
ที่นอนอุ่นๆ ของคุณยายโยชิโรทำให้ค่ำคืนที่ shirakawago ของหนูเล็กหลับสบายตลอดคืน รวดเดียวก็เช้าเลย
บรรยากาศยามเช้าที่ยังไม่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนค่อนข้างเงียบสงบ ไร้ผู้คน
บรรยากาศนี้ทำให้หนูเล็กอดรู้สึกไม่ได้ว่า นี่มัน Golden Week เหรอนี่ ไหงสงบนิ่งได้ขนาดนี้ สุดยอดอ่ะ

หรือเป็นเพราะว่าพวกเราวิ่งหนีกาลเวลากลับมาในอดีตกันแน่
ฝากการเดินทางในวันก่อนหน้านี้ ไว้ด้วยค่ะ
ตอนที่ 1 Japan Golden Week ไปก็ไป เอาไงเอากัน#1 (Kawaguchiko-Shibazakura)
http://pantip.com/topic/34282313
ตอนที่ 2 Japan Golden Week ไปก็ไป เอาไงเอากัน#2 (Drive to Karuizawa)
http://pantip.com/topic/34286017
ตอนที่ 3 Japan Golden Week ไปก็ไป เอาไงเอากัน#3 (สู่ Nagano ไป Zenkoji)
http://pantip.com/topic/34296887
ตอนที่ 4 Japan Golden Week ไปก็ไป เอาไงเอากัน#4 (Snow Monkey Park)
http://pantip.com/topic/34306512
ตอนที่ 5 Japan Golden Week ไปก็ไป เอาไงเอากัน#5 (Japan Alps - Snow Wall)
http://pantip.com/topic/34324694
ตอนที่ 6 Japan Golden Week ไปก็ไป เอาไงเอากัน#6 (Matsumoto Castle - Shirakawago)
http://pantip.com/topic/34327452

บ้านคุณยายโยชิโรในยามเช้า
เพื่อนร่วมทางทุกคนยังคงหลับสบาย หนูเล็กก็เลยออกเดินเล่นไปรอบๆ แต่เพียงลำพัง

หมู่บ้านชิราคาวาโกะเป็นหมู่บ้านชาวนาที่ตั้งอยู่ในหุบเขาตามลำน้ำ Shogawa
ทอดตามแนวสันเขาตั้งแต่เขตจังหวัด Gifu จนถึง Toyama
ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกตั้งแต่ปี ค.ศ.1995 เนื่องจากมีบ้านแบบกัสโช-สึคุริ (Gassho-Zukuri)
ชื่อนี้ได้มาจากคำว่า “กัสโช” ซึ่งแปลว่า พนมมือ ซึ่งสังเกตได้จากหลังคาของบ้านทุกหลังที่มีความชันถึง 60 องศา
คล้ายๆ กับมือสองข้างที่พนมเข้าหากัน เป็นเพราะเพื่อให้หิมะไหลได้ง่าย ป้องกันการทับถมของหิมะในยามที่ตกหนักๆ
ตัวบ้านจะมีความยาวราวๆ 18 เมตร กว้าง 10 เมตร
โครงสร้างของบ้านเขาบอกว่าไม่ได้ใช้ตะปูตอกแม้แต่ตัวเดียว อีกทั้งวัสดุต่างๆ ก็ทำมาจากธรรมชาติทั้งสิ้น
ก็ดูอย่างหลังคานั่นก็มาจากต้นหญ้าที่ปลูกไว้เพื่อใช้มุงหลังคา สามารถรองรับหิมะที่ตกอย่างหนักในช่วงฤดูหนาวได้เป็นอย่างดี

เมื่อวานนี้เราเข้ามาอีกด้านหนึ่งซึ่งเป็นทางด้านหลังสำหรับรถที่จะวิ่งเข้าหมู่บ้าน
แต่หากนักท่องเที่ยวทั่วไปเดินทางมาจะนั่งรถบัสมาจากเมือง Takayama
เมื่อหนูเล็กเดินอยู่ในหมู่บ้านแล้ว จึงเป็นการเดินย้อนศรกลับออกไปแทน

