☆ บาลีวันละคำ ... กปฺป ☆

ขอกราบไหว้พระรัตนตรัยด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง

----------------------


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๖  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๘
สังยุตตนิกาย นิทานวรรค


สาสปสูตร


[๔๓๑] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี

ครั้งนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ฯลฯ

ครั้นภิกษุนั้นนั่งเรียบร้อยแล้ว ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ กัปหนึ่งนานเพียงไรหนอแล ฯ

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

ดูกรภิกษุ กัปหนึ่งนานแล มิใช่ง่ายที่จะนับกัปนั้นว่า เท่านี้ปี ฯลฯ หรือว่าเท่านี้ ๑๐๐,๐๐๐ ปี ฯ

ภิ. ก็พระองค์อาจจะอุปมาได้ไหม พระเจ้าข้า ฯ

[๔๓๒] พ. อาจอุปมาได้ ภิกษุ

แล้วจึงตรัสต่อไปว่า

ดูกรภิกษุ เหมือนอย่างว่า นครที่ทำด้วยเหล็ก ยาวโยชน์ ๑ กว้างโยชน์ ๑ สูงโยชน์ ๑
เต็มด้วยเมล็ดพันธุ์ผักกาด มีเมล็ดพันธุ์ผักกาดรวมกันเป็นกลุ่มก้อน
บุรุษพึงหยิบเอาเมล็ดพันธุ์ผักกาดเมล็ดหนึ่งๆ ออกจากนครนั้นโดยล่วงไปหนึ่งร้อยปีต่อเมล็ด
เมล็ดพันธุ์ผักกาดกองใหญ่นั้น พึงถึงความสิ้นไป หมดไป เพราะความพยายามนี้ ยังเร็วกว่าแล
ส่วนกัปหนึ่งยังไม่ถึงความสิ้นไป หมดไป กัปนานอย่างนี้แล


บรรดากัปที่นานอย่างนี้ พวกเธอท่องเที่ยวไปแล้วมิใช่หนึ่งกัป มิใช่ร้อยกัป มิใช่พันกัป มิใช่แสนกัป
ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่า สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ ฯลฯ
พอเพื่อจะหลุดพ้น ดังนี้ ฯ


จบสูตรที่ ๖


เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๖  บรรทัดที่ ๔๘๓๒ - ๔๘๔๙.  หน้าที่  ๒๐๓ - ๒๐๔.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=16&A=4832&Z=4849&pagebreak=0
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=16&i=431
ศึกษาพระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลี อักษรไทย ได้ที่ :-
[431-432] http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali.php?B=16&A=431&Z=432




☆☆☆☆☆☆☆☆☆


กปฺป
อ่านว่า กับ-ปะ

ภาษาไทยใช้ว่า “กัป” (กับ)
รูปสันสกฤตเป็น “กลฺป” (กัน-ลปะ, ล ลิง สะกด แล้วกลืนเสียง “ละ” หายลงในลำคอ)

มักพูดควบกัน เช่น ยาวนานชั่วกัปกัลป์ (--ชั่วกับ-กัน)


คำว่า “กปฺป” แปลตามรากศัพท์ว่า “กำหนด” แต่มีความหมายหลายอย่าง คือ
1- เหมาะสม, สมควร, ถูกต้อง, เหมาะเจาะ
2- ความเหมาะสม, เครื่องประกอบ, จุดสีดำเล็กๆ, ทำเลสนัย
3- คำสั่ง, คำสั่งสอน, กฎ, ข้อปฏิบัติ, มรรยาท
4- เวลาที่แน่นอน, เวลาที่กำหนดไว้



แนวคิดเรื่อง “กัป = เวลาที่กำหนดไว้” มีหลายมุมมอง

แต่ที่ควรทราบไว้เป็นหลักเมื่อพูดถึงคำว่า “กัป” ก็คือ กัปมี 2 อย่าง คือ
(1) “อายุกัป” กำหนดอายุของสิ่งมีชีวิตในห้วงเวลาหนึ่ง เช่น อายุคนในห้วงเวลานี้คือ 100 ปี (บวก-ลบ)
(2) “มหากัป” ช่วงเวลาที่ยาวนานนักหนาจากจุดเริ่มต้นจนถึงจุดสิ้นสุดของสกลจักรวาล

