[CR] ++เจาะอิตาลีงบประหยัด 3 แคว้น 10 วัน++ Part 2: Sesta Godano-Levanto-Bonassola

ตอน 2มาแล้ววววว ใครยังไม่ได้อ่านตอนแรก ++เจาะอิตาลีงบประหยัด 3 แคว้น 10 วัน++ Part 1: Florence-Modena-Parma
ตามลิ้งไปเลยจ้าาา  http://pantip.com/topic/34186007


อ่าาา เสร็จจาก 3 เมืองแรกในแคว้นทัสคานีกับอเมเลีย โรมันญ่าไปแล้ว ร่างกายเราก็ต้องการวิตามิน Sea!! เรากำลังมุ่งหน้าสู่แคว้น ลิกูเรีย ขับจากพาร์ม่าใช้เวลา ประมาณ 2 ชม. หลายๆเมืองที่เราจะไปกันรอบนี้อยู่ฝั่งทะเลเมดิเตอเรเนี่ยน ติดทะเลเลย ซึ่งต้องขับรถวนขึ้นเขา ลงเขา กันให้วุ่น คิดซะว่าขับรถขึ้นดอย คนอิตาเลี่ยนขับรถค่อนข้างเร็วค่ะเกิน speed limit ถึงแม้ถนนจะชัน ทางจะแคบแค่ไหน พี่อิตาเลี่ยนก็ไม่หวั่น ไม่ลดความเร็วสักเท่าไหร่  อ่ะ ถือว่าพี่โปร หลิ่วตา


ชื่อเมืองแรกที่เราไปคือ Sesta Godano เราจองห้องพักจาก airbnb ไว้ที่นี่
การเดินทางด้วยรถทำให้เรามีความยืดหยุ่นมากจริงๆ เพราะเมืองนี้ไม่มีรถสาธารณะขับผ่าน และเราจะใช้ที่นี่เป็นศูนย์กลางการเดินทางไปเมืองอื่นๆอีก เมืองนี่เป็นเมืองที่เล็กมากๆ มีประชากรแค่พันกว่าคนเอง เมืองนี่จะไม่ติดชายทะเล แต่อยู่บนเขาค่ะ มีธรรมชาติหุบเขาที่สวยงาม อากาศบริสุทธิ์ เราจะเห็นแค่คนท้องถิ่นมีอายุเดินไปมาหรือนั่งกินกาแฟอยู่ที่บาร์เกือบทั้งวัน

ตัดสินใจจองห้องที่นี่เพราะใกล้กับอีก 3 เมืองที่เราจะเดินทางไปแถมราคาก็แค่ 32ยูโรต่อคืน คุ้มมากๆๆๆ และเมืองนี้ทำให้เราสัมผัสกับความเป็นอิตาเลี่ยนจริงๆ เพราะไม่มีนักท่องเที่ยวเลย  ห้องที่เราจองเป็นอพาร์ทเม้นต์ที่ตกทอดมาจากรุ่นชวดของเจ้าของ ส่วนประกอบของบ้านและเฟอร์นิเจอร์บางส่วนเจ้าของมา renovate ใหม่ เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น โดยรวมแล้วยังให้ความรู้สึกที่เก่าแก่ แต่ไม่ทึนทึก
นี่คือห้องรับแขกค่ะ ใหญ่มาก มีเปียโนให้เล่นด้วย


นี่ก็ห้องครัว มีอุปกรณ์ทำครัวครบครัน แถมมีพวกเครื่องทำพาสต้าและอุปกรณ์ทำครัวสมัยก่อนให้ใช้ด้วย


รุปนี้คือส่วนห้องโถงและห้องดูทีวี


นี่ก็ห้องนอนที่ จขกทได้ ห้องนอนบ้านนี้มีทั้งหมด 3ห้อง แต่ช่วงที่ไปมี จขกท กันสามี ทั้งบ้านเลยเป็นของเรา ห้องนี่จะติดกับระเบียงกว้างหันหน้าไปทางภูเขา นะหว่างนอนเราก็จะได้ยินเสียงสายน้ำจากลำธารใกล้ๆเป็นเพลงกล่อม ถึงเราไปกันหน้าร้อน แต่อากาศบนนี้จะไม้ร้อนเลย ออกเย็นๆสบายตัวมาก



