สวัสดีค่ะ ขอคำแนะนำและกำลังใจหน่อยค่ะ จากทนายและเพื่อนๆ
ดิฉันได้ไปขึ้นศาลครอบครัวครั้งที่1มาค่ะ คดีฟ้องสามี มีชู้ค่ะ (ดิฉันจดทะเบียนสมรสแต่ไม่มีบุตร) และวันนั้นตกลงกันไม่ได้ค่ะ
เล่าคร่าวๆนะคะ เค้ามีผู้หญิงอื่น ดิฉันมีหลักฐานรูปถ่ายเยอะมากค่ะ
ดิฉันออกมาจากบ้านตัวเปล่า ได้มาแค่เสื้อผ้าของใช้ส่วนตัว
ระหว่างที่อยู่ด้วยกัน เราเป็นคนเริ่มทำธุรกิจและเป็นคนขายติดต่อลูกค้า (เรามีหลักฐานที่เราเป็นคนขายค่ะ) สามีแค่ทำตามคำสั่งเรา
แต่ด้วยความไว้ใจและอยากให้ผู้ชายเป็นผู้นำครอบครัว เลยให้จดทะเบียนพาณิชย์เป็นชื่อสามี และเวลาลูกค้าโอนเงินเข้ามา ก็ให้เข้าบัญชีสามีค่ะ
ทำให้ชื่อเค้าสามารถกู้หรือทำธุรกรรมทางการเงินได้ ทำธุรกิจมาจนสร้างเนื้อตัวได้และมีเงินเก็บค่ะ
หลังจากนั้นก็เลยซื้อรถ ก็เป็นชื่อสามีค่ะ เพราะทะเบียนพาณิชย์เป็นชื่อสามี และเวลาลูกค้าโอนเงินเข้ามา ก็ให้เข้าบัญชีสามีค่ะ เค้ากู้ได้ค่ะ
และ ก่อนจดทะเบียน บ้านที่อยู่ด้วยกันนั้นเป็นชื่อแม่สามีค่ะ แต่แม่สามีได้ผ่อนล่าช้าทำให้ทางธนาคารจะยึดบ้าน แม่สามีเลยไปยืมเงินพี่ชาย(ลุงของสามี)มาโปะ จากนั้นได้ทำการขายให้กับสามี ทำให้ชื่อบ้านเป็นชื่อสามี
เพราะทะเบียนพาณิชย์เป็นชื่อสามี และเวลาลูกค้าโอนเงินเข้ามา ก็ให้เข้าบัญชีสามีค่ะ เค้ากู้ได้ค่ะ
และเราได้เอาเงินเก็บที่ได้จากการทำธรุกิจ มารีโนเวทบ้านใหม่ เพราะหลังจากน้ำท่วมใหญ่ บ้านเน่ามากค่ะ พังหมด
เราทั้งสองเลยทำบ้านใหม่ หวังไว้เป็นเรือนหอค่ะ รีโนเวทจากหลังเท้าเป็นหน้ามือ แทบจะไม่หลงเหลือแบบเดิม
หลังมีบ้านธรุกิจเริ่มเงียบทำให้ฉันต้องหางานทำ
ดิฉันเข้าทำงานก่อนและฐานเงินเดือนเยอะกว่า ทำให้รายจ่ายในบ้านดิฉันก็จ่าย อะไรพัง อะไรหมดดิฉันก็จ่าย
... ทั้งบ้านและรถไม่มีชื่อเราเลย แต่เราอยู่กับเค้ามาตั้งแต่เริ่ม พ่อแม่ดิฉันเสียหมดแล้ว ตั้งแต่เรียนจบ เราก็ทำธุรกิจนี้เลย ...