ดอกไม้สวยๆ ริมทางเดิน

โทริอิสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากด้านหน้า นัยว่าเพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้ายก่อนเข้าหมู่บ้าน ที่ปิดอยู่นั่นด้านในเป็นพระค่ะ

ยังมีซากุระให้ชมอยู่บ้าง

แม่น้ำโชกาวา
ยามเช้าแบบนี้ยังไม่มีรถบัสขนนักท่องเที่ยวมา มีแต่ชาวประมงที่มาตกปลาที่แม่น้ำกันสองสามคน
บรรยากาศภายนอกโล่งๆ แบบนี้ ทำให้สามารถเดินวนดูบริเวณต่างๆ ได้อย่างจุใจ ไม่ต้องมีใครติดมาในกล้อง

จุดบริการนักท่องเที่ยว ร้านค้า และพิพิธภัณฑ์บ้านแบบแบบกัสโช-สึคุริ

ร้านค้าต่างๆ ยังปิดอยู่

ทางเข้าพิพิธภัณฑ์บ้านแบบกัสโช-สึคุริ จะมีบ้านแบบต่างๆ ไว้ให้ชม

บรรยากาศโดยรอบ

เดินด้านนอกอย่างเงียบงันคนเดียวนานแล้ว ข้ามสะพานกลับไปเดินด้านในกันบ้าง

ถ้ามารถบัสเดินข้ามสะพานนี้เข้าไป

เขาบอกว่าการมาพักค้างคืนที่นี่ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ควรกระทำสักครั้ง เพื่อให้ได้สัมผัสบรรยากาศแบบบ้านชาวนา
มีที่พักจำนวนมากที่เปิดให้บริการแบบบ้านคุณยายโยชิโร แต่หากจะพักมากกว่าหนึ่งคืน เขาจะไม่แนะนำให้พักที่เดิม
ควรเปลี่ยนสถานที่เพื่อให้ได้บรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป มีทั้งราคาถูกและแพง มีบริการเสริมต่างๆ กัน
ตอนที่หนูเล็กจองที่พักผ่านทางศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
TEL: 05769-6-1013
Fax number: 05769-6-1716
E-mail: info-e@shirakawa-go.gr.jp
http://www.shirakawa-go.gr.jp
เขาจะให้ข้อมูลค่าใช้จ่ายเราดังนี้ค่ะ
budget per person: \8.500 to \10.500 (including tax) to stay at an inn, 2 traditional Japanese meals included
\12.000 and more (including tax) to stay at an hotel, 2 meals included
พร้อมกับให้ข้อมูลที่เราควรทราบในการเลือกที่พักที่เขามีหลากหลายแบบไว้ให้เลือก
A. Minshuku (a traditional Japanese farm house)
Budget per person/night: 8.500 yen to 11.000 yen
Bathroom in each room: no
Rooms are separated by: paper doors. No locks, no keys
Number of rooms: 3-5 rooms
Meals: Japanese
Hot spring: no
B. Ryokan (a traditional Japanese hotel)
Budget per person/night: 10.000 yen to 25.000 yen
Bathroom in each room: yes/no
Rooms are separated by: walls
Number of rooms: 5-17 rooms
Meals: Japanese
Hot spring: yes/no
C. Hotel (a western style hotel)
Budget per person/night: 11.000 ~
Bathroom in each room: yes/no
Rooms are separated by: walls
Number of rooms: 31 rooms
Meals: French
Hot spring: yes
เมื่ออ่านรูปแบบที่พักแต่ละแบบแล้ว ก็เลือกจาก list ของเขาแล้วแจ้งเขาไปได้เลยค่ะว่าต้องการพักที่ไหน
Accommodation information:
http://www.shirakawa-go.gr.jp/search/?m=1
โดยระบุชื่อที่พักไปได้เลยค่ะ

