[CR] Japan Golden Week ไปก็ไป เอาไงเอากัน #1 (Kawaguchiko - Shibazakura)


คิดอยู่นานที่จะเขียนรีวิวเรื่องนี้ เพราะเรื่องราวเกี่ยวกับญี่ปุ่นมีคนรีวิวไว้มากมาย แต่ด้วยอยากแชร์ประสบการณ์ก็เลยตัดสินใจลองเอามารีวิวดู
เผื่อว่าข้อมูลบางอย่างอาจเป็นประโยชน์บ้างหรือคนที่อยากไปจะได้เห็นภาพชัดขึ้นมาบ้าง
รีวิวนี้เป็นการปรับปรุงจากที่เขียนบล็อกไว้ที่แห่งหนึ่งไม่นานนี้ โดยเพิ่มรายละเอียดบางอย่างในการเดินทางแทรกเอาไว้
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับใครบ้างก็เท่านั้นค่ะ พาพันยิ้ม

สมัยก่อนการจะเดินทางไปต่างประเทศซักครั้ง หนูเล็กกับพี่ใหญ่จะทำการบ้านกันอย่างหนักก่อนจะมาตัดสินใจกันว่า เราจะไปเที่ยวไหนกันดี
แต่ในยุคที่ตั๋วเครื่องบินถูกเป็นบ้าเป็นหลัง มีโปรโมชั่นแข่งกันออกมาไม่เว้นแต่ละวัน การออกเดินทางสู่โลกกว้างของเราสองคนจึงเปลี่ยนไป
กลับกลายเป็นว่าเราสองคนให้ตั๋วเป็นตัวกำหนดการเดินทางในครั้งนั้นว่า หวยจะไปออกที่ประเทศไหน และเราจะไปเที่ยวอะไรที่ประเทศนั้นในช่วงนั้น
ครั้งนี้ก็เช่นกัน เป็นเพราะในช่วงที่ผ่านมาความสัมพันธ์ระหว่างไทยและญี่ปุ่นเป็นไปอย่างดีถึงดีมากหรือจะดีมากที่สุดก็ไม่รู้
ตั๋วโปรไปประเทศญี่ปุ่นจากหลายสายการบินพากันกระหน่ำลดราคาจนทำให้เราสองคนอดหวั่นไหวไม่ได้
ที่สำคัญเราสองคนเป็นติ่งแอร์เอเชีย ไม่ได้เลิฟอะไรขนาดนั้นโปรดอย่าเข้าใจผิด
แต่เพราะเราสองคนเน้นตั๋วราคาย่อมเยาและเมื่อมีโปรออกมาครั้งใดก็ไม่เคยเลยที่เราจะพลาดหวัง
ทุกๆ ห้าทุ่มของคืนนั้นได้ตั๋วมาไว้ในมือให้ได้มีแผนเดินทางใหม่ๆ กันได้ตลอด
และเมื่อมีโปรบินตรงญี่ปุ่นกับไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ที่เราเคยใช้บริการแล้วออกมายั่วซ้ำอีกครั้ง
พี่ใหญ่กับหนูเล็กก็ไม่รีรอ สุดท้ายแล้วก็ได้ตั๋วไปญี่ปุ่นมาครองด้วยความภาคภูมิใจอีกครั้งหนึ่ง
พาพันดี๊ด๊า
แต่หลังจากกดจองตั๋ว กดจ่ายเงินด้วยความสะใจที่ได้ตั๋วถูกไปได้เมื่อตอนห้าทุ่ม
รุ่งเช้าก็เริ่มกุมขมับ จะอะไรกันล่ะคะ ก็ช่วงที่เราช่วยกันกดจองตั๋วด้วยรู้สึกว่าเรามันเจ๋ง มันสุดยอดนั้นน่ะ
เป็นช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยว นักเดินทางตัวยง กูรูนักเที่ยวญี่ปุ่นทั้งหลายเตือนนักเตือนหนาว่า
ถ้าเลี่ยงได้จงเลี่ยงเป็นดีที่สุดของแจ้เลย เพราะมันเป็นช่วง Japan Golden Week
เม่าตกใจ
นั่นคือ ช่วงวันหยุดยาวของคนญี่ปุ่นเพราะมีวันสำคัญหลายวันที่คนญี่ปุ่นจะหยุดกันทั้งประเทศเพื่อออกเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อน
นั่นหมายถึงว่าเราจะไปแย่งกิน แย่งเที่ยวกับคนญี่ปุ่น ถ้าใครนึกภาพไม่ออกก็แนวๆ แย่งกิน แย่งเที่ยวช่วงสงกรานต์บ้านเราดีๆ นี่เอง
เพราะสถานที่ท่องเที่ยวคนจะเยอะ ร้านอาหารจะรอคิวนาน แค่คิดก็เพลียตั้งแต่ยังไม่เริ่มเดินทาง
แต่เอาเถอะ the show must go on ทริปจองข้ามปีทริปนี้ต้องบังเกิดจนได้ ชะตาฟ้ากำหนดแล้ว
ไปก็ไป เอาไงเอากัน...พาพันไฟท์ติ้ง
ก็เพราะใครๆ ก็บอกว่า อย่าไปๆๆๆ เพราะที่พักจะแพง จะเต็ม จะหายาก จะ....บลาๆๆๆๆ หนูเล็กกับพี่ใหญ่เลยเป็นประสาทกันทั้งคู่
จะไปเดือนเมษายน วางแผนเดินทางตั้งแต่เดือนมกราคม เพราะกลัวไปทุกสิ่ง ถือได้ว่าเป็นการทำการบ้านที่เร็วกว่าสมัยที่ต้องขอวีซ่าไปญี่ปุ่นด้วยซ้ำ
พาพันขยัน
แต่แล้วหลังจากทำการบ้านอย่างหนัก ความคิดเกี่ยวกับ Golden Week ของหนูเล็กเริ่มเปลี่ยนไป
มีหลายสิ่งที่ทำให้หนูเล็กรู้สึกว่า มันเป็นสัปดาห์ทองของการเที่ยวญี่ปุ่นอย่างแท้จริง ช่างดีเหลือเกินที่เราไปในช่วงเวลานี้
เพราะอะไร ลองตามไปเที่ยวกัน

