สวัสดีค่ะ มีเรื่องอยากจะสอบถามเกี่ยวกับอาการของพี่สาวค่ะ ปัจจุบันพี่สาวของดิฉันอายุ 54 ปี แต่มีอาการขี้หลงขี้ลืม วางอะไรไว้ตรงไหนก็จะลืม ตอนแรกคิดว่าเป็นแค่เรื่องธรรมดา ใครๆ ก็เป็นกัน ไม่ได้ติดใจอะไร
แต่ระยะหลังเริ่มวางสิ่งของแบบแปลกๆ เช่นว่า อาบน้ำเสร็จจะหวีผม หยิบหวีละแต่เดี๋ยวก่อน ขอไปกินน้ำก่อน กลับมาอีกที หาหวีไม่เจอ เขาก็บ่นๆ หวีไปไหน เมื่อกี้ยังหวีอยู่เลย ลูกเขาและดิฉันก็ไปช่วยหาตามเก้าอี้ตามโต๊ะให้ สรุปเอาไปวางบนชั้นแบบข้างๆ ซอก ลูกเขาก็งงว่าแม่เอามาวางตรงนี้ทำไม พี่สาวเราก็บอก ไม่รู้ ลืม
ของบางอย่าง เขากลัวหาย ก็เก็บไว้ดีเกิน บางทีเอาไปซ่อนเอาไปแอบไว้ แล้วก็ลืม พอหาไม่เจอก็หงุดหงิดโมโห (พี่สาวดิฉันเป็นคนโมโหร้ายและขี้หงุดหงิดอยู่แล้ว) ลูกๆ และดิฉันต้องไปช่วยหา ต้องไปช่วยไล่ความจำว่าปกติชอบวางของไว้ตรงไหนบ้าง จนบางครั้ง ลูกชายเขาต้องบอกว่าไม่ต้องเก็บไว้ดีเกินหรอก ของอยู่ในบ้านไม่มีใครมาขโมย
อาการหลงลืมล่าสุดที่ดิฉันมองว่าแปลกคือ เมื่อวานค่ะ ที่บ้านรวมญาติกัน พี่สาวดิฉันเมื่อก่อนเคยเป็นแม่ครัวในร้านอาหาร (แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำแล้ว ลูกๆ อยากให้พัก) เขาก็รับหน้าที่ในครัว โดยมีน้าสาวและน้าสะใภ้ อายุ 70 กว่าปีคอยคุม ก็ทำกันไป คุมกันไป น้าสะใภ้ก็ตามสไตล์คนแก่ขี้บ่น เห็นอะไรชักช้าขัดใจก็จะโวยวาย โอ้ย ช้าๆๆ เมื่อไหร่จะเสร็จ แล้วนี่ทำไมยังไม่ทำ บอกให้ต้มน้ำแล้วใส่อันนี้ อันนั้นลงไป ทำไมยังไม่ทำ
จากนั้น ดิฉันได้ยินเสียงน้าสะใภ้โวยวาย เขาเสียงดังอยู่แล้วก็เลยได้ยินกันทั่ว จับใจความได้ว่า ...พี่สาวดิฉันจะทำต้มยำหรืออะไรสักอย่าง คนทั่วไปก็จะล้างตะไคร้ให้สะอาดแล้วนำไปทุบ จากนั้นก็ใส่ลงในน้ำใช่ไหมคะ แต่ไม่ค่ะ พี่สาวดิฉันล้าง ทุบ แล้วนำไปล้าง พักไว้ ...แล้วนำไปล้าง พักไว้... แล้วนำไปล้าง
น้าสะใภ้ก็เอ็ดตะโรสิคะ ใครเขาทำกันแบนี้ ทุบเสร็จเขาก็เอาไปต้มเลย นี่อะไรเอาไปล้าง ความหอมมันก็หายไปหมดสิ โอ้ยๆๆ ไม่ไหวๆ ใครเขาทำแบบนี้ โง่จริงๆ ไปๆ ไม่ต้องทำแล้ว ออกไปเลย ไม่ต้องทำๆ มีอย่างที่ไหนทำแบบนี้ กรุไม่เคยเห็น แล้วกรุบอกให้ต้มน้ำแล้วใส่ผักลงไป ทำไมไม่ทำ บอกไปสี่ห้าครั้งแล้ว ยังไม่ต้มน้ำอีก แล้วก็ไล่พี่สาวดิฉันออกจากครัว แต่คนในครัวก็ปลอบว่าไม่เป็นไร เสียแล้วก็ทิ้ง ทำใหม่ได้ ใจเย็นๆ (แต่หลังจบงานเขาก็คุยกันดีค่ะ เพราะน้าสะใภ้เป็นคนปากร้าย ขี้ด่า ขี้โวยวาย)