ในยามที่ไม่มีนักท่องเที่ยว หมู่บ้านชิราคาวาโกะยังคงเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่คงความสงบ และอบอุ่นราวกับว่าเรายังคงเดินอยู่ในยุคอดีต

บ้านแต่ละหลังต่างทำกิจกรรมภายในบ้านในยามนี้ มีเสียงหุงหาอาหาร มีควันจางๆ เบาๆ ลอยออกมาจากตัวบ้าน
มีเสียงพูดคุยสนทนาภายในครอบครัว บ้านแต่ละหลังมีแปลงนา แปลงผัก

มีวัด Myozenji วัดเล็กๆ ประจำหมู่บ้านสำหรับเป็นศูนย์กลางของชุมชน

การใกล้ชิดธรรมชาติแบบนี้ละที่คนเมืองอย่างพวกเราโหยหาและดิ้นรนที่จะมาสัมผัส

หนูเล็กเดินทอดน่องไปรอบๆ หมู่บ้านอย่างอิ่มเอมใจ

เผลอประเดี๋ยวเดียวได้เวลาเจ็ดโมงครึ่งซึ่งเป็นเวลานัดหมายกับคุณยายโยชิโรไว้ว่าจะเสิร์ฟอาหารเช้าให้เราแล้ว
หนูเล็กก็เลยเดินกลับ เกรงว่าสมาชิกจะรอกันอยู่
ไปถึงที่ห้องอาหาร คุณยายโยชิโรจัดเตรียมสำรับอาหารเช้าวางไว้ให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อาหารมื้อเช้าเป็นแบบไคเซกิเช่นเคย เมนูแตกต่างไปจากเมื่อคืนนี้แต่ก็รสชาติอร่อยเช่นเคย
ศิลปะการจัดอาหารแบบไคเซกิแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดของชาวญี่ปุ่นเสียจริงๆ

หลังจากรับประทานอาหารเช้าแบบละเมียดละไมเอมอิ่มไปด้วยความสุข พวกเราก็ได้เวลาเก็บข้าวของอำลาคุณยายโยชิโรกันแล้ว
แม้ว่าอยากจะอ้อยอิ่งใช้ชิวิตแบบสโลว์ไลฟ์อยู่ที่นี่กันแต่ก็ทำไม่ได้ แผนการเดินทางของเรากำหนดไว้แล้ว
อีกทั้งเมฆฝนที่ตั้งเค้ามาตั้งแต่เมื่อวานดูท่าวันนี้จะเอาจริง ยังไม่รู้เลยว่าการเดินทางวันนี้จะไปผจญสายฝนกันที่ตรงไหน
เมื่ออำลาคุณยายโยชิโรพร้อมรับของที่ระลึกจากคุณยายเป็นส่วนลดค่าที่พักเล็กน้อย
และกระดาษทิชชูหนึ่งกล่อง?

เมื่อออกจากที่พัก เราก็ออกเดินทางไปยังจุดชมวิวบนเขาที่สามารถมองเห็นหมู่บ้าน Shirakawago ได้ทั้งหมู่บ้าน
ถ้าใครเคยเห็นภาพบ้านหลังเล็กหลังน้อยที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะหนาๆ เหมือนบ้านตุ๊กตา ก็คงพอจะนึกออก

ผ่านร้านค้าแบบนี้ก่อน

แวะซื้อของที่ระลึกกันได้เลย
ออกเดินทางจากหมู่บ้านย้อนนไปที่ทางแยกจะมีทางวนขึ้นเขาไปไม่ไกลนัก

