( ตัวฉัน กับ พระอาทิตย์ )
เด็กคนนั้นผมขอเรียกเขาว่า ตัวฉัน เด็กที่กำเนิดเกิดมาบนโลกนี้เพียงลำพัง ในทุกวันเขาจะทำทุกอย่างแบบเดิมอยู่เสมอๆ คือการปีนขึ้นไปบนยอดเขา ที่เต็มไปดอกไม้นานาพันธ์ในตอนเช้า เพื่อที่จะเฝ้าดูพระอาทิตย์ขึ้น และอยู่บนนั้นจนกว่าที่พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าไป ช่างเป็นช่วงเวลาที่แสนมีความสุขและสวยงาม เมื่อตัวผมได้มองลงไป และถามกับตัวเองว่าช่วงเวลาแบบเด็กคนนี้ของผมหายไปไหน ผมลืมมันไป หรือผมไม่เคยคิดที่จะหามัน วันแล้ววันเล่าเวลาผ่านไป ในคำคืนหนึ่งเด็กคนนั้นได้มีความฝัน ซึ่งเป็นฝันครั้งแรกของเขา ในความฝันเขายืนอยู่บนยอดเขาเหมือนทุกๆเช้า สายลมพัดผ่านใบหน้าเบาๆ ตาจ้องมองไปในจุดที่พระอาทิตย์ขึ้นเป็นประจำ แต่ในความฝันไม่มีดวงอาทิตย์ในตอนเช้าเหมือนทุกวัน แต่กลับเป็นตึกสูงเฉียดฟ้า ที่บดบังดวงอาทิตย์ในวันนั้นจนหมดสิ้น ในความฝัน เด็กคนนั้นยืนร้องให้เหมือนกับว่าใจจะขาด และคุกเขาลงไปนอนราบกับพื้นที่ไม่มีแม้แต่ดอกไม้สักดอก ราวเหมือนกับว่าตัวเขาจะสลายหายไป เหมือนกับดวงอาทิตย์ที่เขามองไม่เห็นในวันนั้น ทุกอย่างในความฝันทั้งหมด ไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นเลย ในโลกความจริงของเขา เมื่อเด็กคนนั้นตื่นขึ้น ได้พบว่าตัวเขายังมีหยาดน้ำตา และยังมีความรู้สึกทุกอย่างเหมือนในความฝัน เขาเอามือปาดน้ำตา และนั้งอยู่ที่เดิมสักพักเหมือนกับว่าคิดอะไรสักอย่าง หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ลุกขึ้น แต่แทนที่เขาจะปีนขึ้นไปบนยอดเขาเหมือนในทุกครั้ง เด็กคนนั้นกลับเดินไปข้างหน้า พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าที่ผมไม่เคยเห็น เขามองขึ้นไปบนยอดเขาลูกเดิม พร้อมกับใจของเขาที่คิดว่า ถ้าตึกสูงในความฝันที่เขาเห็น บดบังดวงอาทิตย์ของเขาจนหมดสิ้น แสดงว่ายอดเขาลูกเดิมของเขาคงต่ำเกินไป ฉะนั้นเขาจึงควรต้องออกเดินทาง เพื่อตามหายอดเขาที่สูงกว่าตึกๆนั้น ไม่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในฝันจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ และจะมียอดเขาที่สูงกว่าตึกในความฝันนั้นไหม เด็กคนนั้นไม่มีทางรู้เลย แต่เขาก็เลือกที่จะเดินไปพร้อมกับความหวัง เพราะตัวเขารู้ว่า ความสุขและหน้าที่ของเขาบนโลกใบนี้ คือการชื่นชมพระอาทิตย์ เหมือนกับพระอาทิตย์ที่จะโผล่ขึ้นมาในทุกๆเช้า เพื่อให้เด็กคนนั้นได้ชื่นชมอยู่เสมอ
หลายๆครั้ง ที่เราจะต้องตัดสินใจอะไรบางอย่างที่ไม่แน่นอน อาจจะมีผิดหวัง และอาจะสุขสมหวัง แต่ถ้าการตัดสินใจนั้น ปลายทางคือความสุข ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่เราจะยืนอยู่กับที่ หรืออยู่กับความเคยชิน ที่เราชอบคิดไปเองอว่ามันคือความสุข บางสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นในวันนี้ ก็ไม่ได้แปลว่าในวันพรุ่งนี้จะไม่เกิดขึ้น ถ้าเรามั่นคงต่อจุดมุ่งหมาย ไม่ว่าจะต้องตัดสินใจอีกกี่สิบครั้ง สุดท้ายเราก็พบความสุขที่แท้จริง เพราะว่าอย่างน้อยเราก็เลือกที่จะทำ และไม่กลัวที่จะตัดสินใจ
ตัวของฉันหัวใจของฉัน