ดิฉันค่อนข้างแปลกใจมากที่พี่สาวทำแบบนี้ เพราะขนาดดิฉันทำอาหารไม่เป็น ยังรู้ว่าถ้าทุบตะไคร้แล้วก็ต้องเอาใส่หม้อต้ม และอาหารชนิดนี้ พี่สาวดิฉันเป็นคนทำทุกปี และก่อนที่จะถึงงาน เขาก็จะพูดย้ำๆ ซ้ำๆ ให้ลูกๆ ฟังเสมอว่า เขาทำอันนี้ ใครกินก็ชมกันทั้งนั้น และทุกปีน้าสะใภ้ไม่เคยไปดูในครัวตอนทำ จะไปดูตอนที่ทุกอย่างเสร็จหมดแล้ว พอคราวนี้ไปเห็นพี่สาวเอาตะไคร้ทุบไปล้างก็เลยโวยวาย ดิฉันไม่รู้ว่ามันเป็นสูตรของเขาหรือว่ายังไง แต่ดิฉันคิดว่าไม่น่าจะผิดพลาดได้ เพราะเป็นอาหารที่เขารอทำมาก หลานก็บอกว่าแม่พูดให้ฟังวันละสิบรอบ
หลานมาเล่าให้ฟังว่า เวลาคุยกัน พี่สาวดิฉันมักพูดผิดๆ ถูกๆ อันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะบางทีคำที่เราคิดมันอาจติดอยู่ที่ปาก แต่หลานบอกไม่ใช่ เหมือนแม่จำไม่ได้ บางครั้งเขาทำอาหารอะไรที่เคยกินตอนเด็กๆ คนส่วนใหญ่ก็จะพูดว่า ตอนเด็กๆ แม่ชอบมาก ยายเคยทำให้กินประจำ อะไรแบบนั้นใช่ไหมคะ
แต่พี่สาวไม่พูดแบบนั้นค่ะ เขาจะพูดว่า ตอนแม่เด็กๆ เอ่ออ..(หยุดเหมือนนึกๆ) แม่ของแม่ทำให้กินเป็นประจำ คือ เขาหยุดคิดเหมือนนึกไม่ออกว่าจะเรียกแม่ตัวเองว่าอะไรดี เลยเรียกว่าแม่ของแม่ บางทีก็เรียกแม่ของพ่อ ทั้งๆ ที่เรียกย่า ยายมันง่ายกว่าไหม
ชอบย้ำคิดย้ำทำก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ดิฉันแปลกใจและสังเกตเห็น วันก่อนนั่งดูละครกันอยู่ แล้วเพื่อนบ้านมาที่บ้าน สมมุติว่าชื่อ เอ หลังกลับไปก็มาดูละครกันต่อ ลูกเขาก็ถามว่าใครมา พี่สาวดิฉันตอบ น้าเอ แวะมาเอานู่นนี่นั่นก็ว่าไป จากนั้นก็ดูละครต่อ เนื้อเรื่องเริ่มเข้มข้นมากขึ้น พี่สาวดิฉันก็พูด พระเอกโง่ โง่จะตาย ล้มตัวลงนอนบนเก้าอี้ ไอ้เอโง่ โง่จะตาย เอ๊ย พระเอกโง่ โง่มาก ...โอเค พูดผิด เรียกผิด เราเข้าใจ จากนั้นเขาก็ย้ำ พระเอกโง่ พระเอกโง่อยู่สามสี่ครั้ง
