัวร์
เมื่อจัดการตัวเองเรียบร้อย ก็ได้เวลาเข้าอุทยานกันแล้วค่ะ
ขึ้นรถที่หน้าร้านเจ๊กิม รถสองแถวแดง ราคา 30 บาทต่อคน
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ก็ถึงอุทยานแห่งชาติภูกระดึงค่ะ

เมื่อเรามาถึงแล้วก็ต้องถ่ายรูปค่ะ เย้ยยยย ไม่ใช่ ก็ต้องต่อแถวซื้อตั๋วเข้าอุทยานกันค่ะ

ตั๋วเข้าอุทยานคนละ 40 บาทค่ะ
เมื่อซื้อตั๋วเสร็จเรียบร้อย ก็ต้องไปซื้อบัตรฝากกระเป๋าค่ะ ใบละ 5 บาท ต่อกระเป๋า 1 ใบ
พอได้บัตรมาก็เขียนชื่อเรา เบอร์โทรศัพท์ และเอาไปผูกไว้กับกระเป๋า
ที่จะฝากพี่ๆลูกหาบขึ้นไปค่ะ กิโลกรัมละ 30 บาทค่ะ

พี่ๆลูกหาบจอมพลังค่ะ มองที่ไร ก็อัศจรรย์ใจ และทึ่งทุกครั้งไป ยอดมนุษย์ชัดๆ
เอาล่ะ พร้อมผจญภัยไปกับเราหรือยัง

ตั๋วเข้าอุทยานฯ ต้องมายื่นตรงนี้นะคะ
ระยะทางจากตีนภู ถึงยอดประมาณ 5 กิโลเมตรค่ะ
เรายื่นตั๋วเข้าอุทยานฯ ประมาณ 08:20 น. ค่ะ มาดูกัน ขาเล็กๆของเรา จะพาถึงยอดภูกี่โมง
จากตีนภูถึงซำแฮก เราว่าซำนี้เหนื่อยสุดๆแล้วล่ะค่ะ

ควรเปลี่ยนชื่อ เป็นซำแฮกแฮก นะเนี่ยยยย

ดูเหงื่อเราสิคะ นี่คือสภาพซำแฮกทำพิษ หนัก และเหนื่อย แฮก จริงอะไรจริง
เราพักซำละ 5 นาทีโดยประมาณค่ะ

แวะเติมพลัง ทานเสร็จเดินต่อ

กระทกรกลูกนี้ เราได้มาฟรีค่ะ ยืนทานไอติมอยู่ดีๆ
คุณป้าแม่ค้าก็เดินเอามาให้ชิม ปลื้มมมมม ดีใจมากๆ ขอบคุณนะคะคุณป้า

พี่ลูกหาบผู้หญิงค่ะ ยอมใจเลย แกร่งมากๆ "ภูกระดึง เที่ยวได้ทุกวัน"

ด่านช้างค่ะ ด่านสุดท้ายก่อนขึ้นถึงยอดภู จะเป็นหินซะส่วนใหญ่ หนักหนาเอาเรื่องทีเดียวเชียว
11:20 น. เย่ เย่ ในที่สุดเราก็ขึ้นมาถึงยอดภูจนได้ เจ๋งเหมือนกันนะเรา แฮร่
เมื่อขึ้นมาถึงยอดภู ถ่ายรูปนู่นนี่นั่นบลาๆ เสร็จเรียบร้อย
เราก็เปิดสัญญาณมือถือค่ะ เพื่อจะอัพรูป
ไลน์เริ่มเด้ง เราเปิดกรุ๊ปเพื่อนสนิทอ่านก่อนเลย
เพื่อนแคปหน้าจอ FB ของแฟนเก่าเราส่งมาให้
รูปที่เค้าอัพคือ รูปมือที่ถือตั๋ว อช.ภูกระดึง แคปชั่นว่า เราพร้อม!!
หื้อ หื้อ หื้ออออออ คืออัลไลลลลล ช็อคค่ะ มาได้ไง กับใคร อมย อ้าวแม่นหยังงงงงง
เพื่อนๆถาม คิดว่าจะเจอกันมั้ย แล้วถ้าเจอจะทำยังไง คิดว่าเค้ามากับใคร บลา บลา บลา
เรานี่รีบตอบว่า คงไม่เจอหรอก วันนี้คนขึ้นตั้งเยอะ
ตกใจค่ะ บอกเลย เพราะว่าไม่ได้เจอ หรือคุยกันมาสักพักใหญ่ๆแล้ว
เรารวบรวมสติ ดึงตัวเองกลับมา เพื่อ

