[CR] Japan Golden Week ไปก็ไป เอาไงเอากัน#3 (สู่ Nagano- ไป Zenkoji)


ความเดิมที่ผ่านมา พี่ใหญ่กับหนูเล็ก ออกเดินทางท่องเที่ยวแบบจำใจ เพราะพลาดที่จองตั๋วโปรเที่ยวญี่ปุ่นได้ในช่วง Japan Golden Week
ช่วงเวลาที่จิ้งจกไม่ได้ทัก แต่กูรูญี่ปุ่นทุกคนทักว่า อย่าไปเลย ญี่ปุ่น คนจะเยอะ รถจะแยะ รถจะติด ของจะแพง
แต่ทำไงได้ เงินทองเป็นของหายาก จองตั๋วโปรได้แล้วก็ต้องไป เอาไงเอากัน
พาพันไฟท์ติ้ง
ถ้าใครยังไม่ได้อ่านที่มาที่ไป หรืออยากย้อนรอยการผจญภัย ย้อนไปอ่านได้ค่ะ
Japan Golden Week ไปก็ไป เอาไงเอากัน#1 (Kawaguchiko-Shibazakura)
http://pantip.com/topic/34282313
Japan Golden Week ไปก็ไป เอาไงเอากัน#2 (Drive to Karuizawa)
http://pantip.com/topic/34286017
ไปกันต่อเลยดีกว่า

เป้าหมายในการเดินทางของวันนี้ใช้ระยะทางค่อนข้างใกล้ประมาณร้อยกิโลเมตรได้พวกเราจึงไม่ได้รีบร้อนกันมากนัก
ซ้ำยังวางแผนที่จะแวะเที่ยวรายทางกันบ้างเล็กน้อยด้วย

GPS ปลายทางเช้านี้ที่ Ueda เมืองเล็กๆ บนทางผ่าน
จาก Karuizawa ออกเดินทางด้วยทางหลวงหมายเลข 18 ก่อนจะเปลี่ยนไปใช้ทางหลวงหมายเลข 144

Karuizawa มีสนามกอล์ฟชั้นดีจำนวนมากมาย

ย้อนกลับทางที่มาเมื่อวานบนทางหลวงหมายเลข 18

เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 144

มุ่งสู่ Ueda

Honda N-Box เข้าแถวกันอยู่ริมทาง น่ารักจนต้องแวะเก็บภาพ

วิถีชาวบ้านที่พบเห็นได้ตลอดทาง

ซุปเปอร์มาร์เก็ตริมทาง ขอแวะเดินเล่นกันหน่อย

ได้ผลไม้ไปกินกันล๊าววว

ของคาวก็อีก จัดไป

เดินสืบราคาเอาไว้ก่อน

อันนี้ไม่ใช่แนวเรา แค่เก็บภาพส่งไปยั่วชาวบ้าน

ขนมชวนลิ้มลองไปหมด

ไวน์ชนิดกล่อง
หลังจากช้อปปิ้งอาหารการกินเป็นเสบียงกันไปเต็มตะกร้า ก็ได้เวลาออกเดินทางต่อ
ทิวทัศน์สองข้างทางที่เดินทางไป Ueda เต็มไปด้วยบ้านเรือนผู้คน เรือกสวนไร่นา กว้างสุดตา
แต่ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับหนูเล็กเป็นภูเขาที่โอบล้อมเราไว้ตลอดเส้นทางมากกว่า มันให้บรรยากาศของการท่องเที่ยวได้ดีทีเดียว


ขับรถกันมาแบบเรื่อยๆ ไม่เร่งร้อน ไม่นานก็เข้าสู่เมือง Ueda  ซึ่งเป้าหมายของเราเป็นปราสาทเก่าซึ่งนับเป็นสัญลักษณ์แห่ง Ueda
นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเดินเที่ยวได้ฟรีสำหรับบริเวณโดยรอบ แต่หากจะขึ้นบนหอคอย (Castle Tower) จะต้องเสียค่าธรรมเนียม 250 เยน

การมาเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้ผลิถือเป็นปกติที่จะพบคุณครูพาเด็กๆ นักเรียนมาทัศนศึกษาตามสถานที่ต่างๆ
นัยว่าเพื่อเป็นการเปิดหู เปิดตา สร้างโลกทัศน์ใหม่ให้แก่เด็กๆ และที่แห็นเป็นประจำคือการพาทัศนศึกษาโบราณสถานของประเทศ