อาการย้ำคิดแบบแปลกๆ ก็ยังมีเช่นว่า (อันนี้ลูกเขาเล่าให้ฟัง) พ่อโทรมาถามว่าจะเอาอะไรไหม อยู่หน้าร้านข้าว แม่ก็บอก ไม่เอา อิ่มแล้ว โอเคจบกันไป วางสาย หลังจากนั้นเขาก็จะย้ำ อิ่มแล้ว ไม่เอาอะไรแล้ว (ประโยคสุดท้ายที่คุยกัน) เงียบไปสักพัก ก็พูดอีก อิ่มแล้วไม่เอาอะไรแล้ว อิ่มๆๆ ไม่เอาอะไรแล้ว เวลาพูดไม่ได้พูดติดๆ รัวๆ กันนะคะ จะเป็นแบบ อิ่มแล้ว อิ่มๆๆ คล้ายคนฮัมเพลงไล่ระดับเสียงประมาณนั้น
อาการพูดซ้ำๆ แบบนี้ ลูกเขาบอกว่าแม่เป็นบ่อยมาก และมักจะพูดซ้ำๆ ประโยคสุดท้ายที่เพิ่งคุยกัน อย่างข้างบ้านเอาผลไม้มาให้ เดินเข้ามาในบ้าน วางของ เขาก็จะบอก น้าบีเอาส้มมาให้ ลูกใหญ่มาก ซื้อมาจากเชียงใหม่ (สมมุติ) ลูกเขาก็อืมๆ ลูกใหญ่ ผลสวยดี เงียบกันไปสักแป๊ป แม่เขาก็จะพูด ส้มมาจากเชียงใหม่ ส้มมาจากเชียใหม่ แกะส้มกินก็พูด ส้มมาจากเชียงใหม่ๆ
แรกๆ ที่เป็นแบบนี้ ลูกเขาคิดว่าแม่คงไม่รู้จะพูดอะไร ก็เลยพูดประโยคสุดท้ายออกมาซ้ำๆ แต่ดิฉันมองว่าแปลก เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่ต้องมาพูดซ้ำๆ
อาการเหล่านี้ เข้าข่ายโรคความจำเสื่อมไหมคะ
ปล. พี่สาวดิฉันมีโรคประจำตัวคือเบาหวานกับความดันค่ะ
แบบนี้เรียกความจำเสื่อมไหมคะ
แต่ระยะหลังเริ่มวางสิ่งของแบบแปลกๆ เช่นว่า อาบน้ำเสร็จจะหวีผม หยิบหวีละแต่เดี๋ยวก่อน ขอไปกินน้ำก่อน กลับมาอีกที หาหวีไม่เจอ เขาก็บ่นๆ หวีไปไหน เมื่อกี้ยังหวีอยู่เลย ลูกเขาและดิฉันก็ไปช่วยหาตามเก้าอี้ตามโต๊ะให้ สรุปเอาไปวางบนชั้นแบบข้างๆ ซอก ลูกเขาก็งงว่าแม่เอามาวางตรงนี้ทำไม พี่สาวเราก็บอก ไม่รู้ ลืม
ของบางอย่าง เขากลัวหาย ก็เก็บไว้ดีเกิน บางทีเอาไปซ่อนเอาไปแอบไว้ แล้วก็ลืม พอหาไม่เจอก็หงุดหงิดโมโห (พี่สาวดิฉันเป็นคนโมโหร้ายและขี้หงุดหงิดอยู่แล้ว) ลูกๆ และดิฉันต้องไปช่วยหา ต้องไปช่วยไล่ความจำว่าปกติชอบวางของไว้ตรงไหนบ้าง จนบางครั้ง ลูกชายเขาต้องบอกว่าไม่ต้องเก็บไว้ดีเกินหรอก ของอยู่ในบ้านไม่มีใครมาขโมย