อัพรูปลงเฟสค่ะ ว่าถึงยอดภูแล้ว อวดก่อน ว่า 3 ชั่วโมงนะ ฮ่าๆ
จากนั้น ก็ออกเดินทางกันต่อ โดยที่เราเดินไปทางหน้าผาค่ะ

ยังไม่ไปที่เต็นท์ เที่ยวต่อก่อน แรงยังมี

น้องชายเราอยากได้รูปกระโดดค่ะ ตะคริวเล่นงานซะงั้น ฮ่าๆ

เรามาถึงผาหมากดูกค่ะ ถ่ายรูปเล่น วันนี้หมอกหนาตา มองเห็นวิวไม่ค่อยชัดเจน
หลังจากถ่ายรูปเสร็จเรียบร้อย เราก็มาพักทานอาหารกันค่ะ

ส้มตำร้านป้าที่ผาหมากดูก เด็ดมาก แนะนำเลยค่ะ ทาน 2 ครกเลย
พอทานอาหารเต็มพลังกันเรียบร้อย เราก็ตกลงกันค่ะ ว่าจะไปน้ำตกกันก่อน แล้วค่อยกลับที่พัก

ระหว่างที่เดินไปน้ำตกถ้ำใหญ่ค่ะ ส่วนรูปน้ำตกไม่มี
ลืมถ่าย ฮ่าๆ ไปถึงก็รีบถอดรองเท้า เอาเท้าแช่น้ำกันเลยทีเดียว

ถ้ามัวแต่มองหาความงามบนท้องฟ้า เราจะรู้ได้ไงว่ายอดหญ้าก็สวยไม่แพ้กัน
พอดื่มด่ำกับธรรมชาติเรียบร้อย ก็ได้เวลาไปหาเต็นท์กันแล้วแหละค่ะ
พอถึงจุดกางเต็นท์ เราก็เจอเจ้าแบมบี้เลย นางกำลังมุดเต็นท์หาเสบียง ร้ายนะ

ถ่ายรูปเล่นกับเจ้าแบมบี้เสร็จ เราก็เดินไปหาร้านที่เราจองเต็นท์ไว้ค่ะ

เราจองเต็นท์กับพี่นิด ร้านภูกระดึง พี่นิดพาเราเดินไปที่เต็นท์ค่ะ ตกลงราคา ลดราคา บลาๆ เรียบร้อย
ไปเช่าผ้าห่ม ถุงนอน บลาๆ มาจัดเต็นท์
แล้วก็ชวนน้อง ไปรับกระเป๋าที่ฝากพี่ๆลูกหาบขึ้นมาค่ะ อยากอาบน้ำเต็มที
จุดที่เรากระเป๋า จะอยู่ด้านหน้าของลานกางเต็นท์ค่ะ
พอมาถึงก็ต้องตามหาลูกหาบที่หาบกระเป๋าเราขึ้นมา ก็เดินหาพักใหญ่ค่ะ
น้องชายเราเรียก เจ๊ๆ พี่(แฟนเก่า) อะ เจ๊เห็นเปล่า
เราตอบไม่เห็นอะ สายตาสั้น แต่เราก็พยายามไม่มองหานะคะ ไม่รู้เค้ามากับใคร
กลัวค่ะ กลัวใจตัวเอง กลัวได้วิ่งไปกระโดดถีบ ฮ่าๆ อุ่ยยย บ้าหราาาา เราอะสายแบ๊ว
แล้วเราก็ได้กระเป๋า ก็รีบเดินกลับเต็นท์เลยค่ะ ฝนทำท่าทีว่าจะตกเสียแล้ว

