สัมภาษณ์: เปิดใจ 'ดร.มนต์ชัย หนูสง' ภารกิจพลิก 'ทีโอที' พ้นยุคเสือลำบาก
ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2558
นั่งรักษาการซีอีโอ บมจ.ทีโอที มาพักใหญ่ และผ่านการคัดเลือกให้เป็นผู้เหมาะสมกับตำแหน่งนี้เรียบร้อย (พักใหญ่ด้วยเช่นกัน) แต่ยังคงเป็นรักษาการไปจนกว่าจะมีหนังสือแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากกระทรวงการคลัง จากวิกฤตที่รุมเร้ารอบทิศ ไหนจะปมแก้สัมปทานที่คาราคาซังมานาน, การเลือกพันธมิตรธุรกิจ, แผนยื้อคลื่น 900 MHz
ภารกิจพลิกฟื้นองค์กรที่ต้องแข่งกับเวลาของ "มนต์ชัย หนูสง" ในห้วงเวลานี้จึงนับเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง"ประชาชาติธุรกิจ" มีโอกาสพูดคุยดังนี้
จะฟ้อง กสทช.เพื่อล้มประมูลคลื่น
อะไรทำให้ประโยชน์ที่จะได้ลดน้อยลงก็ต้องดำเนินการ แต่จะฟ้องหรือไม่ บอร์ดเป็นคนตัดสินใจ ซึ่งในการประชุมล่าสุด (20 ต.ค.) ยังไม่สรุป แต่ 30 ต.ค.นี้จะมีประชุมอีกรอบก็น่าจะชัด คงไม่เกิน 12 พ.ย. ซึ่งเป็นวันประมูลคลื่น 900 MHz
คงสิทธิ์ 900 MHz ไว้เพื่อ
เบื้องต้นเพื่อให้บริการ 2G ต่อ ในแง่อุปกรณ์ที่ได้รับโอนมา การบำรุงรักษาตามแผนน่าจะขาดทุนในแง่โอเปอเรชั่น ราว 2 ปี แล้วค่อยลงทุนอุปกรณ์ใหม่ ใช้เงินไม่ถึงหมื่นล้านบาท ซึ่งเราไม่ได้มองแต่ธุรกิจ
แต่มองถึงการซัพพอร์ตลูกค้าด้วย โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่มีโอกาสเข้าถึงบริการพวกนี้ ง่าย ๆ คือกลุ่มที่อยู่ใต้เส้นความยากจน แต่จะมีส่วนที่เอาไปเสริม 3G 2100 MHz ในเมือง เพราะจะมี 3G คลื่น 900 MHz พ่วงอยู่ด้วย
เอไอเอสอาจประมูลได้แล้วนำทำธุรกิจกับทีโอที
ก็มีความเป็นไปได้บอร์ดจึงให้ไปศึกษาทำตัวเลขมาให้เห็นว่าแต่ละโมเดลจะนำรายได้อะไรมาให้บ้าง ทุกคนกลัวมาตรา 157 ก็ต้องหาโซลูชั่นป้องกันความเสียหาย แต่มีปัจจัยใหม่ เรื่องคลื่น 2300 MHz เหมือน กสทช.กับรัฐคุยกันแล้วว่าจะให้ ทีโอทีใช้ถึงปี 2568 แก้ปัญหาความไม่มั่นคงเรื่องไม่มีคลื่น
กรณีพันธมิตรธุรกิจ
