คือต้องบอกก่อนว่า ผมเป็นผู้ชายทั้งคู่ครับ คือผมกับแฟนเนี้ยก็รู้จักกันมารวมระยะเวลาที่คบและรู้จักก็จะ 2 ปี ในวันที่ 5 ตุลา 2558 ซึ่งผมขอเขาเป็นแฟนเป็นของขวัญวันเกิดผมเมื่อปีที่แล้ว ผมอายุ 20 แฟนผมอายุ 22 เราก็คบกันมาเรื่อยๆ ผมอยู่อุดร เขาอยู่นนทบุรีครับ ตลอดระยะเวลาที่คบกันมา ก็มีหวานบ้างไม่เข้าใจกันบ้าง ตามประสาคู่รักทั่วๆ ไป นานๆ ครั้งเราเจอกัน เวลาเจอกันถ้าผมไปกรุงเทพผมก็ต้องไปกลับเพราะเขากลัวที่บ้านรู้ ส่วนถ้าเขามาอุดรผมก็จะเปิดห้องอยู่กันสองนเพราะที่บ้านผมกำลังสร้างไม่เสร็จ เลยไม่อยากให้เขาต้องลำบากครับ เราก็ไปหากันอยู่แบบนี้ มีช่วงหนึ่งที่เราไม่ได้ไปหากันเลย 6 เดือน มันคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ครับ
เมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา แฟนผมมาหาผมที่อุดรธานี มาเปิดห้องอยู่ด้วยกัน 2 คน เราก็ไปเที่ยวกันตามปกติ วันแรกก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมเริ่มสงสัยแล้วว่าเขาคุยแชทโทรศัพท์กับใคร ซึ่งผมก็เคยคิดว่าเขามีอีกคนแต่ผมไม่กล้าที่จะถามเขาตรงๆ เพราะกลัวจะเสียเขาไปครับ จนวันที่ 2 ที่เราอยุ่ด้วยกัน ก็เริ่มมีเรื่องผิดใจกัน เมื่อผมนอนหนุนบ่าเขา แล้วก็เล่นโทรศัพท์ มีแชทไลน์แชทเฟสเด้งขึ้นมาตลอด ด้วยความที่เราบริสูทธิ์ใจและอยากได้ความบริสูทธิ์ใจจากเขา เลยถามเขาว่าใคร เขาเงียบครับ ไม่ตอบไม่พูดอะไร เราเลยถามเขากลับไปว่า มีคนเข้ามาคุยด้วยใช่มั้ย (คือผมเป็นคนใจร้อนและพูดตรงไปตรงมา อยากเคลียร์ปัญหาสะตรงนั้นจะได้ไม่คาใจ) เขาก็กลับเงียบเช่นเคย เราก็งอลครับและก็คืนดีกันในที่สุด เขาก็บอกรักผมทุกวัน ไม่ว่าจะก่อนมาหาหรือวันที่มาหา ผมรู้สึกดีครับแต่ยังสงสัยเรื่องแชทในโทรศัพท์นั้นเช่นเคย วันที่ 3 วันสุดท้ายครับ ที่เราจะอยู่ด้วยกัน เพราะ 4 โมงเย็นผมต้องไปส่งเขาที่ท่าอากาศยานฯ เพื่อกลับบ้าน เราไปกินข้าวเช้าข้างนอกริมสวนสาธารณะหนองประจักษ์มาครับ ทุกอย่างเป็นปกติ แต่คราวนี้ผมเข้าไปกอดแฟนและดูแฟนเล่นเฟสอยู่ข้างๆ คือผมเห็นแชทเฟสที่ค้างอยู่แต่เขาไม่ยอมเปิดอ่านสักที ด้วยมันเป็นวันสุดท้ายของทริปนี้แล้ว ผมเลยตัดสินใจถามเขาอีกครั้งแบบเดิม เขาเงียบครับสักพักเขาก็บอกกับผมว่า "ขอโทษ" ผมงงครับว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมถึงพูดแบบนี้ เขาเลยบอกว่าเขาคุยกับอีกคน ซึ่งคนๆ นั้นเราก็รู้จักดี เพราะเป็นเพื่อนผู้ชายคนเดียวที่เขาสนิทที่สุด ผมอึ้งครับ ช้อกไปสักพัก ผมก็พูดขึ้นว่า "ไม่เป็นไร ..