ภาพหมู่น่ารักๆ
คงเพื่อปลูกฝังการความรักชาติและความภาคภูมิใจในชาติให้แก่เด็กๆ กระมัง สำหรับเด็กอนุบาลหรือประถมต้นแบบที่เราพบนี้
นอกจากคุณครูแล้วก็จะมีผู้ปกครองอาสาสมัครมาช่วยดูแลเด็กๆ ด้วย เพราะการพาเด็กออกมาจำนวนมากต้องช่วยกันดูแลเรื่องความปลอดภัยเป็นสำคัญ แต่เท่าที่เห็นเด็กๆ เขาก็ค่อนข้างมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยกันดี เขาจะมีวิธีสอนให้เด็กดูแลกันเองด้วยการจับมือเป็นบัดดี้กัน

มีทีมต้อนรับแบบนี้

แบบนี้ด้วย
เดินเข้าไปด้านในกันดีกว่า







ปราสาท Ueda สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1583 โดยผู้บัญชาการกองทัพนาม Sanada Mazayuki ซึ่งนำทัพเข้าโจมตีป้อมปราการของกองทัพของโชกุน Tokugawa ในช่วงสงครามกลางเมืองของญี่ปุ่น เราไม่ได้เสียค่าธรรมเนียมเพื่อเข้าชมปราสาท แค่เพียงเดินในสวนกันเท่านั้น
หลังจากเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจปล่อยอารมณ์ไปกับบรรยากาศเก่าๆ กันจนได้เวลาพอสมควรแล้ว
พวกเราก็เริ่มออกเดินทางสู่เป้าหมายที่แท้จริงของวันนี้ นั่นคือ วัด Zenkoji พุทธศาสนสถานอันเก่าแก่ของ Nagano
ว่ากันว่าถ้าใครมา Nagano แต่ไม่มาเยือนวัดนี้ ก็ถือว่ายังมาไม่ถึง โดยเฉพาะพุทธศาสนิกชนอย่างเราๆ ยิ่งไม่ควรพลาดที่จะสักการะสักครั้งหนึ่งในชีวิต
ชมทิวทัศน์สองข้างทางสู่วัด Zenkoji



ภูเขาลูกนี้รูปร่างเหมือนพีรามิด


ระหว่างทางมีดอกไม้สวยๆ ให้เห็น


เห็นบ้านเมืองแบบนี้เริ่มเข้าใกล้เป้าหมายแล้ว
เราไปถึงบริเวณวัดราวๆ บ่ายโมงแล้ว จึงหิวได้ที่ ร้านที่เขาแนะนำกันว่าควรมาลิ้มลองสักครั้งเป็นร้านโซบะที่บริเวณปากประตูทางเข้าวัด
ซึ่งเป็นร้านเก่าแก่ดั้งเดิม เราจึงไม่รีรอที่จะไปต่อแถวเช่นเดียวกันนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ

ร้านนี้เลย
เท่าที่ดูแล้ว อาจเป็นเพราะคนที่นี่เขามีวัฒนธรรมที่ดี คนที่นั่งรับประทานจะไม่มัวละเลียดนั่งเล่น
อิ่มแล้วเขาก็รีบลุกกัน เพราะเห็นว่ายังมีคนรอคิวเข้ามาใช้บริการกันอีกมาก ทำให้แถวที่รออยู่ยาวๆ นั้นสั้นลงเร็วมาก
พวกเรารอกันเพียงประเดี๋ยวเดียวก็ได้ลิ้มลองของอร่อยกันแล้ว

ทำเส้นโซบะกันให้เห็นๆ


ดูหน้าตาและราคาระหว่างรอเข้าแถวได้เลย

ไม่นานก็มาวางอยู่ตรงหน้า
เพี้ยนกินมาม่า
ถ้ามา Nagano สิ่งที่พลาดไม่ได้เลยคือการกินโซบะแบบเรานี่ล่ะ เพราะ Nagano ตั้งอยู่บนที่ราบสูงซึ่งเหมาะกับการเจริญเติบโตของต้นโซบะมาก
นอกจากเนื้อดินแล้วยังได้รับน้ำจากภูเขาที่บริสุทธิ์สะอาดมากมาย และความบริสุทธิ์ของอากาศทำให้ผลิตแป้งโซบะที่มีรสชาติอร่อยได้
โซบะ (Soba) ทำมาจากแป้งบักวีค (Buckwheat) เส้นมีสีน้ำตาลอ่อน รสชาติอร่อยเพราะไม่ผสมแป้งชนิดอื่นลงไปมากนัก
โดยทั่วไปจะเสิร์ฟพร้อมวาซาบิและสาหร่ายโนริ หากเสิร์ฟแบบเย็นบนถาดไม้ไผ่จะเรียกว่า "ซารุโซบะ" (Zaru Soba) ซึ่งเป็นอาหารยอดนิยมในฤดูร้อน