พอถึงเต็นท์เท่านั้นแหละ นางตกจริงๆจ้า ตกหนักด้วยสิ
เล่นเอาปูนขาวที่ซื้อมาโรยรอบๆเต็นท์ หายไปกับสายฝนเลยทีเดียว
หลังจากฝนหยุดตก เราก็ไปอาบน้ำค่ะ ด้วยความที่ทริปนี่เราเป็นผู้หญิงคนเดียว
และเป็นลูกค้าเก่าร้านพี่นิด พี่นิดจึงใจดี ให้เราอาบน้ำในห้องน้ำร้านได้ค่ะ ไม่ต้องไปเผชิญหน้ากับน้องทาก
พอเราอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย เราก็เดินกลับเต็นท์ค่ะ ระหว่างทางที่เดิน เราเห็นผู้ชายคนนึงกำลังจะเดินสวน
แต่ด้วยความที่มืดแล้วและสายตาเราสั้น เราจึงมองไม่ชัด แต่วินาทีนั้นคือ แม่มมมหน้าตาดีเว้ยเฮ้ยยย
ยิ้มให้สิวะ รออะไร 😄แต่จังหวะที่สวนกันระยะประชิดเท่านั้นแหละค่ะ ท่านผู้ชม
ไอ้เหี้-นี่(แฟนเก่าเรา) นี่หว่าาาา นี่คือเสียงที่ดังขึ้นมาในใจ
ตกใจมากค่ะ ไม่คิดว่าจะเจอจังๆ เพราะคนค่อนข้างเยอะมาก
เดินตัวแข็งกลับเต็นท์เลยค่ะ ไม่หันหลังกลับไปมองด้วย
พอถึงเต็นท์ก็กรี๊ดๆ เล่าให้น้องชาย และไลน์บอกเพื่อนสนิท
เป็นไงเมิง ทักกันมั้ย รู้สึกไงวะ ตกใจเปล่า มากับใคร อะไรยังไง
ไม่ทักเว้ย ตกใจดิวะ ไม่คิดว่าจะเจอ เดินมาคนเดียวนะ ตอนที่สวนกัน
พอเม้าท์มอยกับเพื่อนๆเสร็จ เราก็ชวนน้องๆ ไปทานข้าวกันค่ะ

