เชื่อว่าจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาฮอกไกโด คงหนีไม่พ้นการมาชมฟาร์มดอกไม้สวยๆ ในหน้าร้อนและเทศกาลหิมะในหน้าหนาว แต่สำหรับครั้งนี้ เราตั้งใจมาเที่ยวเทศกาลใหญ่อีกรายการหนึ่งที่คนไทยแทบไม่เคยพูดถึงมาก่อน นั่นก็คือ เทศกาลอาหารเมืองซัปโปโร หรือ Sapporo Autumn Festival
เทศกาลอาหารเมืองซัปโปโรนี้ เป็นงานใหญ่ที่จัดขึ้นประจำทุกปีในช่วงเดือนกันยายน ณ สวนโอโดริ เป็นงานที่รวบรวมอาหารอร่อยนานาชนิดทั่วเกาะฮอกไกโดกว่า 100 ร้านค้า ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 กันยายน - 4 ตุลาคม รวมทั้งสิ้น 24 วัน และคาดว่าจะมีผู้มาเที่ยวชมงานกว่า 1 ล้านคน
ตัวเราเองตั้งใจมาซัปโปโรเพื่อเที่ยวงานนี้โดยเฉพาะ เรียกได้ว่ามาตั้งแต่วันแรกที่เปิดงานเลยทีเดียว เริ่มเดินตั้งแต่ 10.30 น. กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เกือบเย็นซะแล้ว ขอบอกเลยว่า ใครที่ชอบอาหารญี่ปุ่นนานาชนิด ไม่ควรพลาดงานนี้เด็ดขาด!
ร้านแรก ประเดิมชิมของหวานก่อนเลย เห็นยกรังผึ้งกันมาโชว์ตัวเป็นๆ เลยลองสั่งทั้งสองอย่างที่มีอยู่ในร้านนี้ คือ น้ำมะนาว และ ไอศกรีม (มีให้เลือก 2 รส คือ รสนม และ โยเกิร์ต) สามารถราดน้ำผึ้งได้เยอะเท่าที่เราต้องการ ราคาอย่างละ 400 เยน
เมนูร้านนี้เป็นหอยหมดทุกจาน ดูท่าทางจะสดดี เลยลองสั่งหอยนางรมย่าง สดและหวานมาก จานนี้ราคา 700 เยน
ร้านนี้เน้นหนักไปทางเนื้อ เห็นมีควันโขมงออกจากร้านตลอดเวลาและคนต่อคิวยาวมาก แถวยาวผู้จัดงานต้องมาช่วยเคลียร์หางแถวให้ เลยลองจัด Sirloin มาดูสักหนึ่งจาน เสิร์ฟพร้อมกับมันฝรั่งทอด หอมอร่อยเนื้อนุ่ม ไม่เหนียวเลย
ร้านนี้คิวยาวอีกแล้ว เมนูหลักเป็นพวกซีฟู้ด ทั้งหอยนางรม หอยเชลล์ ขาปูทาราบะ ฯลฯ เลยลองสั่งหอยนางรมและหอยเชลล์มาชิมอีกสักจาน ก็ปรากฏว่าสดอร่อยไม่แพ้ร้านแรก
นี่ก็อีกร้านที่คิวยาว ชิโอะราเมงกุ้ง แต่ร้านนี้ไม่ได้ชิมเพราะกลัวหนักท้อง ชิมอย่างอื่นได้น้อย เลยขอผ่านไปก่อน
บริเวณนี้เป็นโซนอาหารนานาชาติ มีทั้งอินเดีย ละติน และยังมีอาหารไทยด้วย ตอนเย็นเดินวนกลับมาดู ปรากฏว่าร้านอาหารไทยคิวแน่นมาก ของเราดีจริงๆ