ผมให้อภัยพี่ถ้าพี่สำนึกผิดแล้วยอมบอกผม" เขาร้องไห้แล้วเขามาสารภาพและกอดผม ผมก็ได้แต่ปลอบเขา แต่ในใจลึกๆ ผมอยากจะด่า อยากจะโวยวายต่อว่าเขาเต็มทน แต่เพราะรักคำเดียวครับ เลยทำให้ผมต้องเลือกที่จะเป็นฝ่ายปลอบเขา และเขาก็เล่าความจริงทั้งหมดว่า / เขาคุยกับเพื่อนคนนี้ในถานะเพื่อน แต่ความรู้สึกที่เพิ่มเติมคือ รัก เพื่อนแฟนผมก็รักแฟนผม แฟนผมเองก็รักเพื่อนเช่นกัน ผมเจ็บมากเลยครับ เจ็บที่สุดในการมีแฟนครั้งผ่านๆ มา เพราะผมทุ่มเทกับความรักครั้งนี้มาก ผมเชื่อใจเขาคิดว่าเขาจะรักผมคนเดียวจริงๆ แต่มันกลับไม่ใช่ ทุกวันนี้ผมคุยทั้งกับเพื่อนแฟนคนนั้น คุยทั้งแฟนผมว่าจะเอายังไงต่อ เพื่อนคนนั้นเขาก็ยืนยันว่าจะไม่ไปใหนเพราะเคารพการตัดสินใจของแฟนเรา แต่ที่เจ็บยิ่งกว่าคือ ที่บ้านของแฟนผม เขารับรู้ว่าแฟนผมกับเพื่อน คบกันอยู่ ซึ่งผมก็มารู้ภายหลังว่าจริง! แต่คนในถานะแฟนอย่างผม กลับทำไรไม่ได้เลยขนาดไปบ้านยังไปไม่ได้ ต่างจากเพื่อนที่พากันมาค้างบ้าน 2 ต่อ 2 ซึ่งในตอนนั้นเราก็คิดแค่ว่าคือเพื่อนคงไม่มีอะไร แต่จริงๆแล้ว มันมีอะไรมากกว่าที่ผมคิดสะอีก / ตอนนี้ แฟนผมบอกผมว่า เขารักผม แต่เขาก็รักคนนั้นเหมือนกัน และแฟนผมก็ขออยู่คนเดียวสักพักคิดทบทวนว่าจะเอายังไงต่อครับ
**ที่ผมออกมาเล่าในวันนี้คือ ผมทรมานคับกับการรอคำตอบของเขา เพราะเขากับเพื่อนก็อยู่ใกล้ๆ กัน ต่างจากผมที่อยู่ต่างจังหวัด ผมกลัวจะเสียเขาไปครับ ตอนนี้ผมทรมานเหลือเกินหาทางออกไม่ได้ ไม่รู้เรื่องจะจบลงยังไง รู้แต่ว่าตอนนี้ เหมือนตายทั้งเป็น
แฟนผมไปรักเพื่อน ควรทำอย่างไรดีครับ ?
เมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา แฟนผมมาหาผมที่อุดรธานี มาเปิดห้องอยู่ด้วยกัน 2 คน เราก็ไปเที่ยวกันตามปกติ วันแรกก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมเริ่มสงสัยแล้วว่าเขาคุยแชทโทรศัพท์กับใคร ซึ่งผมก็เคยคิดว่าเขามีอีกคนแต่ผมไม่กล้าที่จะถามเขาตรงๆ เพราะกลัวจะเสียเขาไปครับ จนวันที่ 2 ที่เราอยุ่ด้วยกัน ก็เริ่มมีเรื่องผิดใจกัน เมื่อผมนอนหนุนบ่าเขา แล้วก็เล่นโทรศัพท์ มีแชทไลน์แชทเฟสเด้งขึ้นมาตลอด ด้วยความที่เราบริสูทธิ์ใจและอยากได้ความบริสูทธิ์ใจจากเขา เลยถามเขาว่าใคร เขาเงียบครับ ไม่ตอบไม่พูดอะไร เราเลยถามเขากลับไปว่า มีคนเข้ามาคุยด้วยใช่มั้ย (คือผมเป็นคนใจร้อนและพูดตรงไปตรงมา อยากเคลียร์ปัญหาสะตรงนั้นจะได้ไม่คาใจ) เขาก็กลับเงียบเช่นเคย