ช้า เพราะมีเป้าหมายในการต่อรอง กำลังคุยอยู่กับรายหลัก ๆ ที่ดูดีที่สุดกับอีกราย แต่ขอไม่เปิดเผย ตั้งเป้าว่าจะสรุปให้ได้ในกลาง พ.ย.นี้ ส่วนของเสาน่าจะเร็วกว่าคือต้นเดือน พ.ย. เพราะเจรจาไปแล้วกว่า 90% แนวโน้มน่าจะไปในทางเช่าเสาเพื่อติดอุปกรณ์ ส่วนธุรกิจโมบายหลักยังอยู่ที่คลื่น 2100 แต่มี 2300 เป็นออปชั่นเสริม แต่ต้องเร่งเพราะประมูล 4G อาจทำให้ความน่าสนใจของทีโอทีน้อยลง และถ้าสิ้นปีนี้ไม่จบ ทีโอทีหนักหนาสาหัสแน่
ทรัพย์สินที่มีในมือ
หลัก ๆ ก็คลื่น 2300 จำนวน 64 MHz น่าจะราว 3 หมื่นล้านบาท คลื่น 2100 อีก 17.5 MHz ราว 2.6 หมื่นล้านบาท โครงข่าย 2G น่าจะเหลือราว 1.7 หมื่นล้านบาท ใกล้ ๆ กับโครงข่าย 3G คลื่น 2100 MHz ถ้ารวมกับคลื่น 900 MHz น่าจะ ทะลุแสนล้านบาท มูลค่าฟิกซ์ไลน์ยังไม่ได้ประเมิน ต้องนำมาบริหารจัดการ เพราะ 8 เดือนที่ผ่านมาขาดทุนกว่าพันล้านบาท และถ้าปีนี้เลือกพันธมิตรไม่ได้ก็จะมีทรัพย์สินด้อยค่าเป็นหมื่นล้าน
ทางออกที่จะไปได้เร็ว
คลื่น 2300 น่าจะพอช่วยได้ ที่วางไว้คือนำมาทำฟิกซ์ไวร์เลสบรอดแบนด์ ทำให้ต้นทุนต่อพอร์ตลดลง ไทม์ทูมาร์เก็ตจะเร็วขึ้นไม่ต้องลากสาย ติดอุปกรณ์เบสกับเสาที่รับโอนมา 15,000 แห่งทั่วประเทศ แค่นำอุปกรณ์รับสัญญาณไปตั้งไว้ที่บ้านลูกค้าก็ใช้ได้เลย เข้าไปช่วยในตลาดที่ยังลากสายไปไม่ถึงหรือลากแล้วไม่คุ้ม ถ้าได้สิทธิ์มา 10 ปีก็คุ้มที่จะลงทุนทำ คาดว่าใช้เวลาจัดซื้ออุปกรณ์สัก 6 เดือน ก็ทยอยเปิดให้บริการได้ ตอนนี้กำลังเร่งทำแผนเสนอ กสทช. ขอใช้แบบ Neutral Technology
พฤติกรรมผู้บริโภคเน้นโมบายเน็ต
ก็อาจใช่ แต่ความต้องการใช้ตามบ้าน ที่สปีดสูงยังมี แต่ยอมรับว่าตลาดฟิกซ์บรอดแบนด์อาจแค่ราว 10 ล้านครัวเรือน
2300 MHz ก็ทำ 4G ได้
คิดว่าอาจยังไม่ใช่เวลาของโมบายบนคลื่น 2300 เพราะข้อจำกัดแฮนด์เซต เลยยังไม่แน่ว่าจะแบ่งคลื่นยังไง ต้องดูสปีดที่อยากได้ด้วย ถ้าใช้คลื่นสัก 20 MHz ก็น่าจะ ให้บริการได้ระดับ 100 Mbps อีกอย่างถ้าประเมินจากศักยภาพธุรกิจโมบาย 2100 MHz เราก็ทำรีเทลสู้เขาไม่ได้ ต้องยอมรับจุดอ่อน แต่เรามีจุดแข็งเรื่องทรัพยากรในมือ
ถ้าแผนไม่ชัดอาจโดนดึงคืน 20 MHz
ที่ทราบมาคือ ไอซีทีกับ กสทช. คุยกันแล้วว่าจะให้ใช้ทั้ง 64 MHz ไปจนถึงปี 2568
คลื่นในมือใช้ได้แค่ปี 2568
ก็ต้องขอใบอนุญาตใช้คลื่นต่อ เพราะไลเซนส์มีวันสิ้นสุด ถึงวันนั้นทุกโอเปอเรเตอร์ ต้องประเมินศักยภาพตนเองว่ายังอยู่ในอุตสาหกรรมไหว ?