ร้านค้าบริเวณหน้าวัด

เมื่อท้องอิ่มทีนี้ก็ได้เวลาไปเที่ยววัด Zenkoji กันได้เสียที
Zenkoji เป็นวัดเก่าแก่ที่ว่ากันว่าก่อตั้งก่อนที่จะมีพุทธศาสนาเข้ามาเผยแพร่ในญี่ปุ่นเสียอีก สร้างขึ้นราวๆ ศตวรรษที่ 7 หรือประมาณปี ค.ศ.642
ชุมชนโดยรอบพัฒนาขึ้นมาจากการมีวัดเป็นศูนย์กลาง จนกระทั่งมีการก่อร่างสร้างเมือง Nagano กันขึ้นมาอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ.1897

ทางสู่วัด Zenkoji
วัด Zenkoji เป็นวัดพุทธที่สำคัญแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น เป็นวัดที่นำพระพุทธรูปมาประดิษฐานเป็นแห่งแรกของญี่ปุ่น เป็นวัดศูนย์กลางการเติบโตของเมืองที่ต่างจากเมืองอื่นที่มักเติบโตจากปราสาท ที่สะดุดตาแต่แรกเห็นก็คงเป็นประตูขนาดใหญ่ที่เห็นได้แต่ไกล Nimon Gate

Nimon Gate

ใบเซียมซีถูกฝากไว้เต็มต้น

Nimon Gate แบบชัดๆ

ทั้งสองข้างจะมีรูปปั้นยักษ์ขนาดใหญ่เป็นผู้พิทักษ์

รองเท้าฟาง
รองเท้าฟางที่แขวนเรียงรายไว้เต็มไปหมดทั้งสองด้านเป็นสัญลักษณ์ของความมานะและอดทนของพระญี่ปุ่น
ที่จะสานรองเท้าฟางนี้มอบให้ไว้แก่กันสำหรับเดินลุยหิมะในฤดูหนาว จึงไม่ใช่ของต่ำอย่างรองเท้าทั่วๆ ไป
เมื่อเดินผ่าน Nimon Gate เข้ามาทั้งสองข้างทางจะเต็มไปด้วยร้านขายขนม อาหาร ไอศกรีม และของที่ระลึกต่างๆ


จากนั้นจะเจอสะพานข้ามห้วยเล็กๆ ที่หากไม่สังเกตให้ดีก็อาจจะไม่ทันรู้สึกว่ามันคือสะพาน
ตรงจุดนี้มีเรื่องเล่าว่าเมื่อปี ค.ศ.1197 โชกุน Minamoto Yoritomo ได้ขี่ม้ามายังวัดแห่งนี้
พอมาถึงบริเวณนี้เกือกม้าเกิดเข้าไปติดในรูที่พื้นทำอย่างไรก็ไม่ออก ทำให้โชกุนต้องเดินเท้าจากจุดนี้เข้าไปในวัดไม่สามารถขี่ม้าเข้าไปได้

จุดที่โชกุนต้องเดินเท้าเข้าไป
นับตั้งแต่นั้นไม่ว่าโชกุนหรือจักรพรรดิ์องค์อื่นๆ เสด็จมาก็จะต้องลงจากม้าหรือพาหนะอื่นๆ ที่บริเวณนี้แล้วเดินเท้าเข้าไป
เมื่อเดินผ่านเข้ามาด้านข้างจะมีเทวรูปนั่งเรียงรายกันอยู่ 6 องค์ (Rokujizo)

เทวรูปทั้งหกองค์
เป็นตัวแทน 6 สิ่งของความเป็นจริงบนโลกนี้ นั่นคือ มนุษย์ สวรรค์ นรก ความหิวโหย สัตว์เดรัจฉาน และการเบียดเบียน
เมื่อเดินต่อมาจะพบกับประตูชั้นที่ 2 คือ Sanmon Gate

Sanmon Gate
ประตูชั้นที่ 2 นี้มีทางขึ้นให้ไปชมข้างบนได้โดยมีค่าใช้จ่ายเล็กน้อย หากไม่ประสงค์จะขึ้นก็สามารถเดินต่อเข้าไปด้านในได้เลย
ชื่อสินค้า:   ประเทศญี่ปุ่น
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่