ที่มาก Page "Freelance & Digital Marketing"
ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ!
(ยาวแต่เชื่อว่ามีประโยชน์)
----- สวัสดีครับเพื่อน ๆ ไม่ได้อัพเดทบทความอะไรใหม่ ๆ เลยช่วงนี้ จริง ๆ ก็เขียนเก็บไว้บ้างแล้วครับ แต่พอดีช่วงนี้มีภาระกิจครอบครัวต่อเนื่อง อีกอย่างผมใช้วิธีเขียนลงสมุดบันทึก - -! เลยยังไม่ได้พิมพ์เพื่อเอามาลงเพจเท่านั้นเอง ขออภัยถ้าอินดี้เกินไปนิส แต่นี่ละครับการใช้ชีวิตที่เป็นตัวของตัวเอง มีความสุขดีในทุกสิ่งที่ทำ หลังเสร็จธุระปะปังแล้ว จะมาอัพเดทให้ได้อ่านกันอย่างต่อเนื่องนะครับ
----- เริ่มหัวข้อคราวนี้ ก็ขอตามกระแสสักหน่อยนะครับ จริง ๆ เขียนไว้ก่อนแล้วกะว่าจะลง จะลง จนวันนี้ขับรถกลับบ้านวิทยุบอก ฟรีแลนซ์ ฉายวันนี้วันแรก อ้าวงั้นยอมนอนดึกหน่อยแล้วกัน เสียดายบทความ
----- หนังเรื่องนี้ เชื่อว่าใครหลาย ๆ คนต่างก็รอคอย โดยเฉพาะเหล่าฟรีแลนซ์ทั้งหลาย รวมถึงผมด้วยเช่นกัน โดยหลังจากที่ได้ดูตัวอย่างหนังที่ปล่อยออกมา โดยส่วนตัวแล้วคาดหวังไว้แบบนี้จริง ๆ ว่าอยากเห็นใครสักคนออกมาบอกเรื่องราว ความลำบาก ปัญหาต่าง ๆ ที่เหล่าฟรีแลนซ์ต้องเจอ เพราะในช่วงที่ผ่านมานี้ กระแสชีวิตอิสระ ชีวิตฮิปปี้ สโลว์ไลฟ์ โดยเฉพาะ พวกขายตรง และอาชีพอิสระทั้งหลาย รวยเร็วรวยไว มาแรงมาก จนสร้างแรงบันดาลใจ สร้างความท้าทาย มากเกินความจำเป็น แต่ขาดซึ่งองค์ประกอบของเหตุและผลไป มันขาดซึ่งความพอดีไงครับ ตรงนี้ละครับที่สำคัญ แต่ผมไม่ได้บอกว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ดี เพราะผมเองก็ฝันไว้ที่จะมีชีวิตอิสระ ทำอะไรก็ได้เหมือนกันครับ
----- ผมถามตัวเองว่า หากเราโบยบินออกไปทำตามฝัน ชีวิตเราจะเป็นไปตามที่คิดจริงหรือ หลักประกันสำหรับรองรับความฝันเราคงไม่จำเป็น แต่หลักประกันของครอบครัวเราละ? อันนี้ให้ไว้เป็นคำถาม ส่วนตัวผมกล้าพูดเลยว่ายังไม่พร้อมโบยบินตอนนี้ ผมทิ้งสวัสดิการของครอบครัวผมไม่ลงจริง ๆ ผมไม่สามารถเลือกความสุขส่วนตัวได้ลง ดังนั้นผมจึงปรับสมดุลของงานทั้งสองของผม ทุกวันนี้ ผมแทบจะทำงานทุกอย่างเต็มเวลา รวมถึงหน้าที่ที่มีต่อครอบครัวด้วย แล้วผมก็ทำได้ครับ ทุกอย่างไปกันได้ด้วยดีและลงตัวขึ้น ทำทุกสิ่งอย่าง อย่างมีความสุข