เราเลือกทานหมูทะ มันได้อะ อากาศแบบนี้ ต้องหมูทะเท่านั้น

ชุดนึง ราคา 500 บาทค่ะ ได้เยอะมาก ไม่บ่นเนอะว่าแพง ขนมาลำบาก ต้องเห็นใจค่ะ
ระหว่างที่ทานอาหารอยู่ เพื่อนสาวก็ไลน์มาหาค่ะ ว่าแฟนเก่าเรา ฝากบอกว่าให้หาถุงเท้ากันทากมาใส่ด้วย อันตราย แล้วก็ใส่ผ้าพันคอด้วย
เพื่อนสาวก็เลยถามเค้าไปว่า อยู่แค่นั้นเอง เดินไปคุยเลยมั้ย เค้าตอบ โนวววววววว
เราก็นั่งทานต่อ ไม่ได้อะไร แต่เห็นแฟนเก่าเดินผ่านไป 2 รอบกับเพื่อนของเค้า
สักพัก เพื่อนสาวก็ไลน์มาหาอีก ว่าแฟนเก่าเราเอายาไปไว้ให้ที่หน้าเต็นท์นะ
เรา ห๊ะ ได้ไง มารู้ที่กางเต็นท์เราได้ไง
แล้วก็ตอบเพื่อนไปว่า เรานั่งอยู่ร้านนม ไงถ้ากลับเต็นท์เดียวบอกแล้วกัน
เรากลับเต็นท์ไม่เจอยา ก็ไลน์บอกเพื่อนสาวค่ะ
นั่งคุยกับน้องชายอยู่หน้าเต็นท์สักพัก เริ่มปวดฉี่ค่ะ เลยชวนน้องไปห้องน้ำ
ระหว่างทาง มีคนเรียกค่ะ เธอ เจอยามั้ย เราหันหน้าเอ๋อๆไป ยกมือไหว้รุ่นพี่เค้าก่อน
แล้วตอบไปว่า ไม่มีนะ แล้วก็เดินผ่านมาห้องน้ำเลย
เมื่อทำธุระเสร็จก็กลับเข้าเต็นท์ค่ะ
สักพักมีคนมาเรียก เราเปิดเต็นท์ไป เจอแฟนเก่ายื่นยามาให้ค่ะ ก็ขอบคุณ แล้วเค้าก็บอกวิธีทานยา
จากนั้นเค้าก็ไปค่ะ น่าจะไม่ถึง 5 นาทีด้วยซ้ำ
**พิมพ์ในมือถือ ถ้าผิดพลาดขออภัย ด่าได้แต่อย่าแรง เป็นชะนีอ่อนไหว
[CR] ทริปปล่อยเบลอ ที่บังเอิญเจอเธอ"แฟนเก่า" บนภูกระดึง
เจ้าของกระทู้ปล่อยเบลอ คิดถึงเรามั้ย คิดถึงหน่อยสิ นิดนึงก็ได้อะ
ก่อนอื่นเลย อาจจะเรียกว่ารีวิวไม่ได้ มันเป็นกึ่งไดอารี่ และเราบ่น ฮ่าๆ
กระทู้นี้ เราจะพาไปภูกระดึงกันค่ะ
คงเคยได้ยินใช่เปล่าคะ ว่าโหด เหนื่อย หนัก บลาๆ
แต่เชื่อเถอะ การขึ้นภูกระดึงครั้งนี้ของเรา มันสุดๆเกินกว่าจะคาดได้จริงๆ
เมื่อเรา และแฟนเก่า ดันบังเอิญ ขึ้นภูกระดึงวันเดียวกัน อ๊ากกกกกกกกกกก
น้ำตาจะไหล ฮือๆ
ความคิดที่จะไปภูกระดึงของเราในครั้งนี้เริ่มจาก
มีคนแชร์รูปทางช้างเผือก ที่ภูกระดึง
โว้ววววว แม่เจ้า สวยงามมากมายอะไรแบบนี้ จะไป ต้องไป จะไปล่าช้าง
บวกกับอารมณ์เจ็บใจ ที่ตอนมีแฟน เคยชวนเค้าไปภูกระดึง
แต่ด้วยเหตุผลร้อยแปดเลยไม่ได้ไป จนเลิกลากัน
เราก็คิดว่าจะมารอคงไม่ได้ไปสักที คนอย่างเรา อยากไปต้องได้ไปสิวะ
คนเดียวก็จะไป คิดได้ก็วางแผนการไปภูกระดึง โทรจองเต็นท์เรียบร้อย
เดินจากคอนโดจะไปหาอะไรทาน เจอน้องชายพอดี เลยบอกเค้าว่า แก เจ๊จะไปภูกระดึงนะ
วันนี้ไม่ก็พรุ่งนี้เลย แต่น้องชายตัวดีบอกว่าอยากไปด้วย รอก่อนนนนน
เราก็เลยต้องรอน้อง จากที่จะไปตั้งแต่วันอังคารที่ 20 ตุลาคม