รายละเอียดกัป ๔ อย่าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

☆☆☆☆☆☆☆☆☆


สังสารวัฏ
อ่านว่า สัง-สา-ระ-วัด

ประกอบด้วย สังสาร + วัฏ

(๑) “สังสาร”
บาลีเป็น “สํสาร” (สัง-สา-ระ) รากศัพท์มาจาก สํ (พร้อมกัน) + สรฺ (ธาตุ = ไป, ถึง, บรรลุ) + ณ ปัจจัย, ลบ ณ, ทีฆะ (ยืดเสียง) อะ ที่ ส-(รฺ) เป็น อา (สรฺ > สาร)

: สํ + สรฺ + ณ = สํสรณ > สํสร > สํสาร แปลตามศัพท์ว่า “การท่องเที่ยวไปจากที่นี้ๆ ด้วยอำนาจกรรมกิเลส” หมายถึง :
(1) การเดินทาง, การโยกย้าย (faring on, transmigration)
(2) การเคลื่อนไป, การหมุนเวียน (moving on, circulation)

“สํสาร” ใช้ในภาษาไทยเป็น “สังสาร” แต่มักเพี้ยนเป็น “สงสาร” (สง-สาน)

พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ไทย-อังกฤษ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต แปล “สงสาร” เป็นอังกฤษตามความหมายเดิมในบาลีไว้ดังนี้ -
สงสาร (Saŋsāra, Saŋsāracakka): lit. faring on; the Round of Rebirth; the Round of Existence; the Wheel of Rebirth; the Wheel of Life; the Life Process; Rebirth process; the Process of Birth and Death.

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า -
(1) สงสาร ๑, สงสาร- : (คำนาม) การเวียนว่ายตายเกิด, การเวียนตายเวียนเกิด; โลก. (ป., ส. สํสาร).
(2) สงสาร ๒ : (คำกริยา) รู้สึกเห็นใจในความเดือดร้อนหรือความทุกข์ของผู้อื่น, รู้สึกห่วงใยด้วยความเมตตากรุณา, เช่น เห็นเด็ก ๆ อดอยากก็รู้สึกสงสาร เห็นเขาประสบอัคคีภัยแล้วสงสาร.


(๒) “วัฏ”
บาลีเป็น “วฏฺฏ” (วัด-ตะ) รากศัพท์มาจาก วฏฺฏ (ธาตุ = หมุน, วน) + อ ปัจจัย

: วฏฺฏ + อ = วฏฺฏ แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งที่กลม” “สิ่งที่หมุนเวียน” หมายถึง :
(1) รอบ, กลม, วงกลม (round, circular; circle)
(2) หมุนไป, วงรอบของความเป็นอยู่, วัฏสงสาร, วิวัฒน์ (rolling on, the round of existences, cycle of transmigrations, evolution)


สํสาร + วฏฺฏ = สํสารวฏฺฏ > สังสารวัฏ (วัฏ ตัด ฏ ออกตัวหนึ่งตามหลักนิยมของไทย) แปลตามศัพท์ว่า “วงกลมแห่งการท่องเที่ยว”

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า -
“สังสารวัฏ : (คำนาม) การเวียนว่ายตายเกิด, สงสารวัฏ หรือ วัฏสงสาร ก็ว่า. (ป. สํสารวฏฺฏ).”

พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต ขยายความไว้ดังนี้ -
(1) สังสารวัฏ : วังวนแห่งการเวียนเกิดเวียนตาย, การเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในโลกหรือในภพต่างๆ, โดยใจความ ก็ได้แก่ “สังสาระ” นั่นเอง.
(2) สังสาระ : การเที่ยวเร่ร่อนไปในภพ คือภาวะแห่งชีวิต ที่ถูกพัดพาให้ประสบสุขทุกข์ ขึ้นลง เป็นไปต่างๆ ตามกระแสแห่งอวิชชา ตัณหา และอุปาทาน, การว่ายวนอยู่ในกระแสแห่งกิเลส กรรม และวิบาก, การเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในโลกหรือในภพต่างๆ, ว่าโดยสภาวะ ก็คือ ความสืบทอดต่อเนื่องไปแห่งขันธ์ทั้งหลายนั่นเอง; นิยมพูดว่า สังสารวัฏ.


คำคม : ผู้ที่น่าสงสารก็คือผู้ที่ยังต้องเวียนว่ายอยู่ในสงสาร


ที่มา
บาลีวันละคำ (นาวาเอกทองย้อย แสงสินชัย)
https://www.facebook.com/hashtag/บาลีวันละคำ?source=feed_text&story_id=947374595356278&pnref=story

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่