[BR] เปิดเส้นทางลับเที่ยวญี่ปุ่น 2 คืน 3 วัน Kamikochi - Ueda - Karuizawa ฟีลดีจนไม่อยากเก็บไว้คนเดียว

กระทู้ผู้สนับสนุน

“เที่ยวญี่ปุ่นกี่ครั้งไม่เคยเบื่อ” ประโยคนี้ไม่เกินจริงมาก เพราะไม่ว่าจะมองไปโซนไหนของประเทศญี่ปุ่น จะต้องมีสถานที่สวยงามรอเราไปเยี่ยมชมอยู่เสมอ อย่างทริปนี้เราเดินทางไปกันที่จังหวัดนากาโนะ (Nagano) ซึ่งขอบอกเลยว่าใครที่กำลังมองหาเส้นทางใหม่ๆ สำหรับเที่ยวญี่ปุ่น ต้องปักหมุดกระทู้นี้เลย เพราะเส้นทางที่เราไปกันครั้งนี้ ถือว่ายังไม่ค่อยแมสเท่าไหร่นะ แต่รับรองเลยว่าเป็นเส้นทางที่สวยจึ้ง! บรรยากาศดีเกินต้าน ใช้เวลาแค่ 2 คืน 3 วัน ก็เที่ยวได้กับ “เส้นทางลับ” ที่จะพาไปดื่มด่ำธรรมชาติกันที่คามิโคจิ(Kamikochi) แล้วยกระดับความฟินด้วย “พิพิธภัณฑ์ลอยฟ้า” เมืองอูเอดะ(Ueda) ปิดท้ายเอาใจสายช้อปที่ คารุอิซาวะ เอาท์เล็ต(Karuizawa Outlet) แพ็คกระเป๋าให้พร้อม แล้วตามพวกเราไปเที่ยวกันเลย รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน!


DAY 1
เมื่อกายพร้อม ใจพร้อม ออกเดินทางกันเล้ยยย เราเริ่มต้นทริปกันที่ คามิโคจิ(Kamikochi) ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์กสายธรรมชาติที่สวยแบบไม่ต้องใส่ฟิลเตอร์เลย สวยจนติดอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น โดยเรานั่งรถบัสจากเมือง มัตสึโมโตะ(Matsumoto) แค่ชั่วโมงครึ่งก็ถึง คามิโคจิ (Kamikochi) แล้ว ทันทีที่ลงจากรถคือ ว้าวววว! กับภาพแม่น้ำสีฟ้าใสไหลผ่านเบื้องล่างของสะพานคัปปะ (Kappa Bridge) บวกกับฉากหลังสุดอลังการของเทือกเขาโฮตากะที่มีหิมะปกคลุมบางๆ เหมือนหลุดอยู่ในโปสต์การ์ดเลยเธอ มันเรียล มันใช่ มันสวยจนอยากกรี๊ดเบาๆ


แล้วพวกเส้นทางเดินในอุทยานก็ดีงามสุดๆ เดินง่าย เหมาะกับทุกวัย แถมได้สูดอากาศสดชื่นแบบเต็มปอด เดินไป ฟังเสียงน้ำไหลไป เหมือนเปิดโหมดดีท็อกซ์ชีวิตแบบไม่ต้องจ่ายเลยสักเยน


DAY 2
ถึงเวลาไฮไลต์ของทริป! อูเอดะ(Ueda) เมืองเล็กแต่มากเสน่ห์ ที่มีความงดงามของธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และศิลปะจัดเต็มแบบไม่มีใครยอมใคร วันนี้เราออกเดินทางกันตั้งแต่เช้า ขับรถไปบนเส้นทางที่ได้ชื่อว่า “ถนนลอยฟ้า” เพื่อไปยัง Utsukushigahara Museum หรือที่หลายคนเรียกว่า “พิพิธภัณฑ์ลอยฟ้า” นั่นเอง


ท่ามกลางวิวเทือกเขาแบบ 360 องศา ที่นี่คือพิพิธภัณฑ์ศิลปะกลางแจ้งวิวธรรมชาติสุดอลังที่เปรียบได้ว่าเป็นญาติสนิทของพิพิธภัณฑ์ที่ Hakone มีงานประติมากรรมกลางแจ้งเรียงรายกว่า 250 ชิ้น บนทุ่งหญ้ากว้าง ให้เราได้เดินชมผลงานศิลปะท่ามกลางธรรมชาติแบบไม่มีกรอบจำกัด แถมจะถ่ายรูปมุมไหนก็สวยอีกด้วย


เพราะด้วยพื้นที่ที่กว้างมาก ทางพิพิธภัณฑ์เลยแนะนำให้แบ่งเดินชมทีละโซน จะได้ไม่เหนื่อยเกินไป แล้วแวะพักหาของกินอร่อยๆ เติมแรง ก่อนออกไปลุยกันต่อแบบชิลล์ๆ