จานนี้จัดให้เป็นเมนูอันดับหนึ่งของทริปเลย ไข่หอยเม่นย่าง สด หอม หวาน มัน อร่อยมากจริงๆ ด้วยความที่เป็นของสดเลยอร่อยกว่าไข่หอยเม่นที่เรากินในเมืองไทยเยอะ แถมเป็นเงินไทยแล้วตกประมาณ 200 บาท ราคาและคุณภาพแบบนี้หาไม่ได้ในเมืองไทยแน่นอน
สเต๊กเนื้อ A5 ก็ยังมีขายในงาน เลยต้องลองชิมเสียหน่อย นุ่มละลายในปากสมคำร่ำลือ แต่ชิ้นใหญ่มากจนแทบกินอย่างอื่นต่อไม่ไหว
ซุปมิโซะปูขนร้อนๆ ราคาถ้วยละ 500 เยนเท่านั้น
ภาพบรรยากาศในงาน ยิ่งสาย คนยิ่งมาเที่ยวกันเยอะ คนต่อคิวกันยาวแทบทุกร้าน
ด้วยความติดใจรสชาติไข่หอยเม่นย่าง ก่อนเดินทางออกจากซัปโปโร จึงแวะมาหากินส่งท้ายอีกสักครั้ง ตอนกลางคืนมีคนมาเที่ยวงานเยอะกว่ากลางวันหลายเท่าจนแทบไม่มีที่นั่งว่างเลย เดินไปถามหาไข่หอยเม่นจากร้านเดิมก็หมด เดินหาอีก 2-3 ร้านก็ขายหมดแล้วทุกร้าน ขายดีจริงๆ
ในที่สุด ก็หาเจอจนได้ แต่ราคาแพงกว่าร้านแรกนิดหน่อย ตัวละ 1,000 เยน เลยจัดมา 4 ตัว เป็นการส่งท้าย แถมยังได้ไข่หอยเม่นปรุงรสห่อสาหร่ายย่างจากร้านข้างๆ มาอีก หอมอร่อยไปอีกแบบ
[CR] รีวิว... เทศกาลอาหารเมืองซัปโปโร หรือ Sapporo Autumn Festival 2015
เชื่อว่าจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาฮอกไกโด คงหนีไม่พ้นการมาชมฟาร์มดอกไม้สวยๆ ในหน้าร้อนและเทศกาลหิมะในหน้าหนาว แต่สำหรับครั้งนี้ เราตั้งใจมาเที่ยวเทศกาลใหญ่อีกรายการหนึ่งที่คนไทยแทบไม่เคยพูดถึงมาก่อน นั่นก็คือ เทศกาลอาหารเมืองซัปโปโร หรือ Sapporo Autumn Festival
เทศกาลอาหารเมืองซัปโปโรนี้ เป็นงานใหญ่ที่จัดขึ้นประจำทุกปีในช่วงเดือนกันยายน ณ สวนโอโดริ เป็นงานที่รวบรวมอาหารอร่อยนานาชนิดทั่วเกาะฮอกไกโดกว่า 100 ร้านค้า ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 กันยายน - 4 ตุลาคม รวมทั้งสิ้น 24 วัน และคาดว่าจะมีผู้มาเที่ยวชมงานกว่า 1 ล้านคน
ตัวเราเองตั้งใจมาซัปโปโรเพื่อเที่ยวงานนี้โดยเฉพาะ เรียกได้ว่ามาตั้งแต่วันแรกที่เปิดงานเลยทีเดียว เริ่มเดินตั้งแต่ 10.30 น. กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เกือบเย็นซะแล้ว ขอบอกเลยว่า ใครที่ชอบอาหารญี่ปุ่นนานาชนิด ไม่ควรพลาดงานนี้เด็ดขาด!