อันนี้คือมื้อเย็น จขกท ซื้อวัตถุดิบมาทำเองจากร้านข้างบ้าน แถบแคว้นลิกูเรียจะขึ้นชื่อมากเรื่อง ซอสเพสโต้ Pesto alla Genovese ที่ทำมาจาก ใบกระเพราฝรั่ง เม็ดสน ชีสพาร์เมซาน หรือเพโกรีโน  pecorino และน้ำมันมะกอกคุณภาพดี ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยดำ นำทุกอย่างมาบด ตำรวมกันในครก ต้นตำหรับเพสโต้นี้มาจากเมืองจีนัว Genoa ซึ่งเป็นเมืองหลวงของแคว้นลิกูเรีย เพสโตแท้ๆต้องทำมาจากวัตถุดิบท้องถิ่นเท่านั้นคือ ใบกระเพราฝรั่งที่ปลูกในเมืองจีนัว Genovese basil เพราะว่ากลิ่น รส และขนาดใบจะแตกต่างจากใบกระเพราทั่วไป


Day 4: วันนี้เราตื่นเช้าหน่อยค่ะเพราะจะไปหลายที่ เสร็จจากอาหารเช้า เราก็ไปสำรวจธรรมชาติของเมืองนี้กันหน่อย ที่แรกเราไปที่สะพานหินสร้างตั้งแต่สมัยยุคกลางกันค่ะ รอบๆสะพานจะมีแค่บ้านเดี่ยวๆอยู่บ้านเดียว




พอเดินข้ามสะพานเสร็จ เราก็เดินลงไปที่ลำธารสายนี้ ช่วงนี้น้ำน้อย เลยลงเดินได้ เดินดีๆระวังลื่นเด้อออ ทั้งนี้ทั้งนั้น มีแค่ จขกทกับสามีที่เดินเล่นอยู่ในป่าและลำธาร สงบมากๆ ใครต้องการ slow life ของจริง แนะนำเมืองนี้เลยค่ะ กาแฟ


หลังจากเดินเล่นในธรรมชาติละ เราจะไปเมืองLevanto กันค่ะ ขับรถลงเขาไปชายฝั่งทะเล ใช้เวลาแค่ 15-20นาทีก็ถึง


เพื่อความประหยัด เราก็จอดรถไว้นอกๆเมืองอีกตามเคย แล้วก็เดินเข้าไป ใช้เวลาอีก 10นาที อากาศร้อนมากเลย แสบผิว เตรียมกันแดดไปดีๆนะ อยู่อิตาลีใส่หมวกติดไว้เลย Levanto เป็นเมืองท่องเที่ยว มีร้านขายของฝากเยอะมาก ของฝากจะเป็นพาสต้าแห้ง มีสีสันและรูปร่างต่างๆ เหล้าหวานเลมอน Limoncino ครกจากไม้มะกอก ชีส น้ำผึ้ง  ซึ่งเราก็เห็นนักท่องเที่ยวซะส่วนใหญ่  แต่จะไม่แออัดเหมือนฟลอเรนซ์


เดินเล่นแปบๆ เราก็ถึงชายหาด นี่เป็นครั้งแรกของ จขกท ที่ได้สัมผัสทะเลเมดิเตอเรเนี่ยน ค่อนข้างตื่นเต้น เราไม่ได้กะจะมาว่ายน้ำนะวันนี้ เก็บร่างอวบไว้ว่ายวันต่อไป หมู