----- ดังนั้น ผมอยากบอกเพื่อน ๆ แค่ว่า หากอยากโบยบิน ให้ลองเริ่มจากการทำฟรีแลนซ์ ในช่วงเวลาว่างก่อน ลองผิดลองถูกกันไป โดยใช้เงินเดือนจากงานประจำเป็นทุน ลองค้นหาสิ่งที่ตัวเองรักดูนะครับ ผมจะกระซิบบอกให้ฟังห้ามบอกใครนะ เทคนิคการหาสิ่งที่ชอบ สิ่งที่รักของผม ก็คือ งานอิสระอะไร ที่เราทำแล้ว เรารู้สึกว่าชีวิตเราไม่มีอิสระ อันนี้ไม่ใช่ เรียนรู้มันแล้วเลิกทำได้เลย แต่หากเราทำงานอิสระอะไร ที่เราทำแล้ว เรารู้สึกว่ามันสนุก มันได้พักผ่อน มันท้าทาย มันมีความสุข นี่แหละครับใช่เลย
----- เพื่อน ๆ หลายคน คงจะอยากบอกว่าจะเอาเวลาว่างที่ไหนกันละครับ ผมตอบว่ามีนะ ก็อย่างเช่น เวลาที่เอาไปนั่งตามร้านกาแฟ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ ช้อปปิ้ง เที่ยว ตจว. จีบสาว หมดนี่ก็ใช้เวลาไปเยอะแล้วนะครับ หรือถ้าใครบอกว่างานที่ผมทำไม่ว่างให้ทำอะไรแบบนี้ได้หลอก ผมให้สามคำเลยครับ "ลาออกซะ" เพราะงานประเภทนี้ทำแล้วเปลืองเวลา และพลังงานชีวิตเป็นอย่างยิ่งครับ
จบเหอะยาวแล้ว จะนอน
----- ปล. Bill Gates, Steve Jobs, Larry Ellison, Mark Zuckerberg แม้แต่ Lady Gaga และคนอื่น ๆ อีกมากมาย คนเหล่านี้ได้ถูกหยิบยกขึ้นมา เพื่อเป็นตัวอย่าง เป็นแรงบันดาลใจ แต่เคยมีใครบอกเพื่อน ๆ หรือเปล่าครับ ว่าคนเหล่านี้เค้าลาออกจากการเรียน ลาออกจากบริษัทที่มั่นคง หรือคนที่อยู่ดี ๆ ก็ตกที่นั่งลำบาก แต่ก็ดันตัวเองกลับมายืดสู่จุดสูงสุดได้ยิ่งกว่าเดิม คนเหล่านี้ไม่ได้อยากมีชีวิตอิสระ ไม่ได้อยากสโลว์ไลฟ์แต่อย่างใดนะครับ แต่คนเหล่านี้เค้าซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตนเอง ซื้อสัตย์ต่อแรงปรารถนาอันแรงกล้า ต่อสิ่งที่เค้าเชื่อและศรัทธา และทุ่มเทที่จะพิสูจน์ตัวเองต่อโลกใบนี้(ความเห็นส่วนตัวนะครับ) สำหรับ ปล. นี้เป็นประโยคบอกเล่านะครับ ไม่ได้มีเจตนาโน้มน้าวชักจูงความคิดของเพื่อน ๆ แต่อย่างใด เพราะมันคือความเห็นส่วนตัวของผมล้วน ๆ เลยครับ ทั้งบทความนี้ละ ^ ^
บทความอื่น ๆ
http://pantip.com/topic/34092151 ฟรีแลนซ์ยุคใหม่ กับ อาชีพอิสระ ที่สร้างรายได้ได้จริง ตอนที่ 1
http://pantip.com/topic/34104518 ฟรีแลนซ์ยุคใหม่ กับ อาชีพอิสระ ที่สร้างรายได้ได้จริง ตอนที่ 2
ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ!
ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ!
(ยาวแต่เชื่อว่ามีประโยชน์)
----- สวัสดีครับเพื่อน ๆ ไม่ได้อัพเดทบทความอะไรใหม่ ๆ เลยช่วงนี้ จริง ๆ ก็เขียนเก็บไว้บ้างแล้วครับ แต่พอดีช่วงนี้มีภาระกิจครอบครัวต่อเนื่อง อีกอย่างผมใช้วิธีเขียนลงสมุดบันทึก - -! เลยยังไม่ได้พิมพ์เพื่อเอามาลงเพจเท่านั้นเอง ขออภัยถ้าอินดี้เกินไปนิส แต่นี่ละครับการใช้ชีวิตที่เป็นตัวของตัวเอง มีความสุขดีในทุกสิ่งที่ทำ หลังเสร็จธุระปะปังแล้ว จะมาอัพเดทให้ได้อ่านกันอย่างต่อเนื่องนะครับ
----- เริ่มหัวข้อคราวนี้ ก็ขอตามกระแสสักหน่อยนะครับ จริง ๆ เขียนไว้ก่อนแล้วกะว่าจะลง จะลง จนวันนี้ขับรถกลับบ้านวิทยุบอก ฟรีแลนซ์ ฉายวันนี้วันแรก อ้าวงั้นยอมนอนดึกหน่อยแล้วกัน เสียดายบทความ
----- หนังเรื่องนี้ เชื่อว่าใครหลาย ๆ คนต่างก็รอคอย โดยเฉพาะเหล่าฟรีแลนซ์ทั้งหลาย รวมถึงผมด้วยเช่นกัน โดยหลังจากที่ได้ดูตัวอย่างหนังที่ปล่อยออกมา โดยส่วนตัวแล้วคาดหวังไว้แบบนี้จริง ๆ ว่าอยากเห็นใครสักคนออกมาบอกเรื่องราว ความลำบาก ปัญหาต่าง ๆ ที่เหล่าฟรีแลนซ์ต้องเจอ เพราะในช่วงที่ผ่านมานี้ กระแสชีวิตอิสระ ชีวิตฮิปปี้ สโลว์ไลฟ์ โดยเฉพาะ พวกขายตรง และอาชีพอิสระทั้งหลาย รวยเร็วรวยไว มาแรงมาก จนสร้างแรงบันดาลใจ สร้างความท้าทาย มากเกินความจำเป็น แต่ขาดซึ่งองค์ประกอบของเหตุและผลไป มันขาดซึ่งความพอดีไงครับ ตรงนี้ละครับที่สำคัญ แต่ผมไม่ได้บอกว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ดี เพราะผมเองก็ฝันไว้ที่จะมีชีวิตอิสระ ทำอะไรก็ได้เหมือนกันครับ
----- ผมถามตัวเองว่า หากเราโบยบินออกไปทำตามฝัน ชีวิตเราจะเป็นไปตามที่คิดจริงหรือ หลักประกันสำหรับรองรับความฝันเราคงไม่จำเป็น แต่หลักประกันของครอบครัวเราละ? อันนี้ให้ไว้เป็นคำถาม ส่วนตัวผมกล้าพูดเลยว่ายังไม่พร้อมโบยบินตอนนี้ ผมทิ้งสวัสดิการของครอบครัวผมไม่ลงจริง ๆ ผมไม่สามารถเลือกความสุขส่วนตัวได้ลง ดังนั้นผมจึงปรับสมดุลของงานทั้งสองของผม ทุกวันนี้ ผมแทบจะทำงานทุกอย่างเต็มเวลา รวมถึงหน้าที่ที่มีต่อครอบครัวด้วย แล้วผมก็ทำได้ครับ ทุกอย่างไปกันได้ด้วยดีและลงตัวขึ้น ทำทุกสิ่งอย่าง อย่างมีความสุข