แผนของเราก็เลื่อนออกไป เป็นเดินทางวันที่ 22 ตุลาคม และขึ้นภูในวันที่ 23 ตุลาคม ทริปนี้ 3 วัน 2 คืน
22.10.15
เรา น้องชาย และรุ่นน้องอีกคน มาเจอกันที่หมอชิต เพื่อขึ้นรถทัวร์
ไปที่จังหวัดเลย เราใช้บริการของ ภูกระดึงทัวร์ค่ะ ค่าตั๋ว 466 บาท รถวีไอพี
แต่เปล่าจ้าาาา ไม่ได้วีอะไรเลยค่ะ ที่นั่งก็มั่ว สลับไปหมด รถก็ออกเลทอีกต่างหาก
รถออกประมาณ 22:00 น. ค่ะ ไปถึงผานกเค้า จังหวัดเลย ประมาณ 06:20 น. ของวันที่ 23.10.15
ผานกเค้า ในวันที่หมอกหนา
รถจะจอดตรงข้ามร้านเจ๊กิมค่ะ รับสัมภาระเรียบร้อย
เราก็เดินข้ามถนนมาที่ร้านเจ๊กิมค่ะ มาเปลี่ยนเสื้อผ้า ล้างหน้าล้างตา
ทานอาหาร และซื้อตั๋วรถขากลับ ตั๋วขากลับ เราได้ของเมืองเลยแอร์ แอร์เมืองเลย ราคาเกือบ 400 ค่ะ
เป็นรถ ป.1 ที่ดี และนั่งสบายกว่าของ ภูกระดึงทัวร์
เมื่อจัดการตัวเองเรียบร้อย ก็ได้เวลาเข้าอุทยานกันแล้วค่ะ
ขึ้นรถที่หน้าร้านเจ๊กิม รถสองแถวแดง ราคา 30 บาทต่อคน
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ก็ถึงอุทยานแห่งชาติภูกระดึงค่ะ
เมื่อเรามาถึงแล้วก็ต้องถ่ายรูปค่ะ เย้ยยยย ไม่ใช่ ก็ต้องต่อแถวซื้อตั๋วเข้าอุทยานกันค่ะ
ตั๋วเข้าอุทยานคนละ 40 บาทค่ะ
เมื่อซื้อตั๋วเสร็จเรียบร้อย ก็ต้องไปซื้อบัตรฝากกระเป๋าค่ะ ใบละ 5 บาท ต่อกระเป๋า 1 ใบ
พอได้บัตรมาก็เขียนชื่อเรา เบอร์โทรศัพท์ และเอาไปผูกไว้กับกระเป๋า
ที่จะฝากพี่ๆลูกหาบขึ้นไปค่ะ กิโลกรัมละ 30 บาทค่ะ
พี่ๆลูกหาบจอมพลังค่ะ มองที่ไร ก็อัศจรรย์ใจ และทึ่งทุกครั้งไป ยอดมนุษย์ชัดๆ
เอาล่ะ พร้อมผจญภัยไปกับเราหรือยัง
ตั๋วเข้าอุทยานฯ ต้องมายื่นตรงนี้นะคะ
ระยะทางจากตีนภู ถึงยอดประมาณ 5 กิโลเมตรค่ะ
เรายื่นตั๋วเข้าอุทยานฯ ประมาณ 08:20 น. ค่ะ มาดูกัน ขาเล็กๆของเรา จะพาถึงยอดภูกี่โมง
จากตีนภูถึงซำแฮก เราว่าซำนี้เหนื่อยสุดๆแล้วล่ะค่ะ
ควรเปลี่ยนชื่อ เป็นซำแฮกแฮก นะเนี่ยยยย
ดูเหงื่อเราสิคะ นี่คือสภาพซำแฮกทำพิษ หนัก และเหนื่อย แฮก จริงอะไรจริง
เราพักซำละ 5 นาทีโดยประมาณค่ะ
แวะเติมพลัง ทานเสร็จเดินต่อ
กระทกรกลูกนี้ เราได้มาฟรีค่ะ ยืนทานไอติมอยู่ดีๆ
คุณป้าแม่ค้าก็เดินเอามาให้ชิม ปลื้มมมมม ดีใจมากๆ ขอบคุณนะคะคุณป้า
พี่ลูกหาบผู้หญิงค่ะ ยอมใจเลย แกร่งมากๆ "ภูกระดึง เที่ยวได้ทุกวัน"
ด่านช้างค่ะ ด่านสุดท้ายก่อนขึ้นถึงยอดภู จะเป็นหินซะส่วนใหญ่ หนักหนาเอาเรื่องทีเดียวเชียว
11:20 น. เย่ เย่ ในที่สุดเราก็ขึ้นมาถึงยอดภูจนได้ เจ๋งเหมือนกันนะเรา แฮร่
