ผมมองแบบนี้
ที่เขาบีบไป 6 กิโล นี่ ตีใว้ว่า กิโล ละ 1 ลิตร คือ นม 6 ลิตร
นม 6 ลิตร นี่ ถ้าเขาตั้งใจโหลดลงใต้เครื่องแต่แรก แสดงว่า เขาต้องไปในที่ๆ เขาไม่สะดวกใจโชว์นมตัวเองให้ ชาวบ้านเขาดู เลยต้องเค้นนมเอาใว้ เผื่อเอาใว้
คำว่า นม 6 ลิตร หรือ 6 กิโล นี่
ผมก็มองว่า เขาคงไม่ได้คิดว่า จะให้กินให้หมด แต่ คงเพื่อให้มีเพียงพอ เหลือ ดีกว่าไม่พอ เพราะ ถ้ามันไม่สะดวกจริงๆ จะ ควักนมโชว์กลางสาธารณะ มันก็คงไม่ใช่
ผมว่า เขาก็คงเตรียมพร้อมเพื่อให้ลูกได้มีกิน เหมือนที่ " แม่ ๆ " หลายๆ ท่าน เขาก็ทำกัน เพื่อไม่ให้ลูกอด( คือ ด้วยความเป็นแม่อะ ต้องให้ลูกได้มีกิน แม่ใครๆ ก็ทำกันทุกคน แม่ผมก็ทำเพื่อให้ผมมีกิน ) และ ตัวเองต้องลำบากเกินไป จนไม่สะดวก เกินไป ถ้า ต้องไปในที่สาธารณะ
เขาคงต้องเดินทางไปที่ๆ ไม่สะดวกจะควักนมตัวเองโชว์ชาวบ้านชาวช่องให้มาส่องดู
อย่างหลายๆ ท่าน เวลาไปไหนมาไหน ก็ยังเตรียมพร้อม เตรียมของที่จะไปในสถานที่นั้นๆ
เรื่องต่อมา : น้ำหนักเกินนี่ ผมว่านะ เค้าก็คงรีบ จนไม่ได้ ชังน้ำหนัก ให้เป๊ะ
ถัดมา : พอน้ำหนักเกิน กลับต้องเอานมที่เตรียมใว้ให้ลูกกิน ทิ้ง อันนี้ ผมมองว่า เค้าคงคิดว่า ทิ้งๆ ไป ให้ผ่านๆ เข้าไปโหลดได้ ( นม 6 กิลิโล หรือ 6 ลิตร ต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 2,400 บาท นี่ มันก็ไม่คุ้ม ไปคั้นเอาใหม่ก็ได้ คงจะคิดประมาณนั้น )
ซึ่งผมก็คิดว่า เขาก็คงเสียดายเหมือนกัน แต่ มันก็ไม่คุ้ม นม 6 กิโล ราคาโหลด 2,400 บาท !!!!!
แต่มุมมองพนักงาน ผู้หญิง เพศที่มีสัญชาตญาณ ความเป็นแม่ เห็นแล้ว มันก็ คือความรู้สึกของความเป็นเพศแม่ ก็เลยต้องแก้ไขให้เพื่อ ให้แม่ได้นำนมไปให้ลูกดื่ม ให้คุณแม่ ได้รับความสะดวก ซึ่งก็เป็นส่วนนึง ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อดูแลความปลอดภัย และ ความเรียบร้อย ความสะดวกแก่ผู้โดยสาร โดยที่ พนักงาน เค้าก็ถูกฝึกถูกอบรมณ์มาอยู่แล้ว
จึงแบ่งๆๆๆๆ เพื่อให้โหลดผ่าน โดยที่ คุณแม่ท่านนั้น ไม่ได้ร้องขอให้พนักงานคนนั้นช่วยจัดการให้ แถม ให้เอาโยนทิ้งด้วยซ้ำ
และเพราะรู้ว่า นมแม่ เอาขึ้นเครื่องไปได้ ก็เลยแบ่งบางส่วน เอาไปเผื่อให้ลูกน้อยได้ดื่มได้กินกลางทาง ถ้าหิว และเพื่อลดน้ำหนักการโหลดกระเป๋า โดยที่คุณแม่ก็คงไม่รู้ว่า นำนมขึ้นไปได้ เกิน 100 CC หรือ เกินของเหลวตามกำหนด ( ถ้าเขารู้ เขาก็คงแบ่งขึ้นไปด้วยล่ะมั้ง เพราะ มันก็สะดวกกว่า ไปควักนมออกมาโชว์ชาวบ้านบนเครื่อง )
จบด้วย WIN & WIN ทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งคุณแม่ ที่อุตส่าห์เค้นนมเปนวันเพื่อสำรองนมใว้ให้ลูกได้มีกิน ทั้งวันโดยไม่ต้องไปนั่งควักนมโชว์ชาวบ้าน และ พนักงาน ก็ได้ปฏิบัติหน้าที่ อย่างมุ่งมั่น ด้วยใจ ที่ ยึดถือหลักความเป็นจริง โดยใช้กฏ กติกา เป็นหลักที่ตั้ง
ปล. ผมอาจคิดไปเองนะ แต่ คิดด้วยแบบว่า เอาใจเขา มาใส่ใจเราดู ว่า ถ้าเป็นเรา เราจะคิดแบบไหน