----- ดังนั้น ผมอยากบอกเพื่อน ๆ แค่ว่า หากอยากโบยบิน ให้ลองเริ่มจากการทำฟรีแลนซ์ ในช่วงเวลาว่างก่อน ลองผิดลองถูกกันไป โดยใช้เงินเดือนจากงานประจำเป็นทุน ลองค้นหาสิ่งที่ตัวเองรักดูนะครับ ผมจะกระซิบบอกให้ฟังห้ามบอกใครนะ เทคนิคการหาสิ่งที่ชอบ สิ่งที่รักของผม ก็คือ งานอิสระอะไร ที่เราทำแล้ว เรารู้สึกว่าชีวิตเราไม่มีอิสระ อันนี้ไม่ใช่ เรียนรู้มันแล้วเลิกทำได้เลย แต่หากเราทำงานอิสระอะไร ที่เราทำแล้ว เรารู้สึกว่ามันสนุก มันได้พักผ่อน มันท้าทาย มันมีความสุข นี่แหละครับใช่เลย
----- เพื่อน ๆ หลายคน คงจะอยากบอกว่าจะเอาเวลาว่างที่ไหนกันละครับ ผมตอบว่ามีนะ ก็อย่างเช่น เวลาที่เอาไปนั่งตามร้านกาแฟ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ ช้อปปิ้ง เที่ยว ตจว. จีบสาว หมดนี่ก็ใช้เวลาไปเยอะแล้วนะครับ หรือถ้าใครบอกว่างานที่ผมทำไม่ว่างให้ทำอะไรแบบนี้ได้หลอก ผมให้สามคำเลยครับ "ลาออกซะ" เพราะงานประเภทนี้ทำแล้วเปลืองเวลา และพลังงานชีวิตเป็นอย่างยิ่งครับ
จบเหอะยาวแล้ว จะนอน
----- ปล. Bill Gates, Steve Jobs, Larry Ellison, Mark Zuckerberg แม้แต่ Lady Gaga และคนอื่น ๆ อีกมากมาย คนเหล่านี้ได้ถูกหยิบยกขึ้นมา เพื่อเป็นตัวอย่าง เป็นแรงบันดาลใจ แต่เคยมีใครบอกเพื่อน ๆ หรือเปล่าครับ ว่าคนเหล่านี้เค้าลาออกจากการเรียน ลาออกจากบริษัทที่มั่นคง หรือคนที่อยู่ดี ๆ ก็ตกที่นั่งลำบาก แต่ก็ดันตัวเองกลับมายืดสู่จุดสูงสุดได้ยิ่งกว่าเดิม คนเหล่านี้ไม่ได้อยากมีชีวิตอิสระ ไม่ได้อยากสโลว์ไลฟ์แต่อย่างใดนะครับ แต่คนเหล่านี้เค้าซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตนเอง ซื้อสัตย์ต่อแรงปรารถนาอันแรงกล้า ต่อสิ่งที่เค้าเชื่อและศรัทธา และทุ่มเทที่จะพิสูจน์ตัวเองต่อโลกใบนี้(ความเห็นส่วนตัวนะครับ) สำหรับ ปล. นี้เป็นประโยคบอกเล่านะครับ ไม่ได้มีเจตนาโน้มน้าวชักจูงความคิดของเพื่อน ๆ แต่อย่างใด เพราะมันคือความเห็นส่วนตัวของผมล้วน ๆ เลยครับ ทั้งบทความนี้ละ ^ ^
บทความอื่น ๆ
http://pantip.com/topic/34092151 ฟรีแลนซ์ยุคใหม่ กับ อาชีพอิสระ ที่สร้างรายได้ได้จริง ตอนที่ 1
http://pantip.com/topic/34104518 ฟรีแลนซ์ยุคใหม่ กับ อาชีพอิสระ ที่สร้างรายได้ได้จริง ตอนที่ 2