ทั้งเมาติดดี เมาความดี ทั้งเมาการเมืองเรื่องชี้นิ้วว่าคนอื่นฝ่ายอื่นชั่ว เมาแบบแผ่นเสียงตกร่อง
แผ่นเสียงตกร่องมาสามสิบปีแล้ว
หล่อล่ะหน่าย
รัฐสภา
21 กันยายน 2558
สนช. จัดสัมมนา ในหัวข้อ “
การพัฒนาการเมืองเพื่อความยั่งยืนของระบอบประชาธิปไตยไทย”
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9580000106650
มาดูอาการคนเมากันครับ
คนแรก นายกล้าณรงค์ จันทิก พูดว่า
"เราต้องมองว่าความสำคัญในระบอบประชาธิปไตย สิ่งที่สำคัญและเป็นรากฐานคือพรรคการเมือง ฉะนั้น พรรคการเมืองเป็นตัวหลักในการชี้และนำทางไปสู่ระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ปัญหาที่ต้องมองต่อไปพรรคการเมืองในปัจจุบัน เป็นพรรคการเมืองแบบอุดมคติ ถึงเวลาแล้วที่บ้านเมืองเราต้องเดินไปสู่จุดปฏิรูปและเปลี่ยนแปลง เรายึดระบบอุปถัมภ์มากกว่าคุณธรรมทำให้คนมีอุดมการณ์เข้ามาทำงานได้ยาก เพราะเรายึดคนมีอำนาจ คนมีเงินมากกว่าจึงเกิดปัญหาใหญ่ขึ้น แต่ที่ตนหวังคือนักการเมืองต้องแก้ไข..."
งง ไม่รู้จะเอายังไงกันแน่ งง ไม่รู้พูดเรื่องอะไรกันแน่
แต่ที่แน่ ๆ ก็คือ โทษนักการเมือง โทษนั่นโทษนี่ อ้างปฏิรูป แต่ไม่รู้ปฏิรูปยังไง แบบไหน อย่างไร
อ้างแต่ว่าต้องร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลกับประชาชน มีพรรคการเมืองเป็นตัวขับเคลื่อน
งง
ประเด็นคือ พรรคการเมืองน่ะ เขามีกฎหมายพรรคการเมือง หากเขาผิด เขาก็โดนลงโทษ
หากเขาไม่ผิด จะไปเอาอะไรกับเขาอีก
เลิกซะทีกับการอ้าง การประดิดประดอยวาทกรรมมาทำลายกัน
เลิกซะทีกับการใช้จินตนาการสวยหรู ว่าพรรคการเมืองต้องอย่างนั้น นักการเมืองต้องอย่างนี้
สิ่งที่ควรทำคือปล่อยให้ระบบเดินไปตามปกติ ช่วยกันปกป้องและเสริมสร้างระบบให้ดี
แล้วระบบจะจัดการเอง จะค่อย ๆ คัดกรองสิ่งไม่ดีออกไปเอง
ไม่ใช่เอะอะก็ล้มระบบ แล้วแห่แหนกันรับใช้ เยินยอคนล้ม
แล้วก็สร้างวาทกรรม ประดิดประดอยคำพูด ว่าบอกว่าอย่างนั้นไม่ดี อย่างนั้นถึงจะดี
โดยละเลยและทำลายระบบที่ควรเดินไป แทนที่จะเดินหน้า กลับมีแต่ย่ำอยู่กับที่และถอยหลังลงคลองน้ำครำ
อีกคน คือนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ พูดว่า
"พรรคการเมืองต้องไม่ใช่พรรคชั่วครู่ชั่วยามเพื่อผลประโยชน์ ไม่ใช่พรรคข้ามคืน ไม่ใช่พรรคที่หาทางออกของประเทศชาติ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานทางออกของประชาธิปไตย รวมถึงพรรคการเมืองจะต้องไม่เป็นพาหะพิเศษเพื่อการลงทุน ไม่จัดตั้งขึ้นเพื่อฉกฉวยโอกาสเฉพาะหน้า แต่ต้องจัดตั้งขึ้นเพื่อดุดมการณ์ หากเรามีพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์ชัดเจน มีวิธีมองปัญหา วิธีวิเคราะห์ปัญหาในกระบวนการประชาธิปไตยจะชัดเจนและยั่งยืน ดังนั้นพรรคการเมืองจะต้องไม่ตั้งขึ้นมาเพื่อธุรกิจพิเศษเฉพาะหน้า เพื่อการต่อรองขอเก้าอี้ เราจะกำหนดได้หรือไม่ในกฎหมายว่าจะต้องไม่มีการควบรวมยุบพรรคหลังการเลือกตั้ง เพราะการทำแบบนี้คือการหาเสียงข้างมาก ที่เป็นเหมือนใบอนุญาตไปทำอะไรก็ได้ ดังนั้น อย่าให้คะแนนเสียงของประชาชนเป็นสินค้า อย่าให้การเลือกตั้งเป็นการตลาด กรอบกฎหมายใหม่ต้องป้องกันสิ่งเหล่านี้ไม่ให้เกิดขึ้น"
อ่านแล้วก็ได้แต่ เฮ้อออ...