อาการหลงลืมล่าสุดที่ดิฉันมองว่าแปลกคือ เมื่อวานค่ะ ที่บ้านรวมญาติกัน พี่สาวดิฉันเมื่อก่อนเคยเป็นแม่ครัวในร้านอาหาร (แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำแล้ว ลูกๆ อยากให้พัก) เขาก็รับหน้าที่ในครัว โดยมีน้าสาวและน้าสะใภ้ อายุ 70 กว่าปีคอยคุม ก็ทำกันไป คุมกันไป น้าสะใภ้ก็ตามสไตล์คนแก่ขี้บ่น เห็นอะไรชักช้าขัดใจก็จะโวยวาย โอ้ย ช้าๆๆ เมื่อไหร่จะเสร็จ แล้วนี่ทำไมยังไม่ทำ บอกให้ต้มน้ำแล้วใส่อันนี้ อันนั้นลงไป ทำไมยังไม่ทำ
จากนั้น ดิฉันได้ยินเสียงน้าสะใภ้โวยวาย เขาเสียงดังอยู่แล้วก็เลยได้ยินกันทั่ว จับใจความได้ว่า ...พี่สาวดิฉันจะทำต้มยำหรืออะไรสักอย่าง คนทั่วไปก็จะล้างตะไคร้ให้สะอาดแล้วนำไปทุบ จากนั้นก็ใส่ลงในน้ำใช่ไหมคะ แต่ไม่ค่ะ พี่สาวดิฉันล้าง ทุบ แล้วนำไปล้าง พักไว้ ...แล้วนำไปล้าง พักไว้... แล้วนำไปล้าง
น้าสะใภ้ก็เอ็ดตะโรสิคะ ใครเขาทำกันแบนี้ ทุบเสร็จเขาก็เอาไปต้มเลย นี่อะไรเอาไปล้าง ความหอมมันก็หายไปหมดสิ โอ้ยๆๆ ไม่ไหวๆ ใครเขาทำแบบนี้ โง่จริงๆ ไปๆ ไม่ต้องทำแล้ว ออกไปเลย ไม่ต้องทำๆ มีอย่างที่ไหนทำแบบนี้ กรุไม่เคยเห็น แล้วกรุบอกให้ต้มน้ำแล้วใส่ผักลงไป ทำไมไม่ทำ บอกไปสี่ห้าครั้งแล้ว ยังไม่ต้มน้ำอีก แล้วก็ไล่พี่สาวดิฉันออกจากครัว แต่คนในครัวก็ปลอบว่าไม่เป็นไร เสียแล้วก็ทิ้ง ทำใหม่ได้ ใจเย็นๆ (แต่หลังจบงานเขาก็คุยกันดีค่ะ เพราะน้าสะใภ้เป็นคนปากร้าย ขี้ด่า ขี้โวยวาย)
ดิฉันค่อนข้างแปลกใจมากที่พี่สาวทำแบบนี้ เพราะขนาดดิฉันทำอาหารไม่เป็น ยังรู้ว่าถ้าทุบตะไคร้แล้วก็ต้องเอาใส่หม้อต้ม และอาหารชนิดนี้ พี่สาวดิฉันเป็นคนทำทุกปี และก่อนที่จะถึงงาน เขาก็จะพูดย้ำๆ ซ้ำๆ ให้ลูกๆ ฟังเสมอว่า เขาทำอันนี้ ใครกินก็ชมกันทั้งนั้น และทุกปีน้าสะใภ้ไม่เคยไปดูในครัวตอนทำ จะไปดูตอนที่ทุกอย่างเสร็จหมดแล้ว พอคราวนี้ไปเห็นพี่สาวเอาตะไคร้ทุบไปล้างก็เลยโวยวาย ดิฉันไม่รู้ว่ามันเป็นสูตรของเขาหรือว่ายังไง แต่ดิฉันคิดว่าไม่น่าจะผิดพลาดได้ เพราะเป็นอาหารที่เขารอทำมาก หลานก็บอกว่าแม่พูดให้ฟังวันละสิบรอบ
หลานมาเล่าให้ฟังว่า เวลาคุยกัน พี่สาวดิฉันมักพูดผิดๆ ถูกๆ อันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะบางทีคำที่เราคิดมันอาจติดอยู่ที่ปาก แต่หลานบอกไม่ใช่ เหมือนแม่จำไม่ได้ บางครั้งเขาทำอาหารอะไรที่เคยกินตอนเด็กๆ คนส่วนใหญ่ก็จะพูดว่า ตอนเด็กๆ แม่ชอบมาก ยายเคยทำให้กินประจำ อะไรแบบนั้นใช่ไหมคะ