ดูตามป้ายนี้ไปค่ะ

เพียงครู่เดียวเราก็มาถึงจุดชมวิว Shiroyama Viewpoint

เป็นหมู่บ้านในหุบเขาโดยแท้

ภาพบ้านหลังเล็กๆ เบื้องล่างที่ตรึงให้หนูเล็กหยุดนิ่งมองอยู่ชั่วขณะราวกับว่าจะหยุดหายใจ

ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งภาพที่เราเคยเห็นตามโปสเตอร์ เว็บไซต์หรือวารสารท่องเที่ยวต่างๆ จะปรากฏอยู่ตรงหน้าแค่ตาเห็น

ช่างงดงาม น่ารัก เต็มไปด้วยชีวิตชีวาอย่างที่สุด

หนูเล็กไม่อยากเชื่อว่าหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้จะรักษาเอกลักษณ์ให้คงอยู่เช่นนี้มาได้เป็นระยะเวลาเป็นร้อยๆ ปี
ได้แต่คิดและภาวนาให้สิ่งเหล่านี้คงอยู่ตลอดไปตราบนานเท่านาน
แม้ว่าภาพที่มองเห็นก็มีเพียงภาพเดิม แต่ดูเหมือนพวกเราจะคิดตรงกันที่อยากจะหยุดเวลา ณ เวลานี้ไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
แม้จะเพียงไม่กี่นาทีข้างหน้านี้ก็ตาม

เป้าหมายข้างหน้ายังรออยู่ และเมฆฝนก็ตั้งเค้ารอเราอยู่บนเส้นทางด้วยเช่นกัน
ดังนั้น เมื่อลงจากเขาเราจึงตั้ง GPS ให้นำทางเราไปยัง Takayama เมืองเก่าอีกเมืองที่เขาว่านักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดการไปเยือน

ลงเขากันก่อน

ถึงแยกนี้แล้วเลี้ยวขวาออกไป ถ้าตรงไปคือเข้าหมู่บ้านเหมือนเดิม

ออกเดินทางกันต่อค่ะ

[CR] Japan Golden Week ไปก็ไป เอาไงเอากัน#7 (Silent day in Shirakawago -Takayama)
ที่นอนอุ่นๆ ของคุณยายโยชิโรทำให้ค่ำคืนที่ shirakawago ของหนูเล็กหลับสบายตลอดคืน รวดเดียวก็เช้าเลย
บรรยากาศยามเช้าที่ยังไม่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนค่อนข้างเงียบสงบ ไร้ผู้คน
บรรยากาศนี้ทำให้หนูเล็กอดรู้สึกไม่ได้ว่า นี่มัน Golden Week เหรอนี่ ไหงสงบนิ่งได้ขนาดนี้ สุดยอดอ่ะ
หรือเป็นเพราะว่าพวกเราวิ่งหนีกาลเวลากลับมาในอดีตกันแน่
ฝากการเดินทางในวันก่อนหน้านี้ ไว้ด้วยค่ะ
ตอนที่ 1 Japan Golden Week ไปก็ไป เอาไงเอากัน#1 (Kawaguchiko-Shibazakura)
http://pantip.com/topic/34282313
ตอนที่ 2 Japan Golden Week ไปก็ไป เอาไงเอากัน#2 (Drive to Karuizawa)
http://pantip.com/topic/34286017
ตอนที่ 3 Japan Golden Week ไปก็ไป เอาไงเอากัน#3 (สู่ Nagano ไป Zenkoji)
http://pantip.com/topic/34296887
ตอนที่ 4 Japan Golden Week ไปก็ไป เอาไงเอากัน#4 (Snow Monkey Park)
http://pantip.com/topic/34306512
ตอนที่ 5 Japan Golden Week ไปก็ไป เอาไงเอากัน#5 (Japan Alps - Snow Wall)
http://pantip.com/topic/34324694
ตอนที่ 6 Japan Golden Week ไปก็ไป เอาไงเอากัน#6 (Matsumoto Castle - Shirakawago)
http://pantip.com/topic/34327452
บ้านคุณยายโยชิโรในยามเช้า
เพื่อนร่วมทางทุกคนยังคงหลับสบาย หนูเล็กก็เลยออกเดินเล่นไปรอบๆ แต่เพียงลำพัง
หมู่บ้านชิราคาวาโกะเป็นหมู่บ้านชาวนาที่ตั้งอยู่ในหุบเขาตามลำน้ำ Shogawa
ทอดตามแนวสันเขาตั้งแต่เขตจังหวัด Gifu จนถึง Toyama
ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกตั้งแต่ปี ค.ศ.1995 เนื่องจากมีบ้านแบบกัสโช-สึคุริ (Gassho-Zukuri)
ชื่อนี้ได้มาจากคำว่า “กัสโช” ซึ่งแปลว่า พนมมือ ซึ่งสังเกตได้จากหลังคาของบ้านทุกหลังที่มีความชันถึง 60 องศา
คล้ายๆ กับมือสองข้างที่พนมเข้าหากัน เป็นเพราะเพื่อให้หิมะไหลได้ง่าย ป้องกันการทับถมของหิมะในยามที่ตกหนักๆ
ตัวบ้านจะมีความยาวราวๆ 18 เมตร กว้าง 10 เมตร
โครงสร้างของบ้านเขาบอกว่าไม่ได้ใช้ตะปูตอกแม้แต่ตัวเดียว อีกทั้งวัสดุต่างๆ ก็ทำมาจากธรรมชาติทั้งสิ้น
ก็ดูอย่างหลังคานั่นก็มาจากต้นหญ้าที่ปลูกไว้เพื่อใช้มุงหลังคา สามารถรองรับหิมะที่ตกอย่างหนักในช่วงฤดูหนาวได้เป็นอย่างดี
เมื่อวานนี้เราเข้ามาอีกด้านหนึ่งซึ่งเป็นทางด้านหลังสำหรับรถที่จะวิ่งเข้าหมู่บ้าน
แต่หากนักท่องเที่ยวทั่วไปเดินทางมาจะนั่งรถบัสมาจากเมือง Takayama
เมื่อหนูเล็กเดินอยู่ในหมู่บ้านแล้ว จึงเป็นการเดินย้อนศรกลับออกไปแทน
ดอกไม้สวยๆ ริมทางเดิน
โทริอิสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากด้านหน้า นัยว่าเพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้ายก่อนเข้าหมู่บ้าน ที่ปิดอยู่นั่นด้านในเป็นพระค่ะ
ยังมีซากุระให้ชมอยู่บ้าง
แม่น้ำโชกาวา