อันนี้สามี จขกท เองจ้า ฮีโพสต์กับชายหาด


ชายหาดที่นี่ถ้าจะนอนเล่นจะต้องเสียเงินเช่าที่นะ คิดเป็นชั่วโมง ตก ชม ละ 2-4 ยูโร ค่าเช่าอุปกรณ์ เช่นร่มชายหาด wifi เสียเพิ่มค่ะ เค้าจะมีตารางราคาแปะเอาไว้ก่อนที่เราจะเดินเข้าส่วนของเค้า จากรูปจะเห็นว่ามีเก้าอี้ชายหาดตั้งเต็มไปหมด จุดพักดีๆสวยๆสะอาดๆ ร้านเค้ากวาดไปหมดแล้ว ส่วนที่ฟรีจริงๆอยู่ใกล้ๆกับท่อปล่อยน้ำเสีย  แต่นี่เราแค่จะถ่ายรูปไม่ได้กะนั่งเล่น เราสามารถเดินห่าง2-3 เมตร ใกล้กับแนวน้ำทะเล อันนี้ไม่ถือว่าเราบุกรุก น้ำใสสวย ชายหาดเป็นกรวด ทราย และจะมีเปลือกหอยแตกๆเยอะ ระวังโดนหอยบาดเท้านะจ๊ะ


มื้อกลางวันนี้เราจะไม่ประหยัด เราจะกินร้านอาหารเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน! เนื่องจากเราเดินวนในเมือง (ซึ่งก็ไม่ได้ใหญ่) มาหลายรอบ หาร้านถูกใจไม่ได้ซะที เลยตัดสินใจกินร้านตรงกึ่งกลางระหว่างหาดกับเมืองน่ะแหละ ชื่อร้าน Cafe del Mar ตอนแรกเราไม่ค่อยอยากร้านนี้ เพราะมีเมนูภาษาต่างๆ ซึ่งดูก็รู้ว่าขายนักท่องเที่ยว (จะอร่อยปะวะ) แต่ก็นะ เข้ามานั่งแล้ว สามีสั่งสลัดกับพาร์ม่าแฮม ราคา 9ยูโร จขกท สั่งสปาเก็ตตี้กับหอยแมลงภู่ 12ยูโร มานี่ต้องกินหอยแมลงภู่นะ เป็นอาหารขึ้นชื่อเลย เพราะเป็นถิ่นทะเล แล้วเค้าก็เลี้ยงหอยกันกลางทะเลนั่นแหละ ตอนแรกนึกว่าชามจะเล็ก แต่สลัดชามเท่าราเมงใหญ่ พาสต้าก็มาชามใหญ่ แค่อาหารที่นี่ติดเค็มแหลม คนที่ไม่กินเค็มต้องบอกพนักงานให้ลดเกลือจริงจัง เพราะอาจจะเค็มเกินจนกินไม่ได้ สรุปมื้อนี้ค่อนข้างพอใจ เครื่องดื่มก็แค่5 ยูโรสำหรับ2 คน ซึ่งถือว่าราคาโอเคสำหรับร้านอาหาร



เสร็จแล้วเราก็ไปเดินดูของฝากกัน สามีซื้อเหล้า Limoncino มา ราคา 11 ยูโร ขวดเล็กไม่ ใหญ่ๆ เอา รสหวานมากๆขมๆ ซึ่งไม่ใช่สไตล์เราเลย จขกท จิบไปนิดนึง ไม่ถึง 10นาที ปวดหัวเลยยย ขอบ๊ายยย


เราเดินขึ้นไปโบสถ์ค่ะ มีใครเคยเห็นโบสถ์ขาวดำแบบนี้บ้างมั้ย เป็น  gothic style community church ตั้งขึ้นตั้งแต่ช่วงปีคริสตศักราช 13 เรียบๆ สงบมาก ไม่มี bling bling สีทองเลย



เราจะเดินขึ้นๆลงๆเนินเขาอยู่อย่างงี้แหละค่ะ ตามเนินก็จะเป็นบ้านคน สีบ้านยอดนิยมก็สีชมพู ขาว ฟ้า ส้ม เหลือง  นี่เราเดินลงมาตรงทางสะพานทางเดินตามแนวชายทะเล เราอยากจะเดินไปสุดทางของเกาะ แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะติดบ้านคน เรียกว่าคฤหาสน์จะถูกกว่า ร้องไห้ ร้องไห้ แต่ไม่หนักมาก อิอิ


มาถึงลิวานโต้ เราก็ต้องกินแพนเค้ก Farinata ที่ทำมาจากแป้งถั่ว chickpea รสชาติจะมันๆเค็มๆ(อีกละ)แต่อร่อยดีนะจะมีเนื้อสัมผัสกรุบๆกรอบๆ ขายเป็นกรัม ชิ้นนี้ตกประมาน 1 ยูโรกว่า แต่น แต้น หน้าตาที่แท้จริงของ จขกทเองจ้าา 5555 กำลังเล็ม Farinata  อยู่ หนู