ร้านแรก ประเดิมชิมของหวานก่อนเลย เห็นยกรังผึ้งกันมาโชว์ตัวเป็นๆ เลยลองสั่งทั้งสองอย่างที่มีอยู่ในร้านนี้ คือ น้ำมะนาว และ ไอศกรีม (มีให้เลือก 2 รส คือ รสนม และ โยเกิร์ต) สามารถราดน้ำผึ้งได้เยอะเท่าที่เราต้องการ ราคาอย่างละ 400 เยน
เมนูร้านนี้เป็นหอยหมดทุกจาน ดูท่าทางจะสดดี เลยลองสั่งหอยนางรมย่าง สดและหวานมาก จานนี้ราคา 700 เยน
ร้านนี้เน้นหนักไปทางเนื้อ เห็นมีควันโขมงออกจากร้านตลอดเวลาและคนต่อคิวยาวมาก แถวยาวผู้จัดงานต้องมาช่วยเคลียร์หางแถวให้ เลยลองจัด Sirloin มาดูสักหนึ่งจาน เสิร์ฟพร้อมกับมันฝรั่งทอด หอมอร่อยเนื้อนุ่ม ไม่เหนียวเลย
ร้านนี้คิวยาวอีกแล้ว เมนูหลักเป็นพวกซีฟู้ด ทั้งหอยนางรม หอยเชลล์ ขาปูทาราบะ ฯลฯ เลยลองสั่งหอยนางรมและหอยเชลล์มาชิมอีกสักจาน ก็ปรากฏว่าสดอร่อยไม่แพ้ร้านแรก
นี่ก็อีกร้านที่คิวยาว ชิโอะราเมงกุ้ง แต่ร้านนี้ไม่ได้ชิมเพราะกลัวหนักท้อง ชิมอย่างอื่นได้น้อย เลยขอผ่านไปก่อน
บริเวณนี้เป็นโซนอาหารนานาชาติ มีทั้งอินเดีย ละติน และยังมีอาหารไทยด้วย ตอนเย็นเดินวนกลับมาดู ปรากฏว่าร้านอาหารไทยคิวแน่นมาก ของเราดีจริงๆ
จานนี้จัดให้เป็นเมนูอันดับหนึ่งของทริปเลย ไข่หอยเม่นย่าง สด หอม หวาน มัน อร่อยมากจริงๆ ด้วยความที่เป็นของสดเลยอร่อยกว่าไข่หอยเม่นที่เรากินในเมืองไทยเยอะ แถมเป็นเงินไทยแล้วตกประมาณ 200 บาท ราคาและคุณภาพแบบนี้หาไม่ได้ในเมืองไทยแน่นอน
สเต๊กเนื้อ A5 ก็ยังมีขายในงาน เลยต้องลองชิมเสียหน่อย นุ่มละลายในปากสมคำร่ำลือ แต่ชิ้นใหญ่มากจนแทบกินอย่างอื่นต่อไม่ไหว
ซุปมิโซะปูขนร้อนๆ ราคาถ้วยละ 500 เยนเท่านั้น
ภาพบรรยากาศในงาน ยิ่งสาย คนยิ่งมาเที่ยวกันเยอะ คนต่อคิวกันยาวแทบทุกร้าน
ด้วยความติดใจรสชาติไข่หอยเม่นย่าง ก่อนเดินทางออกจากซัปโปโร จึงแวะมาหากินส่งท้ายอีกสักครั้ง ตอนกลางคืนมีคนมาเที่ยวงานเยอะกว่ากลางวันหลายเท่าจนแทบไม่มีที่นั่งว่างเลย เดินไปถามหาไข่หอยเม่นจากร้านเดิมก็หมด เดินหาอีก 2-3 ร้านก็ขายหมดแล้วทุกร้าน ขายดีจริงๆ
ในที่สุด ก็หาเจอจนได้ แต่ราคาแพงกว่าร้านแรกนิดหน่อย ตัวละ 1,000 เยน เลยจัดมา 4 ตัว เป็นการส่งท้าย แถมยังได้ไข่หอยเม่นปรุงรสห่อสาหร่ายย่างจากร้านข้างๆ มาอีก หอมอร่อยไปอีกแบบ