ผู้บริหารเรานิสัยไม่ชอบความจุกจิก ไม่ค่อยฟังใครนัก (ไม่ใช่ทุกครั้งแต่ มักจะเป็นอย่างนั้น) เราเข้าใจนะส่วนนี้ เพราะเค้ามีงานใหญ่ให้ตัดสินใจมากมาย บางเรื่องคือเค้าคิดรอบคอบมาแล้ว จนไม่อยากเปลี่ยนแล้ว
ปัญหาที่เราเผชิญ คือ บางครั้งเค้าไม่ฟังและตัดบทจนกระทั่ง กลายเป็นปัญหาในภายหลัง เคยเผชิญมาแล้ว โดยก่อนหน้านี้ ปล่อยไป เพราะเห็นเค้าเริ่มเสียงดัง หรือตัดบท เราก็ไม่ดันทุรัง
เรือ่งจริง ที่เพิ่งเกิดขึ้น และเกือบจะเป็นปัญหา บรรยากาศคุยแบบไม่ซีเรียส
เราคุยงานกันหลายฝ่าย มีเรือ่งนึง คือ หาเสียงพากย์ประกอบวิดีโอ ราคาเท่าไหร่ดี งั้น งี้ บอสบอกว่า ราคาแบบธรรมดาเท่านี้แหละ หาได้แน่
เรา - ถ้าสนใจจะให้..(ชื่อเรา) ทำให้ บอกได้นะ รับทำอยู่
บอส - ทำก็ทำไป อย่ามารับแข่งกับบริษัทฯ ก็พอ (เสียงเข้ม เค้าเสียงดุ หน้าดุ อยู่แล้ว)
เรา - ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่ หมายถึงงานบริษัทฯ นี่แหละ ถ้าคิดว่าเสียง (ชื่อเรา) เหมาะก็พิจารณาได้ เคยทำมาตลอดจริงๆ (เราเข้ามาที่นี่ไม่นานนัก และเปลี่ยนหน้าที่หลัก ไม่เคยมีใครรู้สิ่งที่เราทำนี้ นอกจากบอสที่เห็นในประวัติงาน)
แล้ว เราก็อธิบาย แบบขำๆ โดยสังเขป
บอส - ยิ้ม หัวเราะแบบไม่ออกเสียง พยักหน้า....
เรา (คิด) นี่แหละหนา จากบทเรียนที่ผ่านมา ที่เราปล่อยผ่าน ถ้าครั้งนี้เราไม่พูด บอสจะเข้าใจเราว่าอะไร เราเป็นผู้ใหญ่ในออฟฟิศ การทำอะไรแบบไม่ควรนี่เรือ่งใหญ่สำหรับเราทีเดียว สำหรับเรามันหมายถึงการทำอะไรไม่คิดเลยทีเดียว และผลเสียเกิดกับเราแน่ๆ หากบอสเข้าใจแบบนั้น เช่น เข้าใจว่าเรารับงานนอกประเภทเดียวกันกับที่รับทำให้บริษัทฯ อยู่ เราเข้าใจดีว่าเท่ากับทุจริตเลยทีเดียว
เพราะก่อนหน้านี้เคยมีกรณีพนักงานคิดรับงานนอกเวลา บอสไม่พอใจมากๆ มาแล้ว จนจะจับเซ็นสัญญาแบบที่ว่าหากผิดสัญญาสามารถฟ้องร้องได้กันมาแล้ว (ที่นี่ไม่มีโอที การทำงานอื่นนอกเวลาบอสอาจคิดว่า ทำไมไม่มาทุ่มเทให้งานออฟฟิศล่ะ ไม่รู้นะส่วนนี้เราคิดเอง อาจเป็นมุมมองลูกจ้าง ที่ต่างจากมุมมองผู้บริหาร)
นี่แหละปัญหาใหญ่ที่เราพยายามหาทางแก้ไขอยู่ สารพัดวิธีเลย ทั้งดูอารมณ์บอสให้เหมาะ กว่าจะเข้าไปเจรจา ทั้งเรียบเรียง บทสรุปเนือ้หาให้ดีที่สุด ทั้งคิดวิเคราะห์เรือ่งทีจะคุยไว้ก่อน เพื่อเตรียมทางแก้ไขไว้ (เราอยู่ในหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบและออกแผนงานแล้ว ไม่ใช่รับคำสั่งอย่างเดียว)