พอมาปีที่ 6 เค้าไปทำงานนอกบ้าน และมีคนอื่นค่ะ เราไม่สามารถอดทนได้ค่ะ เลยออกมาอยู่บ้านญาติ
แม่สามีและตัวสามี เค้าไม่แบ่งอะไรให้เราค่ะ ทั้งบ้านและรถ เค้าให้สร้อยทอง2 บาท สร้อยนี้เราก็ช่วยออกเงินครึ่งนึงค่ะเพื่อซื้อให้สามีใส่
เค้าให้เรามาเท่านี้
ดิฉันเลยจ้างทนาย ทำเรื่องเพื่อต้องการ เงินค่ารีโนเวทบ้าน ค่าเฟอร์นิเจอร์ทั้งหลาย เป็นจำนวนนึง คือชำระให้เราเป็นก้อนและอีกครึ่งผ่อนชำระได้ แค่เท่านั้น แต่ทางแม่สามีและสามีไม่ตกลงตามที่เราขอ เค้าไม่ให้เงินก้อน จะผ่อนให้เรายืดเยื้อเดือนละไม่กี่พันบาท เป็นเวลา 4 ปีถึงจะผ่อนหมดอ่ะคะ
มันนานมาก แล้วถ้าเค้าไม่ผ่อนหล่ะค่ะ
แถมวันไปศาลแม่สามีและญาติเค้าแอบด่าเราอีกด้วยค่ะ ทนายเราเตือนแล้ว เค้าก็ทำท่าทางข่มขู่เราค่ะ
เรารู้สึกไม่ปลอดภัยค่ะ
วันแรกที่ไปศาล ตกลงกันไม่ได้ค่ะ ศาลนัดใหม่ เค้าให้เอาจำเลยที่2(ภรรยาน้อย) มาด้วย และทางเค้าก็จะเอาพยานบุคคลมา หลายคนเลยค่ะ
เข้าเรื่องที่เราจะถามนะคะ
1.เรามีโอกาสได้เงินที่เราขอไหมค่ะ หลักแสน ที่รีโนเวทบ้านไป
2.ถ้าเค้าไม่ตกลง ต้องทำอย่างไรต่อค่ะ
3.พยานบุคคลเราน้อยค่ะ เพื่อนๆและญาติบางคน เค้าไม่อยากยุ่งเรื่องนี้ บอกตรงๆเราท้อมากเลยค่ะ ขอความช่วยเหลือจากใครไม่ได้
พ่อแม่เราเสียหมดแล้ว ญาติๆก็ต่างคนต่างอยู่ เพื่อนก็น้อยค่ะ เรามีแค่พยานรูปถ่ายเยอะมากค่ะ
ขอคำแนะนำหน่อยนะคะ ขอบคุณค่ะ
ขอคำแนะนำ ขึ้นศาลคดีครอบครัว ค่ะ
ดิฉันได้ไปขึ้นศาลครอบครัวครั้งที่1มาค่ะ คดีฟ้องสามี มีชู้ค่ะ (ดิฉันจดทะเบียนสมรสแต่ไม่มีบุตร) และวันนั้นตกลงกันไม่ได้ค่ะ
เล่าคร่าวๆนะคะ เค้ามีผู้หญิงอื่น ดิฉันมีหลักฐานรูปถ่ายเยอะมากค่ะ
ดิฉันออกมาจากบ้านตัวเปล่า ได้มาแค่เสื้อผ้าของใช้ส่วนตัว
ระหว่างที่อยู่ด้วยกัน เราเป็นคนเริ่มทำธุรกิจและเป็นคนขายติดต่อลูกค้า (เรามีหลักฐานที่เราเป็นคนขายค่ะ) สามีแค่ทำตามคำสั่งเรา
แต่ด้วยความไว้ใจและอยากให้ผู้ชายเป็นผู้นำครอบครัว เลยให้จดทะเบียนพาณิชย์เป็นชื่อสามี และเวลาลูกค้าโอนเงินเข้ามา ก็ให้เข้าบัญชีสามีค่ะ
ทำให้ชื่อเค้าสามารถกู้หรือทำธุรกรรมทางการเงินได้ ทำธุรกิจมาจนสร้างเนื้อตัวได้และมีเงินเก็บค่ะ
หลังจากนั้นก็เลยซื้อรถ ก็เป็นชื่อสามีค่ะ เพราะทะเบียนพาณิชย์เป็นชื่อสามี และเวลาลูกค้าโอนเงินเข้ามา ก็ให้เข้าบัญชีสามีค่ะ เค้ากู้ได้ค่ะ
