Cr.
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1445850786
เปิดใจ "ดร.มนต์ชัย หนูสง" ภารกิจพลิก "ทีโอที" พ้นยุคเสือลำบาก
updated: 27 ต.ค. 2558 เวลา 08:30:40 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
สัมภาษณ์
นั่งรักษาการซีอีโอ บมจ.ทีโอทีมาพักใหญ่ และผ่านการคัดเลือกให้เป็นผู้เหมาะสมกับตำแหน่งนี้เรียบร้อย (พักใหญ่ด้วยเช่นกัน) แต่ยังคงเป็นรักษาการไปจนกว่าจะมีหนังสือแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากกระทรวงการคลัง จากวิกฤตที่รุมเร้ารอบทิศ ไหนจะปมแก้สัมปทานที่คาราคาซังมานาน, การเลือกพันธมิตรธุรกิจ, แผนยื้อคลื่น 900 MHz
ภารกิจพลิกฟื้นองค์กรที่ต้องแข่งกับเวลาของ "มนต์ชัย หนูสง" ในห้วงเวลานี้จึงนับเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง

"ประชาชาติธุรกิจ" มีโอกาสพูดคุยดังนี้
- จะฟ้อง กสทช.เพื่อล้มประมูลคลื่น
อะไรทำให้ประโยชน์ที่จะได้ลดน้อยลงก็ต้องดำเนินการ แต่จะฟ้องหรือไม่ บอร์ดเป็นคนตัดสินใจ ซึ่งในการประชุมล่าสุด (20 ต.ค.) ยังไม่สรุป แต่ 30 ต.ค.นี้จะมีประชุมอีกรอบก็น่าจะชัด คงไม่เกิน 12 พ.ย.ซึ่งเป็นวันประมูลคลื่น 900 MHz
- คงสิทธิ์ 900 MHz ไว้เพื่อ
เบื้องต้นเพื่อให้บริการ 2G ต่อ ในแง่อุปกรณ์ที่ได้รับโอนมา การบำรุงรักษาตามแผนน่าจะขาดทุนในแง่โอเปอเรชั่นราว 2 ปี แล้วค่อยลงทุนอุปกรณ์ใหม่ใช้เงินไม่ถึงหมื่นล้านบาท ซึ่งเราไม่ได้มองแต่ธุรกิจ แต่มองถึงการซัพพอร์ตลูกค้าด้วย โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่มีโอกาสเข้าถึงบริการพวกนี้ ง่าย ๆ คือกลุ่มที่อยู่ใต้เส้นความยากจน แต่จะมีส่วนที่เอาไปเสริม 3G 2100 MHz ในเมือง เพราะจะมี 3G คลื่น 900 MHz พ่วงอยู่ด้วย
- เอไอเอสอาจประมูลได้แล้วนำทำธุรกิจกับทีโอที
ก็มีความเป็นไปได้บอร์ดจึงให้ไปศึกษาทำตัวเลขมาให้เห็นว่าแต่ละโมเดลจะนำรายได้อะไรมาให้บ้างทุกคนกลัวมาตรา157ก็ต้องหาโซลูชั่นป้องกันความเสียหายแต่มีปัจจัยใหม่เรื่องคลื่น 2300 MHz เหมือน กสทช.กับรัฐคุยกันแล้วว่าจะให้ทีโอทีใช้ถึงปี 2568 แก้ปัญหาความไม่มั่นคงเรื่องไม่มีคลื่น
- กรณีพันธมิตรธุรกิจ