บอสเคยบอกไว้ว่าเราทำงานดี จะช่วยส่งเสริมและเต็มที่กับการถ่ายทอดความรู้ บอสเป็นคนที่ทำงานด้านนี้สายตรงตลอดชีวิต มีหน้าที่การงานที่ประสบความสำเร็จสูงมากเป็นหลักฐานยืนยัน ก่อนจะมารับบริหารงงานที่นี่ ซึ่งบอสพูดเสมอว่า เจ้าของที่นี่เชิญมา ค่ะ บอสเป็นคนพราวด์มากๆ ด้วยแหละ ซึ่งเรื่องจริง คือ เราคิดว่าบอสอยากได้คนที่ทำอะไรแทนบอสได้เลยมากกว่า และแทบไม่ให้เวลากับการคุยงานส่วนที่เราทำ จนหลายครั้งเราต้งอทำไปจนเสร็จ ทั้งที่อยากให้ดูแนวทางก่อนมากกว่า เพราะการลงมือทำทั้งโครงการออกมามีรายละเอียดเยอะมาก เราไม่ได้ทำแค่ให้งานเสร็จด้วย เราคิดเสมอว่างานต้องดี ต้องเด่น ต้องโดน จึงอยากให้บอสช่วยชี้ประเด็นก่อนที่เราจะนำไปแตกความคิดตามที่บอสสรุปมากกว่า
สถานการณ์คือ หากบอสมองเราในด้านลบมากๆ บ่อยๆ เราจะได้รับการส่งเสริมได้อย่างไร ยิ่งเราเป็นผู้ใหญ่ ความผิดพลาดอาจไมไ่ด้รับการให้อภัยแบบที่เราเคยได้ยินว่า เด็กเพิ่งมาเริ่มงาน ไม่เคยมีประสบการณ์ เราต้องช่วยเค้า ค่ะ ที่นี่เรามีเด็กจบใหม่จำนวนมากด้วยเหตุผลนี้
ใครมีคำแนะนำอะไร ช่วยให้ความเห็นหน่อยนะคะ เผื่อจะมีแนวิดดีๆ ที่เรานำไปปรับใช้ได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ
ทัศนคติต่าง จากผู้บริหารที่ส่งผลลบกับเราในที่ทำงาน ไม่รู้จะแก้ไขยังไงจริงๆ
ปัญหาที่เราเผชิญ คือ บางครั้งเค้าไม่ฟังและตัดบทจนกระทั่ง กลายเป็นปัญหาในภายหลัง เคยเผชิญมาแล้ว โดยก่อนหน้านี้ ปล่อยไป เพราะเห็นเค้าเริ่มเสียงดัง หรือตัดบท เราก็ไม่ดันทุรัง
เรือ่งจริง ที่เพิ่งเกิดขึ้น และเกือบจะเป็นปัญหา บรรยากาศคุยแบบไม่ซีเรียส
เราคุยงานกันหลายฝ่าย มีเรือ่งนึง คือ หาเสียงพากย์ประกอบวิดีโอ ราคาเท่าไหร่ดี งั้น งี้ บอสบอกว่า ราคาแบบธรรมดาเท่านี้แหละ หาได้แน่
เรา - ถ้าสนใจจะให้..(ชื่อเรา) ทำให้ บอกได้นะ รับทำอยู่
บอส - ทำก็ทำไป อย่ามารับแข่งกับบริษัทฯ ก็พอ (เสียงเข้ม เค้าเสียงดุ หน้าดุ อยู่แล้ว)
เรา - ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่ หมายถึงงานบริษัทฯ นี่แหละ ถ้าคิดว่าเสียง (ชื่อเรา) เหมาะก็พิจารณาได้ เคยทำมาตลอดจริงๆ (เราเข้ามาที่นี่ไม่นานนัก และเปลี่ยนหน้าที่หลัก ไม่เคยมีใครรู้สิ่งที่เราทำนี้ นอกจากบอสที่เห็นในประวัติงาน)
แล้ว เราก็อธิบาย แบบขำๆ โดยสังเขป
บอส - ยิ้ม หัวเราะแบบไม่ออกเสียง พยักหน้า....