แต่พี่สาวไม่พูดแบบนั้นค่ะ เขาจะพูดว่า ตอนแม่เด็กๆ เอ่ออ..(หยุดเหมือนนึกๆ) แม่ของแม่ทำให้กินเป็นประจำ คือ เขาหยุดคิดเหมือนนึกไม่ออกว่าจะเรียกแม่ตัวเองว่าอะไรดี เลยเรียกว่าแม่ของแม่ บางทีก็เรียกแม่ของพ่อ ทั้งๆ ที่เรียกย่า ยายมันง่ายกว่าไหม
ชอบย้ำคิดย้ำทำก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ดิฉันแปลกใจและสังเกตเห็น วันก่อนนั่งดูละครกันอยู่ แล้วเพื่อนบ้านมาที่บ้าน สมมุติว่าชื่อ เอ หลังกลับไปก็มาดูละครกันต่อ ลูกเขาก็ถามว่าใครมา พี่สาวดิฉันตอบ น้าเอ แวะมาเอานู่นนี่นั่นก็ว่าไป จากนั้นก็ดูละครต่อ เนื้อเรื่องเริ่มเข้มข้นมากขึ้น พี่สาวดิฉันก็พูด พระเอกโง่ โง่จะตาย ล้มตัวลงนอนบนเก้าอี้ ไอ้เอโง่ โง่จะตาย เอ๊ย พระเอกโง่ โง่มาก ...โอเค พูดผิด เรียกผิด เราเข้าใจ จากนั้นเขาก็ย้ำ พระเอกโง่ พระเอกโง่อยู่สามสี่ครั้ง
อาการย้ำคิดแบบแปลกๆ ก็ยังมีเช่นว่า (อันนี้ลูกเขาเล่าให้ฟัง) พ่อโทรมาถามว่าจะเอาอะไรไหม อยู่หน้าร้านข้าว แม่ก็บอก ไม่เอา อิ่มแล้ว โอเคจบกันไป วางสาย หลังจากนั้นเขาก็จะย้ำ อิ่มแล้ว ไม่เอาอะไรแล้ว (ประโยคสุดท้ายที่คุยกัน) เงียบไปสักพัก ก็พูดอีก อิ่มแล้วไม่เอาอะไรแล้ว อิ่มๆๆ ไม่เอาอะไรแล้ว เวลาพูดไม่ได้พูดติดๆ รัวๆ กันนะคะ จะเป็นแบบ อิ่มแล้ว อิ่มๆๆ คล้ายคนฮัมเพลงไล่ระดับเสียงประมาณนั้น
อาการพูดซ้ำๆ แบบนี้ ลูกเขาบอกว่าแม่เป็นบ่อยมาก และมักจะพูดซ้ำๆ ประโยคสุดท้ายที่เพิ่งคุยกัน อย่างข้างบ้านเอาผลไม้มาให้ เดินเข้ามาในบ้าน วางของ เขาก็จะบอก น้าบีเอาส้มมาให้ ลูกใหญ่มาก ซื้อมาจากเชียงใหม่ (สมมุติ) ลูกเขาก็อืมๆ ลูกใหญ่ ผลสวยดี เงียบกันไปสักแป๊ป แม่เขาก็จะพูด ส้มมาจากเชียงใหม่ ส้มมาจากเชียใหม่ แกะส้มกินก็พูด ส้มมาจากเชียงใหม่ๆ
แรกๆ ที่เป็นแบบนี้ ลูกเขาคิดว่าแม่คงไม่รู้จะพูดอะไร ก็เลยพูดประโยคสุดท้ายออกมาซ้ำๆ แต่ดิฉันมองว่าแปลก เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่ต้องมาพูดซ้ำๆ
อาการเหล่านี้ เข้าข่ายโรคความจำเสื่อมไหมคะ
ปล. พี่สาวดิฉันมีโรคประจำตัวคือเบาหวานกับความดันค่ะ