ทีโอทีมีศักยภาพพอ
ถ้าเป็นธุรกิจโทรคมนาคม เราพร้อม แต่โมบายถ้าทำเองแล้วไม่ดีเท่าไร ก็ อาจต้องหาวิธีอื่นที่ทำแล้วได้ประโยชน์มากกว่า
พันธมิตรบรอดแบนด์
เน้นที่โมบายกับระงับข้อพิพาทเรื่องเสาโทรคมนาคมก่อน
งั้นก็มีแค่เอไอเอส
เรื่องข้อพิพาทมีแค่เอไอเอสแน่นอน เพราะพิพาทกันอยู่ แต่โมบายมีคู่แข่ง อยู่ ตอนนี้จำกัดการเจรจามาอยู่แค่ 2 รายแล้ว คงระบุชื่อให้ไม่ได้มีผลกระทบเยอะ
ทำเรื่องขอกู้เงินมาเสริมสภาพคล่อง
ไม่ใช่ขอกู้ แต่เป็นการขออนุมัติวงเงิน O/D เบิกเกินบัญชีไว้ เดิมเรามีอยู่ 3,000 ล้านบาท ตอนนี้ขอเพิ่มอีกราว ๆ 3,000 ล้านบาท เผื่อไว้ใช้สำหรับการวางสำรองไว้เป็น Sinking Fund
จะวิกฤตถึงขั้นไม่มีเงินจ่ายพนักงาน
ไม่ ๆ ณ ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่ถ้าไตรมาส 3 ปีหน้ายังพลิกฟื้นไม่ได้ก็ต้องระวัง
ถึงขั้นเจ๊ง
รั
ฐวิสาหกิจเจ๊งไม่ได้ แต่เราก็ไม่เคยคิดให้รัฐเข้ามาอุ้ม แค่ขอให้เอื้อในสิ่งที่เราควรได้รับ แต่ที่หนักใจคือกลัวว่าคนในทีโอทีจะไม่ช่วยตัวเอง
อยากให้รัฐช่วยเรื่องคลื่น
ไม่ใช่แค่เรื่องคลื่น แต่มีหลายเรื่อง เช่น การจะกู้เงินมาลงทุนหากรัฐช่วยค้ำประกันกับไม่ช่วยค้ำ ดอกเบี้ยและต้นทุนทางการเงินก็ต่างกัน กระบวนการอนุมัติโครงการที่ช่วยให้เร็วก็ช่วยได้เยอะ
เรียกค่าเสียหายแก้สัญญาเอไอเอสถึงไหนแล้ว
เข้าขั้นตอนของอนุญาโตตุลาการไปแล้ว ส่วนความเสียหายต้องประเมินกัน
เข้าขั้นตอนของอนุญาโตตุลาการไปแล้ว ส่วนความเสียหายต้องประเมินกันเป็นซีอีโอในช่วงหินมาก
เป็นช่วงที่น่าสนใจมากที่สุดของชีวิต ทำให้ต้องใช้พลังมากขึ้นกว่าเดิมก็ทำใจไว้แล้วว่าสภาพนี้ทำให้เสมอตัวก็ยาก แต่จะเปลี่ยนใจตอนนี้คงไม่ได้
ขอขอบคุณแหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2558 (หน้า 32, 28)
สัมภาษณ์: เปิดใจ 'ดร.มนต์ชัย หนูสง' ภารกิจพลิก 'ทีโอที' พ้นยุคเสือลำบาก
ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2558
นั่งรักษาการซีอีโอ บมจ.ทีโอที มาพักใหญ่ และผ่านการคัดเลือกให้เป็นผู้เหมาะสมกับตำแหน่งนี้เรียบร้อย (พักใหญ่ด้วยเช่นกัน) แต่ยังคงเป็นรักษาการไปจนกว่าจะมีหนังสือแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากกระทรวงการคลัง จากวิกฤตที่รุมเร้ารอบทิศ ไหนจะปมแก้สัมปทานที่คาราคาซังมานาน, การเลือกพันธมิตรธุรกิจ, แผนยื้อคลื่น 900 MHz
ภารกิจพลิกฟื้นองค์กรที่ต้องแข่งกับเวลาของ "มนต์ชัย หนูสง" ในห้วงเวลานี้จึงนับเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง"ประชาชาติธุรกิจ" มีโอกาสพูดคุยดังนี้
จะฟ้อง กสทช.เพื่อล้มประมูลคลื่น
อะไรทำให้ประโยชน์ที่จะได้ลดน้อยลงก็ต้องดำเนินการ แต่จะฟ้องหรือไม่ บอร์ดเป็นคนตัดสินใจ ซึ่งในการประชุมล่าสุด (20 ต.ค.) ยังไม่สรุป แต่ 30 ต.ค.นี้จะมีประชุมอีกรอบก็น่าจะชัด คงไม่เกิน 12 พ.ย. ซึ่งเป็นวันประมูลคลื่น 900 MHz
คงสิทธิ์ 900 MHz ไว้เพื่อ