เพราะสมาชิกในการเดินทางมี 4 คน การเช่ารถจึงยังคงเป็นวิธีการที่หนูเล็กและพี่ใหญ่เลือกใช้บริการเหมือนทุกทริปก่อนหน้านี้
เพราะแม้ว่าการเดินทางด้วยรถไฟจะตรงเวลาและแสนสะดวกอย่างไรในญี่ปุ่น แต่การได้แวะตามรายทาง ตามเมืองเล็กเมืองน้อยยังเป็นสีสัน
ที่เราสองคนชื่นชอบเป็นที่สุด และเมื่อคำนวณค่าใช้จ่ายด้วยการเดินทางโดยรถไฟของแต่ละคนเมื่อเทียบกับค่าเช่ารถแล้วหารสี่มันคุ้มกว่ามาก
การเลือกเช่ารถจึงเป็นคำตอบสุดท้าย หรือจริงๆ แล้วอาจเป็นคำตอบเดียวตั้งแต่แรกเสียด้วยซ้ำ
เคยอ่านเจอที่เขาบอกไว้ประมาณว่า
“หากคุณอยากเป็นนักท่องเที่ยว คุณก็ไปแบบที่คนอื่นไป แต่ถ้าคุณอยากเป็นนักเดินทาง ก็ต้องไปในแบบของคุณ”

บริษัทรถเช่าที่เลือกใช้ครั้งนี้คือ Nippon Rent A Car www.nipponrentacar.co.jp/english/
สาเหตุก็เพราะเพื่อนของพี่ใหญ่ที่พักอาศัยอยู่ที่ญี่ปุ่นเตือนมาว่า ถ้าเลี่ยงได้อย่าพยายามขับผ่านโตเกียวเชียวนะ เพราะกว่าจะออกมาได้
อาจปวดกระโหลกและแผนการเดินทางอาจคลาดเคลื่อน โอเครๆ เชื่อตามนั้น เพราะหนูเล็กเป็นโรคแพ้เมืองใหญ่ ขับเข้าไปทีไร หลงทุกที
ต่อให้มี GPS ก็เถอะ เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าสำนักงานของ Nippon Rent A Car อยู่ใกล้สถานีรถไฟ Kawaguchiko อันแสนสะดวก
และเมื่อให้เขาเสนอราคามาสำหรับแผนของการใช้รถ 8 วัน ก็เป็นราคาในจุดที่เรายอมรับได้ นอกจากนี้เรามีแผนจะแวะไปทักทาย
"Fuji-San" สัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นให้ได้ หลังจากเจออากาศปิดไม่ได้เห็นฟูจิซังอย่างเต็มตาเสียที แม้จะไปญี่ปุ่นมาหลายรอบก็ตาม
และที่สำคัญงาน Shibazakura เพิ่งเปิดตัวได้เพียงสัปดาห์เดียวเท่านั้นเอง