ดูจากรูปก็รู้เลยว่านี่ไม่ใช่แค่กว้าง แต่มาแบบกว้างมากกกก เราเลยขอเริ่มจากเส้นทางฝั่งขวาก่อน เพราะดูแล้วฝั่งนี้มีรูปปั้นตั้งอยู่เยอะสุด เดินแค่ไหนก็ไม่น่าจะเหงา เหมือนกำลังเรียกพวกเราให้เข้าไปหาเลยแหละ


ซึ่งวันไหนฟ้าเปิด ที่นี่จะเห็นทั้งเจแปนแอลป์ และฟูจิซัง แบบชัดเป๊ะ! แต่แอบเสียดายตอนที่เราไปท้องฟ้าไม่ค่อยเป็นใจ อากาศค่อนข้างแปรปรวน แสงน้อย หมอกลงจัด วิวหลักล้านของเราหายวับไปหมดเลย แต่ไม่เป็นไร! ยังมีรูปปั้นกับงานศิลปะที่จัดเต็มอยู่ทั่วทุกพื้นที่ คือเยอะจนเลือกมุมถ่ายกันไม่ถูกอะ สุดท้ายเราเลยเปลี่ยนแผน หันมาถ่ายรูปเลียนแบบรูปปั้นแทน สรุปสนุกเฉย! กลายเป็นอีกหนึ่งโมเมนต์ฮาๆ ของทริปนี้ไปเลย


เดินจนแบตชีวิตเริ่มอ่อน ก็ถึงเวลาหยุดพักเติมพลังกันสักหน่อย ซึ่งด้านในพิพิธภัณฑ์ก็มีร้านอาหารไว้คอยบริการอยู่นะ ที่นี่เขาก็จะเสิร์ฟพวกเมนูง่ายๆ แต่อร่อยโดนใจทั้งแก๊งไม่ว่าจะเป็นข้าวแกงกะหรี่หมูทอดร้อนๆ หรือโซบะเส้นเหนียวนุ่มเมนูเด็ดประจำแถบชินชู


อิ่มท้องแล้วก็ได้เวลาออกเดินต่อในเส้นทางที่เหลือ เส้นนี้คือฟีลคนรักธรรมชาติสุดๆ เพราะมีทั้งวิวสีเขียวสดชื่น และดอกไม้หลากสีตามฤดูกาล


ก่อนเดินทางกลับ เราก็ไม่ลืมแวะซื้อของฝากติดไม้ติดมือ โดยเฉพาะขนมเวเฟอร์ที่หลายเสียงการันตีว่า ‘ห้ามพลาด’ ไอเราก็ทนเสียงในหัวไม่ได้ซะด้วย เลยจัดเต็มกลับไปแบ่งให้ทุกคนได้ลองกัน


แต่ถ้าใครเป็นสายผลไม้ หรือชอบขนมที่มีรสนมเข้มข้นนัวๆ ขอแนะนำสองชิ้นนี้เลย อร่อยไม่แพ้กัน!


เก็บครบทุกมุมใน Utsukushigahara Museum หรือ พิพิธภัณฑ์ลอยฟ้า แบบจุกๆ กันแล้ว เราก็มุ่งหน้าเข้าสู่จุดหมายถัดไปนั้นก็คือ อูเอดะ เมืองเก่าสุดคลาสสิกที่ที่อบอวลไปด้วยเสน่ห์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม มาถึงปุ๊บ! เราก็มุ่งตรงไปยังปราสาทอูเอดะ ปราสาทเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับซานาดะ ยูคิมูระ ยอดนักรบแห่งยุคเซ็นโกคุ


ได้ยินมาว่า เมื่อมาถึงที่นี่แล้วสายมูห้ามพลาดเลย โดยเฉพาะเรื่องหน้าที่การงาน เรื่องชัยชนะ ต้องแวะไปขอพรที่ ศาลเจ้าซานาดะ (Sanada Shrine) จะได้เสริมพลังงานให้ปังๆ ขึ้นไปอีก



คือที่นี่อาจจะยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่าไหร่นะ แต่สำหรับนักเรียนญี่ปุ่นและนักกีฬาบอกเลยว่าได้รับความนิยมมากๆ


แล้วใครที่กำลังเตรียมตัวสอบ ทำธุรกิจ หรือจะลงแข่งขันอะไรที่สำคัญต่างๆ อย่าลืมแวะซื้อ เครื่องราง “勝守 (kachimamori)” ซึ่งเป็นเครื่องรางแห่งชัยชนะสุดคลาสสิกประจำศาลเจ้าแห่งนี้เลย