เบื้องต้นเพื่อให้บริการ 2G ต่อ ในแง่อุปกรณ์ที่ได้รับโอนมา การบำรุงรักษาตามแผนน่าจะขาดทุนในแง่โอเปอเรชั่น ราว 2 ปี แล้วค่อยลงทุนอุปกรณ์ใหม่ ใช้เงินไม่ถึงหมื่นล้านบาท ซึ่งเราไม่ได้มองแต่ธุรกิจ แต่มองถึงการซัพพอร์ตลูกค้าด้วย โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่มีโอกาสเข้าถึงบริการพวกนี้ ง่าย ๆ คือกลุ่มที่อยู่ใต้เส้นความยากจน แต่จะมีส่วนที่เอาไปเสริม 3G 2100 MHz ในเมือง เพราะจะมี 3G คลื่น 900 MHz พ่วงอยู่ด้วย
เอไอเอสอาจประมูลได้แล้วนำทำธุรกิจกับทีโอที
ก็มีความเป็นไปได้บอร์ดจึงให้ไปศึกษาทำตัวเลขมาให้เห็นว่าแต่ละโมเดลจะนำรายได้อะไรมาให้บ้าง ทุกคนกลัวมาตรา 157 ก็ต้องหาโซลูชั่นป้องกันความเสียหาย แต่มีปัจจัยใหม่ เรื่องคลื่น 2300 MHz เหมือน กสทช.กับรัฐคุยกันแล้วว่าจะให้ ทีโอทีใช้ถึงปี 2568 แก้ปัญหาความไม่มั่นคงเรื่องไม่มีคลื่น
กรณีพันธมิตรธุรกิจ
ช้า เพราะมีเป้าหมายในการต่อรอง กำลังคุยอยู่กับรายหลัก ๆ ที่ดูดีที่สุดกับอีกราย แต่ขอไม่เปิดเผย ตั้งเป้าว่าจะสรุปให้ได้ในกลาง พ.ย.นี้ ส่วนของเสาน่าจะเร็วกว่าคือต้นเดือน พ.ย. เพราะเจรจาไปแล้วกว่า 90% แนวโน้มน่าจะไปในทางเช่าเสาเพื่อติดอุปกรณ์ ส่วนธุรกิจโมบายหลักยังอยู่ที่คลื่น 2100 แต่มี 2300 เป็นออปชั่นเสริม แต่ต้องเร่งเพราะประมูล 4G อาจทำให้ความน่าสนใจของทีโอทีน้อยลง และถ้าสิ้นปีนี้ไม่จบ ทีโอทีหนักหนาสาหัสแน่
ทรัพย์สินที่มีในมือ
หลัก ๆ ก็คลื่น 2300 จำนวน 64 MHz น่าจะราว 3 หมื่นล้านบาท คลื่น 2100 อีก 17.5 MHz ราว 2.6 หมื่นล้านบาท โครงข่าย 2G น่าจะเหลือราว 1.7 หมื่นล้านบาท ใกล้ ๆ กับโครงข่าย 3G คลื่น 2100 MHz ถ้ารวมกับคลื่น 900 MHz น่าจะ ทะลุแสนล้านบาท มูลค่าฟิกซ์ไลน์ยังไม่ได้ประเมิน ต้องนำมาบริหารจัดการ เพราะ 8 เดือนที่ผ่านมาขาดทุนกว่าพันล้านบาท และถ้าปีนี้เลือกพันธมิตรไม่ได้ก็จะมีทรัพย์สินด้อยค่าเป็นหมื่นล้าน
ทางออกที่จะไปได้เร็ว
คลื่น 2300 น่าจะพอช่วยได้ ที่วางไว้คือนำมาทำฟิกซ์ไวร์เลสบรอดแบนด์ ทำให้ต้นทุนต่อพอร์ตลดลง ไทม์ทูมาร์เก็ตจะเร็วขึ้นไม่ต้องลากสาย ติดอุปกรณ์เบสกับเสาที่รับโอนมา 15,000 แห่งทั่วประเทศ แค่นำอุปกรณ์รับสัญญาณไปตั้งไว้ที่บ้านลูกค้าก็ใช้ได้เลย เข้าไปช่วยในตลาดที่ยังลากสายไปไม่ถึงหรือลากแล้วไม่คุ้ม ถ้าได้สิทธิ์มา 10 ปีก็คุ้มที่จะลงทุนทำ คาดว่าใช้เวลาจัดซื้ออุปกรณ์สัก 6 เดือน ก็ทยอยเปิดให้บริการได้ ตอนนี้กำลังเร่งทำแผนเสนอ กสทช. ขอใช้แบบ Neutral Technology
พฤติกรรมผู้บริโภคเน้นโมบายเน็ต
ก็อาจใช่ แต่ความต้องการใช้ตามบ้าน ที่สปีดสูงยังมี แต่ยอมรับว่าตลาดฟิกซ์บรอดแบนด์อาจแค่ราว 10 ล้านครัวเรือน
2300 MHz ก็ทำ 4G ได้
คิดว่าอาจยังไม่ใช่เวลาของโมบายบนคลื่น 2300 เพราะข้อจำกัดแฮนด์เซต เลยยังไม่แน่ว่าจะแบ่งคลื่นยังไง ต้องดูสปีดที่อยากได้ด้วย ถ้าใช้คลื่นสัก 20 MHz ก็น่าจะ ให้บริการได้ระดับ 100 Mbps อีกอย่างถ้าประเมินจากศักยภาพธุรกิจโมบาย 2100 MHz เราก็ทำรีเทลสู้เขาไม่ได้ ต้องยอมรับจุดอ่อน แต่เรามีจุดแข็งเรื่องทรัพยากรในมือ
ถ้าแผนไม่ชัดอาจโดนดึงคืน 20 MHz
ที่ทราบมาคือ ไอซีทีกับ กสทช. คุยกันแล้วว่าจะให้ใช้ทั้ง 64 MHz ไปจนถึงปี 2568
คลื่นในมือใช้ได้แค่ปี 2568
ก็ต้องขอใบอนุญาตใช้คลื่นต่อ เพราะไลเซนส์มีวันสิ้นสุด ถึงวันนั้นทุกโอเปอเรเตอร์ ต้องประเมินศักยภาพตนเองว่ายังอยู่ในอุตสาหกรรมไหว ?