ก่อนอื่นคงต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การเดินทางของเราเน้นความประหยัดเป็นหลักในทุกๆ การเดินทาง
เราจะยอมจ่ายเฉพาะสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น ดังนั้น การนั่งรถไฟ รถบัส หรือการขับรถก็จะเน้นความประหยัดเป็นสำคัญ
Shinkansen หรือ JR Pass หรือการใช้บริการทางด่วนนั้น ไม่ใช่วิถีของพวกเรา

การเดินทางแบบจำใจไปในช่วง Golden Week เริ่มต้นขึ้นกลางดึกคืนหนึ่งของปลายเดือนเมษายน ไปถึงสนามบินนาริตะแปดโมงไม่มีเลท

วันฟ้าใสที่สนามบินนาริตะ

อาหารเช้ามื้อแรก
จากสนามบินนาริตะหนูเล็กดีไซน์วิธีการเดินทางแบบประหยัดและต่อขบวนให้น้อยที่สุดด้วยวิธีการที่อาจไม่มีใครเหมือนและไม่สงวนลิขสิทธิ์
จากโจทย์กำหนดไว้ว่าเราจะไปที่สถานี Shinjuku เพื่อต่อรถบัส เรามีกระเป๋าเดินทางจึงไม่ควรต่อรถหลายต่อ และประเด็นสำคัญคือค่าใช้จ่ายในการ
เดินทางต้องถูกที่สุด ดังนั้น หนูเล็กจึงเลือกที่จะใช้บริการรถไฟ Keisei Main Line แต่ไม่ไปลงยังปลายทางคือสถานี Ueno เพราะหากไปที่นั่นจะต้องไปต่ออีก 2 สายซึ่งยุ่งยาก

ภายในรถไฟสาย Keisei แบบ Ordinary
เลือกไปลงยังสถานี Motoyawata (KS16) ค่าโดยสาร 840 เยน
จากสถานี Motoyawata จะมีป้ายบอกทางให้เราสามารถเปลี่ยนไปใช้รถไฟใต้ดินสาย Toei Shinjuku Line สามารถเดินต่อไปได้โดยสะดวก

ทางเดินภายในสถานี Yawata

ภายในสถานีรถไฟใต้ดินสาย Toei Shinjuku Line
ซื้อตั๋วในราคา 360 เยน ที่นี่เป็นสถานีต้นทางนั่งได้สบาย กระเป๋าเดินทางก็เอาขึ้นลงได้สะดวก เพราะเราจะไปถึงสุดทางคือสถานี Shinjuku
เสียค่าเดินทางรวมเพียงแค่ 1,200 เยน ใช้เวลาเดินทางราวชั่วโมงกว่า ไม่ถือว่าช้าเกินไป

รถว่างเพราะเป็นสถานีต้นทางไปยังสถานีชินจูกุ
เมื่อถึงสถานี Shijuku หาทางออก West Exit เพื่อไปยังสถานีรถ Keio Highway Bus ซึ่งจะพาเราไปยัง Kawaguchiko

เดินไปยัง West Exit

สถานี Keio Highway Bus
ก่อนที่จะเดินทางมาเราสามารถจองตั๋วออนไลน์มาก่อนได้เลย เมื่อมาถึงแค่เอาใบจองที่พิมพ์ไว้มายื่นที่เคาน์เตอร์ พนักงานก็จะแจ้งราคาค่าใช้จ่าย
ให้ตั๋วและแจ้งให้ทราบว่าเราต้องไปรอที่ท่ารถหมายเลขที่เท่าใด เพราะนอกจากไป Kawaguchiko แล้วเขายังมีปลายทางที่อื่นด้วย