พอตกประมานบ่าย2/3 ถนนโล่งเลย คนที่นี่จะเริ่มปิดร้านกลับบ้านไปนอนกลางวัน หรือที่เรียกว่า Siesta คร่อกฟี้ แล้วเค้าจะกลับมาเปิดร้านอีกทีตอน 5โมงเย็นขึ้นไป เมืองเล็กๆ จะเป็นแบบนี้กันแทบทุกที่ จะไปเที่ยว แพลนเวลาดีๆนะ

อิ่มละ ถึงเวลานอนเกาพุงละสิ 5555  อ่าาไม่ใช่ เราไปต่อจ่ะ เปลี่ยนเมือง ไป Bonassola ขับรถขึ้นลงเขาไปประมาณ 10นาที เป็นเมืองชายหาดเหมือนกัน นักท่องเที่ยวจะเป็นชาวอิตาเลี่ยน และคนแถวนั้นซะ 80-90% ค่าจอดรถไม่ได้แอ้มชั้นหรอก! จอดรถไว้ใกล้ๆกับศาลากลางเมือง มีlimit แค่ 2 ชม. เอ้า รีบหน่อย ม้า
รูปนี้ก็ศาลากลางของ Bonassola อยู่ตรงวงเวียน ขับรถวนๆ แล้วเราจะเห็นที่จอดรถที่อยู่ข้างๆสนามเทนนิส


และแล้วเราก็เดินเปรยๆไปแถวชายหาด เดินนาทีเดียวก็ถึง น้ำทะเลที่นี่ใสและสวยมาก ฟิลเมดิเตอรเนี่ยนมาเต็ม! กฎของชายหาดก็เหมือนที่ลิวานโต เราก็เดินลัดหาดไปเรื่อยๆ


นี่คือพื้นชายหาดของ Bonassola เป็นหินกรวดสีสันสวยงาม ไม่ค่อยมีเปลือกหอยแตกๆ แต่เดินแล้วเหมือนโดนดูดขา exercise กันไป


เห็นการทดลองปั่นจักรยานใต้น้ำของเด็กหนุ่มอิตาเลี่ยนกันมั้ยคะ นี่ทดลองรอบแรก พวกฮีปั่นลงจากโขดหินสูงๆ ผลลัพธ์ แย่


รอบสอง พวกฮีเปลี่ยนทฤษฎี ปั่นจากพื้นชายหาดเรียบๆ ผลลัพธ์ แย่

สรุปทั้ง 2 ทฤษฎี invalid 5555

อันนี้ขับรถกลับ Sesta Godano ละ เพลียแดดมาก แต่แวะข้างทางเก็บรูปมุมสูงซะหน่อย


กลับถึงบ้านจะออกไปตลาดซื้อของทำอาหารเย็น เอ้าาา ตลาดปิดหมดเลยFacepalm เหมือนว่าวันพุธร้านจะปิดหลังเที่ยงหรือบ่าย แล้วเปิดอีกทีวันต่อไป ไม่เป็นไร พาสต้ากับเพสโต้ยังอยู่ กินที่เหลือก็ได้

สรุปค่าใช้จ่ายเที่ยว 2 เมือง 1 วัน
ค่ารถเช่ารวมน้ำมัน 35 ยูโร (35*40= 1,400 Baht)
ค่าห้อง 32 ยูโร (1,280 Baht)
ค่ากินสามมื้อ 15-18 ยูโรต่อ คน (600-720 Baht)
ค่าของฝาก ไม่ขอรวมนะ

วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะจ๊ะ เรายังมีตอน 3 ให้ติดตาม คราวหน้าเราจะไปล่องเรือใบ! #ชีวิตดี ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาคอมเม้นและติดตามทั้งตอนนี้และตอนแรก เป็นกำลังใจให้เราเขียนต่อจริงๆ  ติดตามตอน 3 จ้าาาา
ชื่อสินค้า:   Cafe del Mar, Levanto, Italy
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่