ช้า เพราะมีเป้าหมายในการต่อรอง กำลังคุยอยู่กับรายหลัก ๆ ที่ดูดีที่สุดกับอีกราย แต่ขอไม่เปิดเผย ตั้งเป้าว่าจะสรุปให้ได้ในกลาง พ.ย.นี้ ส่วนของเสาน่าจะเร็วกว่าคือต้นเดือน พ.ย. เพราะเจรจาไปแล้วกว่า 90% แนวโน้มน่าจะไปในทางเช่าเสาเพื่อติดอุปกรณ์ ส่วนธุรกิจโมบายหลักยังอยู่ที่คลื่น 2100 แต่มี 2300 เป็นออปชั่นเสริม แต่ต้องเร่งเพราะประมูล 4G อาจทำให้ความน่าสนใจของทีโอทีน้อยลง และถ้าสิ้นปีนี้ไม่จบ ทีโอทีหนักหนาสาหัสแน่
- ทรัพย์สินที่มีในมือ
หลัก ๆ ก็คลื่น 2300 จำนวน 64 MHz น่าจะราว 3 หมื่นล้านบาท คลื่น 2100 อีก 17.5 MHz ราว 2.6 หมื่นล้านบาท โครงข่าย 2G น่าจะเหลือราว 1.7 หมื่นล้านบาท ใกล้ ๆ กับโครงข่าย 3G คลื่น 2100 MHz ถ้ารวมกับคลื่น 900 MHz น่าจะทะลุแสนล้านบาท มูลค่าฟิกซ์ไลน์ยังไม่ได้ประเมิน ต้องนำมาบริหารจัดการ เพราะ 8 เดือนที่ผ่านมาขาดทุนกว่าพันล้านบาท
และถ้าปีนี้เลือกพันธมิตรไม่ได้ก็จะมีทรัพย์สินด้อยค่าเป็นหมื่นล้าน
- ทางออกที่จะไปได้เร็ว
คลื่น 2300 น่าจะพอช่วยได้ ที่วางไว้คือนำมาทำฟิกซ์ไวร์เลสบรอดแบนด์ ทำให้ต้นทุนต่อพอร์ตลดลง ไทม์ทูมาร์เก็ตจะเร็วขึ้นไม่ต้องลากสาย ติดอุปกรณ์เบสกับเสาที่รับโอนมา 15,000 แห่งทั่วประเทศ แค่นำอุปกรณ์รับสัญญาณไปตั้งไว้ที่บ้านลูกค้าก็ใช้ได้เลย เข้าไปช่วยในตลาดที่ยังลากสายไปไม่ถึงหรือลากแล้วไม่คุ้ม ถ้าได้สิทธิ์มา 10 ปีก็คุ้มที่จะลงทุนทำ คาดว่าใช้เวลาจัดซื้ออุปกรณ์สัก 6 เดือน ก็ทยอยเปิดให้บริการได้ ตอนนี้กำลังเร่งทำแผนเสนอ กสทช. ขอใช้แบบ Neutral Technology
- พฤติกรรมผู้บริโภคเน้นโมบายเน็ต
ก็อาจใช่ แต่ความต้องการใช้ตามบ้านที่สปีดสูงยังมี แต่ยอมรับว่าตลาดฟิกซ์บรอดแบนด์อาจแค่ราว 10 ล้านครัวเรือน
- 2300 MHz ก็ทำ 4G ได้
คิดว่าอาจยังไม่ใช่เวลาของโมบายบนคลื่น 2300 เพราะข้อจำกัดแฮนด์เซต เลยยังไม่แน่ว่าจะแบ่งคลื่นยังไง ต้องดูสปีดที่อยากได้ด้วย ถ้าใช้คลื่นสัก 20 MHz ก็น่าจะ
ให้บริการได้ระดับ 100 Mbps อีกอย่างถ้าประเมินจากศักยภาพธุรกิจโมบาย 2100 MHz เราก็ทำรีเทลสู้เขาไม่ได้ ต้องยอมรับจุดอ่อน แต่เรามีจุดแข็งเรื่องทรัพยากรในมือ
- ถ้าแผนไม่ชัดอาจโดนดึงคืน 20 MHz
ที่ทราบมาคือ ไอซีทีกับ กสทช. คุยกันแล้วว่าจะให้ใช้ทั้ง 64 MHz ไปจนถึงปี 2568
- คลื่นในมือใช้ได้แค่ปี 2568
ก็ต้องขอใบอนุญาตใช้คลื่นต่อ เพราะไลเซนส์มีวันสิ้นสุด ถึงวันนั้นทุกโอเปอเรเตอร์ต้องประเมินศักยภาพตนเองว่ายังอยู่ในอุตสาหกรรมไหว ?