รถแต่ละเที่ยวจอดรอตรงจุดนี้

มีตู้น้ำนานาชนิดให้เลือกซื้อก่อนเริ่มเดินทาง
พอได้เวลาเขาก็จะประกาศเรียกขึ้นรถ ผู้โดยสารทุกคนจะมีที่นั่งของตัวเอง พนักงานจะเช็คหมายเลขก่อนขึ้นรถและบริการเอากระเป๋าใส่ใต้ท้องรถให้
เราก็แค่ขึ้นไปนั่งประจำทีให้เรียบร้อยก็พอ หนูเล็กกลัวพลาดใช้ชื่อสมาชิกจองมา 3 ช่วงเวลา
เผื่อเราเกิดขลุกขลักอะไร พลาดเที่ยวแรก ก็ยังมีลำดับสอง ลำดับสาม ที่จองเอาไว้อีก
เมื่อรถออกพนักงานจะแจ้งเตือนให้เรารัดสายเข็มขัดเพื่อความปลอดภัย ความสะดวกสบายของรถไฮเวย์บัส ก็คือ
เขาจะมีที่พักขา มีโต๊ะเล็กๆ ด้านหน้าเก้าอี้ สามารถรับประทานอาหารบนรถได้เพราะการเดินทางใช้เวลาราวๆ ชั่วโมงสีสิบห้านาที
และยังมีปลั๊กส่วนตัวให้สามารถเสียบชาร์ตโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ตได้ด้วย

ภายในรถไฮเวย์บัส

ความสะดวกสบายส่วนตัว

มีปลั๊กส่วนตัวให้ด้วย
ส่วนด้านหลังสุดมีห้องน้ำไว้บริการซึ่งสามารถสังเกตว่าห้องน้ำว่างหรือไม่ ได้จากด้านหน้ารถซึ่งเมื่อมีคนเข้าใช้ก็จะเป็นสีแดง เมื่อว่างก็จะเป็นสีเขียว
ส่วนจอโทรทัศน์ในรถก็จะแจ้งป้ายถัดไปที่จะถึง เสียแต่ว่ามีแต่ภาษาญี่ปุ่นเราก็เลยไม่ได้ประโยชน์เท่าไรนักต้องอาศัยฟังจากเสียงพูดในรถเอา
รถบัสค่อยๆ วิ่งหนีจากสภาพรถติดจอแจของกรุงโตเกียวขึ้นทางด่วนออกไปนอกเมือง รถเริ่มวิ่งได้ฉลุยขึ้น จากเดิมที่วิวเป็นตึกเต็มสองฟากฝั่ง
วิวจากหน้าต่างตลอดเส้นทางค่อยๆ เปลี่ยนไป แลเห็นถึงความสมบูรณ์ทางธรรมชาติและวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นที่ยังคงให้ความสำคัญกับภาคเกษตรกรรม

วิวนอกหน้าต่าง

หนูเล็กนั่งดูวิวทิวทัศน์ไปอย่างเพลิดเพลินในขณะที่ผู้โดยสารในรถค่อยๆ ทยอยหลับไปกับการเดินทางไกลไม่เว้นแม้แต่พี่ใหญ่
แต่สุดท้ายแล้วพี่ใหญ่ก็ต้องถูกหนูเล็กปลุกให้ตื่น
เพราะสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าเป็นภูเขาขนาดมหึมาที่ชื่อว่า “ฟูจิ” ที่ ณ วันนี้ยังมีหิมะปกคลุมเป็นหมวกใบสวยอยู่

เสียดายแต่ว่าวันนี้ฟ้าไม่ใสเท่าไรนัก ฟูจิจึงอยู่ภายใต้หมอกขมุกขมัวที่เมื่อมองแล้วให้อารมณ์เหงาๆ เอาเรื่องเหมือนกัน
เส้นทางที่รถบัสวิ่งไปจากนี้จึงมีฟูจิอยู่ในสายตาของเราตลอดจนไปถึงที่หมายคือสถานีรถไฟ Kawaguchiko

ถึงที่หมายแล้ว สถานีรถไฟ Kawaguchiko
วันนี้เราจองที่พักไว้ที่ Kawaguchiko Station Inn ซึ่งอยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟ เพื่อความสะดวกในการเดินทางในวันพรุ่งนี้

วิวงามๆ จาก Kawaguchiko Station Inn
เมื่อดูนาฬิกาอีกเพียง 15 นาทีเราสามารถเช็คอินเข้าที่พักที่ Kawaguchiko Station Inn ได้แล้ว จึงลองไปติดต่อเผื่อว่าสามารถเข้าที่พักได้เลย
เราจะได้เข้าไปพักผ่อนกันหลังการเดินทางอันยาวนาน ปรากฏว่าที่พักพร้อมให้เราเข้าพักได้แล้ว พวกเราจึงได้มีโอกาสเข้าไปเก็บสัมภาระกัน

นอนแบบเรียวกัง ในคืนแรก
ชื่อสินค้า:   ประเทศญี่ปุ่น
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่