ทีโอทีมีศักยภาพพอ
ถ้าเป็นธุรกิจโทรคมนาคม เราพร้อม แต่โมบายถ้าทำเองแล้วไม่ดีเท่าไร ก็ อาจต้องหาวิธีอื่นที่ทำแล้วได้ประโยชน์มากกว่า
พันธมิตรบรอดแบนด์
เน้นที่โมบายกับระงับข้อพิพาทเรื่องเสาโทรคมนาคมก่อน
งั้นก็มีแค่เอไอเอส
เรื่องข้อพิพาทมีแค่เอไอเอสแน่นอน เพราะพิพาทกันอยู่ แต่โมบายมีคู่แข่ง อยู่ ตอนนี้จำกัดการเจรจามาอยู่แค่ 2 รายแล้ว คงระบุชื่อให้ไม่ได้มีผลกระทบเยอะ
ทำเรื่องขอกู้เงินมาเสริมสภาพคล่อง
ไม่ใช่ขอกู้ แต่เป็นการขออนุมัติวงเงิน O/D เบิกเกินบัญชีไว้ เดิมเรามีอยู่ 3,000 ล้านบาท ตอนนี้ขอเพิ่มอีกราว ๆ 3,000 ล้านบาท เผื่อไว้ใช้สำหรับการวางสำรองไว้เป็น Sinking Fund
จะวิกฤตถึงขั้นไม่มีเงินจ่ายพนักงาน
ไม่ ๆ ณ ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่ถ้าไตรมาส 3 ปีหน้ายังพลิกฟื้นไม่ได้ก็ต้องระวัง
ถึงขั้นเจ๊ง
รัฐวิสาหกิจเจ๊งไม่ได้ แต่เราก็ไม่เคยคิดให้รัฐเข้ามาอุ้ม แค่ขอให้เอื้อในสิ่งที่เราควรได้รับ แต่ที่หนักใจคือกลัวว่าคนในทีโอทีจะไม่ช่วยตัวเอง
อยากให้รัฐช่วยเรื่องคลื่น
ไม่ใช่แค่เรื่องคลื่น แต่มีหลายเรื่อง เช่น การจะกู้เงินมาลงทุนหากรัฐช่วยค้ำประกันกับไม่ช่วยค้ำ ดอกเบี้ยและต้นทุนทางการเงินก็ต่างกัน กระบวนการอนุมัติโครงการที่ช่วยให้เร็วก็ช่วยได้เยอะ
เรียกค่าเสียหายแก้สัญญาเอไอเอสถึงไหนแล้ว
เข้าขั้นตอนของอนุญาโตตุลาการไปแล้ว ส่วนความเสียหายต้องประเมินกัน
เข้าขั้นตอนของอนุญาโตตุลาการไปแล้ว ส่วนความเสียหายต้องประเมินกันเป็นซีอีโอในช่วงหินมาก
เป็นช่วงที่น่าสนใจมากที่สุดของชีวิต ทำให้ต้องใช้พลังมากขึ้นกว่าเดิมก็ทำใจไว้แล้วว่าสภาพนี้ทำให้เสมอตัวก็ยาก แต่จะเปลี่ยนใจตอนนี้คงไม่ได้
ขอขอบคุณแหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2558 (หน้า 32, 28)