- ทีโอทีมีศักยภาพพอ
ถ้าเป็นธุรกิจโทรคมนาคม เราพร้อม แต่โมบายถ้าทำเองแล้วไม่ดีเท่าไร ก็อาจต้องหาวิธีอื่นที่ทำแล้วได้ประโยชน์มากกว่า
- พันธมิตรบรอดแบนด์
เน้นที่โมบายกับระงับข้อพิพาทเรื่องเสาโทรคมนาคมก่อน
-งั้นก็มีแค่เอไอเอส
เรื่องข้อพิพาทมีแค่เอไอเอสแน่นอนเพราะพิพาทกันอยู่แต่โมบายมีคู่แข่งอยู่ ตอนนี้จำกัดการเจรจามาอยู่แค่ 2 รายแล้ว คงระบุชื่อให้ไม่ได้มีผลกระทบเยอะ
- ทำเรื่องขอกู้เงินมาเสริมสภาพคล่อง
ไม่ใช่ขอกู้ แต่เป็นการขออนุมัติวงเงิน O/D เบิกเกินบัญชีไว้ เดิมเรามีอยู่ 3,000 ล้านบาท ตอนนี้ขอเพิ่มอีกราว ๆ 3,000 ล้านบาท เผื่อไว้ใช้สำหรับการวางสำรองไว้เป็น Sinking Fund
- จะวิกฤตถึงขั้นไม่มีเงินจ่ายพนักงาน
ไม่ ๆ ณ ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่ถ้าไตรมาส 3 ปีหน้ายังพลิกฟื้นไม่ได้ก็ต้องระวัง
- ถึงขั้นเจ๊ง
รัฐวิสาหกิจเจ๊งไม่ได้ แต่เราก็ไม่เคยคิดให้รัฐเข้ามาอุ้ม แค่ขอให้เอื้อในสิ่งที่เราควรได้รับ แต่ที่หนักใจคือกลัวว่าคนในทีโอทีจะไม่ช่วยตัวเอง
- อยากให้รัฐช่วยเรื่องคลื่น
ไม่ใช่แค่เรื่องคลื่น แต่มีหลายเรื่อง เช่น การจะกู้เงินมาลงทุนหากรัฐช่วยค้ำประกันกับไม่ช่วยค้ำ ดอกเบี้ยและต้นทุนทางการเงินก็ต่างกัน กระบวนการอนุมัติโครงการที่ช่วยให้เร็วก็ช่วยได้เยอะ
- เรียกค่าเสียหายแก้สัญญาเอไอเอสถึงไหนแล้ว
เข้าขั้นตอนของอนุญาโตตุลาการไปแล้ว ส่วนความเสียหายต้องประเมินกัน
- เป็นซีอีโอในช่วงหินมาก
เป็นช่วงที่น่าสนใจมากที่สุดของชีวิต ทำให้ต้องใช้พลังมากขึ้นกว่าเดิมก็ทำใจไว้แล้วว่าสภาพนี้ทำให้เสมอตัวก็ยาก แต่จะเปลี่ยนใจตอนนี้คงไม่ได้
ติดตามข่าวสาร ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
www.facebook.com/PrachachatOnline
ทวิตเตอร์ @prachachat
เปิดใจ "ดร.มนต์ชัย หนูสง" ภารกิจพลิก "ทีโอที" พ้นยุคเสือลำบาก
เปิดใจ "ดร.มนต์ชัย หนูสง" ภารกิจพลิก "ทีโอที" พ้นยุคเสือลำบาก
updated: 27 ต.ค. 2558 เวลา 08:30:40 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
สัมภาษณ์
นั่งรักษาการซีอีโอ บมจ.ทีโอทีมาพักใหญ่ และผ่านการคัดเลือกให้เป็นผู้เหมาะสมกับตำแหน่งนี้เรียบร้อย (พักใหญ่ด้วยเช่นกัน) แต่ยังคงเป็นรักษาการไปจนกว่าจะมีหนังสือแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากกระทรวงการคลัง จากวิกฤตที่รุมเร้ารอบทิศ ไหนจะปมแก้สัมปทานที่คาราคาซังมานาน, การเลือกพันธมิตรธุรกิจ, แผนยื้อคลื่น 900 MHz
ภารกิจพลิกฟื้นองค์กรที่ต้องแข่งกับเวลาของ "มนต์ชัย หนูสง" ในห้วงเวลานี้จึงนับเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง
"ประชาชาติธุรกิจ" มีโอกาสพูดคุยดังนี้
- จะฟ้อง กสทช.เพื่อล้มประมูลคลื่น