เมื่อขึ้นมาถึงยอดภู ถ่ายรูปนู่นนี่นั่นบลาๆ เสร็จเรียบร้อย
เราก็เปิดสัญญาณมือถือค่ะ เพื่อจะอัพรูป
ไลน์เริ่มเด้ง เราเปิดกรุ๊ปเพื่อนสนิทอ่านก่อนเลย
เพื่อนแคปหน้าจอ FB ของแฟนเก่าเราส่งมาให้
รูปที่เค้าอัพคือ รูปมือที่ถือตั๋ว อช.ภูกระดึง แคปชั่นว่า เราพร้อม!!
หื้อ หื้อ หื้ออออออ คืออัลไลลลลล ช็อคค่ะ มาได้ไง กับใคร อมย อ้าวแม่นหยังงงงงง
เพื่อนๆถาม คิดว่าจะเจอกันมั้ย แล้วถ้าเจอจะทำยังไง คิดว่าเค้ามากับใคร บลา บลา บลา
เรานี่รีบตอบว่า คงไม่เจอหรอก วันนี้คนขึ้นตั้งเยอะ
ตกใจค่ะ บอกเลย เพราะว่าไม่ได้เจอ หรือคุยกันมาสักพักใหญ่ๆแล้ว
เรารวบรวมสติ ดึงตัวเองกลับมา เพื่อ
อัพรูปลงเฟสค่ะ ว่าถึงยอดภูแล้ว อวดก่อน ว่า 3 ชั่วโมงนะ ฮ่าๆ
จากนั้น ก็ออกเดินทางกันต่อ โดยที่เราเดินไปทางหน้าผาค่ะ
ยังไม่ไปที่เต็นท์ เที่ยวต่อก่อน แรงยังมี
น้องชายเราอยากได้รูปกระโดดค่ะ ตะคริวเล่นงานซะงั้น ฮ่าๆ
เรามาถึงผาหมากดูกค่ะ ถ่ายรูปเล่น วันนี้หมอกหนาตา มองเห็นวิวไม่ค่อยชัดเจน
หลังจากถ่ายรูปเสร็จเรียบร้อย เราก็มาพักทานอาหารกันค่ะ
ส้มตำร้านป้าที่ผาหมากดูก เด็ดมาก แนะนำเลยค่ะ ทาน 2 ครกเลย
พอทานอาหารเต็มพลังกันเรียบร้อย เราก็ตกลงกันค่ะ ว่าจะไปน้ำตกกันก่อน แล้วค่อยกลับที่พัก
ระหว่างที่เดินไปน้ำตกถ้ำใหญ่ค่ะ ส่วนรูปน้ำตกไม่มี
ลืมถ่าย ฮ่าๆ ไปถึงก็รีบถอดรองเท้า เอาเท้าแช่น้ำกันเลยทีเดียว
ถ้ามัวแต่มองหาความงามบนท้องฟ้า เราจะรู้ได้ไงว่ายอดหญ้าก็สวยไม่แพ้กัน
พอดื่มด่ำกับธรรมชาติเรียบร้อย ก็ได้เวลาไปหาเต็นท์กันแล้วแหละค่ะ
พอถึงจุดกางเต็นท์ เราก็เจอเจ้าแบมบี้เลย นางกำลังมุดเต็นท์หาเสบียง ร้ายนะ
ถ่ายรูปเล่นกับเจ้าแบมบี้เสร็จ เราก็เดินไปหาร้านที่เราจองเต็นท์ไว้ค่ะ
เราจองเต็นท์กับพี่นิด ร้านภูกระดึง พี่นิดพาเราเดินไปที่เต็นท์ค่ะ ตกลงราคา ลดราคา บลาๆ เรียบร้อย
ไปเช่าผ้าห่ม ถุงนอน บลาๆ มาจัดเต็นท์
แล้วก็ชวนน้อง ไปรับกระเป๋าที่ฝากพี่ๆลูกหาบขึ้นมาค่ะ อยากอาบน้ำเต็มที
จุดที่เรากระเป๋า จะอยู่ด้านหน้าของลานกางเต็นท์ค่ะ
พอมาถึงก็ต้องตามหาลูกหาบที่หาบกระเป๋าเราขึ้นมา ก็เดินหาพักใหญ่ค่ะ
น้องชายเราเรียก เจ๊ๆ พี่(แฟนเก่า) อะ เจ๊เห็นเปล่า
เราตอบไม่เห็นอะ สายตาสั้น แต่เราก็พยายามไม่มองหานะคะ ไม่รู้เค้ามากับใคร
กลัวค่ะ กลัวใจตัวเอง กลัวได้วิ่งไปกระโดดถีบ ฮ่าๆ อุ่ยยย บ้าหราาาา เราอะสายแบ๊ว
แล้วเราก็ได้กระเป๋า ก็รีบเดินกลับเต็นท์เลยค่ะ ฝนทำท่าทีว่าจะตกเสียแล้ว