นอกจากนี้ยังมีเครื่องรางอีกหลายแบบให้เลือก ไม่ว่าจะช่วยเสริมเรื่องการเรียน สุขภาพ ความรัก หรือความปลอดภัยในการเดินทาง คือดีไซน์มีความน่ารัก น่าเก็บสะสม แถมยังเหมาะเป็นของฝากด้วย เพราะทั้งเท่ ไม่ซ้ำใคร และมีความหมายดี คนรักญี่ปุ่นต้องปลื้มแน่นอน


เดินเล่นชมเมือง ขอพรจนจิตใจอิ่มเอมแล้ว ก็ถึงเวลาตามหาของอร่อยๆ มาเติมพลังกันต่อแล้วล่ะ แค่เดินออกจากตัวปราสาทมาไม่ไกล ก็จะเจอกับถนนยานางิมาจิ (柳町通り) ย่านเล็กๆ ที่ให้ฟีลญี่ปุ่นยุคเก่าแบบเต็มสิบไม่หัก ทั้งอบอุ่นและมีเสน่ห์ เดินเล่นได้เพลินๆ ไม่เบื่อเลย


หนึ่งในไฮไลต์ของย่านนี้ คือร้านโซบะเส้นทำมือสไตล์ดั้งเดิม รสชาติญี่ปุ่นแท้ๆ ใครมาแล้วอยากให้มาลองจริงๆ นะ


สายหวานต้องชอบ ใกล้กันมีร้านขนมคิ้วท์ๆ ที่มีทั้งทั้งซอฟต์ครีมเนื้อนุ่ม และพายผลไม้ตามฤดูกาลอย่างแอปเปิ้ลท้องถิ่น บอกเลยว่าอร่อยจนต้องขอเบิ้ลแบบไม่รู้ตัว


เดินเล่นชิลล์ๆ แวะกินขนมเพลินๆ เป็นอีกด้านของอุเอดะที่ให้ความรู้สึกเรียบง่าย แต่อบอุ่น เป็นย่านที่น่าจดจำสำหรับพวกเราสุดๆ คือบรรยากาศมันชิลล์มากอะทุกคน เหมาะกับการเดินเล่นถ่ายรูป หรือจะนั่งพักจิบกาแฟ คือฟีลมันดีจนไม่อยากลุกเลย


สำหรับคืนนี้เราเข้าพักที่เรียวกัง Uematsuya ที่ตั้งอยู่ในย่านเบชโชออนเซ็น (Bessho Onsen) การเดินทางก็สะดวกสบาย แค่ขึ้นรถไฟสาย Ueda Dentetsu Bessho เป็นสายที่มีกลิ่นอายเรโทรสุดคลาสสิก ซึ่งใครที่เป็นแฟนการ์ตูนสตูดิโอจิบลิ รับรองว่าต้องหลงรัก และฟินไปกับเสน่ห์ของรถไฟสายนี้แน่นอน!


DAY 3
ปิดท้ายทริปนี้ที่ Karuizawa เมืองตากอากาศสุดฮิตของคนญี่ปุ่น ที่ไม่ได้มีดีแค่บรรยากาศ แต่ยังเป็น สวรรค์ของนักช้อป อย่าง Karuizawa Outlet แหล่งช้อปปิ้งชื่อดัง ที่กวักมือรอพวกเราอยู่ข้างหน้าแล้ว ก่อนกลับโตเกียว เราก็เลยขอแวะที่ “Karuizawa Prince Shopping Plaza” ซะหน่อย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากอูเอดะ เพียงแค่นั่งชินคันเซ็น 20 นาทีก็ถึงแล้ว ที่นี่จะเป็นเอาท์เล็ตขนาดใหญ่ ที่รวบรวมแบรนด์ดังจากญี่ปุ่นและยุโรปไว้ครบจบในที่เดียว


ซึ่งสิ่งที่ทำให้ที่นี่โดดเด่นไม่ใช่แค่ร้านค้าเท่านั้นนะ  แต่คือบรรยากาศที่ล้อมรอบด้วยวิวภูเขาและธรรมชาติที่สุดยอดมากๆ นอกจากเราจะได้ช้อปปิ้งแล้ว ยังสามารถเดินเล่น ถ่ายรูป สูดอากาศบริสุทธิ์กันได้แบบเต็มอิ่ม สมกับที่ Karuizawa ถูกยกให้เป็นเมืองตากอากาศยอดนิยมของญี่ปุ่นจริงๆ ครบจบทั้งชิลล์ทั้งช้อปใน 2 คืน 3 วัน หวังว่าเพื่อนๆ จะชอบทริปนี้ที่พวกเราเอามาฝากกันน้า


[Advertorial]
ชื่อสินค้า:   Kamikochi - Ueda - Karuizawa
คะแนน:     

BR - Business Review : กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากผู้สนับสนุน

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่