อะไรทำให้ประโยชน์ที่จะได้ลดน้อยลงก็ต้องดำเนินการ แต่จะฟ้องหรือไม่ บอร์ดเป็นคนตัดสินใจ ซึ่งในการประชุมล่าสุด (20 ต.ค.) ยังไม่สรุป แต่ 30 ต.ค.นี้จะมีประชุมอีกรอบก็น่าจะชัด คงไม่เกิน 12 พ.ย.ซึ่งเป็นวันประมูลคลื่น 900 MHz
- คงสิทธิ์ 900 MHz ไว้เพื่อ
เบื้องต้นเพื่อให้บริการ 2G ต่อ ในแง่อุปกรณ์ที่ได้รับโอนมา การบำรุงรักษาตามแผนน่าจะขาดทุนในแง่โอเปอเรชั่นราว 2 ปี แล้วค่อยลงทุนอุปกรณ์ใหม่ใช้เงินไม่ถึงหมื่นล้านบาท ซึ่งเราไม่ได้มองแต่ธุรกิจ แต่มองถึงการซัพพอร์ตลูกค้าด้วย โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่มีโอกาสเข้าถึงบริการพวกนี้ ง่าย ๆ คือกลุ่มที่อยู่ใต้เส้นความยากจน แต่จะมีส่วนที่เอาไปเสริม 3G 2100 MHz ในเมือง เพราะจะมี 3G คลื่น 900 MHz พ่วงอยู่ด้วย
- เอไอเอสอาจประมูลได้แล้วนำทำธุรกิจกับทีโอที
ก็มีความเป็นไปได้บอร์ดจึงให้ไปศึกษาทำตัวเลขมาให้เห็นว่าแต่ละโมเดลจะนำรายได้อะไรมาให้บ้างทุกคนกลัวมาตรา157ก็ต้องหาโซลูชั่นป้องกันความเสียหายแต่มีปัจจัยใหม่เรื่องคลื่น 2300 MHz เหมือน กสทช.กับรัฐคุยกันแล้วว่าจะให้ทีโอทีใช้ถึงปี 2568 แก้ปัญหาความไม่มั่นคงเรื่องไม่มีคลื่น
- กรณีพันธมิตรธุรกิจ
ช้า เพราะมีเป้าหมายในการต่อรอง กำลังคุยอยู่กับรายหลัก ๆ ที่ดูดีที่สุดกับอีกราย แต่ขอไม่เปิดเผย ตั้งเป้าว่าจะสรุปให้ได้ในกลาง พ.ย.นี้ ส่วนของเสาน่าจะเร็วกว่าคือต้นเดือน พ.ย. เพราะเจรจาไปแล้วกว่า 90% แนวโน้มน่าจะไปในทางเช่าเสาเพื่อติดอุปกรณ์ ส่วนธุรกิจโมบายหลักยังอยู่ที่คลื่น 2100 แต่มี 2300 เป็นออปชั่นเสริม แต่ต้องเร่งเพราะประมูล 4G อาจทำให้ความน่าสนใจของทีโอทีน้อยลง และถ้าสิ้นปีนี้ไม่จบ ทีโอทีหนักหนาสาหัสแน่
- ทรัพย์สินที่มีในมือ
หลัก ๆ ก็คลื่น 2300 จำนวน 64 MHz น่าจะราว 3 หมื่นล้านบาท คลื่น 2100 อีก 17.5 MHz ราว 2.6 หมื่นล้านบาท โครงข่าย 2G น่าจะเหลือราว 1.7 หมื่นล้านบาท ใกล้ ๆ กับโครงข่าย 3G คลื่น 2100 MHz ถ้ารวมกับคลื่น 900 MHz น่าจะทะลุแสนล้านบาท มูลค่าฟิกซ์ไลน์ยังไม่ได้ประเมิน ต้องนำมาบริหารจัดการ เพราะ 8 เดือนที่ผ่านมาขาดทุนกว่าพันล้านบาท
และถ้าปีนี้เลือกพันธมิตรไม่ได้ก็จะมีทรัพย์สินด้อยค่าเป็นหมื่นล้าน
- ทางออกที่จะไปได้เร็ว
คลื่น 2300 น่าจะพอช่วยได้ ที่วางไว้คือนำมาทำฟิกซ์ไวร์เลสบรอดแบนด์ ทำให้ต้นทุนต่อพอร์ตลดลง ไทม์ทูมาร์เก็ตจะเร็วขึ้นไม่ต้องลากสาย ติดอุปกรณ์เบสกับเสาที่รับโอนมา 15,000 แห่งทั่วประเทศ แค่นำอุปกรณ์รับสัญญาณไปตั้งไว้ที่บ้านลูกค้าก็ใช้ได้เลย เข้าไปช่วยในตลาดที่ยังลากสายไปไม่ถึงหรือลากแล้วไม่คุ้ม ถ้าได้สิทธิ์มา 10 ปีก็คุ้มที่จะลงทุนทำ คาดว่าใช้เวลาจัดซื้ออุปกรณ์สัก 6 เดือน ก็ทยอยเปิดให้บริการได้ ตอนนี้กำลังเร่งทำแผนเสนอ กสทช. ขอใช้แบบ Neutral Technology