( ตัวฉัน กับ พระอาทิตย์ ) สวัสดีครับ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกถ้าผิดพลาดอย่างไรให้อภัยผมด้วยนะครับ
เด็กคนนั้นผมขอเรียกเขาว่า ตัวฉัน เด็กที่กำเนิดเกิดมาบนโลกนี้เพียงลำพัง ในทุกวันเขาจะทำทุกอย่างแบบเดิมอยู่เสมอๆ คือการปีนขึ้นไปบนยอดเขา ที่เต็มไปดอกไม้นานาพันธ์ในตอนเช้า เพื่อที่จะเฝ้าดูพระอาทิตย์ขึ้น และอยู่บนนั้นจนกว่าที่พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าไป ช่างเป็นช่วงเวลาที่แสนมีความสุขและสวยงาม เมื่อตัวผมได้มองลงไป และถามกับตัวเองว่าช่วงเวลาแบบเด็กคนนี้ของผมหายไปไหน ผมลืมมันไป หรือผมไม่เคยคิดที่จะหามัน วันแล้ววันเล่าเวลาผ่านไป ในคำคืนหนึ่งเด็กคนนั้นได้มีความฝัน ซึ่งเป็นฝันครั้งแรกของเขา ในความฝันเขายืนอยู่บนยอดเขาเหมือนทุกๆเช้า สายลมพัดผ่านใบหน้าเบาๆ ตาจ้องมองไปในจุดที่พระอาทิตย์ขึ้นเป็นประจำ แต่ในความฝันไม่มีดวงอาทิตย์ในตอนเช้าเหมือนทุกวัน แต่กลับเป็นตึกสูงเฉียดฟ้า ที่บดบังดวงอาทิตย์ในวันนั้นจนหมดสิ้น ในความฝัน เด็กคนนั้นยืนร้องให้เหมือนกับว่าใจจะขาด และคุกเขาลงไปนอนราบกับพื้นที่ไม่มีแม้แต่ดอกไม้สักดอก ราวเหมือนกับว่าตัวเขาจะสลายหายไป เหมือนกับดวงอาทิตย์ที่เขามองไม่เห็นในวันนั้น ทุกอย่างในความฝันทั้งหมด ไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นเลย ในโลกความจริงของเขา เมื่อเด็กคนนั้นตื่นขึ้น ได้พบว่าตัวเขายังมีหยาดน้ำตา และยังมีความรู้สึกทุกอย่างเหมือนในความฝัน เขาเอามือปาดน้ำตา และนั้งอยู่ที่เดิมสักพักเหมือนกับว่าคิดอะไรสักอย่าง หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ลุกขึ้น แต่แทนที่เขาจะปีนขึ้นไปบนยอดเขาเหมือนในทุกครั้ง เด็กคนนั้นกลับเดินไปข้างหน้า พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าที่ผมไม่เคยเห็น เขามองขึ้นไปบนยอดเขาลูกเดิม พร้อมกับใจของเขาที่คิดว่า ถ้าตึกสูงในความฝันที่เขาเห็น บดบังดวงอาทิตย์ของเขาจนหมดสิ้น แสดงว่ายอดเขาลูกเดิมของเขาคงต่ำเกินไป ฉะนั้นเขาจึงควรต้องออกเดินทาง เพื่อตามหายอดเขาที่สูงกว่าตึกๆนั้น ไม่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในฝันจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ และจะมียอดเขาที่สูงกว่าตึกในความฝันนั้นไหม เด็กคนนั้นไม่มีทางรู้เลย แต่เขาก็เลือกที่จะเดินไปพร้อมกับความหวัง เพราะตัวเขารู้ว่า ความสุขและหน้าที่ของเขาบนโลกใบนี้ คือการชื่นชมพระอาทิตย์ เหมือนกับพระอาทิตย์ที่จะโผล่ขึ้นมาในทุกๆเช้า เพื่อให้เด็กคนนั้นได้ชื่นชมอยู่เสมอ
หลายๆครั้ง ที่เราจะต้องตัดสินใจอะไรบางอย่างที่ไม่แน่นอน อาจจะมีผิดหวัง และอาจะสุขสมหวัง แต่ถ้าการตัดสินใจนั้น ปลายทางคือความสุข ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่เราจะยืนอยู่กับที่ หรืออยู่กับความเคยชิน ที่เราชอบคิดไปเองอว่ามันคือความสุข บางสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นในวันนี้ ก็ไม่ได้แปลว่าในวันพรุ่งนี้จะไม่เกิดขึ้น ถ้าเรามั่นคงต่อจุดมุ่งหมาย ไม่ว่าจะต้องตัดสินใจอีกกี่สิบครั้ง สุดท้ายเราก็พบความสุขที่แท้จริง เพราะว่าอย่างน้อยเราก็เลือกที่จะทำ และไม่กลัวที่จะตัดสินใจ
ตัวของฉันหัวใจของฉัน