พอถึงเต็นท์เท่านั้นแหละ นางตกจริงๆจ้า ตกหนักด้วยสิ
เล่นเอาปูนขาวที่ซื้อมาโรยรอบๆเต็นท์ หายไปกับสายฝนเลยทีเดียว
หลังจากฝนหยุดตก เราก็ไปอาบน้ำค่ะ ด้วยความที่ทริปนี่เราเป็นผู้หญิงคนเดียว
และเป็นลูกค้าเก่าร้านพี่นิด พี่นิดจึงใจดี ให้เราอาบน้ำในห้องน้ำร้านได้ค่ะ ไม่ต้องไปเผชิญหน้ากับน้องทาก
พอเราอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย เราก็เดินกลับเต็นท์ค่ะ ระหว่างทางที่เดิน เราเห็นผู้ชายคนนึงกำลังจะเดินสวน
แต่ด้วยความที่มืดแล้วและสายตาเราสั้น เราจึงมองไม่ชัด แต่วินาทีนั้นคือ แม่มมมหน้าตาดีเว้ยเฮ้ยยย
ยิ้มให้สิวะ รออะไร 😄แต่จังหวะที่สวนกันระยะประชิดเท่านั้นแหละค่ะ ท่านผู้ชม
ไอ้เหี้-นี่(แฟนเก่าเรา) นี่หว่าาาา นี่คือเสียงที่ดังขึ้นมาในใจ
ตกใจมากค่ะ ไม่คิดว่าจะเจอจังๆ เพราะคนค่อนข้างเยอะมาก
เดินตัวแข็งกลับเต็นท์เลยค่ะ ไม่หันหลังกลับไปมองด้วย
พอถึงเต็นท์ก็กรี๊ดๆ เล่าให้น้องชาย และไลน์บอกเพื่อนสนิท
เป็นไงเมิง ทักกันมั้ย รู้สึกไงวะ ตกใจเปล่า มากับใคร อะไรยังไง
ไม่ทักเว้ย ตกใจดิวะ ไม่คิดว่าจะเจอ เดินมาคนเดียวนะ ตอนที่สวนกัน
พอเม้าท์มอยกับเพื่อนๆเสร็จ เราก็ชวนน้องๆ ไปทานข้าวกันค่ะ
เราเลือกทานหมูทะ มันได้อะ อากาศแบบนี้ ต้องหมูทะเท่านั้น
ชุดนึง ราคา 500 บาทค่ะ ได้เยอะมาก ไม่บ่นเนอะว่าแพง ขนมาลำบาก ต้องเห็นใจค่ะ
ระหว่างที่ทานอาหารอยู่ เพื่อนสาวก็ไลน์มาหาค่ะ ว่าแฟนเก่าเรา ฝากบอกว่าให้หาถุงเท้ากันทากมาใส่ด้วย อันตราย แล้วก็ใส่ผ้าพันคอด้วย
เพื่อนสาวก็เลยถามเค้าไปว่า อยู่แค่นั้นเอง เดินไปคุยเลยมั้ย เค้าตอบ โนวววววววว
เราก็นั่งทานต่อ ไม่ได้อะไร แต่เห็นแฟนเก่าเดินผ่านไป 2 รอบกับเพื่อนของเค้า
สักพัก เพื่อนสาวก็ไลน์มาหาอีก ว่าแฟนเก่าเราเอายาไปไว้ให้ที่หน้าเต็นท์นะ
เรา ห๊ะ ได้ไง มารู้ที่กางเต็นท์เราได้ไง
แล้วก็ตอบเพื่อนไปว่า เรานั่งอยู่ร้านนม ไงถ้ากลับเต็นท์เดียวบอกแล้วกัน
เรากลับเต็นท์ไม่เจอยา ก็ไลน์บอกเพื่อนสาวค่ะ
นั่งคุยกับน้องชายอยู่หน้าเต็นท์สักพัก เริ่มปวดฉี่ค่ะ เลยชวนน้องไปห้องน้ำ
ระหว่างทาง มีคนเรียกค่ะ เธอ เจอยามั้ย เราหันหน้าเอ๋อๆไป ยกมือไหว้รุ่นพี่เค้าก่อน
แล้วตอบไปว่า ไม่มีนะ แล้วก็เดินผ่านมาห้องน้ำเลย
เมื่อทำธุระเสร็จก็กลับเข้าเต็นท์ค่ะ
สักพักมีคนมาเรียก เราเปิดเต็นท์ไป เจอแฟนเก่ายื่นยามาให้ค่ะ ก็ขอบคุณ แล้วเค้าก็บอกวิธีทานยา
จากนั้นเค้าก็ไปค่ะ น่าจะไม่ถึง 5 นาทีด้วยซ้ำ
**พิมพ์ในมือถือ ถ้าผิดพลาดขออภัย ด่าได้แต่อย่าแรง เป็นชะนีอ่อนไหว