นึกว่าไปเป็นเลขาธิการอาเซียนตั้งหลายปี แล้วสันดาน ปชป. จะลบเลือนไปบ้าง
ที่ไหนได้ ล้างไม่ออก ล้างไม่ออก...
ยิ่งกว่าแผ่นเสียงตกร่อง เพียงแต่ไม่เอ่ยชื่อพรรคการเมืองเท่านั้นเอง
เอาดีใส่ตัว ยัดชั่วคนอื่น ตามสไตล์แมงสาป
ถามหน่อยเหอะ คุณสุรินทร์ เอ๊ยยยย... อุดมการณ์พรรค ปชป. 10 ข้อ น่ะ ข้อไหนที่ ปชป. ทำมั่ง
ช่วงปี 2535 กับปี 2540 ที่ ปชป. เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายชวนเป็นนายกฯ ต่อรองเก้าอี้กันขนาดไหน
ปี 2540 งูเห่าเกิดขึ้นเพราะใคร
กลุ่มนายวัฒนา อัศวเหม เข้าร่วมรัฐบาลเพราะต่อรองกระทรวงได้ใช่ไหม
จนเกิดคดีคลองด่านอันครึกโครม ค่าโง่อันมหาศาล 9 พันล้าน
แล้วระยะสี่ห้าปีมานี่ ใครคุมพรรค ???
กลุ่มเนวิน "งูเห่าภาคสอง" ต่อรองกระทรวงใหญ่ไปครองหมดใช่ไหม จนเกิดมหาเศรษฐีในภาคอีสานขึ้นหลายคน
ต่อรองกับพรรคใดในการร่วมจัดตั้งรัฐบาล ?
คนพรรค ปชป. นี่ เก่งเหลือเกิน เก่งในการสร้างวาทกรรม เก่งในการประดิดประดอยคำพูด
ไม่เคยอาย สีหน้าแววตาไม่เคยวูบไหวยามโกหก ยามพูดใส่ร้ายโยนชั่วให้คนอื่น
ส่วนอีกคน ก็กวีศรีรัตนโกสินทร์ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ อ้างประชาชนมาแต่ไกลเลยเชียว
เอาธรรมเป็นอำนาจเถิด http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1442839464
อ่านแล้วก็ได้แต่ปวดตับ
ไม่รู้เมื่อไรคนพวกนี้จะสร่างเมา
บ่อยากเว้าหลาย อ่านแล้วพิจารณาเอาเองครับ
ปวดตับกับพวกขี้เมา หน่ายพวกขี้เมา
แผ่นเสียงตกร่องมาสามสิบปีแล้ว
หล่อล่ะหน่าย
รัฐสภา
21 กันยายน 2558
สนช. จัดสัมมนา ในหัวข้อ “การพัฒนาการเมืองเพื่อความยั่งยืนของระบอบประชาธิปไตยไทย”
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9580000106650
มาดูอาการคนเมากันครับ
คนแรก นายกล้าณรงค์ จันทิก พูดว่า
"เราต้องมองว่าความสำคัญในระบอบประชาธิปไตย สิ่งที่สำคัญและเป็นรากฐานคือพรรคการเมือง ฉะนั้น พรรคการเมืองเป็นตัวหลักในการชี้และนำทางไปสู่ระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ปัญหาที่ต้องมองต่อไปพรรคการเมืองในปัจจุบัน เป็นพรรคการเมืองแบบอุดมคติ ถึงเวลาแล้วที่บ้านเมืองเราต้องเดินไปสู่จุดปฏิรูปและเปลี่ยนแปลง เรายึดระบบอุปถัมภ์มากกว่าคุณธรรมทำให้คนมีอุดมการณ์เข้ามาทำงานได้ยาก เพราะเรายึดคนมีอำนาจ คนมีเงินมากกว่าจึงเกิดปัญหาใหญ่ขึ้น แต่ที่ตนหวังคือนักการเมืองต้องแก้ไข..."