กรณีเรื่อง นมแม่ พนักงาน น้ำหนักเกิน ขึ้นเครื่องบิน ผมคิดแบบนี้นะ
ที่เขาบีบไป 6 กิโล นี่ ตีใว้ว่า กิโล ละ 1 ลิตร คือ นม 6 ลิตร
นม 6 ลิตร นี่ ถ้าเขาตั้งใจโหลดลงใต้เครื่องแต่แรก แสดงว่า เขาต้องไปในที่ๆ เขาไม่สะดวกใจโชว์นมตัวเองให้ ชาวบ้านเขาดู เลยต้องเค้นนมเอาใว้ เผื่อเอาใว้
คำว่า นม 6 ลิตร หรือ 6 กิโล นี่
ผมก็มองว่า เขาคงไม่ได้คิดว่า จะให้กินให้หมด แต่ คงเพื่อให้มีเพียงพอ เหลือ ดีกว่าไม่พอ เพราะ ถ้ามันไม่สะดวกจริงๆ จะ ควักนมโชว์กลางสาธารณะ มันก็คงไม่ใช่
ผมว่า เขาก็คงเตรียมพร้อมเพื่อให้ลูกได้มีกิน เหมือนที่ " แม่ ๆ " หลายๆ ท่าน เขาก็ทำกัน เพื่อไม่ให้ลูกอด( คือ ด้วยความเป็นแม่อะ ต้องให้ลูกได้มีกิน แม่ใครๆ ก็ทำกันทุกคน แม่ผมก็ทำเพื่อให้ผมมีกิน ) และ ตัวเองต้องลำบากเกินไป จนไม่สะดวก เกินไป ถ้า ต้องไปในที่สาธารณะ
เขาคงต้องเดินทางไปที่ๆ ไม่สะดวกจะควักนมตัวเองโชว์ชาวบ้านชาวช่องให้มาส่องดู
อย่างหลายๆ ท่าน เวลาไปไหนมาไหน ก็ยังเตรียมพร้อม เตรียมของที่จะไปในสถานที่นั้นๆ
เรื่องต่อมา : น้ำหนักเกินนี่ ผมว่านะ เค้าก็คงรีบ จนไม่ได้ ชังน้ำหนัก ให้เป๊ะ
ถัดมา : พอน้ำหนักเกิน กลับต้องเอานมที่เตรียมใว้ให้ลูกกิน ทิ้ง อันนี้ ผมมองว่า เค้าคงคิดว่า ทิ้งๆ ไป ให้ผ่านๆ เข้าไปโหลดได้ ( นม 6 กิลิโล หรือ 6 ลิตร ต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 2,400 บาท นี่ มันก็ไม่คุ้ม ไปคั้นเอาใหม่ก็ได้ คงจะคิดประมาณนั้น )
ซึ่งผมก็คิดว่า เขาก็คงเสียดายเหมือนกัน แต่ มันก็ไม่คุ้ม นม 6 กิโล ราคาโหลด 2,400 บาท !!!!!
แต่มุมมองพนักงาน ผู้หญิง เพศที่มีสัญชาตญาณ ความเป็นแม่ เห็นแล้ว มันก็ คือความรู้สึกของความเป็นเพศแม่ ก็เลยต้องแก้ไขให้เพื่อ ให้แม่ได้นำนมไปให้ลูกดื่ม ให้คุณแม่ ได้รับความสะดวก ซึ่งก็เป็นส่วนนึง ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อดูแลความปลอดภัย และ ความเรียบร้อย ความสะดวกแก่ผู้โดยสาร โดยที่ พนักงาน เค้าก็ถูกฝึกถูกอบรมณ์มาอยู่แล้ว
จึงแบ่งๆๆๆๆ เพื่อให้โหลดผ่าน โดยที่ คุณแม่ท่านนั้น ไม่ได้ร้องขอให้พนักงานคนนั้นช่วยจัดการให้ แถม ให้เอาโยนทิ้งด้วยซ้ำ
และเพราะรู้ว่า นมแม่ เอาขึ้นเครื่องไปได้ ก็เลยแบ่งบางส่วน เอาไปเผื่อให้ลูกน้อยได้ดื่มได้กินกลางทาง ถ้าหิว และเพื่อลดน้ำหนักการโหลดกระเป๋า โดยที่คุณแม่ก็คงไม่รู้ว่า นำนมขึ้นไปได้ เกิน 100 CC หรือ เกินของเหลวตามกำหนด ( ถ้าเขารู้ เขาก็คงแบ่งขึ้นไปด้วยล่ะมั้ง เพราะ มันก็สะดวกกว่า ไปควักนมออกมาโชว์ชาวบ้านบนเครื่อง )
จบด้วย WIN & WIN ทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งคุณแม่ ที่อุตส่าห์เค้นนมเปนวันเพื่อสำรองนมใว้ให้ลูกได้มีกิน ทั้งวันโดยไม่ต้องไปนั่งควักนมโชว์ชาวบ้าน และ พนักงาน ก็ได้ปฏิบัติหน้าที่ อย่างมุ่งมั่น ด้วยใจ ที่ ยึดถือหลักความเป็นจริง โดยใช้กฏ กติกา เป็นหลักที่ตั้ง
ปล. ผมอาจคิดไปเองนะ แต่ คิดด้วยแบบว่า เอาใจเขา มาใส่ใจเราดู ว่า ถ้าเป็นเรา เราจะคิดแบบไหน