ยามเช้าแบบนี้ยังไม่มีรถบัสขนนักท่องเที่ยวมา มีแต่ชาวประมงที่มาตกปลาที่แม่น้ำกันสองสามคน
บรรยากาศภายนอกโล่งๆ แบบนี้ ทำให้สามารถเดินวนดูบริเวณต่างๆ ได้อย่างจุใจ ไม่ต้องมีใครติดมาในกล้อง
จุดบริการนักท่องเที่ยว ร้านค้า และพิพิธภัณฑ์บ้านแบบแบบกัสโช-สึคุริ
ร้านค้าต่างๆ ยังปิดอยู่
ทางเข้าพิพิธภัณฑ์บ้านแบบกัสโช-สึคุริ จะมีบ้านแบบต่างๆ ไว้ให้ชม
บรรยากาศโดยรอบ
เดินด้านนอกอย่างเงียบงันคนเดียวนานแล้ว ข้ามสะพานกลับไปเดินด้านในกันบ้าง
ถ้ามารถบัสเดินข้ามสะพานนี้เข้าไป
เขาบอกว่าการมาพักค้างคืนที่นี่ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ควรกระทำสักครั้ง เพื่อให้ได้สัมผัสบรรยากาศแบบบ้านชาวนา
มีที่พักจำนวนมากที่เปิดให้บริการแบบบ้านคุณยายโยชิโร แต่หากจะพักมากกว่าหนึ่งคืน เขาจะไม่แนะนำให้พักที่เดิม
ควรเปลี่ยนสถานที่เพื่อให้ได้บรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป มีทั้งราคาถูกและแพง มีบริการเสริมต่างๆ กัน
ตอนที่หนูเล็กจองที่พักผ่านทางศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
TEL: 05769-6-1013
Fax number: 05769-6-1716
E-mail: info-e@shirakawa-go.gr.jp
http://www.shirakawa-go.gr.jp
เขาจะให้ข้อมูลค่าใช้จ่ายเราดังนี้ค่ะ
budget per person: \8.500 to \10.500 (including tax) to stay at an inn, 2 traditional Japanese meals included
\12.000 and more (including tax) to stay at an hotel, 2 meals included
พร้อมกับให้ข้อมูลที่เราควรทราบในการเลือกที่พักที่เขามีหลากหลายแบบไว้ให้เลือก
A. Minshuku (a traditional Japanese farm house)
Budget per person/night: 8.500 yen to 11.000 yen
Bathroom in each room: no
Rooms are separated by: paper doors. No locks, no keys
Number of rooms: 3-5 rooms
Meals: Japanese
Hot spring: no
B. Ryokan (a traditional Japanese hotel)
Budget per person/night: 10.000 yen to 25.000 yen
Bathroom in each room: yes/no
Rooms are separated by: walls
Number of rooms: 5-17 rooms
Meals: Japanese
Hot spring: yes/no
C. Hotel (a western style hotel)
Budget per person/night: 11.000 ~
Bathroom in each room: yes/no
Rooms are separated by: walls
Number of rooms: 31 rooms
Meals: French
Hot spring: yes
เมื่ออ่านรูปแบบที่พักแต่ละแบบแล้ว ก็เลือกจาก list ของเขาแล้วแจ้งเขาไปได้เลยค่ะว่าต้องการพักที่ไหน
Accommodation information: http://www.shirakawa-go.gr.jp/search/?m=1
โดยระบุชื่อที่พักไปได้เลยค่ะ
ในยามที่ไม่มีนักท่องเที่ยว หมู่บ้านชิราคาวาโกะยังคงเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่คงความสงบ และอบอุ่นราวกับว่าเรายังคงเดินอยู่ในยุคอดีต
บ้านแต่ละหลังต่างทำกิจกรรมภายในบ้านในยามนี้ มีเสียงหุงหาอาหาร มีควันจางๆ เบาๆ ลอยออกมาจากตัวบ้าน
มีเสียงพูดคุยสนทนาภายในครอบครัว บ้านแต่ละหลังมีแปลงนา แปลงผัก
มีวัด Myozenji วัดเล็กๆ ประจำหมู่บ้านสำหรับเป็นศูนย์กลางของชุมชน