งง ไม่รู้จะเอายังไงกันแน่ งง ไม่รู้พูดเรื่องอะไรกันแน่
แต่ที่แน่ ๆ ก็คือ โทษนักการเมือง โทษนั่นโทษนี่ อ้างปฏิรูป แต่ไม่รู้ปฏิรูปยังไง แบบไหน อย่างไร
อ้างแต่ว่าต้องร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลกับประชาชน มีพรรคการเมืองเป็นตัวขับเคลื่อน
งง
ประเด็นคือ พรรคการเมืองน่ะ เขามีกฎหมายพรรคการเมือง หากเขาผิด เขาก็โดนลงโทษ
หากเขาไม่ผิด จะไปเอาอะไรกับเขาอีก
เลิกซะทีกับการอ้าง การประดิดประดอยวาทกรรมมาทำลายกัน
เลิกซะทีกับการใช้จินตนาการสวยหรู ว่าพรรคการเมืองต้องอย่างนั้น นักการเมืองต้องอย่างนี้
สิ่งที่ควรทำคือปล่อยให้ระบบเดินไปตามปกติ ช่วยกันปกป้องและเสริมสร้างระบบให้ดี
แล้วระบบจะจัดการเอง จะค่อย ๆ คัดกรองสิ่งไม่ดีออกไปเอง
ไม่ใช่เอะอะก็ล้มระบบ แล้วแห่แหนกันรับใช้ เยินยอคนล้ม
แล้วก็สร้างวาทกรรม ประดิดประดอยคำพูด ว่าบอกว่าอย่างนั้นไม่ดี อย่างนั้นถึงจะดี
โดยละเลยและทำลายระบบที่ควรเดินไป แทนที่จะเดินหน้า กลับมีแต่ย่ำอยู่กับที่และถอยหลังลงคลองน้ำครำ
อีกคน คือนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ พูดว่า
"พรรคการเมืองต้องไม่ใช่พรรคชั่วครู่ชั่วยามเพื่อผลประโยชน์ ไม่ใช่พรรคข้ามคืน ไม่ใช่พรรคที่หาทางออกของประเทศชาติ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานทางออกของประชาธิปไตย รวมถึงพรรคการเมืองจะต้องไม่เป็นพาหะพิเศษเพื่อการลงทุน ไม่จัดตั้งขึ้นเพื่อฉกฉวยโอกาสเฉพาะหน้า แต่ต้องจัดตั้งขึ้นเพื่อดุดมการณ์ หากเรามีพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์ชัดเจน มีวิธีมองปัญหา วิธีวิเคราะห์ปัญหาในกระบวนการประชาธิปไตยจะชัดเจนและยั่งยืน ดังนั้นพรรคการเมืองจะต้องไม่ตั้งขึ้นมาเพื่อธุรกิจพิเศษเฉพาะหน้า เพื่อการต่อรองขอเก้าอี้ เราจะกำหนดได้หรือไม่ในกฎหมายว่าจะต้องไม่มีการควบรวมยุบพรรคหลังการเลือกตั้ง เพราะการทำแบบนี้คือการหาเสียงข้างมาก ที่เป็นเหมือนใบอนุญาตไปทำอะไรก็ได้ ดังนั้น อย่าให้คะแนนเสียงของประชาชนเป็นสินค้า อย่าให้การเลือกตั้งเป็นการตลาด กรอบกฎหมายใหม่ต้องป้องกันสิ่งเหล่านี้ไม่ให้เกิดขึ้น"
อ่านแล้วก็ได้แต่ เฮ้อออ...
นึกว่าไปเป็นเลขาธิการอาเซียนตั้งหลายปี แล้วสันดาน ปชป. จะลบเลือนไปบ้าง
ที่ไหนได้ ล้างไม่ออก ล้างไม่ออก...
ยิ่งกว่าแผ่นเสียงตกร่อง เพียงแต่ไม่เอ่ยชื่อพรรคการเมืองเท่านั้นเอง
เอาดีใส่ตัว ยัดชั่วคนอื่น ตามสไตล์แมงสาป
ถามหน่อยเหอะ คุณสุรินทร์ เอ๊ยยยย... อุดมการณ์พรรค ปชป. 10 ข้อ น่ะ ข้อไหนที่ ปชป. ทำมั่ง
ช่วงปี 2535 กับปี 2540 ที่ ปชป. เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายชวนเป็นนายกฯ ต่อรองเก้าอี้กันขนาดไหน
ปี 2540 งูเห่าเกิดขึ้นเพราะใคร
กลุ่มนายวัฒนา อัศวเหม เข้าร่วมรัฐบาลเพราะต่อรองกระทรวงได้ใช่ไหม
จนเกิดคดีคลองด่านอันครึกโครม ค่าโง่อันมหาศาล 9 พันล้าน
แล้วระยะสี่ห้าปีมานี่ ใครคุมพรรค ???
กลุ่มเนวิน "งูเห่าภาคสอง" ต่อรองกระทรวงใหญ่ไปครองหมดใช่ไหม จนเกิดมหาเศรษฐีในภาคอีสานขึ้นหลายคน
ต่อรองกับพรรคใดในการร่วมจัดตั้งรัฐบาล ?
คนพรรค ปชป. นี่ เก่งเหลือเกิน เก่งในการสร้างวาทกรรม เก่งในการประดิดประดอยคำพูด
ไม่เคยอาย สีหน้าแววตาไม่เคยวูบไหวยามโกหก ยามพูดใส่ร้ายโยนชั่วให้คนอื่น
ส่วนอีกคน ก็กวีศรีรัตนโกสินทร์ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ อ้างประชาชนมาแต่ไกลเลยเชียว
เอาธรรมเป็นอำนาจเถิด http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1442839464
อ่านแล้วก็ได้แต่ปวดตับ
ไม่รู้เมื่อไรคนพวกนี้จะสร่างเมา
บ่อยากเว้าหลาย อ่านแล้วพิจารณาเอาเองครับ