- พฤติกรรมผู้บริโภคเน้นโมบายเน็ต
ก็อาจใช่ แต่ความต้องการใช้ตามบ้านที่สปีดสูงยังมี แต่ยอมรับว่าตลาดฟิกซ์บรอดแบนด์อาจแค่ราว 10 ล้านครัวเรือน
- 2300 MHz ก็ทำ 4G ได้
คิดว่าอาจยังไม่ใช่เวลาของโมบายบนคลื่น 2300 เพราะข้อจำกัดแฮนด์เซต เลยยังไม่แน่ว่าจะแบ่งคลื่นยังไง ต้องดูสปีดที่อยากได้ด้วย ถ้าใช้คลื่นสัก 20 MHz ก็น่าจะ
ให้บริการได้ระดับ 100 Mbps อีกอย่างถ้าประเมินจากศักยภาพธุรกิจโมบาย 2100 MHz เราก็ทำรีเทลสู้เขาไม่ได้ ต้องยอมรับจุดอ่อน แต่เรามีจุดแข็งเรื่องทรัพยากรในมือ
- ถ้าแผนไม่ชัดอาจโดนดึงคืน 20 MHz
ที่ทราบมาคือ ไอซีทีกับ กสทช. คุยกันแล้วว่าจะให้ใช้ทั้ง 64 MHz ไปจนถึงปี 2568
- คลื่นในมือใช้ได้แค่ปี 2568
ก็ต้องขอใบอนุญาตใช้คลื่นต่อ เพราะไลเซนส์มีวันสิ้นสุด ถึงวันนั้นทุกโอเปอเรเตอร์ต้องประเมินศักยภาพตนเองว่ายังอยู่ในอุตสาหกรรมไหว ?
- ทีโอทีมีศักยภาพพอ
ถ้าเป็นธุรกิจโทรคมนาคม เราพร้อม แต่โมบายถ้าทำเองแล้วไม่ดีเท่าไร ก็อาจต้องหาวิธีอื่นที่ทำแล้วได้ประโยชน์มากกว่า
- พันธมิตรบรอดแบนด์
เน้นที่โมบายกับระงับข้อพิพาทเรื่องเสาโทรคมนาคมก่อน
-งั้นก็มีแค่เอไอเอส
เรื่องข้อพิพาทมีแค่เอไอเอสแน่นอนเพราะพิพาทกันอยู่แต่โมบายมีคู่แข่งอยู่ ตอนนี้จำกัดการเจรจามาอยู่แค่ 2 รายแล้ว คงระบุชื่อให้ไม่ได้มีผลกระทบเยอะ
- ทำเรื่องขอกู้เงินมาเสริมสภาพคล่อง
ไม่ใช่ขอกู้ แต่เป็นการขออนุมัติวงเงิน O/D เบิกเกินบัญชีไว้ เดิมเรามีอยู่ 3,000 ล้านบาท ตอนนี้ขอเพิ่มอีกราว ๆ 3,000 ล้านบาท เผื่อไว้ใช้สำหรับการวางสำรองไว้เป็น Sinking Fund
- จะวิกฤตถึงขั้นไม่มีเงินจ่ายพนักงาน
ไม่ ๆ ณ ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่ถ้าไตรมาส 3 ปีหน้ายังพลิกฟื้นไม่ได้ก็ต้องระวัง
- ถึงขั้นเจ๊ง
รัฐวิสาหกิจเจ๊งไม่ได้ แต่เราก็ไม่เคยคิดให้รัฐเข้ามาอุ้ม แค่ขอให้เอื้อในสิ่งที่เราควรได้รับ แต่ที่หนักใจคือกลัวว่าคนในทีโอทีจะไม่ช่วยตัวเอง
- อยากให้รัฐช่วยเรื่องคลื่น
ไม่ใช่แค่เรื่องคลื่น แต่มีหลายเรื่อง เช่น การจะกู้เงินมาลงทุนหากรัฐช่วยค้ำประกันกับไม่ช่วยค้ำ ดอกเบี้ยและต้นทุนทางการเงินก็ต่างกัน กระบวนการอนุมัติโครงการที่ช่วยให้เร็วก็ช่วยได้เยอะ
- เรียกค่าเสียหายแก้สัญญาเอไอเอสถึงไหนแล้ว
เข้าขั้นตอนของอนุญาโตตุลาการไปแล้ว ส่วนความเสียหายต้องประเมินกัน
- เป็นซีอีโอในช่วงหินมาก
เป็นช่วงที่น่าสนใจมากที่สุดของชีวิต ทำให้ต้องใช้พลังมากขึ้นกว่าเดิมก็ทำใจไว้แล้วว่าสภาพนี้ทำให้เสมอตัวก็ยาก แต่จะเปลี่ยนใจตอนนี้คงไม่ได้
ติดตามข่าวสาร ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
www.facebook.com/PrachachatOnline
ทวิตเตอร์ @prachachat