เราก็งอลครับและก็คืนดีกันในที่สุด เขาก็บอกรักผมทุกวัน ไม่ว่าจะก่อนมาหาหรือวันที่มาหา ผมรู้สึกดีครับแต่ยังสงสัยเรื่องแชทในโทรศัพท์นั้นเช่นเคย วันที่ 3 วันสุดท้ายครับ ที่เราจะอยู่ด้วยกัน เพราะ 4 โมงเย็นผมต้องไปส่งเขาที่ท่าอากาศยานฯ เพื่อกลับบ้าน เราไปกินข้าวเช้าข้างนอกริมสวนสาธารณะหนองประจักษ์มาครับ ทุกอย่างเป็นปกติ แต่คราวนี้ผมเข้าไปกอดแฟนและดูแฟนเล่นเฟสอยู่ข้างๆ คือผมเห็นแชทเฟสที่ค้างอยู่แต่เขาไม่ยอมเปิดอ่านสักที ด้วยมันเป็นวันสุดท้ายของทริปนี้แล้ว ผมเลยตัดสินใจถามเขาอีกครั้งแบบเดิม เขาเงียบครับสักพักเขาก็บอกกับผมว่า "ขอโทษ" ผมงงครับว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมถึงพูดแบบนี้ เขาเลยบอกว่าเขาคุยกับอีกคน ซึ่งคนๆ นั้นเราก็รู้จักดี เพราะเป็นเพื่อนผู้ชายคนเดียวที่เขาสนิทที่สุด ผมอึ้งครับ ช้อกไปสักพัก ผมก็พูดขึ้นว่า "ไม่เป็นไร ..ผมให้อภัยพี่ถ้าพี่สำนึกผิดแล้วยอมบอกผม" เขาร้องไห้แล้วเขามาสารภาพและกอดผม ผมก็ได้แต่ปลอบเขา แต่ในใจลึกๆ ผมอยากจะด่า อยากจะโวยวายต่อว่าเขาเต็มทน แต่เพราะรักคำเดียวครับ เลยทำให้ผมต้องเลือกที่จะเป็นฝ่ายปลอบเขา และเขาก็เล่าความจริงทั้งหมดว่า / เขาคุยกับเพื่อนคนนี้ในถานะเพื่อน แต่ความรู้สึกที่เพิ่มเติมคือ รัก เพื่อนแฟนผมก็รักแฟนผม แฟนผมเองก็รักเพื่อนเช่นกัน ผมเจ็บมากเลยครับ เจ็บที่สุดในการมีแฟนครั้งผ่านๆ มา เพราะผมทุ่มเทกับความรักครั้งนี้มาก ผมเชื่อใจเขาคิดว่าเขาจะรักผมคนเดียวจริงๆ แต่มันกลับไม่ใช่ ทุกวันนี้ผมคุยทั้งกับเพื่อนแฟนคนนั้น คุยทั้งแฟนผมว่าจะเอายังไงต่อ เพื่อนคนนั้นเขาก็ยืนยันว่าจะไม่ไปใหนเพราะเคารพการตัดสินใจของแฟนเรา แต่ที่เจ็บยิ่งกว่าคือ ที่บ้านของแฟนผม เขารับรู้ว่าแฟนผมกับเพื่อน คบกันอยู่ ซึ่งผมก็มารู้ภายหลังว่าจริง! แต่คนในถานะแฟนอย่างผม กลับทำไรไม่ได้เลยขนาดไปบ้านยังไปไม่ได้ ต่างจากเพื่อนที่พากันมาค้างบ้าน 2 ต่อ 2 ซึ่งในตอนนั้นเราก็คิดแค่ว่าคือเพื่อนคงไม่มีอะไร แต่จริงๆแล้ว มันมีอะไรมากกว่าที่ผมคิดสะอีก / ตอนนี้ แฟนผมบอกผมว่า เขารักผม แต่เขาก็รักคนนั้นเหมือนกัน และแฟนผมก็ขออยู่คนเดียวสักพักคิดทบทวนว่าจะเอายังไงต่อครับ
**ที่ผมออกมาเล่าในวันนี้คือ ผมทรมานคับกับการรอคำตอบของเขา เพราะเขากับเพื่อนก็อยู่ใกล้ๆ กัน ต่างจากผมที่อยู่ต่างจังหวัด ผมกลัวจะเสียเขาไปครับ ตอนนี้ผมทรมานเหลือเกินหาทางออกไม่ได้ ไม่รู้เรื่องจะจบลงยังไง รู้แต่ว่าตอนนี้ เหมือนตายทั้งเป็น