การใกล้ชิดธรรมชาติแบบนี้ละที่คนเมืองอย่างพวกเราโหยหาและดิ้นรนที่จะมาสัมผัส
หนูเล็กเดินทอดน่องไปรอบๆ หมู่บ้านอย่างอิ่มเอมใจ
เผลอประเดี๋ยวเดียวได้เวลาเจ็ดโมงครึ่งซึ่งเป็นเวลานัดหมายกับคุณยายโยชิโรไว้ว่าจะเสิร์ฟอาหารเช้าให้เราแล้ว
หนูเล็กก็เลยเดินกลับ เกรงว่าสมาชิกจะรอกันอยู่
ไปถึงที่ห้องอาหาร คุณยายโยชิโรจัดเตรียมสำรับอาหารเช้าวางไว้ให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อาหารมื้อเช้าเป็นแบบไคเซกิเช่นเคย เมนูแตกต่างไปจากเมื่อคืนนี้แต่ก็รสชาติอร่อยเช่นเคย
ศิลปะการจัดอาหารแบบไคเซกิแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดของชาวญี่ปุ่นเสียจริงๆ
หลังจากรับประทานอาหารเช้าแบบละเมียดละไมเอมอิ่มไปด้วยความสุข พวกเราก็ได้เวลาเก็บข้าวของอำลาคุณยายโยชิโรกันแล้ว
แม้ว่าอยากจะอ้อยอิ่งใช้ชิวิตแบบสโลว์ไลฟ์อยู่ที่นี่กันแต่ก็ทำไม่ได้ แผนการเดินทางของเรากำหนดไว้แล้ว
อีกทั้งเมฆฝนที่ตั้งเค้ามาตั้งแต่เมื่อวานดูท่าวันนี้จะเอาจริง ยังไม่รู้เลยว่าการเดินทางวันนี้จะไปผจญสายฝนกันที่ตรงไหน
เมื่ออำลาคุณยายโยชิโรพร้อมรับของที่ระลึกจากคุณยายเป็นส่วนลดค่าที่พักเล็กน้อย
และกระดาษทิชชูหนึ่งกล่อง?
เมื่อออกจากที่พัก เราก็ออกเดินทางไปยังจุดชมวิวบนเขาที่สามารถมองเห็นหมู่บ้าน Shirakawago ได้ทั้งหมู่บ้าน
ถ้าใครเคยเห็นภาพบ้านหลังเล็กหลังน้อยที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะหนาๆ เหมือนบ้านตุ๊กตา ก็คงพอจะนึกออก
ผ่านร้านค้าแบบนี้ก่อน
แวะซื้อของที่ระลึกกันได้เลย
ออกเดินทางจากหมู่บ้านย้อนนไปที่ทางแยกจะมีทางวนขึ้นเขาไปไม่ไกลนัก
ดูตามป้ายนี้ไปค่ะ
เพียงครู่เดียวเราก็มาถึงจุดชมวิว Shiroyama Viewpoint
เป็นหมู่บ้านในหุบเขาโดยแท้
ภาพบ้านหลังเล็กๆ เบื้องล่างที่ตรึงให้หนูเล็กหยุดนิ่งมองอยู่ชั่วขณะราวกับว่าจะหยุดหายใจ
ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งภาพที่เราเคยเห็นตามโปสเตอร์ เว็บไซต์หรือวารสารท่องเที่ยวต่างๆ จะปรากฏอยู่ตรงหน้าแค่ตาเห็น
ช่างงดงาม น่ารัก เต็มไปด้วยชีวิตชีวาอย่างที่สุด
หนูเล็กไม่อยากเชื่อว่าหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้จะรักษาเอกลักษณ์ให้คงอยู่เช่นนี้มาได้เป็นระยะเวลาเป็นร้อยๆ ปี
ได้แต่คิดและภาวนาให้สิ่งเหล่านี้คงอยู่ตลอดไปตราบนานเท่านาน
แม้ว่าภาพที่มองเห็นก็มีเพียงภาพเดิม แต่ดูเหมือนพวกเราจะคิดตรงกันที่อยากจะหยุดเวลา ณ เวลานี้ไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
แม้จะเพียงไม่กี่นาทีข้างหน้านี้ก็ตาม
เป้าหมายข้างหน้ายังรออยู่ และเมฆฝนก็ตั้งเค้ารอเราอยู่บนเส้นทางด้วยเช่นกัน
ดังนั้น เมื่อลงจากเขาเราจึงตั้ง GPS ให้นำทางเราไปยัง Takayama เมืองเก่าอีกเมืองที่เขาว่านักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดการไปเยือน
ลงเขากันก่อน
ถึงแยกนี้แล้วเลี้ยวขวาออกไป ถ้าตรงไปคือเข้าหมู่บ้านเหมือนเดิม
ออกเดินทางกันต่อค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น