เรา (คิด) นี่แหละหนา จากบทเรียนที่ผ่านมา ที่เราปล่อยผ่าน ถ้าครั้งนี้เราไม่พูด บอสจะเข้าใจเราว่าอะไร เราเป็นผู้ใหญ่ในออฟฟิศ การทำอะไรแบบไม่ควรนี่เรือ่งใหญ่สำหรับเราทีเดียว สำหรับเรามันหมายถึงการทำอะไรไม่คิดเลยทีเดียว และผลเสียเกิดกับเราแน่ๆ หากบอสเข้าใจแบบนั้น เช่น เข้าใจว่าเรารับงานนอกประเภทเดียวกันกับที่รับทำให้บริษัทฯ อยู่ เราเข้าใจดีว่าเท่ากับทุจริตเลยทีเดียว
เพราะก่อนหน้านี้เคยมีกรณีพนักงานคิดรับงานนอกเวลา บอสไม่พอใจมากๆ มาแล้ว จนจะจับเซ็นสัญญาแบบที่ว่าหากผิดสัญญาสามารถฟ้องร้องได้กันมาแล้ว (ที่นี่ไม่มีโอที การทำงานอื่นนอกเวลาบอสอาจคิดว่า ทำไมไม่มาทุ่มเทให้งานออฟฟิศล่ะ ไม่รู้นะส่วนนี้เราคิดเอง อาจเป็นมุมมองลูกจ้าง ที่ต่างจากมุมมองผู้บริหาร)
นี่แหละปัญหาใหญ่ที่เราพยายามหาทางแก้ไขอยู่ สารพัดวิธีเลย ทั้งดูอารมณ์บอสให้เหมาะ กว่าจะเข้าไปเจรจา ทั้งเรียบเรียง บทสรุปเนือ้หาให้ดีที่สุด ทั้งคิดวิเคราะห์เรือ่งทีจะคุยไว้ก่อน เพื่อเตรียมทางแก้ไขไว้ (เราอยู่ในหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบและออกแผนงานแล้ว ไม่ใช่รับคำสั่งอย่างเดียว)
บอสเคยบอกไว้ว่าเราทำงานดี จะช่วยส่งเสริมและเต็มที่กับการถ่ายทอดความรู้ บอสเป็นคนที่ทำงานด้านนี้สายตรงตลอดชีวิต มีหน้าที่การงานที่ประสบความสำเร็จสูงมากเป็นหลักฐานยืนยัน ก่อนจะมารับบริหารงงานที่นี่ ซึ่งบอสพูดเสมอว่า เจ้าของที่นี่เชิญมา ค่ะ บอสเป็นคนพราวด์มากๆ ด้วยแหละ ซึ่งเรื่องจริง คือ เราคิดว่าบอสอยากได้คนที่ทำอะไรแทนบอสได้เลยมากกว่า และแทบไม่ให้เวลากับการคุยงานส่วนที่เราทำ จนหลายครั้งเราต้งอทำไปจนเสร็จ ทั้งที่อยากให้ดูแนวทางก่อนมากกว่า เพราะการลงมือทำทั้งโครงการออกมามีรายละเอียดเยอะมาก เราไม่ได้ทำแค่ให้งานเสร็จด้วย เราคิดเสมอว่างานต้องดี ต้องเด่น ต้องโดน จึงอยากให้บอสช่วยชี้ประเด็นก่อนที่เราจะนำไปแตกความคิดตามที่บอสสรุปมากกว่า
สถานการณ์คือ หากบอสมองเราในด้านลบมากๆ บ่อยๆ เราจะได้รับการส่งเสริมได้อย่างไร ยิ่งเราเป็นผู้ใหญ่ ความผิดพลาดอาจไมไ่ด้รับการให้อภัยแบบที่เราเคยได้ยินว่า เด็กเพิ่งมาเริ่มงาน ไม่เคยมีประสบการณ์ เราต้องช่วยเค้า ค่ะ ที่นี่เรามีเด็กจบใหม่จำนวนมากด้วยเหตุผลนี้
ใครมีคำแนะนำอะไร ช่วยให้ความเห็นหน่อยนะคะ เผื่อจะมีแนวิดดีๆ ที่เรานำไปปรับใช้ได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