และ ก่อนจดทะเบียน บ้านที่อยู่ด้วยกันนั้นเป็นชื่อแม่สามีค่ะ แต่แม่สามีได้ผ่อนล่าช้าทำให้ทางธนาคารจะยึดบ้าน แม่สามีเลยไปยืมเงินพี่ชาย(ลุงของสามี)มาโปะ จากนั้นได้ทำการขายให้กับสามี ทำให้ชื่อบ้านเป็นชื่อสามี
เพราะทะเบียนพาณิชย์เป็นชื่อสามี และเวลาลูกค้าโอนเงินเข้ามา ก็ให้เข้าบัญชีสามีค่ะ เค้ากู้ได้ค่ะ
และเราได้เอาเงินเก็บที่ได้จากการทำธรุกิจ มารีโนเวทบ้านใหม่ เพราะหลังจากน้ำท่วมใหญ่ บ้านเน่ามากค่ะ พังหมด
เราทั้งสองเลยทำบ้านใหม่ หวังไว้เป็นเรือนหอค่ะ รีโนเวทจากหลังเท้าเป็นหน้ามือ แทบจะไม่หลงเหลือแบบเดิม
หลังมีบ้านธรุกิจเริ่มเงียบทำให้ฉันต้องหางานทำ
ดิฉันเข้าทำงานก่อนและฐานเงินเดือนเยอะกว่า ทำให้รายจ่ายในบ้านดิฉันก็จ่าย อะไรพัง อะไรหมดดิฉันก็จ่าย
... ทั้งบ้านและรถไม่มีชื่อเราเลย แต่เราอยู่กับเค้ามาตั้งแต่เริ่ม พ่อแม่ดิฉันเสียหมดแล้ว ตั้งแต่เรียนจบ เราก็ทำธุรกิจนี้เลย ...
พอมาปีที่ 6 เค้าไปทำงานนอกบ้าน และมีคนอื่นค่ะ เราไม่สามารถอดทนได้ค่ะ เลยออกมาอยู่บ้านญาติ
แม่สามีและตัวสามี เค้าไม่แบ่งอะไรให้เราค่ะ ทั้งบ้านและรถ เค้าให้สร้อยทอง2 บาท สร้อยนี้เราก็ช่วยออกเงินครึ่งนึงค่ะเพื่อซื้อให้สามีใส่
เค้าให้เรามาเท่านี้
ดิฉันเลยจ้างทนาย ทำเรื่องเพื่อต้องการ เงินค่ารีโนเวทบ้าน ค่าเฟอร์นิเจอร์ทั้งหลาย เป็นจำนวนนึง คือชำระให้เราเป็นก้อนและอีกครึ่งผ่อนชำระได้ แค่เท่านั้น แต่ทางแม่สามีและสามีไม่ตกลงตามที่เราขอ เค้าไม่ให้เงินก้อน จะผ่อนให้เรายืดเยื้อเดือนละไม่กี่พันบาท เป็นเวลา 4 ปีถึงจะผ่อนหมดอ่ะคะ
มันนานมาก แล้วถ้าเค้าไม่ผ่อนหล่ะค่ะ
แถมวันไปศาลแม่สามีและญาติเค้าแอบด่าเราอีกด้วยค่ะ ทนายเราเตือนแล้ว เค้าก็ทำท่าทางข่มขู่เราค่ะ
เรารู้สึกไม่ปลอดภัยค่ะ
วันแรกที่ไปศาล ตกลงกันไม่ได้ค่ะ ศาลนัดใหม่ เค้าให้เอาจำเลยที่2(ภรรยาน้อย) มาด้วย และทางเค้าก็จะเอาพยานบุคคลมา หลายคนเลยค่ะ
เข้าเรื่องที่เราจะถามนะคะ
1.เรามีโอกาสได้เงินที่เราขอไหมค่ะ หลักแสน ที่รีโนเวทบ้านไป
2.ถ้าเค้าไม่ตกลง ต้องทำอย่างไรต่อค่ะ
3.พยานบุคคลเราน้อยค่ะ เพื่อนๆและญาติบางคน เค้าไม่อยากยุ่งเรื่องนี้ บอกตรงๆเราท้อมากเลยค่ะ ขอความช่วยเหลือจากใครไม่ได้
พ่อแม่เราเสียหมดแล้ว ญาติๆก็ต่างคนต่างอยู่ เพื่อนก็น้อยค่ะ เรามีแค่พยานรูปถ่ายเยอะมากค่ะ
ขอคำแนะนำหน่อยนะคะ ขอบคุณค่ะ